หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว "Sushi Katsu" ซูชิบาร์วัตถุดิบนำเข้าระดับโอมากาเสะโดยเชฟคนญี่ปุ่น อยู่ภายในห้างไอคอนสยามชั้น G
กระทู้รีวิว
อาหารญี่ปุ่น
ซูชิ
อาหารซีฟู้ด
ICONSIAM
ร้านอาหาร
วันนี้มาซื้อของเข้าบ้านกับคุณแฟนภายในห้างไอคอนสยามตรงโซนซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้น G ก่อนกลับแวะกินอะไรง่ายๆกันก่อนที่ Rose Food Avenue เป็นศูนย์อาหารของทาง Siam Takashimaya ซึ่งรวมร้านญี่ปุ่นทั้งเมนูคาวหวานหลายแบรนด์ชื่อดังมาไว้ให้เลือกทานอย่างจุใจ แต่มาสะดุดตากับเคาน์เตอร์ยาวเหมือนยกครัวโอมากาเสะมาไว้กลางห้างก็คือ "Sushi Katsu" ค้นหาข้อมูลต่างๆบนเว็บไซต์ถือว่าดีกรีไม่ธรรมดาเพราะเป็นเจ้าของเดียวกับบริษัท Uokatsu อุตสาหกรรมประมงตัวจริงของประเทศญี่ปุ่น จึงรับประกันความสะอาดของวัตถุดิบสดจากทะเลทั้งหมด ใช้ทีมงานมืออาชีพตรวจสอบคุณภาพทั้งก่อนออกและทันทีเมื่อถึงประเทศไทยซึ่งมีรอบการจัดส่งตรงสู่สาขาสัปดาห์ละ 2 ครั้งจึงไม่มีการเก็บของไว้นานจนเกินไป (เรียกได้ว่าสดกว่านี้ไม่มีแน่นอน) สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวปักหมุดมายัง Icon Siam จอดฟรี 2 ชม.แรก ชั่วโมงต่อไปราคาชั่วโมงละ 30 บาทพร้อมรับสิทธิ์เพิ่มมากขึ้นเมื่อซื้อสินค้า-บริการตามกติกาที่ห้างกำหนด ถ้าเดินทางด้วยบริการขนส่งสาธารณะให้ใช้บีทีเอสลงสถานีเจริญนครหรือจะขึ้น Shutter Boat ฟรีจากใต้สะพานตากสินมาได้แล้วแต่สะดวก เดินทะลุผ่านโซน Sook Siam สังเกตบาร์ยาวสีขาวสะอาดพร้อมเก้าอี้ทรงสูงทำจากไม้แท้โทนสีสว่างสไตล์มินิมอลเรียงแถวเป็นระเบียบแบบนี้แสดงว่าถึงแล้วครับ
สิ่งที่วางกระจายตรงด้านหน้าเคาน์เตอร์ราวกับเป็นคำเชิญชวนให้ผู้เดินคนผ่านไป-มาได้แวะชมกันก่อนก็คือเล่มรายการอาหารโดยจะถูกเปลี่ยนไปทุกปีอย่างหน้าปกนี้เขียนว่า 2022 เริ่มต้นด้วยหมวด "Sushi Set" รวมวัตถุดิบสดนำมาปั้นซูชิหลากหลายหน้าในเมนูเดียวกันจัดเสิร์ฟตั้งแต่ 4-10 คำมีให้เลือกทั้งหมด 6 ชุดราคาเริ่มต้นที่ 420-1,480 บาท ถ้าจัดเป็นเซตแล้วยังไม่โดนใจก็สามารถสั่งแยกชิ้นตามเกรดของวัตถุดิบได้ 2 ระดับก็คือ "Premium" ประกอบไปด้วยอูนิ(ไข่หอยเม่น)/ชูโทโร่(ทูน่าไขมันปานกลาง)/โอโทโร่(ทูน่ามีไขมันมาก)/อิคุระ(ไข่ปลาแซลมอน)/เนงิโทโร่(เนื้อทูน่าสับปรุงรส)/อากะเอบิ(กุ้งหวานไซส์ยักษ์) ราคา 140-400 บาท กับ "Recommended" หรือแนะนำให้ลองสั่งทั้ง โฮตาเตะ(หายเชลล์ญี่ปุ่น)/อูนางิ(ปลาไหลย่างซีอิ๊ว)/ฮามาจิ(เนื้อปลาบุรี)/เอนกาวะ(ครีบปลาตาเดียว)/อากามิ(ทูน่าเนื้อแดง)/แซลมอน/แซลมอนโทโร่(ส่วนท้อง)/โทบิโกะ(ไข่ปลาบินปรุงรส)/ทามาโกะ(ไข่หวานย่าง)/มาไดหรือกะพงแดงญี่ปุ่น/เอบิ(กุ้งต้มสุก)/อิกะ(ปลาหมึกกล้วย) ราคา 40-150 บาท และโรลมากิต่างๆถึง 6 หน้า ราคาเริ่มต้นที่ 320-590 บาท โดยขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้/หน้าตาอาหารไปจนถึงความอลังการในการจัดเสิร์ฟนั่นเองครับ
สำหรับหน้าถัดมาเห็นมีลูกค้าคนอื่นนั่งกินอยู่เลยอยากสั่งตามบ้างก็คือ "Donburi" หรือข้าวหน้าสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งเน้นปลาดิบเป็นหลักเกือบทั้งหมดรวม 8 เมนู ราคาเริ่มต้นที่ 370-570 บาท มาต่อกันที่หมวด "Sashimi" มีตั้งแต่ชุดเล็กไปจนถึงรวม 5 ชนิดในจานเดียว ราคา 320-720 บาท อยากทานซูชิคำเล็กน่ารักพออิ่มก็สั่งมากิหรือข้าวห่อสาหร่ายรวมกว่า 6 ไส้ ราคาเริ่มต้นแค่ 80-140 บาท สายสุขภาพเน้นจำกัดคาร์โบไฮเดรตทางร้านแนะนำให้กินเป็นสลัดต่างๆ ราคาจานละ 280-470 บาท หมวดพิเศษ "Extra" เอาใจคุณผู้ชายด้วยหอยนางรมสดๆราดซอสพอนสึเพียงตัวละ 100 บาท ถ้าอยากซดอะไรร้อนๆชวนคล่องคอก็สั่งซุปมิโสะปลาหรือสาหร่ายราคาถ้วยละ 60-80 บาท ปิดท้ายด้วยหมวดเครื่องดื่มทั้งน้ำแร่/น้ำอัดลม/ชาเขียวรีฟีล(ร้อน,เย็น) ราคาแก้วละ 25-45 บาท และ "Premium Box" หรือเบนโตะหน้าปลาดิบอัดเครื่องแน่นๆราวกับสำรับจักรพรรดิ ราคาเริ่มต้นที่ 950-2,500 บาท ซึ่งสามารถสั่งล่วงหน้าผ่าน Line@ พร้อมชำระเงินแล้วรับสินค้าหรือจัดส่งได้เลยทันที สังเกตดีๆข้างล่างสุดจะเขียนไว้ว่า "เมนูปลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล" นั่นแปลว่าวันไหนวัตถุดิบบางอย่างหมดทางเชฟจะปรับให้ตามความเหมาะสมเองบางครั้งอาจจะมีปลาชนิดแปลกๆมาจัดโปรโมชั่นพิเศษตรงป้ายใหญ่หน้าร้านหรือคอยติดตามดูในเพจนะครับ
วิธีการสั่งอาหารสามารถนั่งตรงเก้าอี้สูงหน้าเคาน์เตอร์ครัวแล้วชี้รูปภาพอาหารภายในเล่มเมนูแก่เชฟเพื่อให้เริ่มปรุงออกมาตามต้องการได้อย่างรวดเร็วทันใจแล้วค่อยชำระเงินเมื่ออิ่ม สำหรับใครที่ขึ้น-ลงไม่ถนัดสามารถเลือกนั่งตรงไหนก็ได้ภายในโครงการ Rose Food Avenue อันกว้างขวางใหญ่โต แต่มีเงื่อนไขคือต้องสั่งอาหารพร้อมชำระเงินตรงแคชเชียร์ให้เสร็จก่อนจึงจะเดินไปเสิร์ฟถึงโต๊ะ โปรโมชั่นเฉพาะผู้ที่ครอบครองบัตร "JAL Mileage Bank" ของ Japan Airlines รับส่วนลดเพิ่มทุกเมนูอีก 10% ซึ่งพนักงานที่ให้บริการนั้นสามารถสื่อสารได้ทั้งไทยและญี่ปุ่นเพื่อพูดคุยกับเชฟแทนเราได้ เพราะฉะนั้นถ้ามีประวัติการแพ้อาหารหรือไม่กินวัตถุดิบอะไรบ้างควรแจ้งล่วงหน้าก่อนโดยทางครัวจะปรับเพิ่ม-ลดให้ตามความเหมาะสมและสวยงาม วันนี้ผมกับแฟนเลือกนั่งตรงหน้าเคาน์เตอร์จะได้ชมทุกกระบวนการแล่พร้อมตกแต่งซึ่งให้อารมณ์เหมือนอยู่ในร้านโอมากาเสะสุดๆแต่ไม่ต้องรอจองคิวให้วุ่นวายครับผม
นอกจากวัตถุดิบสดใหม่ทุกรายการจะถูกนำเข้าตรงจากประเทศญี่ปุ่นแล้วเชฟก็ถูกส่งตัวมาจากดินแดนอาทิตย์อุทัยเช่นเดียวกัน ซึ่งมีประสบการณ์ด้านโอมากาเสะระดับมืออาชีพในชื่อภัตตาคารดังย่าน "รบปงหงิ" (Roppongi) ของโตเกียว ก่อนถูกทางบริษัท Uokatsu ส่งมาช่วยรังสรรค์เมนูที่ "Sushi Katsu" ไอคอนสยามแห่งนี้ เมื่อเริ่มสั่งอาหารภายในบาร์ก็จะเริ่มปฎิบัติการแบ่งหน้าที่เป็นหัวหน้ากับผู้ช่วยคอยสลับกันเตรียมวัตถุดิบพร้อมประกอบร่างให้สวยงามน่าทานก่อนยกเสิร์ฟตรงหน้าลูกค้าทันทีอย่างรวดเร็วทันใจ ระหว่างกำลังนั่งรอสั่ง "ชาเขียวรีฟีล" ราคาแก้วละ 45 บาท มาดื่มรสจืดหอมใบชาเย็นสดชื่นเติมได้เรื่อยๆตลอดที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ (ถ้านั่งโต๊ะอื่นๆใน Rose Food Avenue ต้องมายื่นให้พนักงานช่วยริน) เทโชยุใส่ถ้วยน้ำจิ้มสีแดงวางบนกระดาษรองจานสีน้ำเงินเข้มแล้วเตรียมชุดตะเกียบไม้ญี่ปุ่นประจำตัวของแต่ละคนให้เรียบร้อยรอเพียงแค่อึดใจจานแรกที่สั่งไว้ก็ถูกยกมาวางตรงหน้าแล้วครับ
เริ่มต้นกันด้วยเมนูซูชิที่ใช้วัตถุดิบสุดหรูหราอย่าง "Maguro Zukushi (All Sorts Of Maguro)" ราคา 550 บาท นิกิริมากุโร่รวม 4 อย่างอันเป็น Signature ของทางร้านไล่เรียงระดับความอร่อยไปเรื่อยๆจาก 1. อากามิหรือทูน่าส่วนเนื้อแดงไร้ไขมันส่วนกลางจนถึงปลายลำตัวของปลา โดยเชฟเลือกใช้สายพันธุ์ Blue Fin คุณภาพสูงจึงได้ความนวลเนียนไร้เอ็นเหนียวหรือพังผืดติดฟัน ผสานศิลปะการใช้มีดบั้งริ้วตามแนวยาวให้สัมผัสที่แตกต่างและฝีมือปั้นก้อนข้าวซูชิปรุงรสชาติให้เปรี้ยวอมหวานเรียงเมล็ดอย่างสวยงามกระจายตอนเคี้ยวเข้ากับเนื้อปลาได้เป็นอย่างดี 2. ชูโทโร่หรือทูน่าส่วนแทรกชั้นไขมันปานกลางใกล้บริเวณท้อง มีสีอมชมพูสวยงามแต่รสชาติไม่เข้มข้นเท่าคำแรกซึ่งแลกกับความนุ่มละลายเคี้ยวง่ายยิ่งขึ้น 3. โอโทโร่หรือทูน่าส่วนท้องมีไขมันเยอะสุดก้อนเกือบสีขาวเน้นความละลายไหลลื่นลงคอเหมือนเมื่อกี้ได้หลับฝันไป 4. เนกิโทโร่หรือทูน่ารวมสับละเอียดผสมต้นหอมตามอัตราส่วนของทางร้านรสชาติหวานฉุนขึ้นจมูกเล็กน้อยช่วยลดความเลี่ยนล้างคาวปลาในปากปั้นเสิร์ฟแบบห่อสาหร่ายสไตล์กุนกังซูชิ แตะวาซาบิ/พลิกด้านปลาจิ้มโชยุรสเค็มอมหวานกลมกล่อมก่อนเข้าปากแล้วปิดท้ายด้วยขิงดองน้ำผึ้งก่อนเริ่มจานถัดไป
สำหรับชามนี้เห็นคนก่อนหน้าสั่งแล้วอยากกินตามคือ "Tenkomori" ราคา 570 บาท ข้าวปลาดิบรวมแบบล้นหน้าสุดอลังการซึ่งด้านล่างสุดรองด้วยข้าวปรุงรสชาติหวานอมเปรี้ยวกลมกล่อมเหมือนนิกิริจานก่อน ท๊อบปิ้งอย่างหนักหน่วงเหมือนยัดเยียดทั้งมหาสมุทรมาไว้ในชามเดียวทั้ง 1. แซลมอนนอร์เวย์ลนไฟ 2. ทูน่าส่วนอากามิ 3. อูนากิหรือปลาไหลย่างซีอิ๊ว 4. ฮามาจิหรือปลาบุรี 5. แซลมอนนอร์เวย์สด 6. ปลามาไดหรือกะพงแดงญี่ปุ่น 7. โฮตาเตะหรือหอยเชลล์ฮอกไกโด 8. เนกิโทโร่หรือทูน่าสับต้นหอม 9. ทามาโกะหรือไข่หวานย่าง 10. อูนิหรือไข่หอยเม่นที่ร้านใช้สายพันธุ์บาฟูนรสหวานเนียนนุ่ม และ 11. อิคุระหรือไข่ปลาแซลมอนเม็ดเล็กสีส้มสดเปลือกหุ้มแน่นแตกระเบิดไขมันเต็มปากปิดท้ายด้วยการโรยโนริหรือสาหร่ายเส้นก่อนเสิร์ฟอย่างระมัดระวัง ส่วนวิธีการกินเชฟแนะนำว่าสามารถเพลิดเพลินได้ 2 รูปแบบคือ 1. คีบปลาดิบชิ้นใหญ่จิ้มโชยุเข้าปากแล้วค่อยตามด้วยข้าว 2. ขอเพิ่มวาซาบิผสมลงในโชยุแล้วราดเทบนชามให้ทั่วก่อนตักเข้าปากด้วยตะเกียบสไตล์ญี่ปุ่นแท้ เรียกว่าเป็นดงบุริแบบ 2 In 1 สุดแปลกใหม่ที่ได้ลองวัตถุดิบสดคุณภาพสูงหลายๆอย่างจากทางร้านได้ในเมนูเดียวซึ่งส่วนตัวนั้นถือว่าคุ้มราคามากๆเลยครับผม
เมนูจานต่อไปก็ยังคงเน้นความสวยงามอลังการเป็นหลักก็คือ "Over Flow Roll" ราคา 590 บาท มีชื่อภาษาไทยว่า "โรลหน้าล้น" ซึ่งพื้นฐานด้านล่างสุดทำจากกัปปะมากิหรือซูชิห่อสาหร่ายไส้แตงกวาญี่ปุ่นท๊อบปิ้งวัตถุดิบสดแบบจัดหนักเรียงจากซ้ายไปขวาทั้ง 1. เนกิโทโร่หรือทูน่าสับผสมต้นหอมก้อนใหญ่พิเศษ 2. ปลาดิบรวมมิตรราวกับไคเซ็นดงบุริทั้งนอร์เวย์แซลมอน/ฮามาจิหรือปลาบุรี/อากามิหรือทูน่าเนื้อแดง/อิกะหรือปลาหมึกกล้วย/โทบิโกะหรือไข่ปลาบินปรุงรสและอิคุระหรือไข่ปลาแซลมอน โดยหั่นเป็นเส้นเรียวยาวเล็กๆคล้ายโซเม็งพร้อมแตะวาซาบิ-โชยุนำเข้าปากเพื่อรับความอร่อยหลากหลายสัมผัสในคำเดียวกัน 3. ปูซูไวหรือปูหิมะญี่ปุ่นนึ่งขูดเอาแต่เนื้อ 100% ซึ่งค่อนข้างแห้งฝืดคอไปหน่อยแต่ยังคงความเด้งเคี้ยวสนุกอยู่ สำหรับวิธีการทานจานนี้เชฟแนะนำว่าให้แบ่งวางบนมากิแล้วกินก่อนส่วนที่เหลือค่อยประยุกต์เป็นซาชิมิตามหลังทำให้ได้ความสนุกถึง 2 แบบในจานเดียว สุดท้ายก็ล้างกลิ่นคาวไม่ให้หลงเหลือด้วยขิงดองน้ำผึ้งรสหวานเผ็ดเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสลิ้นให้กลับมาทำงานได้ดีเยี่ยมอีกครั้งนึงครับ
******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขออนุญาตเขียนรีวิวต่อในช่อง Comment แทนนะครับ *******
ชื่อสินค้า:
Sushi Katsu
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ดูย้อนหลัง ครัวคุณต๋อย 8 ก.ค. 2567 เคล็ดไม่ลับกับประโยชน์ของผักบ็อกชอย I อะโวคาโด เนกิโทโร่โรล
เคล็ดไม่ลับกับประโยชน์ของผักบ็อกชอย https://www.youtube.com/watch?v=wXk84B-UtFU อะโวคาโด เนกิโทโร่โรล ร้าน SUSHI KATSU https://www.youtube.com/watch?v=NeXxYEH-gPg
CHsoji86
รีวิว Sushi Oku สุดยอดบุฟเฟ่ต์โอโทโร่ อร่อยได้เต็มที่ตลอด 1.30 ชม. กินหมดทั้งร้านก็จ่ายแค่ 1199++!!!
วันก่อนมาเที่ยวเล่นแถว K-Village สุขุมวิท 26 ก็เจอเข้ากับร้านนี้ Sushi Oku นี่มันร้านดังที่เขาแชร์กันเยอะๆนี่นา... เมื่อก่อนขายเป็นแบบ A la Carte แล้วขยับมาทำเป็นบุฟเฟ่ต์ Otoro ดูจากป้ายหน้าร้านแล้วไม
Food Addicts
ผมซื้อเนื้อแซลมอนมาแบบไม่คิด
เมื่อตอนเย็นผมไปเดินดองกี้เห็นแซลม่อนมันลดราคาเลยซื้อมา ทีนี้พอกลับมาถึงบ้านก็ได้แต่นั่งจ้องก้อนเนื้อปลาที่ซื้อมาพร้อมกับคิดในใจว่า "กูจะเอายังไงกับดี" ผมพอทำอาหารเป็นแต่ไม่ได้ทำเก่งอะไร&nbs
สมาชิกหมายเลข 6399712
น้ำมันปลาแซลมอน
บ้านไหนใช้น้ำมันปลาแซลมอนตัวนี้บ้างครับขอรีวิวหน่อยครับ
สมาชิกหมายเลข 7279551
SUSHI SEKI สาขา G Tower l ซูชิ ซาชิมิที่ทั้งสด ทั้งฟินเหมือนบินไปกินที่เจแปน < จงกินนี่ >
สวัสดีครับ .... วันนี้จงกินนี่จะพาไปชิมกันที่ร้าน SUSHI SEKI สาขา G Tower ร้านที่ผมเล็งไว้ ล็อคเป้ามานานแสนนาน ด้วยภาพของซูชิฟรัวกราส์คำใหญ่ยักษ์ ข้าวหน้าไข่ปลาแซลมอนที่ใส่แบบล้นจุใจ คออาหารญี่ปุ่นมีห
จงเจอนี่ - Jongjourney
Maguro sushi 🍣
แวะมาจัดร้านโปรดก่อนจะไม่ได้อยู่ไทยยาวๆ MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่นเกรดพรีเมี่ยม วัตถุดิบสดใหม่เหมือนบินไปทานที่ญี่ปุ่น มื้อนี้พู่จัดมาเน้นๆ 4 เมนู🍴 - 𝟒 𝐒𝐞𝐚𝐬𝐨𝐧𝐬 𝐒𝐚𝐥𝐦𝐨𝐧 𝐬𝐞𝐭 790฿ เป็นการนำแซลม่อน
พาผู้เที่ยว-Paapooteaw
Unclenoi's review: ยังลด 50% เลยพาเพื่อนๆไปลอง Tadaima sushi @ 8 Thonglor
วันเสาร์นัดเจอเพื่อนๆ 1 ในสมาชิกบอกอยากทานซูชิ เลยเสนอว่าลองร้านนี้ไหม Tadaima sushi คราวที่แล้วไปกินมาลด 50% อยากรู้ว่าเพื่อนๆจะถูกปากไหม ซึ่งเพื่อนโอเค เลยเช็คกับที่ร้านปรากฎว่ายังคงลด 50% อยู่ครับ
สมาชิกหมายเลข 899161
== Tenyuu Grand Omakase พรีเมี่ยมซูชิดี ราคาไม่แรงนัก ==
Omakase Buffet All You can Eat 1999฿Net ร้านนี้เคยมาทาน Omakase ซัก 2 ปี แล้ว วันก่อนเห็นเค้าจัด โปรใน Hungry Hubเป็น
-=Jfk=-
รีวิว Ryoshi Sushi ร้านซูชิบาร์และอาหารญี่ปุ่นที่เลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบนำเข้าคุณภาพสูงระดับพรีเมี่ยม✨
วันก่อนมาทานข้าวกับเพื่อนๆที่ทำงานบนห้าง Gateway บางซื่อก่อนกลับบ้านเจอร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่ติดๆกันมีป้ายโปรโมชั่นเต็มหน้าร้านดูน่าสนใจคือ Ryoshi Sushi กำลังจัดโปรโมชั่นซาชิมิ Uni คือไข่หอยเม่นและ Blue
Food Addicts
โอมากาเสะสุดเท่ จัดจ้านย่านสาทร มาพร้อมกิมมิกสีสันฉูดฉาด คอร์ส 18 คำ 2500++
CUTTS Sathorn ร้านโอมากาเสะสุดเท่ ย่านสาทรมาพร้อมกิมมิกสีสันฉูดฉาด พร้อมตัวการ์ตูนคูลๆ ที่มาต้อนรับตั้งแต่ทางขึ้นไปในร้านกับคอร์ส 18 คำ อัดแน่นแบบเต็มอิ่ม คุ้มๆ จุกๆ 2500++เปิดคอร์สด้วยเซต season
มิกิชวนกิน
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารญี่ปุ่น
ซูชิ
อาหารซีฟู้ด
ICONSIAM
ร้านอาหาร
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 2
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว "Sushi Katsu" ซูชิบาร์วัตถุดิบนำเข้าระดับโอมากาเสะโดยเชฟคนญี่ปุ่น อยู่ภายในห้างไอคอนสยามชั้น G
สิ่งที่วางกระจายตรงด้านหน้าเคาน์เตอร์ราวกับเป็นคำเชิญชวนให้ผู้เดินคนผ่านไป-มาได้แวะชมกันก่อนก็คือเล่มรายการอาหารโดยจะถูกเปลี่ยนไปทุกปีอย่างหน้าปกนี้เขียนว่า 2022 เริ่มต้นด้วยหมวด "Sushi Set" รวมวัตถุดิบสดนำมาปั้นซูชิหลากหลายหน้าในเมนูเดียวกันจัดเสิร์ฟตั้งแต่ 4-10 คำมีให้เลือกทั้งหมด 6 ชุดราคาเริ่มต้นที่ 420-1,480 บาท ถ้าจัดเป็นเซตแล้วยังไม่โดนใจก็สามารถสั่งแยกชิ้นตามเกรดของวัตถุดิบได้ 2 ระดับก็คือ "Premium" ประกอบไปด้วยอูนิ(ไข่หอยเม่น)/ชูโทโร่(ทูน่าไขมันปานกลาง)/โอโทโร่(ทูน่ามีไขมันมาก)/อิคุระ(ไข่ปลาแซลมอน)/เนงิโทโร่(เนื้อทูน่าสับปรุงรส)/อากะเอบิ(กุ้งหวานไซส์ยักษ์) ราคา 140-400 บาท กับ "Recommended" หรือแนะนำให้ลองสั่งทั้ง โฮตาเตะ(หายเชลล์ญี่ปุ่น)/อูนางิ(ปลาไหลย่างซีอิ๊ว)/ฮามาจิ(เนื้อปลาบุรี)/เอนกาวะ(ครีบปลาตาเดียว)/อากามิ(ทูน่าเนื้อแดง)/แซลมอน/แซลมอนโทโร่(ส่วนท้อง)/โทบิโกะ(ไข่ปลาบินปรุงรส)/ทามาโกะ(ไข่หวานย่าง)/มาไดหรือกะพงแดงญี่ปุ่น/เอบิ(กุ้งต้มสุก)/อิกะ(ปลาหมึกกล้วย) ราคา 40-150 บาท และโรลมากิต่างๆถึง 6 หน้า ราคาเริ่มต้นที่ 320-590 บาท โดยขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้/หน้าตาอาหารไปจนถึงความอลังการในการจัดเสิร์ฟนั่นเองครับ
สำหรับหน้าถัดมาเห็นมีลูกค้าคนอื่นนั่งกินอยู่เลยอยากสั่งตามบ้างก็คือ "Donburi" หรือข้าวหน้าสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งเน้นปลาดิบเป็นหลักเกือบทั้งหมดรวม 8 เมนู ราคาเริ่มต้นที่ 370-570 บาท มาต่อกันที่หมวด "Sashimi" มีตั้งแต่ชุดเล็กไปจนถึงรวม 5 ชนิดในจานเดียว ราคา 320-720 บาท อยากทานซูชิคำเล็กน่ารักพออิ่มก็สั่งมากิหรือข้าวห่อสาหร่ายรวมกว่า 6 ไส้ ราคาเริ่มต้นแค่ 80-140 บาท สายสุขภาพเน้นจำกัดคาร์โบไฮเดรตทางร้านแนะนำให้กินเป็นสลัดต่างๆ ราคาจานละ 280-470 บาท หมวดพิเศษ "Extra" เอาใจคุณผู้ชายด้วยหอยนางรมสดๆราดซอสพอนสึเพียงตัวละ 100 บาท ถ้าอยากซดอะไรร้อนๆชวนคล่องคอก็สั่งซุปมิโสะปลาหรือสาหร่ายราคาถ้วยละ 60-80 บาท ปิดท้ายด้วยหมวดเครื่องดื่มทั้งน้ำแร่/น้ำอัดลม/ชาเขียวรีฟีล(ร้อน,เย็น) ราคาแก้วละ 25-45 บาท และ "Premium Box" หรือเบนโตะหน้าปลาดิบอัดเครื่องแน่นๆราวกับสำรับจักรพรรดิ ราคาเริ่มต้นที่ 950-2,500 บาท ซึ่งสามารถสั่งล่วงหน้าผ่าน Line@ พร้อมชำระเงินแล้วรับสินค้าหรือจัดส่งได้เลยทันที สังเกตดีๆข้างล่างสุดจะเขียนไว้ว่า "เมนูปลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล" นั่นแปลว่าวันไหนวัตถุดิบบางอย่างหมดทางเชฟจะปรับให้ตามความเหมาะสมเองบางครั้งอาจจะมีปลาชนิดแปลกๆมาจัดโปรโมชั่นพิเศษตรงป้ายใหญ่หน้าร้านหรือคอยติดตามดูในเพจนะครับ
วิธีการสั่งอาหารสามารถนั่งตรงเก้าอี้สูงหน้าเคาน์เตอร์ครัวแล้วชี้รูปภาพอาหารภายในเล่มเมนูแก่เชฟเพื่อให้เริ่มปรุงออกมาตามต้องการได้อย่างรวดเร็วทันใจแล้วค่อยชำระเงินเมื่ออิ่ม สำหรับใครที่ขึ้น-ลงไม่ถนัดสามารถเลือกนั่งตรงไหนก็ได้ภายในโครงการ Rose Food Avenue อันกว้างขวางใหญ่โต แต่มีเงื่อนไขคือต้องสั่งอาหารพร้อมชำระเงินตรงแคชเชียร์ให้เสร็จก่อนจึงจะเดินไปเสิร์ฟถึงโต๊ะ โปรโมชั่นเฉพาะผู้ที่ครอบครองบัตร "JAL Mileage Bank" ของ Japan Airlines รับส่วนลดเพิ่มทุกเมนูอีก 10% ซึ่งพนักงานที่ให้บริการนั้นสามารถสื่อสารได้ทั้งไทยและญี่ปุ่นเพื่อพูดคุยกับเชฟแทนเราได้ เพราะฉะนั้นถ้ามีประวัติการแพ้อาหารหรือไม่กินวัตถุดิบอะไรบ้างควรแจ้งล่วงหน้าก่อนโดยทางครัวจะปรับเพิ่ม-ลดให้ตามความเหมาะสมและสวยงาม วันนี้ผมกับแฟนเลือกนั่งตรงหน้าเคาน์เตอร์จะได้ชมทุกกระบวนการแล่พร้อมตกแต่งซึ่งให้อารมณ์เหมือนอยู่ในร้านโอมากาเสะสุดๆแต่ไม่ต้องรอจองคิวให้วุ่นวายครับผม
นอกจากวัตถุดิบสดใหม่ทุกรายการจะถูกนำเข้าตรงจากประเทศญี่ปุ่นแล้วเชฟก็ถูกส่งตัวมาจากดินแดนอาทิตย์อุทัยเช่นเดียวกัน ซึ่งมีประสบการณ์ด้านโอมากาเสะระดับมืออาชีพในชื่อภัตตาคารดังย่าน "รบปงหงิ" (Roppongi) ของโตเกียว ก่อนถูกทางบริษัท Uokatsu ส่งมาช่วยรังสรรค์เมนูที่ "Sushi Katsu" ไอคอนสยามแห่งนี้ เมื่อเริ่มสั่งอาหารภายในบาร์ก็จะเริ่มปฎิบัติการแบ่งหน้าที่เป็นหัวหน้ากับผู้ช่วยคอยสลับกันเตรียมวัตถุดิบพร้อมประกอบร่างให้สวยงามน่าทานก่อนยกเสิร์ฟตรงหน้าลูกค้าทันทีอย่างรวดเร็วทันใจ ระหว่างกำลังนั่งรอสั่ง "ชาเขียวรีฟีล" ราคาแก้วละ 45 บาท มาดื่มรสจืดหอมใบชาเย็นสดชื่นเติมได้เรื่อยๆตลอดที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ (ถ้านั่งโต๊ะอื่นๆใน Rose Food Avenue ต้องมายื่นให้พนักงานช่วยริน) เทโชยุใส่ถ้วยน้ำจิ้มสีแดงวางบนกระดาษรองจานสีน้ำเงินเข้มแล้วเตรียมชุดตะเกียบไม้ญี่ปุ่นประจำตัวของแต่ละคนให้เรียบร้อยรอเพียงแค่อึดใจจานแรกที่สั่งไว้ก็ถูกยกมาวางตรงหน้าแล้วครับ
เริ่มต้นกันด้วยเมนูซูชิที่ใช้วัตถุดิบสุดหรูหราอย่าง "Maguro Zukushi (All Sorts Of Maguro)" ราคา 550 บาท นิกิริมากุโร่รวม 4 อย่างอันเป็น Signature ของทางร้านไล่เรียงระดับความอร่อยไปเรื่อยๆจาก 1. อากามิหรือทูน่าส่วนเนื้อแดงไร้ไขมันส่วนกลางจนถึงปลายลำตัวของปลา โดยเชฟเลือกใช้สายพันธุ์ Blue Fin คุณภาพสูงจึงได้ความนวลเนียนไร้เอ็นเหนียวหรือพังผืดติดฟัน ผสานศิลปะการใช้มีดบั้งริ้วตามแนวยาวให้สัมผัสที่แตกต่างและฝีมือปั้นก้อนข้าวซูชิปรุงรสชาติให้เปรี้ยวอมหวานเรียงเมล็ดอย่างสวยงามกระจายตอนเคี้ยวเข้ากับเนื้อปลาได้เป็นอย่างดี 2. ชูโทโร่หรือทูน่าส่วนแทรกชั้นไขมันปานกลางใกล้บริเวณท้อง มีสีอมชมพูสวยงามแต่รสชาติไม่เข้มข้นเท่าคำแรกซึ่งแลกกับความนุ่มละลายเคี้ยวง่ายยิ่งขึ้น 3. โอโทโร่หรือทูน่าส่วนท้องมีไขมันเยอะสุดก้อนเกือบสีขาวเน้นความละลายไหลลื่นลงคอเหมือนเมื่อกี้ได้หลับฝันไป 4. เนกิโทโร่หรือทูน่ารวมสับละเอียดผสมต้นหอมตามอัตราส่วนของทางร้านรสชาติหวานฉุนขึ้นจมูกเล็กน้อยช่วยลดความเลี่ยนล้างคาวปลาในปากปั้นเสิร์ฟแบบห่อสาหร่ายสไตล์กุนกังซูชิ แตะวาซาบิ/พลิกด้านปลาจิ้มโชยุรสเค็มอมหวานกลมกล่อมก่อนเข้าปากแล้วปิดท้ายด้วยขิงดองน้ำผึ้งก่อนเริ่มจานถัดไป
สำหรับชามนี้เห็นคนก่อนหน้าสั่งแล้วอยากกินตามคือ "Tenkomori" ราคา 570 บาท ข้าวปลาดิบรวมแบบล้นหน้าสุดอลังการซึ่งด้านล่างสุดรองด้วยข้าวปรุงรสชาติหวานอมเปรี้ยวกลมกล่อมเหมือนนิกิริจานก่อน ท๊อบปิ้งอย่างหนักหน่วงเหมือนยัดเยียดทั้งมหาสมุทรมาไว้ในชามเดียวทั้ง 1. แซลมอนนอร์เวย์ลนไฟ 2. ทูน่าส่วนอากามิ 3. อูนากิหรือปลาไหลย่างซีอิ๊ว 4. ฮามาจิหรือปลาบุรี 5. แซลมอนนอร์เวย์สด 6. ปลามาไดหรือกะพงแดงญี่ปุ่น 7. โฮตาเตะหรือหอยเชลล์ฮอกไกโด 8. เนกิโทโร่หรือทูน่าสับต้นหอม 9. ทามาโกะหรือไข่หวานย่าง 10. อูนิหรือไข่หอยเม่นที่ร้านใช้สายพันธุ์บาฟูนรสหวานเนียนนุ่ม และ 11. อิคุระหรือไข่ปลาแซลมอนเม็ดเล็กสีส้มสดเปลือกหุ้มแน่นแตกระเบิดไขมันเต็มปากปิดท้ายด้วยการโรยโนริหรือสาหร่ายเส้นก่อนเสิร์ฟอย่างระมัดระวัง ส่วนวิธีการกินเชฟแนะนำว่าสามารถเพลิดเพลินได้ 2 รูปแบบคือ 1. คีบปลาดิบชิ้นใหญ่จิ้มโชยุเข้าปากแล้วค่อยตามด้วยข้าว 2. ขอเพิ่มวาซาบิผสมลงในโชยุแล้วราดเทบนชามให้ทั่วก่อนตักเข้าปากด้วยตะเกียบสไตล์ญี่ปุ่นแท้ เรียกว่าเป็นดงบุริแบบ 2 In 1 สุดแปลกใหม่ที่ได้ลองวัตถุดิบสดคุณภาพสูงหลายๆอย่างจากทางร้านได้ในเมนูเดียวซึ่งส่วนตัวนั้นถือว่าคุ้มราคามากๆเลยครับผม
เมนูจานต่อไปก็ยังคงเน้นความสวยงามอลังการเป็นหลักก็คือ "Over Flow Roll" ราคา 590 บาท มีชื่อภาษาไทยว่า "โรลหน้าล้น" ซึ่งพื้นฐานด้านล่างสุดทำจากกัปปะมากิหรือซูชิห่อสาหร่ายไส้แตงกวาญี่ปุ่นท๊อบปิ้งวัตถุดิบสดแบบจัดหนักเรียงจากซ้ายไปขวาทั้ง 1. เนกิโทโร่หรือทูน่าสับผสมต้นหอมก้อนใหญ่พิเศษ 2. ปลาดิบรวมมิตรราวกับไคเซ็นดงบุริทั้งนอร์เวย์แซลมอน/ฮามาจิหรือปลาบุรี/อากามิหรือทูน่าเนื้อแดง/อิกะหรือปลาหมึกกล้วย/โทบิโกะหรือไข่ปลาบินปรุงรสและอิคุระหรือไข่ปลาแซลมอน โดยหั่นเป็นเส้นเรียวยาวเล็กๆคล้ายโซเม็งพร้อมแตะวาซาบิ-โชยุนำเข้าปากเพื่อรับความอร่อยหลากหลายสัมผัสในคำเดียวกัน 3. ปูซูไวหรือปูหิมะญี่ปุ่นนึ่งขูดเอาแต่เนื้อ 100% ซึ่งค่อนข้างแห้งฝืดคอไปหน่อยแต่ยังคงความเด้งเคี้ยวสนุกอยู่ สำหรับวิธีการทานจานนี้เชฟแนะนำว่าให้แบ่งวางบนมากิแล้วกินก่อนส่วนที่เหลือค่อยประยุกต์เป็นซาชิมิตามหลังทำให้ได้ความสนุกถึง 2 แบบในจานเดียว สุดท้ายก็ล้างกลิ่นคาวไม่ให้หลงเหลือด้วยขิงดองน้ำผึ้งรสหวานเผ็ดเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสลิ้นให้กลับมาทำงานได้ดีเยี่ยมอีกครั้งนึงครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น