เช็กเลย!! สินค้าอุปโภค-บริโภค ตัวไหนบ้าง ปรับขึ้นราคา แพงทั้งแผ่นดิน 1 มิ.ย.
https://www.nationtv.tv/news/378875107
 
 
เช็กเลย!! สินค้าอุปโภค-บริโภค ตัวไหนบ้าง ทยอยปรับขึ้นราคา แพงทั้งแผ่นดินตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป หลังจากแบกภาระต้นทุนไม่ไหว

หลังจากบรรดาผู้ประกอบการ สินค้าอุปโภค – บริโภค ออกมาโอดครวญแบกรับภาวะต้นทุนการผลิตไม่ไหว  โดยมีปัจจัยจากการผลิต  การขนส่ง บรรจุภัณฑ์ วัตถุดิบที่สูงขึ้น ทำให้ทยอยปรับราคากันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา จนชาวบ้านชาวช่องบ่นอุบ เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็น สินค้าเรียงหน้าขึ้นพร้อมกัน ขณะที่รายได้ครัวเรือนยังเท่าเดิม แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มในยุคข้างยากหมากแพง บางคนพูดถึงขนาดเข้าสู่ยุคแพงทั้งแผ่นดินของจริงแล้ว  

วันนี้ เรามีข้อมูลจาก เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ ที่ออกสำรวจเจ้าของร้านค้าส่งรายใหญ่ ย่านมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2565 ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2565 ราคาสินค้าปรับขึ้นเยอะมาก ชนิดที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เช่น 
 
เนสกาแฟ          ราคาเดิม  185 บาท  (60 ซอง)       ราคาใหม่  195 บาท (60ซอง)
                        ราคาเดิม  300 บาท (100 ซอง)      ราคาใหม่  310 บาท (100 ซอง)
 
เบอร์ดี้               ราคาเดิม  90 บาท (27 ซอง)          ราคาใหม่  100 บาท (27 ซอง)
                         ราคาเดิม 185 บาท (60 ซอง)         ราคาใหม่  195 บาท (60ซอง)
 
มอคโคน่า          ราคาเดิม 95 บาท (27 ซอง)           ราคาใหม่  105 บาท (27 ซอง)
                         ราคาเดิม 185 บาท (60 ซอง)         ราคาใหม่  195 บาท (60 ซอง)
 
เบอร์ดี้ กาแฟพร้อมดื่ม     ราคาเดิม  15 บาท/กระป๋อง           ราคาใหม่  17 บาท/กระป๋อง

ข้าวสาร     
                                           
ชมพู่ม่วง           ราคาเดิม  95 บาท/ถุง (5 ก.ก.)        ราคาใหม่ 105 บาท/ถุง (5 ก.ก.)   
 
ชมพู่หยก          ราคาเดิม  139 บาท/ถุง (5 ก.ก.)      ราคาใหม่  149 บาท/ถุง (5ก.ก.)
                       ราคาเดิม  390 บาท/ถัง (15 ก.ก.)    ราคาใหม่  405 บาท/ถัง (15 ก.ก.)
 
ชมพู่ฟ้า            ราคาเดิม 165 บาท/ถุง (5 ก.ก.)      ราคาใหม่  175 บาท/ถุง (5 ก.ก.)
                       ราคาเดิม  460 บาท/ถัง (15 ก.ก.)    ราคาใหม่  480 บาท/ถัง (15 ก.ก.)
 
ชมพู่เพชร         ราคาเดิม  175 บาท/ถุง (5 ก.ก.)     ราคาใหม่  185 บาท/ถุง (5 ก.ก.)
                       ราคาเดิม  475 บาท/ถัง (15 ก.ก.)    ราคาใหม่  495 บาท/ถัง (15 ก.ก.)
 
ชมพู่แดง          ราคาเดิม  240 บาท/ถัง (15 ก.ก.)   ราคาใหม่  265 บาท/ถัง (15 ก.ก.)
 
ส้มโอ               ราคาเดิม 175 บาท/ถุง (5 ก.ก.)       ราคาใหม่  185 บาท/ถุง (5 ก.ก.)
                       ราคาเดิม 490 บาท/ถัง (15 ก.ก.)    ราคาใหม่  510 บาท/ถัง (15 ก.ก.)
 
ลำใย               ราคาเดิม 105 บาท/ถุง (5ก.ก.)       ราคาใหม่  115 บาท/ถุง (5 ก.ก.)
                       ราคาเดิม 295 บาท/ถัง (15 ก.ก.)    ราคาใหม่  315 บาท/ถัง (15 ก.ก.)
 
ไก่แจ้ส้ม           ราคาเดิม 90 บาท/ถุง (5 ก.ก.)        ราคาใหม่  100 บาท/ถุง (5 ก.ก.)
                        ราคาเดิม 260 บาท/ถัง (15 ก.ก.)    ราคาใหม่  280 บาท/ถัง (15 ก.ก.)
 
น้ำมันพืช
 
องุ่น                  ราคาเดิม 69 บาท/ขวด      ราคาใหม่ 72 บาท/ขวด
มรกต                ราคาเดิม 67 บาท/ขวด      ราคาใหม่ 76 บาท/ขวด
ทับทิม               ราคาเดิม 65 บาท/ขวด      ราคาใหม่  69 บาท/ขวด
หยก                  ราคาเดิม  65 บาท/ขวด     ราคาใหม่  69 บาท/ขวด
เป๊ปซี่                ปรับราคาขึ้นทุกขนาดอย่างละ 2 บาท/ขวด/กระป๋อง
 
ครีมเทียม                       ปรับราคาขึ้น 4-5 บาท/500 กรัม/1,000 กรัม
เครื่องปรุงรส (ผง)           ปรับราคาขึ้นเฉลี่ย 1 บาท/ซอง 
เครื่องปรุงรส (ขวด)        ปรับราคาขึ้นตั้งแต่ 2-5 บาท/ขวด
น้ำหวานเข้มข้น              ปรับราคาขึ้นตั้งแต่ 3-6 บาท/ขวด

นอกจากนั้น ยังมีสินค้าที่ประกาศปรับราคาขึ้นล่วงหน้าไปแล้ว แต่จะมีผล ตั้งแต่วันนี้ที่ 1 มิถุนายน 2565 นี้เช่นกัน ได้แก่ 
 
น้ำยาปรับผ้านุ่มขนาด 550-600 มล. ปรับราคา 2-3 บาท จากปกติ 15-18 บาทเป็น  18-20 บาท
กระดาษชำระ (แพค 6 ม้วน) จากราคา 69 บาท เป็น 72 บาท   
ซอสหอยนางรม ขวดใหญ่ (800 กรัม) จากปกติ 37 บาท ปรับเป็น 42 บาท
น้ำยาล้างจาน ชนิดเติม จาก 38 บาท ปรับขึ้นเป็น 40 บาท
ปลากระป๋อง ปรับขึ้นจาก 10 บาท เป็น 12-14 บาท
นมถั่วเหลืองขวด ปรับราคาขึ้นจาก 12 บาทเป็น 15 บาท
สบู่ก้อน ปรับราคาขึ้นจาก 10-15 บาทเป็น 12-15 บาท
แชมพู-ครีมนวด ยังไม่มีการปรับราคาขึ้น
น้ำผลไม้แพค 4 ปรับราคาขึ้นจาก 36 บาทเป็น 42 บาท
  
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นรายการสินค้าครั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญอ้างว่า เป็นแค่สเต็ปแรกเท่านั้น จะมีระลอกสอง ระลอก สามตามมาอีกแน่นอน ดังนั้นขอให้ประชาชนคนไทยปรับตัว วางแผนการใช้จ่ายเงินในการดำรงชีวิตให้ดี
  
ทั้งนี้ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน รวมถึงนายตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์    ต่างออกมายืนยันว่า สินค้าจะยังไม่มีการปรับขึ้นราคาไม่ว่าจะเป็น “เป๊ปซี่”  หรือ “ยำยำ” รวมถึง “มาม่า”  พร้อมกับเรียกผู้ประกอบการ ห้าง ร้านค้าปลีก มาเจรจาขอให้อย่าปรับราคาขึ้น ตรึงราคาสินค้าต่อไป รวมถึงร่วมมือกับพาณิชย์ในการจัดมหกรรมลดราคาสินค้าด้วย 
 

---

 
'นอท กองสลากพลัส' ฟาดเดือด โดนลอกแพลตฟอร์ม-ชื่อเว็บ -ุยชีวิต เ_ี้ยได้ใจจริงๆ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7090500

‘นอท กองสลากพลัส’ ฟาดเดือด โดนลอกแพลตฟอร์ม-ชื่อเว็บ -ุยชีวิต เ_ี้ยได้ใจจริงๆ แต่ยินดีกับลูกค้าสามารถซื้อสลากดิจิทัล 80 บาทของสนง.สลากได้เลย
 
หลังจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดขายสลากดิจิทัล ผ่านแอพพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในราคาใบละ 80 บาท ไม่จำกัดจำนวนการซื้อ และสามารถเลือกหมายเลขที่จะซื้อได้ทุกหมายเลข ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. โดยเริ่มวันที่ 2 มิ.ย.เป็นวันแรก

ขั้นตอนซื้อสลากดิจิทัล มีความสะดวกมาก โดยผู้ที่ต้องการซื้อ ให้โหลดแอพพลิเคชันเป๋าตัง จากนั้นให้เปิดแอพฯเป๋าตัง และเลือกหมวดบริการที่ด้านล่าง จากนั้น เลือกสลากกินแบ่งรัฐบาล ขั้นตอนต่อไปให้กดเลือกซื้อสลากดิจิทัล โดยสามารถซื้อได้ 2 วิธี คือ

1. เลือกค้นหาจากร้านค้า ในกรณีที่ต้องการซื้อจากผู้ขายโดย ให้กรอกชื่อร้านค้าให้ถูกต้อง และกดดูร้านค้า เพื่อเลือกสลากจากร้านค้านั้นๆ ซึ่งจะปรากฏสลากให้เลือกซื้อ 5 เล่ม หรือ 500 ใบจากร้านค้าที่เลือก ที่ยังมีสลากเหลืออยู่ตามจริง
 
2. ค้นหาเลขจากสลากทั้งหมด สามารถใส่เลขที่ต้องการทั้ง 6 หลัก หรือใส่เลข 2 หรือ 3 ตัวท้ายก็ได้ แล้วกดค้นหา จะปรากฏเลขที่ต้องการขึ้นมาให้เลือก ในกรณีที่ยังมีเลขดังกล่าวเหลือขายอยู่ในระบบ
 
จากนั้น ระบบจะให้กดตรวจสอบสลากที่เลือกซื้อ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการชำระเงิน และเลือกวิธีการชำระเงิน ผ่าน G Wallet และกดยืนยันการชำระเงิน จากนั้นใส่ PIN 6 หลัก และระบบจะแจ้งการทำรายการสำเร็จ

ล่าสุด นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ผู้บริหารกองสลากพลัส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า 
 
ไม่ใช่ร้านของผมนะครับ สนง.สลากกินแบ่งรัฐบาล Copy Platform ตัวแทน Copy ชื่อเว็บ -ุยชีวิต ประเทศไทย เ_ี้ยได้ใจจริงๆ
  
โดยนอท พันธ์ธวัช ยังโพสต์ภาพหน้าเว็บที่มีการใช้ชื่อกองสลากพลัส แถมแพลตฟอร์มของเว็บยังคล้ายคลึงกับกองสลากพลัสมากๆ ด้วย นอกจากนี้ยังโพสต์ยินดีกับลูกค้าทุกท่านสามารถซื้อสลากดิจิทัล 80 บาทของ สนง.สลากได้เลยนะครับ ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะต้องซื้อแพงกว่าครับ

https://www.facebook.com/NotzaaSEOSamutprakarn/posts/pfbid04NzGzxjs5MUjmHF9uF7BciprZ61P7dJrFdxPr9cdUyJ87fQ9xUYXHZXdM5AjGw6ql

https://www.facebook.com/NotzaaSEOSamutprakarn/posts/pfbid0yQZdYVaupXcLVg7wiz5pmF3NkaqJ22u9a8B18sXE7jE95Ftz1NLYDeSASSqaNp8Ml
 

---

 
สมชัย ชี้ตัวเลขงบลงทุน ผิดกม.วินัยการคลังชัด จ่อร้องป.ป.ช.เอาผิด นายกต้องรับผิดชอบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3378644

‘สมชัย’ งัดตัวเลขงบลงทุน ขัดวินัยการคลังชัด จ่อร้องป.ป.ช. ชี้นายก คนรับผิดชอบ อันดับแรก
 
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์แสดงความเห็นกรณีการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2566 ตอนหนึ่งว่า
 
“พ.ร.บ.งบประมาณปี 2565 ผิด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ ใครต้องรับผิดชอบ
 
ตามมาตรา 20 (1) ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 กำหนดว่า การทำงบประมาณแผ่นดินต้องมีงบลงทุน ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 20 และต้องไม่น้อยกว่าเงินกู้
 
จากเอกสารงบประมาณโดยสรุป ปีงบประมาณ 2566 มีหลักฐานของการตั้งงบประมาณปี 2565 ว่า มีการตั้งงบลงทุน ร้อยละ 19.74 เป็นเงิน 611,933.4 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าร้อยละ 20 และ ต่ำกว่ารายการเงินกู้ 700,000 ล้านบาท
 
คุณประยุทธ์ตอบเรื่องนี้ในสภา สองวันนี้ว่า รัฐบาลตั้งมาเกินคือ ตั้งมาร้อยละ 20.14 แต่ สภาไปตัดเอง เหมือนบอกว่า รัฐบาลไม่ผิด
 
ผมโต้แล้วว่า สภาเขามีหน้าที่ตัดงบลงทุนที่ไม่จำเป็น แต่รัฐบาลมีหน้าที่เติมงบลงทุนอื่นเข้าไปเพื่อรักษาสัดส่วน ร้อยละ 20 ไม่ให้ผิดกฎหมาย ไม่ใช่ตัดงบลงทุนไปโปะงบกลางที่เป็นงบประจำและท้ายสุด นายกรัฐมนตรีก็เป็นฝ่ายทูลเกล้าฯ และเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
 
มาดูว่า หากจะดูกันอย่างตรงไปตรงมาว่า ใครบ้างอยู่ในข่ายต้องรับผิดชอบ
 
1. นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ทูลเกล้าฯและรับสนองพระบรมราชโองการ
2. ครม.ในฐานะผู้เสนอ พ.ร.บ.งบประมาณ สู่สภา
3. กรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 72 คน ที่มีสัดส่วน ครม. 18 คน ส.ส.พรรครัฐบาล 30 คน พรรคฝ่ายค้าน 24 คน มี นายอาคม เต็มพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เป็นประธาน
4. ส.ส.ที่ลงมติ เห็นด้วยในวาระที่สาม เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 ประกอบด้วย ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 257 คน
5. ส.ว.ที่ลงมติเห็นด้วยในขั้นการพิจารณาของวุฒิสภา เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 จำนวน 200 คน
 
จากนี้ผมจะได้ปรึกษากับตัวแทนพรรคฝ่ายค้าน เพื่อสรุปเนื้อหาคำร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ไต่สวนกรณี ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เพื่อส่งอัยการสูงสุดเพื่อฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป
 
ถ้าศาลประทับรับฟ้อง ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ หากตัดสินว่า ผิดต้องพ้นตำแหน่ง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรืออาจเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่เกิน 10 ปีด้วยก็ได้
 
เรื่องนี้ปลาวาฬชุบแป้งทอดแล้ว”
 
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid02UGs3KbRieoLybuhhXSui9YxCTa75tD64daNWoZrYucnqWeUKbX25jtpFSiJyjdSvl