ซากแมลงสาบและดินดวงจันทร์ที่นำออกจากท้องของพวกมัน ซึ่งเป็นผลมาจากการทดสอบทางชีววิทยาในภารกิจ Apollo 11ของ NASA
ในปี 1969 / Cr.ภาพ RR Auction ผ่าน collectSPACE.com
ปัจจุบัน NASA ยังคงมีหินดวงจันทร์ (moon rocks) ส่วนใหญ่ที่ลูกเรือ Apollo 11 นำกลับมา แต่ตอนนั้นเงินรางวัลจำนวนเล็กน้อยของนักบินอวกาศถูกใช้จนหมดในชุดการทดลองที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักแต่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อทำให้แน่ใจได้ว่าตัวอย่างดวงจันทร์จะปลอดภัยที่จะเก็บไว้บนโลก จริงๆแล้วนักวิทยาศาสตร์ค่อนข้างแน่ใจว่าไม่มีเชื้อโรคที่อาจเป็นอันตรายอาศัยอยู่บนดวงจันทร์แต่ก็ยังยืนยันได้ไม่แน่ชัด และการนำตัวอย่างดวงจันทร์กลับไปยังโลกเป็นของขวัญที่เหลือเชื่อสำหรับวิทยาศาสตร์ ในขณะที่มันอาจเป็นอันตรายก็ได้ ถ้าหินเหล่านั้นกลายเป็นความเสี่ยงต่อชีวิตบนโลก ดังนั้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมภารกิจของหน่วยงาน NASA จึงต้องจัดทำโปรแกรมการทดสอบทางชีววิทยาขึ้น
Charles Berry ผู้รับผิดชอบแผนกปฏิบัติการทางการแพทย์ในระหว่างภารกิจ Apollo 11 กล่าวว่า ต้องมีการพิสูจน์ตัวอย่างที่นำมาว่าจะไม่ส่งผลกระทบไม่เพียงแต่ในมนุษย์ ยังรวมถึงปลา นก สัตว์และพืชบนโลกด้วย Berry และทีมจึงพัฒนาโปรแกรมที่น่าทึ่งที่ดำเนินการได้จริงในสามภารกิจเที่ยวบินที่มีค่าคือ Apollo 11 12 และ 14
ทั้งนี้ การนำไปสู่ภารกิจแรกในการส่งผู้คนไปดวงจันทร์ในปี 1969 นั้น นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ค่อยชัดเจนนักเกี่ยวกับสิ่งที่นักบินอวกาศจะได้รับ ตัวอย่างเช่น ในขณะที่ส่งยานสำรวจแบบหุ่นยนต์ไปข้างหน้าเพื่อทดสอบการลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์ ผู้วางแผนภารกิจบางคนกลัวว่าผู้ลงจอดหรือนักบินอวกาศอาจจมผ่านชั้นดินหนาทึบคล้ายทรายดูดที่ปกคลุมดวงจันทร์ ด้วยเหตุนี้ สายรัดจึงถูกสร้างขึ้นไปจนถึงการพัฒนาขั้นตอนอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนร่วมทีม Apollo 11 ที่มี Neil Armstrong และ Buzz Aldrin สามารถหลบหนีจากดวงจันทร์ได้อย่างรวดเร็วหากจำเป็น
"สไลด์ไมโครสโคปที่ทำจากแมลงสาบที่ถูกเลี้ยงด้วยวัศดุดวงจันทร์" รวมอยู่ในล็อตการประมูล Cr.ภาพ: RR Auction
และแม้ว่านักชีววิทยาส่วนใหญ่มั่นใจอย่างยิ่งว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตบนพื้นผิวดวงจันทร์ แต่พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธได้อย่างสมบูรณ์ว่านักบินอวกาศจะไม่นำเชื้อโรคที่อาจคุกคามชีวิตทั้งหมดบนโลกกลับมา ด้วยเหตุนี้นักบินอวกาศ ยานอวกาศ และทุกอย่างที่พวกเขานำกลับมาจึงถูกกักกันเป็นเวลา 21 วัน โดย
นักบินอวกาศต้องเข้ารับการตรวจร่างกายภายใน Lunar Receiving Laboratory ซึ่งเป็นสถานที่พิเศษที่สร้างขึ้นโดย NASA เพื่อแยกมนุษย์และวัตถุจากดวงจันทร์ออกจากโลกภายนอก (รวมทั้งสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังหลายชนิด ตั้งแต่ปลา หนู ไปจนถึงแมลงสาบที่สัมผัสกับดินและฝุ่นของดวงจันทร์เพื่อดูว่าพวกมันจะจะตอบสนองอย่างไร)
ในโปรแกรมการทดลองดังกล่าว หลังจากหลายสัปดาห์ที่อยู่ในห้องสุญญากาศ นักวิทยาศาสตร์ได้แยกตัวอย่างดวงจันทร์ออกมาประมาณ 10% (ประมาณ 4.5 ปอนด์ / 2 ก.ก.) ของหินดวงจันทร์หนัก 47.5 ปอนด์ (22 ก.ก.) ที่นำกลับมาโลกโดยภารกิจ Apollo 11 เพื่อนำไปศึกษาสิ่งต่างๆ โดยบดให้เป็นอนุภาคขนาดเล็ก (ครึ่งหนึ่งอบเพื่อฆ่าเชื้อ อีกครึ่งหนึ่งคงไว้เหมือนเดิม) สำหรับใช้ศึกษาสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น แมลงกับสัตว์น้ำที่สัมผัสกับฝุ่นดวงจันทร์
นอกจากนี้ NASA ยังเลือกอีกหลายสายพันธุ์เช่น หนู และสายพันธุ์ที่เป็นตัวแทนอื่นๆ เช่น นก Japanese quail เพื่อเป็นตัวแทนของนก ปลาทั่วไปสองสามตัว กุ้งสีน้ำตาล หอย แมลงสาบ Blattella germanica แมลงวันบ้าน และอื่นๆทั้งหมด 15 สายพันธุ์ โดยการทดลองแตกต่างกันไปเล็กน้อยตามประเภทของสัตว์ เช่น หนูและนกได้รับตัวอย่างจากดวงจันทร์เป็นการฉีด แมลงมีตัวอย่างจากดวงจันทร์ผสมในอาหาร ส่วนสัตว์น้ำ ถูกเติมฝุ่นดวงจันทร์ลงในน้ำที่พวกมันอาศัยอยู่ และแน่นอน ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้เห็นฝุ่นดวงจันทร์นี้อีกหลังจากที่ใช้ไปแล้ว
ภาพขยายของ chyme แมลงสาบที่มี "ตัวอย่างจากดวงจันทร์ที่ตรวจพบจากการทดสอบทางชีววิทยา" ระหว่างภารกิจ Apollo 11 /Cr.ภาพ: RR Auction
เป็นเวลาหนึ่งเดือนที่ NASA เฝ้าดูการทดลองนี้ ในกรณีที่หากมีสิ่งที่ดูเหมือนจะต้องทนทุกข์ทรมานจากการสัมผัสตัวอย่างดวงจันทร์ โดยเฉพาะแมลงสาบที่ถูกเลี้ยงด้วยฝุ่นจากดวงจันทร์ ซึ่งเป็นความจริงตามชื่อเสียงของมัน ที่สามารถเติบโตได้แม้จะกินอาหารที่แปลกใหม่ ในที่สุด สัตว์ทั้งหมดก็ปกติดียกเว้นหอยเพียงชนิดเดียว ที่เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าจะอยู่ในน้ำบนดวงจันทร์หรือไม่ พวกมันก็ตาย นอกจากการทดลองกับสัตว์แล้ว NASA ยังทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) เพื่อทดสอบพืชเพื่อหาปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์ใดๆ ต่อวัสดุจากดวงจันทร์เผื่อไว้ด้วย โดยการทดลองที่คล้ายคลึงกันนี้
ได้ดำเนินการหลังจาก Apollo 12 และ 14 เช่นกัน
เมื่อระยะเวลากักกันสิ้นสุดลงโดยไม่มีสัตว์หรือนักบินอวกาศตายเนื่องจากการสัมผัสกับตัวอย่างดวงจันทร์ แต่หน่วยงานอวกาศยังต้องการความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงผลร้ายจากวัสดุนอกโลกที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต NASA จึงได้ว่าจ้าง Marion Brooks นักกีฏวิทยาจากมหาวิทยาลัย St. Paul ให้ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแมลงสาบที่ถูกเลี้ยงด้วยฝุ่นจากดวงจันทร์ต่อไป ดังนั้น ในขณะที่นักวิชาการคนอื่นๆ ทั่วโลกต่างรอรับที่จะเอาหินและฝุ่นจากดวงจันทร์ไปวิเคราะห์ Brooks เป็นคนแรกที่ได้รับความไว้วางใจจากตัวอย่างดวงจันทร์ที่เก็บรักษาไว้ภายในตัวแมลงสาบ 8 ตัว
Brooks เล่าว่าแม้จะสามารถเห็นฝุ่นดวงจันทร์ในแมลงได้ด้วยตาเปล่า แต่ก็ต้องผ่าพวกมันเพื่อทำสไลด์เนื้อเยื่อสำหรับการตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์ และมองหาหลักฐานของสภาวะทางพยาธิวิทยาที่เกิดจากการบริโภควัสดุจากนอกโลก ทั้งกับกลุ่มแมลงสาบที่ได้รับอาหารเป็นฝุ่นดวงจันทร์ดิบและอาหารตามปกติในปริมาณเท่ากัน ควบคู่ไปกับกลุ่มที่กินฝุ่นดวงจันทร์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว
หลังการศึกษา Brooks บอกว่าไม่พบสิ่งบ่งชี้ของสิ่งมีชีวิตที่ติดเชื้อ ทั้งเสริมว่าไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าอนุภาคของดวงจันทร์เป็นพิษหรือเป็นอันตรายต่อแมลงสาบ หนึ่งปีต่อมา Brooks และนักวิจัยคนอื่นๆ ได้ตีพิมพ์ " Apollo 11: Exposure of Lower Animals to Lunar Material " ในวารสาร Science ฉบับวันที่ 31 ก.ค.1970 โดยอธิบายถึงการค้นพบของสิ่งมีชีวิตชั้นล่าง 10 ตัวที่ได้รับสารอาหารจากดวงจันทร์เป็นเวลา 28 วัน และไม่มีผลกระทบทางพยาธิวิทยาที่เกิดจากพบการสัมผัสกับวัตถุทางจันทรคติ
จนกระทั่งหลังจากภารกิจ Apollo 14 ในปี 1971 ในที่สุด NASA รู้สึกว่าปลอดภัยและมั่นใจว่า regolith บนดวงจันทร์นั้นปลอดภัยพอที่จะหยุดการทดสอบกับสัตว์ และยุติกระบวนการกักกันสำหรับนักบินอวกาศและช่างเทคนิคในห้องปฏิบัติการที่ทำงานกับตัวอย่างดวงจันทร์ใดๆและจากที่เดินทางกลับจากดวงจันทร์ด้วย สำหรับ Brooks ยังคงศึกษาต่อไปโดยรักษาสไลด์และซากแมลงสาบไว้ โดยนำไปทำเป็นของที่ระลึกติดไว้บนฝาผนังบ้านของเธอ ในปี 2007 Brooks ได้เสียชีวิต สามปีต่อมาของที่ระลึกพร้อมสไลด์ 66 ชิ้นถูกไปประมูลในราคา 10,000 ดอลลาร์
ตอนนี้ RR Auction บริษัทในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ซึ่งเชี่ยวชาญด้านของที่ระลึกในอวกาศ กำลังนำเสนอหนึ่งในไฮไลท์การประมูลของ Rarities ที่โดดเด่น นั่นคือ "ฝุ่นดวงจันทร์ที่ถูกนำออกจากท้องของแมลงสาบ" นี้เอง พร้อมกับแมลงสาบดั้งเดิม 3 ตัวในสภาพที่ไร้ที่ติที่ถูกนำฝุ่นดวงจันทร์ออกจากกระเพาะแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในการประมูลที่หายากที่สุด การประมูลนี้ได้เปิดให้ประมูลมาตั้งแต่ 26 พ.ค.และจะดำเนินไปจนถึง 23 มิ.ย.ปีนี้
Brooks รวบรวมส่วนหนึ่งของข่าวที่ครอบคลุมงานวิจัยของเธอ รวมทั้งโปสการ์ด และอื่นๆ แขวนไว้บนผนังเพื่อเป็นที่ระลึก
ตรงกลางเป็นอนุภาคตัวอย่างดวงจันทร์ที่สกัดจากการทดลองทางชีววิทยาและแมลงสาบสามตัว สามปีต่อมาหลังจากบเธอเสียชีวิต ในปี 2007
ของที่ระลึกพร้อมสไลด์ 66 ชิ้น ถูกประมูลไปในราคา 10,000 ดอลลาร์
Cr.
https://www.geeksultd.com/2022/05/nasa-fed-apollo-11-moon-rocks-to-cockroaches-and-mice-that-digested-moon-dust-put-up-for-auction/ Austin Smith
Cr.
https://interestingengineering.com/cockroaches-apollo-11-moon-dust-auction /Loukia Papadopoulos
Cr.
https://www.space.com/apollo-lunar-samples-safety-animal-testing.html
Cr.
https://24sevenmagazine.com/apollo-11-moon-dust-eaten-by-cockroaches-goes-up-for-auction/ Vasqueze
Cr.
http://www.collectspace.com/news/news-052622a-apollo-11-moon-dust-cockroaches-auction.html
Cr.
https://www.catchynew.com/2022/05/cockroach-eaten-apollo-11-moon-dust.html
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
"แมลงสาบที่ถูกเลี้ยงด้วยอนุภาคดวงจันทร์ Apollo 11" หนึ่งในการทดสอบทางชีววิทยาของ NASA ในปี 1969
Charles Berry ผู้รับผิดชอบแผนกปฏิบัติการทางการแพทย์ในระหว่างภารกิจ Apollo 11 กล่าวว่า ต้องมีการพิสูจน์ตัวอย่างที่นำมาว่าจะไม่ส่งผลกระทบไม่เพียงแต่ในมนุษย์ ยังรวมถึงปลา นก สัตว์และพืชบนโลกด้วย Berry และทีมจึงพัฒนาโปรแกรมที่น่าทึ่งที่ดำเนินการได้จริงในสามภารกิจเที่ยวบินที่มีค่าคือ Apollo 11 12 และ 14
ทั้งนี้ การนำไปสู่ภารกิจแรกในการส่งผู้คนไปดวงจันทร์ในปี 1969 นั้น นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ค่อยชัดเจนนักเกี่ยวกับสิ่งที่นักบินอวกาศจะได้รับ ตัวอย่างเช่น ในขณะที่ส่งยานสำรวจแบบหุ่นยนต์ไปข้างหน้าเพื่อทดสอบการลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์ ผู้วางแผนภารกิจบางคนกลัวว่าผู้ลงจอดหรือนักบินอวกาศอาจจมผ่านชั้นดินหนาทึบคล้ายทรายดูดที่ปกคลุมดวงจันทร์ ด้วยเหตุนี้ สายรัดจึงถูกสร้างขึ้นไปจนถึงการพัฒนาขั้นตอนอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนร่วมทีม Apollo 11 ที่มี Neil Armstrong และ Buzz Aldrin สามารถหลบหนีจากดวงจันทร์ได้อย่างรวดเร็วหากจำเป็น
นักบินอวกาศต้องเข้ารับการตรวจร่างกายภายใน Lunar Receiving Laboratory ซึ่งเป็นสถานที่พิเศษที่สร้างขึ้นโดย NASA เพื่อแยกมนุษย์และวัตถุจากดวงจันทร์ออกจากโลกภายนอก (รวมทั้งสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังหลายชนิด ตั้งแต่ปลา หนู ไปจนถึงแมลงสาบที่สัมผัสกับดินและฝุ่นของดวงจันทร์เพื่อดูว่าพวกมันจะจะตอบสนองอย่างไร)
ในโปรแกรมการทดลองดังกล่าว หลังจากหลายสัปดาห์ที่อยู่ในห้องสุญญากาศ นักวิทยาศาสตร์ได้แยกตัวอย่างดวงจันทร์ออกมาประมาณ 10% (ประมาณ 4.5 ปอนด์ / 2 ก.ก.) ของหินดวงจันทร์หนัก 47.5 ปอนด์ (22 ก.ก.) ที่นำกลับมาโลกโดยภารกิจ Apollo 11 เพื่อนำไปศึกษาสิ่งต่างๆ โดยบดให้เป็นอนุภาคขนาดเล็ก (ครึ่งหนึ่งอบเพื่อฆ่าเชื้อ อีกครึ่งหนึ่งคงไว้เหมือนเดิม) สำหรับใช้ศึกษาสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น แมลงกับสัตว์น้ำที่สัมผัสกับฝุ่นดวงจันทร์
นอกจากนี้ NASA ยังเลือกอีกหลายสายพันธุ์เช่น หนู และสายพันธุ์ที่เป็นตัวแทนอื่นๆ เช่น นก Japanese quail เพื่อเป็นตัวแทนของนก ปลาทั่วไปสองสามตัว กุ้งสีน้ำตาล หอย แมลงสาบ Blattella germanica แมลงวันบ้าน และอื่นๆทั้งหมด 15 สายพันธุ์ โดยการทดลองแตกต่างกันไปเล็กน้อยตามประเภทของสัตว์ เช่น หนูและนกได้รับตัวอย่างจากดวงจันทร์เป็นการฉีด แมลงมีตัวอย่างจากดวงจันทร์ผสมในอาหาร ส่วนสัตว์น้ำ ถูกเติมฝุ่นดวงจันทร์ลงในน้ำที่พวกมันอาศัยอยู่ และแน่นอน ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้เห็นฝุ่นดวงจันทร์นี้อีกหลังจากที่ใช้ไปแล้ว
ได้ดำเนินการหลังจาก Apollo 12 และ 14 เช่นกัน
เมื่อระยะเวลากักกันสิ้นสุดลงโดยไม่มีสัตว์หรือนักบินอวกาศตายเนื่องจากการสัมผัสกับตัวอย่างดวงจันทร์ แต่หน่วยงานอวกาศยังต้องการความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงผลร้ายจากวัสดุนอกโลกที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต NASA จึงได้ว่าจ้าง Marion Brooks นักกีฏวิทยาจากมหาวิทยาลัย St. Paul ให้ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแมลงสาบที่ถูกเลี้ยงด้วยฝุ่นจากดวงจันทร์ต่อไป ดังนั้น ในขณะที่นักวิชาการคนอื่นๆ ทั่วโลกต่างรอรับที่จะเอาหินและฝุ่นจากดวงจันทร์ไปวิเคราะห์ Brooks เป็นคนแรกที่ได้รับความไว้วางใจจากตัวอย่างดวงจันทร์ที่เก็บรักษาไว้ภายในตัวแมลงสาบ 8 ตัว
Brooks เล่าว่าแม้จะสามารถเห็นฝุ่นดวงจันทร์ในแมลงได้ด้วยตาเปล่า แต่ก็ต้องผ่าพวกมันเพื่อทำสไลด์เนื้อเยื่อสำหรับการตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์ และมองหาหลักฐานของสภาวะทางพยาธิวิทยาที่เกิดจากการบริโภควัสดุจากนอกโลก ทั้งกับกลุ่มแมลงสาบที่ได้รับอาหารเป็นฝุ่นดวงจันทร์ดิบและอาหารตามปกติในปริมาณเท่ากัน ควบคู่ไปกับกลุ่มที่กินฝุ่นดวงจันทร์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว
จนกระทั่งหลังจากภารกิจ Apollo 14 ในปี 1971 ในที่สุด NASA รู้สึกว่าปลอดภัยและมั่นใจว่า regolith บนดวงจันทร์นั้นปลอดภัยพอที่จะหยุดการทดสอบกับสัตว์ และยุติกระบวนการกักกันสำหรับนักบินอวกาศและช่างเทคนิคในห้องปฏิบัติการที่ทำงานกับตัวอย่างดวงจันทร์ใดๆและจากที่เดินทางกลับจากดวงจันทร์ด้วย สำหรับ Brooks ยังคงศึกษาต่อไปโดยรักษาสไลด์และซากแมลงสาบไว้ โดยนำไปทำเป็นของที่ระลึกติดไว้บนฝาผนังบ้านของเธอ ในปี 2007 Brooks ได้เสียชีวิต สามปีต่อมาของที่ระลึกพร้อมสไลด์ 66 ชิ้นถูกไปประมูลในราคา 10,000 ดอลลาร์
Cr.https://interestingengineering.com/cockroaches-apollo-11-moon-dust-auction /Loukia Papadopoulos
Cr.https://www.space.com/apollo-lunar-samples-safety-animal-testing.html
Cr.https://24sevenmagazine.com/apollo-11-moon-dust-eaten-by-cockroaches-goes-up-for-auction/ Vasqueze
Cr.http://www.collectspace.com/news/news-052622a-apollo-11-moon-dust-cockroaches-auction.html
Cr.https://www.catchynew.com/2022/05/cockroach-eaten-apollo-11-moon-dust.html
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)