#TRUE #ทันหุ้น-บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ TRUE แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2565 บริษัทได้ขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล หรือ DIF จำนวน 300 ล้านหน่วย คิดเป็นสัดส่วนราว 2.82% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดในกองทุนให้แก่นักลงทุน โดยที่มาของการกำหนดราคาจำหน่ายหน่วยลงทุน ได้พิจารณาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของนักลงทุน (book building)
ทั้งนี้ หลังการขายหน่วยลงทุนแล้ว กลุ่มบริษัทจถถือหน่วยลงทุนใน DIF สัดส่วนประมาณ 20.56% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดในกองทุน
**โบรกฯ เผยได้เงินราว 3.5 พันลบ.
บล.กสิกรไทย ระบุว่า การที่ TRUE ขายหน่วยลงทุน DIF ในราคา 13.3-13.45 บาทต่อหน่วย คิดเป็นส่วนลด 4-5% จากราคาหน่วยเมื่อวานนี้ที่ 14 บาท ซึ่งTRUE จะได้เงินราว 3.5 พันล้านบาท หรือมีกำไรประมาณ 1.5 พันล้านบาท จากการที่ TRUE ไม่มีคำอธิบายถึงเหตุผลในการขายในที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯนั้น จึงทำให้มีข้อกังวลหลักคืออาจจะประสบปัญหาเรื่องสภาพคล่อง อย่างไรก็ตาม จากการที่สอบถามไปยังหัวหน้านักลงทุนสัมพันธ์ของ TRUE ได้คลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่อง โดยหัวหน้าทีม IR ยังลดความกังวลของฝ่ายวิจัยเกี่ยวกับความเสี่ยงในการเพิ่มทุน แม้ไม่คาดว่าจะมีการขายหุ้นเพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีการขายหุ้นอีกต่อไป
ฝ่ายวิจัยบล.กสิกรไทย ได้ปรับเพิ่มประมาณการผลขาดทุนปกติปี 2565 ของ TRUE จากขาดทุน 301 ล้านบาท เป็นขาดทุน 4.7 พันล้านบาท จากผลประกอบการไตรมาส 1/65 ที่ต่ำกว่าคาดและการเติบโตของรายได้ปกติที่น้อยกว่าคาดจากการบริโภคที่อ่อนตัวลง และการแข่งขันที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม ยังคงประมาณการกำไรปกติในปี 2566-2567 ซึ่งรวมมูลค่าการควบกำลังที่อาจเกิดขึ้น หลังจากการควบรวมกิจการระหว่างTRUE และ DTAC ไว้ตามเดิม
https://thunhoon.com/article/256559 
TRUE ขาย DIF จำนวน 300 ล้านหน่วย ยังถือราว 20.56%, โบรกฯคาดได้เงิน 3.5 พันลบ
ทั้งนี้ หลังการขายหน่วยลงทุนแล้ว กลุ่มบริษัทจถถือหน่วยลงทุนใน DIF สัดส่วนประมาณ 20.56% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดในกองทุน
**โบรกฯ เผยได้เงินราว 3.5 พันลบ.
บล.กสิกรไทย ระบุว่า การที่ TRUE ขายหน่วยลงทุน DIF ในราคา 13.3-13.45 บาทต่อหน่วย คิดเป็นส่วนลด 4-5% จากราคาหน่วยเมื่อวานนี้ที่ 14 บาท ซึ่งTRUE จะได้เงินราว 3.5 พันล้านบาท หรือมีกำไรประมาณ 1.5 พันล้านบาท จากการที่ TRUE ไม่มีคำอธิบายถึงเหตุผลในการขายในที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯนั้น จึงทำให้มีข้อกังวลหลักคืออาจจะประสบปัญหาเรื่องสภาพคล่อง อย่างไรก็ตาม จากการที่สอบถามไปยังหัวหน้านักลงทุนสัมพันธ์ของ TRUE ได้คลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่อง โดยหัวหน้าทีม IR ยังลดความกังวลของฝ่ายวิจัยเกี่ยวกับความเสี่ยงในการเพิ่มทุน แม้ไม่คาดว่าจะมีการขายหุ้นเพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีการขายหุ้นอีกต่อไป
ฝ่ายวิจัยบล.กสิกรไทย ได้ปรับเพิ่มประมาณการผลขาดทุนปกติปี 2565 ของ TRUE จากขาดทุน 301 ล้านบาท เป็นขาดทุน 4.7 พันล้านบาท จากผลประกอบการไตรมาส 1/65 ที่ต่ำกว่าคาดและการเติบโตของรายได้ปกติที่น้อยกว่าคาดจากการบริโภคที่อ่อนตัวลง และการแข่งขันที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม ยังคงประมาณการกำไรปกติในปี 2566-2567 ซึ่งรวมมูลค่าการควบกำลังที่อาจเกิดขึ้น หลังจากการควบรวมกิจการระหว่างTRUE และ DTAC ไว้ตามเดิม
https://thunhoon.com/article/256559