JJNY : อ.จุฬาฯเปิดกม.เตือนร้องเรียนเท็จ│ม็อบประชิดทำเนียบ│"กอบศักดิ์"เตือน!รับมือ"Perfect Storm"│'สุทิน'เผย พบทุจริตชัด

อ.จุฬาฯ เปิดข้อกม.เตือน ร้องเรียนเท็จ ขวางประกาศผลเลือกตั้ง ปรับดุ-โทษหนัก คุก5-10ปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_3372894
 
 
อ.จุฬาฯ เปิดข้อกม.เตือน ร้องเรียนเท็จ ขวางประกาศผลเลือกตั้ง โทษหนัก-ปรับดุ คุก5-10ปี
 
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. รศ. สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขียนข้อความแสดงความเห็นถึงข้อกฎหมาย พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น เตือนว่า
 
“คนร้องเรียนว่าการเลือกตั้งไม่สุจริต เที่ยงธรรม หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ต้องรับผิดชอบข้อฟ้องร้องของตนเองด้วย กฎหมายไม่ได้ปล่อยให้ร้องได้เรื่อยเปื่อย หากพบว่าเป็นการกลั่นแกล้ง เพื่อไม่ให้มีการประกาศผลเลือกต้ัง มีโทษจำคุก 5-10 ปี ปรับ 1-2 แสน และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น 20 ปี (มาตรา 118 วรรค 2 พรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562)” รศ.สิริพรรณ ระบุ
 
ด้าน ไกรภพ จันทร์ดี หรือ กบ ไมโคร มือกีตาร์ชื่อดังของไทย สมาชิกของวงไมโคร เข้าไปแสดงความเห็นขอบคุณ รศ.สิริพรรณ ระบุว่า
 
“บนโลกนี้ไม่มีเครื่องชั่งตวงวัดใดที่ไม่สามารถพิสูจน์ความเที่ยงตรงได้ ปฐมเหตุที่แท้จริงเกิดจากเราไม่สามารถตรวจสอบความเที่ยงตรงในระบบตรวจสอบได้ ยิ่งถ้าผู้มีอำนาจใช้การอุปถัมภ์จัดวางคนเข้าสู่องค์กรเหล่านี้ได้ เราก็จะได้เห็นกรณี ”คนของใครตรวจสอบใคร” เกิดขึ้นเสมอๆ และได้แต่หวังว่าการตรวจสอบแต่ละครั้ง กลุ่มอุปถัมภ์นิยมจะไม่แผลงฤทธิ์ กลับผิดเป็นถูก กลับถูกเป็นผิด ให้เห็น (ซึ่งก็เห็นอยู่บ่อยๆ)”
 
กบ ไมโคร ระบุอีกว่า “กรณีของนักร้องคนนี้ เป็นเรื่องพายเรือวนในอ่าง เราได้แต่หาทางแก้ปัญหาทีละเปลาะไปตามแต่เหตุการที่เกิด สิ่งสำคัญคือ เมื่อไรสังคมถึงจะจับแกนหลักปัญหา”ระบบอุปถัมภ์ในองค์กรตรวจสอบ”และรวมพลังจัดการแก้ไขมันได้ มีเฟืองตัวเดียวเท่านั้นที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ได้ “อำนาจการตรวจสอบระบบตรวจสอบต้องอยู่ที่ประชาชน” มีแต่อำนาจประชาชนเท่านั้นที่จะพิสูจน์ได้ว่า เครื่องชั่งตวงวัดนั้นๆโกงมาตรวัดหรือไม่ และมีแต่ประชาชนเท่านั้นที่ผู้มีอำนาจไม่สามารถเอื้อเฟื้ออุปถัมภ์ได้พร้อมกันหมดทุกคน เครื่องชั่งตวงวัดที่เที่ยงตรง ต้องตรวจสอบได้ทุกคนทุกฝ่ายจริง ไม่ใช่เครื่องมือที่ฝ่ายใดฝ่ายนึงสามารถใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง ขอบคุณครับอาจารย์”
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กม.เลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา 118 ระบุว่า  ผู้ใดกระทำการอันเป็นเท็จ เพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท และ ให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดห้าปี
  
https://www.facebook.com/siripan.nogsuansawasdee/posts/7927832097234707 
   

 
ม็อบต้านพรบ.รวมกลุ่ม ประชิดทำเนียบ จี้ครม.ขอคำตอบถอนร่างวันนี้ ตร.ตรึงกำลังเข้ม
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7084309

ม็อบต้านพรบ.รวมกลุ่ม ประชิดทำเนียบ จี้ครม.ขอคำตอบถอนร่างวันนี้ ตร.ตรึงกำลังเข้ม วางแนวรั้วลวดหนาม ตู้คอนเทนเนอร์ เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ
 
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 30 พ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่แยกพณิชยการ สะพานชมัยมรุเชฐ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่ม ได้เข้าเจรจากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ประสาน ทางครม.ให้ส่งรัฐมนตรี ที่เป็นตัวแทนครม.ออกมาพูดคุย กับทางกลุ่มผู้ชุมนุม โดยทางผู้ชุมนุมขอให้ตำรวจที่มาเจรจาเข้าไปประสานทางครม. และขอคำตอบภายใน 10 นาที

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เดินเข้าไปประสานด้านในตามที่ได้มีการเจรจา โดยบรรยากาศการชุมนุม ทางแกนนำได้ให้เจ้าหน้าที่การ์ด ช่วยกันกางผ้าใบขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันแดด ให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม ได้เข้ามารวมกันอยู่ภายในเต็นท์

ต่อมา เวลา 10.50 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาแจ้งกับทางแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า การประชุมมี 2 ช่วง หากช่วงแรกทางครม.ได้นำเรื่องนี้เข้าไปชุมแล้วหากเสร็จสิ้นทางรมต.จะออกมาพูดคุยกับผู้ชุมนุม แต่หากการประชุมช่วงแรกยังไม่เสร็จสิ้น ทางเจ้าหน้าที่จะออกมาแจ้งว่าเรื่องดังกล่าวจะเข้าประชุมในช่วงที่สอง ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุม รอฟังผลจากเจ้าหน้าที่จะออกมาแจ้งอีกครับ โดยคาดว่าช่วงแรกจะเบรกในเวลา 11.30 น.

โดยทางแกนนำได้ขึ้น ปราศรัยบนรถกระจายเสียง ให้มวลชนประชิดแนวแผงเหล็กลวดหนาม และแนวตู้คอนเทนเนอร์ ที่เจ้าหน้าที่นำมาตั้งกีดขวางบนเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ พร้อมเรียกร้องให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตู้คอนเทนเนอร์ แผงเหล็กรั้วและลวดหนามหีบเพลงออกจากพื้นที่



"กอบศักดิ์"เตือน!รับมือ"Perfect Storm" มรสุมเศรษฐกิจลูกใหม่รอบ 80 ปี
https://www.thansettakij.com/money_market/526855

"กอบศักดิ์ ภูตระกูล" เตือนรับมือมรสุมเศรษฐกิจลูกใหม่ ( Perfect Storm) จากปัญหาที่ก่อตัวพร้อมกันใน 3 ทวีป คือ ยุโรป-อเมริกา- เอเซีย นำไปสู่วิกฤติครั้งสำคัญ ราคาพลังงาน- วิกฤติอาหารโลก- ตลาดเงินโลกผันผวน และเศรษฐกิจถดถอย

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่และเลขานุการ  ธนาคารกรุงเทพ  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Kobsak Pootrakool" เตือนรับมือ มรสุมเศรษฐกิจลูกใหม่ ความท้าทายของเศรษฐกิจหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือในรอบ 80 ปี  โดยระบุว่า
 
Perfect Storm !!! คำที่ไม่อยากพูดถึง 
 
แต่จากสิ่งต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น คงยากที่จะหลีกเลี่ยง และเราคงต้องยอมรับความจริง เพื่อจะได้เตรียมการรับมืออย่างเหมาะสม 
 
ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว MD หรือ กรรมการผู้จัดการของ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ได้ออกมาพูดที่ World Economic Forum ว่า โลกกำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจที่ท้าทายที่สุด นับแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
ถ้านับไปถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็คือ ท้าทายสุดในรอบ 80 ปี !!!
 
สอดรับกับผู้นำขององค์กรระดับโลกต่างๆ เช่น UNCTAD องค์การการค้าโลก สถาบันการเงิน นักวิชาการชั้นนำของโลก ที่ออกมาเตือนเป็นเสียงเดียวกันว่า 
 
มรสุมเศรษฐกิจกำลังก่อตัว  Perfect Storm กำลังมา เรากำลังเข้าสู่ช่วงใหม่ของเศรษฐกิจ ที่ไม่ง่าย
 
มรสุมลูกนี้ เริ่มจาก 3 ทวีป
  
(1) ทวีปยุโรป สงครามรัสเซีย-ยูเครนได้นำไปสู่
  
• วิกฤตการเผชิญหน้าระหว่างมหาอำนาจ (Geopolitical Crisis) ที่อะไรก็เกิดได้ ถ้ายังไม่ยอมหยุดกัน ซึ่งปัญหานี้กำลังยกระดับขึ้นเป็นการแบ่งขั้วทางการเมือง ตลอดจนการแยกส่วนของระบบเศรษฐกิจโลก ที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
 
• วิกฤตราคาพลังงาน ที่ราคาน้ำมันโลกในปัจจุบันอยู่ที่ 110-120 ดอลลาร์/บาเรล กดดันให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อสูงในประเทศต่างๆ อย่างในไทย เราเริ่มเห็นราคาน้ำมันที่ 50 บาท/ลิตรแล้ว
 
• วิกฤตอาหารโลก ที่กระทบคนนับเป็นร้อยล้านคน และอาจนำไปสู่การประท้วง รวมถึงวิกฤตเชิงสังคมและการเมืองในประเทศต่างๆ 
 
(2) ทวีปอเมริกา จากความผิดพลาดของเฟด ในการประเมินผลกระทบจากโควิด ทำให้เฟดมือหนัก ใส่ยากระตุ้นเศรษฐกิจเข้าไปมากกว่าควร ทั้งในเรื่องดอกเบี้ยและในเรื่องสภาพคล่อง ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว จึงมีปัญหาในการควบคุมเงินเฟ้อ จนต้องมาวิ่งไล่ปัญหาอยู่ในขณะนี้ นำไปสู่
 
• วิกฤตความผันผวนในตลาดการเงินโลก ที่หลายเดือนที่ผ่านมา ราคาสินทรัพย์ต่างๆ ผันผวนแปรปรวน เหวี่ยงไปมา ทั้งในส่วนของ ราคาหลักทรัพย์ พันธบัตร คริปโต ค่าเงิน ทำให้ฟองสบู่ที่พองขึ้นมากในช่วงโควิด ยุบตัวลงมา สร้างความเสียหายให้กับทุกคน อย่างกว้างขวาง
 
• โอกาสที่จะเกิด Recession ในสหรัฐและประเทศต่างๆ ที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ จากดอกเบี้ยของเฟดที่จะต้องขึ้นไป จนสูงพอที่จะปราบเงินเฟ้อให้อยู่หมัด และยิ่งวิกฤตในยุโรปไม่ยอมจบ หรือลุกลาม ปัญหาเงินเฟ้อก็จะยิ่งยืดเยื้อ และทำให้เฟดต้องใช้ยาแรงยิ่งขึ้น 
 
• โอกาสการเกิด Emerging Market Crisis ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ที่ในขณะนี้ เราเริ่มเห็นประเทศเล็กๆ ซึ่งอ่อนแอ เช่น ศรีลังกา ปากีสถาน กำลังเผชิญกับวิกฤต และปัญหานี้กำลังลุกลามไปทดสอบประเทศอื่นๆ เช่น เนปาล จากการที่นักลงทุนพยายามหาว่า "ใครจะเป็นรายต่อไป" โดยทั้งหมดเกิดขึ้นทั้งๆ ที่ เฟดเพิ่งจะเริ่มการขึ้นดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้ง และยังไม่ได้ดึงสภาพคล่องกลับ    
 
(3) ทวีปเอเชีย จากจีนที่มีปัญหาความเปราะบางจากฟองสบู่ของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่สะสมตัวมาเป็นเวลาหลายสิบปี และเริ่มประสบปัญหาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เริ่มต้นจาก Evergrande และลุกลามไปบริษัทอื่นๆ ทำให้จีนต้องเข้าสู่โหมด Clean up ที่จะต้องใช้เวลา 1-2 ปี ในการจัดการให้ทุกอย่างเข้าที 
 
• ปัญหานี้ทำให้เศรษฐกิจจีน ซึ่งปกติจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญเศรษฐกิจโลก ชะลอตัวลงมาก (กระทบต่อการขยายตัวของโลก ของสหรัฐ และของทุกคน ในช่วงที่ทุกคนอ่อนแอ) ทั้งยังมีโอกาสที่จะลุกลามบานปลาย กลายเป็นวิกฤตเต็มรูปแบบในจีนได้ หากจัดการไม่ดี
 
• พร้อมกันนั้น การต่อสู้กับโควิดของจีน โดยใช้นโยบายที่เข้มงวด ทยอยปิดเมืองสำคัญต่างๆ เพื่อให้บรรลุถึงนโยบาย Zero-Covid กำลังกระทบต่อการนำเข้า การส่งออก และห่วงโซ่การผลิตของโลก อย่างมีนัยยะสำคัญ
 
ปัญหาในสามทวีปนี้ กำลังซ้ำเสริมซึ่งกันและกัน เหมือนกับพายุไต้ฝุ่น/พายุเฮอริเคน 3 ลูกที่กำลังผสานกันเป็นเนื้อเดียว นำไปสู่ Perfect Storm ที่อยู่ข้างหน้าเราในขณะนี้ 
 
ส่วนควรเตรียมการรับมือกับมรสุมเศรษฐกิจลูกใหม่นี้อย่างไร ทำอย่างไรจะผ่าน Perfect Storm ลูกนี้ไปได้  มีโอกาสในวิกฤตอยู่ที่ตรงไหน มาตามกันต่อในตอนต่อไป .

https://www.facebook.com/kobsak/posts/10223697700084243
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่