สรุปคือ ผู้ว่า ชัชชาติ สมัครเข้ามาเพื่อพลักภาระปัญหารถไฟฟ้า ในขณะที่อัศวินรู้วิธีแก้ปัญหาแต่ทีมงานโฆษณาไม่เก่ง

ย้อนอดีตนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระเบอร์ 8 ระบุว่า จะไม่มีการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้เอกชน แต่ใช้วิธีเจรจากับเอกชนต่อปัญหาภาระหนี้ค่าจ้างเดือนรถ  นอกจากนี้ ยังมีนโยบายโอนสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว หรือรถไฟฟ้า BTS ที่เหมือนเส้นเลือดใหญ่ ให้กับกระทรวงคมนาคมเป็นผู้รับไปดูแลบริหารจัดการ โดยมีเงื่อนไขกระทรวงคมนาคมจะต้องทำยังไงก็ได้ให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าต่ำกว่า 25-30 บาท
ขณะเดียวกัน ต้องสร้างระบบเส้นเลือดฝอย โดยต้องเอาจริงเอาจังกับการทำระบบฟีดเดอร์ หรือระบบการเดินทางเชื่อมต่อจากรถไฟฟ้า ทั้งรถเมล์-วินมอเตอร์ไซค์-เรือโดยสาร

เพี้ยนแช๊ะ
ขณะที่ พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. ที่ลงสมัครชิงเก้าอี้อีกครั้งเพื่อต้องการให้กรุงเทพฯ ไปต่อ มีนโยบายขยายสัมปทานสายสีเขียวให้กับเอกชน โดยยกร่างสัญญาร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้กับ บีทีเอสซีในฐานะผู้รับสัมปทานแต่ปัจุบันเรื่องยังยืดเยื้อ เนื่องจากกระทรวงคมนาคม และภาคสังคม ไม่เห็นด้วยโดยเฉพาะค่าโดยสารที่ยังมองว่าสูงเกินไป ที่อัตรา 65 บาทตลอดสาย และอาจกลายเป็นภาระประชาชนผู้ใช้บริการในระยะยาว  นอกจากนี้ จะผลักดันให้เกิดระบบตั๋วใบเดียว เพราะในช่วงที่ดำรงตำแหน่งพยายามผลักดันยังเกิดขึ้นไม่ได้เพราะมีเจ้าภาพหลายคน 

กล่าวโดยสรุปหัวใจของการแก้ไขปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว คือทำอย่างไรให้การต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวโปร่งใสเป็นธรรม และไม่ผลักภาระค่าโดยสารให้กับผู้บริโภค
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
อัศวินอยู่ตั้งกี่ปี แก้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันไหม จะมาขอไปต่อ รบกวนไปต่อที่บ้านเลี้ยงหลานเถอะ ปัญหารถไฟฟ้าสายเขียว จารย์ชัชท่านก็บอกแล้วว่าต้องเข้ามาดูในเอกสารสัญญาก่อน ว่าทำไว้ยังไง

ราคา 65 บาทตลอดสาย แน่ใจใช่ไหมว่าราคานี้คือทำได้ดีสุดแล้ว ถึงได้เถียงคอเป็นเอ็นยกแม่น้ำทั้ง 5 มากล่อม ในเมื่อมีข่าวว่าต้นทุนอยู่แค่ 15 บาทตลอดสาย

อีกทั้ง สัญญาก็เป็นความลับ ห้ามเผยแพร่ สรุปสร้างมาเพื่อใคร มีนอกมีในอะไรไหม เกี่ยวกับความมั่นคงหรอถึงห้ามเผยแพร่ จะให้แก้ไขก็นำมาทำให้มันโปร่งใสก่อน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่