เช็กอาการแบบไหน เข้าข่ายป่วย “โรคฝีดาษลิง” ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยรักษาตั้งแต่ต้น
สถานการณ์โรคฝีดาษลิงที่กำลังแพร่ระบาดและพบผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นมากในทวีปแอฟริกาอย่างใกล้ชิด ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้โรคฝีดาษลิง เป็นภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขที่มีผลกระทบระหว่างประเทศ
กรมควบคุมโรค ได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศแถบแอฟริกา ควรต้องติดตามว่าประเทศเหล่านั้นมีการระบาดหรือไม่ และควรระมัดระวังการสัมผัสใกล้ชิด หมั่นสังเกตอาการตนเอง
ถ้ามีอาการไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง หรือเริ่มสังเกตเห็นมีผื่นขึ้นตามร่างกายเป็นตุ่มน้ำใสหรือตุ่มหนอง ควรไปพบแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยรักษาตั้งแต่ต้น
กรมควบคุมโรค มีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์โรคฝีดาษลิง รวมถึงโรคอุบัติใหม่ อุบัติซ้ำอื่นๆ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ๆ อาจมีโอกาสพบผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่มีอาการสงสัยหรือแพร่โรคได้ จึงขอเน้นย้ำการป้องกันโรคฝีดาษลิง ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด หรือคนพลุกพล่าน หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด และทำความสะอาดบริเวณพื้นผิวจุดสัมผัสร่วมสม่ำเสมอ
2. หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
3. หากผู้ที่มีอาการสงสัย สามารถขอเข้ารับการตรวจหาเชื้อได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่ง หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อสายด่วน 1422 กรมควบคุมโรค
ภาพจาก AFP
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่
https://www.tnnthailand.com/news/social/174013/
https://www.tnnthailand.com/news/social/173952/
อาการแบบไหน เข้าข่ายป่วย “โรคฝีดาษลิง” ควรรีบไปพบแพทย์
กรมควบคุมโรค ได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศแถบแอฟริกา ควรต้องติดตามว่าประเทศเหล่านั้นมีการระบาดหรือไม่ และควรระมัดระวังการสัมผัสใกล้ชิด หมั่นสังเกตอาการตนเอง
ถ้ามีอาการไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง หรือเริ่มสังเกตเห็นมีผื่นขึ้นตามร่างกายเป็นตุ่มน้ำใสหรือตุ่มหนอง ควรไปพบแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยรักษาตั้งแต่ต้น
กรมควบคุมโรค มีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์โรคฝีดาษลิง รวมถึงโรคอุบัติใหม่ อุบัติซ้ำอื่นๆ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ๆ อาจมีโอกาสพบผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่มีอาการสงสัยหรือแพร่โรคได้ จึงขอเน้นย้ำการป้องกันโรคฝีดาษลิง ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด หรือคนพลุกพล่าน หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด และทำความสะอาดบริเวณพื้นผิวจุดสัมผัสร่วมสม่ำเสมอ
2. หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
3. หากผู้ที่มีอาการสงสัย สามารถขอเข้ารับการตรวจหาเชื้อได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่ง หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อสายด่วน 1422 กรมควบคุมโรค
ภาพจาก AFP
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ https://www.tnnthailand.com/news/social/174013/
https://www.tnnthailand.com/news/social/173952/