คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
กรมควบคุมโรคยืนยัน ไทยยังไม่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร พบเพียง นทท.ต่างชาติแวะต่อเครื่อง - 3 นนท.ที่ภูเก็ตเป็นแค่เริม ย้ำเฝ้าระวังความเสี่ยง ไม่ประมาท พบผู้ป่วยรวม 494 ราย ใน 32 ประเทศ
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวถึงโรคฝีดาษวานร ว่า ไทยยังไม่พบผู้ป่วยยืนยันโรคนี้ แม้จะมีรายงานผู้เดินทางมาพักต่อเครื่องที่ไทย 2 ชม.แล้วไปออสเตรเลีย ก่อนพบยืนยันป่วยโรคฝีดาษวานร อยู่ในไทย 2 ชม.ผู้ป่วยไม่มีอาการ มีผู้สัมผัส 12 คน (ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงสูง) แต่ยังสังเกตอาการต่อเนื่อง 7 วันแล้วยังไม่พบใครป่วย ส่วน 3 พี่น้องชาย (นักท่องเที่ยวชาวไอร์แลนด์) ที่ภูเก็ต พบมีตุ่มน้ำชัดขึ้นตามตัว ตรวจยืนยันเป็นเชื้อเริม จากการคลุกคลีกันเอง
“ย้ำโรคฝีดาษวานรไม่ใช่โรคติดต่ออันตราย เหมือนโรคซาร์ส โรคเมอร์ส และโรคโควิด 19 แต่เป็นเพียงโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง คล้ายกับโรคไข้เลือดออก อีสุกอีใส มาลาเรีย อหิวาตกโรค ฉะนั้นจะไม่เริ่มต้นกักตัวเลย จนกว่าจะเข้าเกณฑ์ผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม ไทยไม่ได้ประมาทเรื่องนี้ เพราะยังมีความเสี่ยงนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวังอย่างเป็นระบบแล้ว”
เน้นดูแลเข้ม 3 ส่วน
1. ผู้เดินทางบินตรงมาจากจากประเทศที่มีระบาดในประเทศ ทั้งแอฟริกาแคนนานา สเปน โปรตุเกต และอังกฤษ ระวังทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยแจก QR ให้ดูอาการ หากมีอาการเข้าข่ายสงสัย (มีไข้ ร่วมกับอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ มีผื่น คู่กับมีประวัติเชื่อมโยง คือเดินทางจากประเทศที่มีการระบาดในประเทศภายใน 21 วัน หรือสัมผัสใกล้ชิดสัตว์จากแอฟริกา ให้รายงานเข้า Thailand Pass
2. ให้โรงพยาบาล รวมถึงคลินิกเฉพาะทางด้านโรคผิวหนัง และคลินิกโรคทางเพศสมัพันธ์ เฝ้าระวังผู้ป่วยที่มาด้วยอาการเข้าข่ายสงสัย วินิจฉัยแยกโรคและรายงานข้อมูลมาที่ส่วนกลาง และกรมควบคุมโรคจะส่งทีมสอบสวนโรคภายใน 24 ชม. ขณะนี้ได้เตรียมทีมสอบสวนโรคไว้ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ
3. ผู้ที่ดูแลการนำเข้าสัตว์ป่าจากแอฟริกา ต้องมีการเก็บตัวอย่างส่งทางห้องปฏิบัติการเพื่อเฝ้าระวังโรคด้วย ส่วนผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศขอให้ติดตามข่าวสารประเทศนั้นๆ เลี่ยงการไปรวมตัวทำกิจกรรมกับคนหมู่มาก และป้องกันตัวเองด้วยมาตรการ UP อย่างเคร่งครัด
สถานการณ์ทั่วโลกข้อมูล ณ 29 พ.ค.2565 พบรายงานผู้ป่วยยืนยัน 406 ราย ผู้ป่วยสงสัย 88 ราย รวมเป็น 494 ราย ใน 32 ประเทศ ส่วนใหญ่ยังเป็นการนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศ หลายประเทศตอนนี้เริ่มพบผู้ป่วยมากขึ้น อย่างในเอเชียที่พบผู้ป่วยมากขึ้น เช่น อิหร่าน และปากีสถาน
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid02xfRU8H1NKgcdnNVv3uR5yER2exFWPA46f8aMpuZZqvi5BquZCvR2BZRtvTKexD6Zl
กรมควบคุมโรคยืนยัน ไทยยังไม่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร พบเพียง นทท.ต่างชาติแวะต่อเครื่อง - 3 นนท.ที่ภูเก็ตเป็นแค่เริม ย้ำเฝ้าระวังความเสี่ยง ไม่ประมาท พบผู้ป่วยรวม 494 ราย ใน 32 ประเทศ
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวถึงโรคฝีดาษวานร ว่า ไทยยังไม่พบผู้ป่วยยืนยันโรคนี้ แม้จะมีรายงานผู้เดินทางมาพักต่อเครื่องที่ไทย 2 ชม.แล้วไปออสเตรเลีย ก่อนพบยืนยันป่วยโรคฝีดาษวานร อยู่ในไทย 2 ชม.ผู้ป่วยไม่มีอาการ มีผู้สัมผัส 12 คน (ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงสูง) แต่ยังสังเกตอาการต่อเนื่อง 7 วันแล้วยังไม่พบใครป่วย ส่วน 3 พี่น้องชาย (นักท่องเที่ยวชาวไอร์แลนด์) ที่ภูเก็ต พบมีตุ่มน้ำชัดขึ้นตามตัว ตรวจยืนยันเป็นเชื้อเริม จากการคลุกคลีกันเอง
“ย้ำโรคฝีดาษวานรไม่ใช่โรคติดต่ออันตราย เหมือนโรคซาร์ส โรคเมอร์ส และโรคโควิด 19 แต่เป็นเพียงโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง คล้ายกับโรคไข้เลือดออก อีสุกอีใส มาลาเรีย อหิวาตกโรค ฉะนั้นจะไม่เริ่มต้นกักตัวเลย จนกว่าจะเข้าเกณฑ์ผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม ไทยไม่ได้ประมาทเรื่องนี้ เพราะยังมีความเสี่ยงนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวังอย่างเป็นระบบแล้ว”
เน้นดูแลเข้ม 3 ส่วน
1. ผู้เดินทางบินตรงมาจากจากประเทศที่มีระบาดในประเทศ ทั้งแอฟริกาแคนนานา สเปน โปรตุเกต และอังกฤษ ระวังทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยแจก QR ให้ดูอาการ หากมีอาการเข้าข่ายสงสัย (มีไข้ ร่วมกับอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ มีผื่น คู่กับมีประวัติเชื่อมโยง คือเดินทางจากประเทศที่มีการระบาดในประเทศภายใน 21 วัน หรือสัมผัสใกล้ชิดสัตว์จากแอฟริกา ให้รายงานเข้า Thailand Pass
2. ให้โรงพยาบาล รวมถึงคลินิกเฉพาะทางด้านโรคผิวหนัง และคลินิกโรคทางเพศสมัพันธ์ เฝ้าระวังผู้ป่วยที่มาด้วยอาการเข้าข่ายสงสัย วินิจฉัยแยกโรคและรายงานข้อมูลมาที่ส่วนกลาง และกรมควบคุมโรคจะส่งทีมสอบสวนโรคภายใน 24 ชม. ขณะนี้ได้เตรียมทีมสอบสวนโรคไว้ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ
3. ผู้ที่ดูแลการนำเข้าสัตว์ป่าจากแอฟริกา ต้องมีการเก็บตัวอย่างส่งทางห้องปฏิบัติการเพื่อเฝ้าระวังโรคด้วย ส่วนผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศขอให้ติดตามข่าวสารประเทศนั้นๆ เลี่ยงการไปรวมตัวทำกิจกรรมกับคนหมู่มาก และป้องกันตัวเองด้วยมาตรการ UP อย่างเคร่งครัด
สถานการณ์ทั่วโลกข้อมูล ณ 29 พ.ค.2565 พบรายงานผู้ป่วยยืนยัน 406 ราย ผู้ป่วยสงสัย 88 ราย รวมเป็น 494 ราย ใน 32 ประเทศ ส่วนใหญ่ยังเป็นการนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศ หลายประเทศตอนนี้เริ่มพบผู้ป่วยมากขึ้น อย่างในเอเชียที่พบผู้ป่วยมากขึ้น เช่น อิหร่าน และปากีสถาน
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid02xfRU8H1NKgcdnNVv3uR5yER2exFWPA46f8aMpuZZqvi5BquZCvR2BZRtvTKexD6Zl
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭มาลาริน💛30พ.ค.ไม่ติดTop10โลก/ป่วย3,854คน หาย6,031คน ตาย26คน รักษาอยู่42,534คน/เจอฝีดาษลิงพักเครื่องที่ไทย/ยังสวมแมส
https://www.sanook.com/news/8568942/
https://www.bangkokbiznews.com/news/1007138
สธ.พบผู้ป่วย‘ฝีดาษลิง’ 1 ราย พักเครื่องที่ไทยไปออสเตรเลีย
วันจันทร์ ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 14.27 น.
สธ.พบผู้ป่วย‘ฝีดาษลิง’ 1 ราย พักเครื่องที่ไทยไปออสเตรเลีย
30 พฤษภาคม 2565 นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวถึงการเฝ้าระวังโรคฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิง ว่า จากการตรวจสอบที่สนามบิน เราพบว่ามีชาวต่างชาติ 1 รายที่บินมาจากประเทศทางยุโรป โดยเดินทางเข้ามา และแวะพักเครื่องระหว่างทางในประเทศไทย หรือทรานซิท เพื่อต่อไปยังประเทศออสเตรเลีย โดยทรานซิทประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งยังไม่มีอาการ แต่ไปพบอาการที่ประเทศออสเตรเลีย ดังนั้นรายนี้ในส่วนของผู้สัมผัสใกล้ชิดยังไม่สัมผัสเสี่ยงสูง แต่มีการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ที่เป็นผู้โดยสารเครื่องบินและลูกเรือรวม 12 คน ซึ่งติดตามแล้ว 7 วันยังไม่มีอาการ โดยต้องติดตามต่อไปให้ครบ 21 วัน
เมื่อถามถึงการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดในผู้ป่วยที่มาทรานซิทในประเทศไทย นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้ไม่มีอาการ และมาทรานซิทในไทยไม่นาน ระหว่างนั้นไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับใคร มีการสวมหน้ากากอนามัยตลอด ดังนั้นผู้สัมผัสใกล้ชิดจะไม่ใช่กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง ตอนนี้ไม่มีอาการใดๆ อย่างไรก็ตามโรคนี้เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง สามารถไปทำงานได้ตามปกติ หากมีอาการให้รีบแจ้ง แต่หากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงต้องแยกกัก 21 วันที่บ้าน
“การติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดอยู่บนเครื่องบิน เนื่องจากผู้ป่วยที่เดินทางไปออสเตรเลียอีกหลายวันจึงพบเชื้อ ยังดีที่ผู้ป่วยนั่งในชั้น Business class นั่งห่างกันพอสมควร การติดเชื้อไม่ง่าย ต้องใกล้ชิดจริงๆ ถ้าอยู่ห่างๆ เพราะเชื้อไม่ได้ลอยไปเอง อย่างเหตุการณ์ในยุโรป จะมีการใกล้ชิด กอดจูบ ดังนั้นโรคนี้ไม่ได้ติดต่อง่าย ต้องสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยในระยะที่ป่วยด้วย” นพ.จักรรัฐ กล่าว
อำนวยการกองระบาดวิทยา กล่าวว่า ขณะที่มีการรายงานข้อมูลผู้ป่วยเข้าข่ายอาการ 5 ราย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไอซ์แลนด์ 3 ราย ที่เป็นพี่น้อง โดยเดินทางเข้าไทยเพื่อมาเรียนมวยไทยที่ จ.ภูเก็ต และพบว่าทั้ง 3 คน มีอาการเข้าข่ายเป็นโรคฝีดาษลิง มีตุ่มนูนใส ตามลำตัว แต่เมื่อนำไปตรวจด้วยวิธี RT-PCR จาก 2 ห้องปฏิบัติการ คือ ของกรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ และศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิกโรงพยาบาลจุฬาฯ พบผลยืนยันว่าเป็นโรคเริมเท่านั้น
เมื่อถามว่าเชื้อฝีดาษวานรจะอยู่บนสิ่งของนานแค่ไหน นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ยังต้องติดตามข้อมูลต่อ
เมื่อถามถึงมีนักวิชาการะบุว่าเชื้อนี้แพร่เร็ว 10 เท่า นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ต้องติดตามข้อมูลเช่นกัน เพราะยังไม่ได้รับการยืนยันจากองค์การอนามัยโลก
นพ.จักรรัฐ กล่าวย้ำว่า สำหรับคนที่ไปร่วมงานเฟสติวัลในต่างประเทศ หรือร่วมกิจกรรมที่มีความเสี่ยง หากมีอาการและมาพบแพทย์ขอให้แจ้งแพทย์ด้วยว่า มีประวัติร่วมกิจกรรม อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนไทยที่เดินทางกลับมานั้น หากเราไม่ได้ร่วมกิจกรรมเสี่ยง และยังปฏิบัติตัวตามมาตรการส่วนบุคคล ทั้งสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะป้องกันโควิด และฝีดาษวานร และโรคอื่นๆได้ ซึ่งคนไทยที่จะเดินไปต่างประเทศก็เช่นกัน ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล ไม่ร่วมกิจกรรมเสี่ยงก็จะป้องกันได้
“สำหรับคุณหมอที่อายุน้อยกว่า 60 ปี อาจไม่เคยเห็นลักษณะฝีดาษ จึงขอให้ตั้งคำถามสงสัยว่า เป็นฝีดาษลิง ก่อนโดยพิจารณาจากประวัติเสี่ยง ซึ่งผู้ที่เข้ามาในบริการในรพ.ทุกท่านหากมีประวัติร่วมกิจกรรมเสี่ยง ขอให้แจ้ง ไม่ต้องกังวลโรคนี้ ส่วนใหญ่หายเอง จะได้รับการรักษาและจะลดการแพร่ระบาดไปสู่คนอื่นได้” นพ.จักรรัฐ กล่าว
https://www.naewna.com/local/656941
นายกฯ ย้ำรัฐบาลยังไม่มีนโยบายให้ถอดหน้ากากอนามัย สั่ง สธ.ติดตามฝีดาษลิง
30 พฤษภาคม 2565 เวลา 16:04 น.
30 พ.ค.2565 - นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีคำปรารภในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ขอให้แจ้งเตือนไปยังประชาชน ให้เห็นถึงความสำคัญของการสวมหน้ากากอนามัยที่ยังเป็นพฤติกรรมที่ยังสำคัญและจำเป็นอยู่ ขณะนี้รัฐบาลไม่มีนโยบายให้ถอดหน้ากาก พร้อมกำชับให้กระทรวงสาธารณสุขขอให้ติดตามการแพร่ระบาดของฝีดาษลิง และเตือนให้ประชาชนทราบถึงวิธีการป้องกัน แนวทางการรักษา ทั้งนี้ล่าสุดยังไม่พบการระบาดในประเทศไทย
https://www.thaipost.net/general-news/151643/
...ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ
สถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยรักษาอยู่ลดลงๆ
แต่ยังให้สวมแมสกันไว้ก่อนนะคะ
ผู้ติดเชื้อฝีดาษวานรเฉียดเข้ามาในไทย แต่ยังไม่มีใครได้รับเชื้อ โล่งใจไปค่ะ