จากคำถามนี้ชวนให้ทุกคนสงสัยว่า ที่ผ่านๆ มาทำใมคนเราเจอสิ่งต่างๆ ที่เป็นเรื่องราว ที่หาคำอธิบายไม่ได้ว่า ทำใมมีแค่เราที่ไม่เคยเจอ
บางท่าน อาจค้นหาทั้งชีวืตก็ยังไม่เจอ แต่เฉพาะกลุ่มคน ที่เจอ เช่น ผี วิญญาณ เทวดา การเกิดใหม่ สิ่งเหล่านี้ มีจริงหรือ?
ผมได้แต่คิดว่า สิ่งที่ทุกคนเจอนั้น เป็นเรื่องราวบอกเล่า และความเป็นไป ที่แตกต่างกัน แต่คล้ายๆ กัน เช่น บางคนเห็นผี ตอนกลางคืน
บางคนเห็นผีตอนกลางวัน บางคนบอกเห็นตลอดเวลา บางคนสามารถ สื่อสารได้ บางคน ก็เห็นแค่ครั้งเดียวเห็นมากเห็นน้อยแตกต่างกันไป
ข้อสงสัย คือ ทำใมการรับรู้ ถึงถูกจำกัดเฉพาะบางกลุ่ม การที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วเราตายไปยังต้องเป็นผีจริงหรือ
เป็นไปได้ใหมที่อาการทาง การรับรู้ ในสมองคนเรานั้น ถูกฝังให้รู้สึกถึงเรื่องราวคล้ายความฝันที่เป็นจริง เช่นละเมอเดิน ออกไปข้างนอก
เป็นไปได้ใหมที่การรับรู้ สิ่งแปลกๆ เป็นอาการทางสมองอย่างหนึ่ง ที่ถูกควบคุม จากจิตใต้สำนึก เช่น เมื่อคุณเริ่มมีความกลัว คุณจะเห็นภาพหลอน
ผีส่วนมาก จะเบลอๆ ในความรู้สึกของคน ที่บอกเล่ากันมา แล้วการรับรู้แบบกลุ่มหล่ะ จะคิดได้อย่างไร การรับรู้ ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกัน
การกระตุ้นของใคร คนนึงนำไปสู่การรับรู้เหมือนกัน เช่น นายAเห็นต้นกล้วย บอกนายB นายB ก็รับรู้ได้ แต่นั้นไม่ได้หมายความว่านายBจะสนใจ
แต่นั้นอาจเป็น อะไรก็ได้ เช่น รถ ต้นไม้ เสาไฟฟ้า แต่การที่ นายA คิดว่ามันคือต้นกล้วย แล้วแสดงอาการ จริงจังจนคนในกลุ่ม เริ่มคิดว่าใช่
คนเหล่านั้นก็จะคิดเหมือนๆ กัน เกิดจากการเข้าใจ ของคนๆ เดียว ที่ชี้นำได้ เช่นกัน เมื่อ คุณลองมาย้อนคิดว่า สิ่งเหล่านั้นที่เจอมา
คุณอาจจะเชื่ออย่างสนิทใจ แต่เมื่อพยายาม ค้นหา ก็อาจจะไม่เจออีก หรือเจอแต่ไม่เหมือนเดิม การหาคำตอบ บางที่ก็ยากจะอธิบาย
แต่ความเชื่อนั้น ถูกปลูกจิตใต้สำนึก เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณเข้าใจและ เชื่อตามความรู้สึกได้
คำตอบ แบบจริงจังความคิดส่วนตัว
1.คนเราไม่มีทางเห็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
2.คนเราเกิดและตายแค่ครั้งเดียว
3.หากเป็นชาวพุทธจะไม่เชื่อเรื่องงมงาย
4.การหลุดพ้นที่แท้จริงคือหลุดพ้นจากสิ่งงมงาย
5.การใช้ชีวิตแบบมนุษย์ที่แบ่งปันน้ำใจคือหนทางจริง
6.พระพุทธเจ้าของชาวพุทธมีอยู่จริง แต่ พระพุทธเจ้านั้นถูกแต่งเติม
อธิบาย ข้อ6 พระพุทธเจ้านั้นเกิดในประเทศอินเดีย ที่มี ศาสนา มากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
หรือ มีเทพ มากกว่าทุกๆ ประเทศมัดรวมกัน เพราะทุกๆ ปีจะมีเทพใหม่ๆ เกิดขึ้น
ศาสนาพุทธ นั้นเปรียบ ได้ดั่งศาสนา ของวิทยาศาสตร์ ก่อตั้งมาเพื่อสอนคนให้ เลิกงมงาย
ถูกดัดแปลงจาก พวกคลั่งเทพเจ้าในยุคก่อนๆ เพราะขัดผลประโยชน์ ด้านศาสนา เพื่อทำมาหากินบนความเชื่อของคน
พระพุทธเจ้า หรือ สิทธัตถะ มีตัวตน ในบันทึกการเดินทางและ วัตถุ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์
เป็นผู้มีความรู้ และ ต้องการ ที่จะ เผยแพร่ ศาสนาของตน เพื่อ ลบล้าง ศาสนา ในอินเดีย ที่หลอกผู้คน จึงก่อตั้ง ศาสนาพุทธขึ้นมา
หลายคนยกย่องเป็นผู้วิเศษ จริงๆ แล้วเป็นคนธรรมดา แต่เกิดในตะกูลสูง ได้รับการยกย่องและเป็นมหาบุรุษมากความสามารถ
เรื่องลี้ลับทำใมถึงเกิดเฉพาะบางคน(มีจริงหรือไม่)
บางท่าน อาจค้นหาทั้งชีวืตก็ยังไม่เจอ แต่เฉพาะกลุ่มคน ที่เจอ เช่น ผี วิญญาณ เทวดา การเกิดใหม่ สิ่งเหล่านี้ มีจริงหรือ?
ผมได้แต่คิดว่า สิ่งที่ทุกคนเจอนั้น เป็นเรื่องราวบอกเล่า และความเป็นไป ที่แตกต่างกัน แต่คล้ายๆ กัน เช่น บางคนเห็นผี ตอนกลางคืน
บางคนเห็นผีตอนกลางวัน บางคนบอกเห็นตลอดเวลา บางคนสามารถ สื่อสารได้ บางคน ก็เห็นแค่ครั้งเดียวเห็นมากเห็นน้อยแตกต่างกันไป
ข้อสงสัย คือ ทำใมการรับรู้ ถึงถูกจำกัดเฉพาะบางกลุ่ม การที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วเราตายไปยังต้องเป็นผีจริงหรือ
เป็นไปได้ใหมที่อาการทาง การรับรู้ ในสมองคนเรานั้น ถูกฝังให้รู้สึกถึงเรื่องราวคล้ายความฝันที่เป็นจริง เช่นละเมอเดิน ออกไปข้างนอก
เป็นไปได้ใหมที่การรับรู้ สิ่งแปลกๆ เป็นอาการทางสมองอย่างหนึ่ง ที่ถูกควบคุม จากจิตใต้สำนึก เช่น เมื่อคุณเริ่มมีความกลัว คุณจะเห็นภาพหลอน
ผีส่วนมาก จะเบลอๆ ในความรู้สึกของคน ที่บอกเล่ากันมา แล้วการรับรู้แบบกลุ่มหล่ะ จะคิดได้อย่างไร การรับรู้ ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกัน
การกระตุ้นของใคร คนนึงนำไปสู่การรับรู้เหมือนกัน เช่น นายAเห็นต้นกล้วย บอกนายB นายB ก็รับรู้ได้ แต่นั้นไม่ได้หมายความว่านายBจะสนใจ
แต่นั้นอาจเป็น อะไรก็ได้ เช่น รถ ต้นไม้ เสาไฟฟ้า แต่การที่ นายA คิดว่ามันคือต้นกล้วย แล้วแสดงอาการ จริงจังจนคนในกลุ่ม เริ่มคิดว่าใช่
คนเหล่านั้นก็จะคิดเหมือนๆ กัน เกิดจากการเข้าใจ ของคนๆ เดียว ที่ชี้นำได้ เช่นกัน เมื่อ คุณลองมาย้อนคิดว่า สิ่งเหล่านั้นที่เจอมา
คุณอาจจะเชื่ออย่างสนิทใจ แต่เมื่อพยายาม ค้นหา ก็อาจจะไม่เจออีก หรือเจอแต่ไม่เหมือนเดิม การหาคำตอบ บางที่ก็ยากจะอธิบาย
แต่ความเชื่อนั้น ถูกปลูกจิตใต้สำนึก เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณเข้าใจและ เชื่อตามความรู้สึกได้
คำตอบ แบบจริงจังความคิดส่วนตัว
1.คนเราไม่มีทางเห็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
2.คนเราเกิดและตายแค่ครั้งเดียว
3.หากเป็นชาวพุทธจะไม่เชื่อเรื่องงมงาย
4.การหลุดพ้นที่แท้จริงคือหลุดพ้นจากสิ่งงมงาย
5.การใช้ชีวิตแบบมนุษย์ที่แบ่งปันน้ำใจคือหนทางจริง
6.พระพุทธเจ้าของชาวพุทธมีอยู่จริง แต่ พระพุทธเจ้านั้นถูกแต่งเติม
อธิบาย ข้อ6 พระพุทธเจ้านั้นเกิดในประเทศอินเดีย ที่มี ศาสนา มากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
หรือ มีเทพ มากกว่าทุกๆ ประเทศมัดรวมกัน เพราะทุกๆ ปีจะมีเทพใหม่ๆ เกิดขึ้น
ศาสนาพุทธ นั้นเปรียบ ได้ดั่งศาสนา ของวิทยาศาสตร์ ก่อตั้งมาเพื่อสอนคนให้ เลิกงมงาย
ถูกดัดแปลงจาก พวกคลั่งเทพเจ้าในยุคก่อนๆ เพราะขัดผลประโยชน์ ด้านศาสนา เพื่อทำมาหากินบนความเชื่อของคน
พระพุทธเจ้า หรือ สิทธัตถะ มีตัวตน ในบันทึกการเดินทางและ วัตถุ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์
เป็นผู้มีความรู้ และ ต้องการ ที่จะ เผยแพร่ ศาสนาของตน เพื่อ ลบล้าง ศาสนา ในอินเดีย ที่หลอกผู้คน จึงก่อตั้ง ศาสนาพุทธขึ้นมา
หลายคนยกย่องเป็นผู้วิเศษ จริงๆ แล้วเป็นคนธรรมดา แต่เกิดในตะกูลสูง ได้รับการยกย่องและเป็นมหาบุรุษมากความสามารถ