... ปัญหาของการเลือกกระเบื้องผิดจากการที่ไม่รู้จักประเภทกระเบื้องที่เพียงพอ
จึงทำให้เลือกผิด และติดตั้งกระเบื้องคุณสมบัติไม่ตรงกับการใช้งาน เช่น พื้นที่ลื่นจนเกินไป เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ
-
วิธีการที่ดีที่สุดก็คือการเลือกกระเบื้องที่ถูกต้องตั้งแต่แรก ซึ่งคุณจะต้องรู้จักและเข้าใจประเภทของกระเบื้องแบบต่าง ๆ
เราขออนุญาติแบ่งประเภทของสินค้า ตามลักษณะผิวหน้าได้เป็น 12 ประเภท
ไล่ตามผิวเรียบมัน เรียบลื่น ไปยังผิวหยาบ พร้อมทั้งแนะนำการติดตั้ง ดังนี้ค่ะ
-
สำหรับพื้นที่ภายในอาคาร :
ควรดูและประเมินพื้นที่ว่า เสี่ยงต่อการลื่นล้มไหม เช่นห้องครัว หรือบริเวณที่เกี่ยวกับน้ำ ก็ควรเลือกผิวหน้าที่มีลักษณะหยาบนิดนึง
สำหรับพื้นที่ภายนอกอาคาร :
พื้นที่ภายนอกอาคารส่วนใหญ่ มักจะเป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการโดนน้ำ เช่นฝน หรือเป็นพื้นที่ที่ต้องการความทนต่อการขูดขีด เช่น โรงจอดรถ ดังนั้นการพิจารณากระเบื้องผิวหยาบจึงเป็นสิ่งที่เรามักจะแนะนำ
สำหรับพื้นที่ภายในอาคาร
อาทิ ห้องโถงขออาคาร หรือห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องทำงาน หรือห้องนอน
การเลือกกระเบื้องผิวหน้าที่ค่อนข้างเรียบจะให้ความรู้สึกสบายเท้าเวลาเดิน โดยกระเบื้องที่มีผิวเรียบนั้น ได้แบ่งลักษณะผิวหน้าออกเป็นหลายๆแบบ ดังนี้
Polish / Glossy / Semi-polish / Satin / R9
ลักษณะผิวหน้าของกระเบื้อง
- Polish : เป็นกระเบื้องที่มีความมันเงา จากการขัด มีเงาสะท้อน ทำให้ดูหรูหรา
- Glossy : เป็นกระเบื้องที่มีความมันเงาจากการเคลือบ เหมาะสำหรับติดตั้งเป็นผนัง เช่น ผนังของห้องน้ำ
- Semi-Polish : ลักษณะผิวนวล มาจากการเคลือบและการขัด เหมาะกับพื้นที่ที่ไม่ต้องการความเงามากนัก
- Satin : ผิวนวลจากการเคลือบ ลวดลายคล้าย texture ผ้า
- R9 : กระเบื้องผิวด้าน อาทิกระเบื้องลายไม้ขัด หรือลายหินละเอียด
สำหรับพื้นที่ภายนอกอาคาร
โรงจอดรถ , ทางเดินนอกอาคาร, สวนหน้าบ้าน, สระว่ายน้ำ
ส่วนใหญ่พื้นที่ Outdoor หรือพื้นที่ที่มีการโดนน้ำบ่อย ต้องการความปลอดภัย ไม่ลื่นเวลาใช้งาน และมี texture เหมือนธรรมชาติ โดยเจ้าของบ้านสามารถเลือกระดับให้เหมาะกับความต้องการได้เลย ตั้งแต่หยาบน้อย ไปจนถึงผิวสากมากที่เหมาะกับพื้นที่ เช่น บริเวณรอบสระว่ายน้ำ ลานซักผ้า
ลักษณะผิวหน้าที่เราแนะนำแบ่งออกเป็นหลายๆแบบ ดังนี้
Natural / R10 / Matt / R11 / R12 / GRIP
- Natural : กระเบื้องที่มีผิวด้านหยาบเล็กน้อย
- R10 : กระเบื้องผิวหยาบที่มีการออกแบบพื้นผิวให้มีริ้วรอยค่อนข้างลึก กันลื่นได้ดี
- Matt : กระเบื้องผิวหยาบปานกลาง
- R11 : หรือที่เรามักเรียกว่ากระเบื้องกันลื่น (Anti-Slip) จะมีผิวหน้าที่ค่อนข้างหยาบมาก ผิวกันลื่น เหมาะกับห้องน้ำโซนเปียก หรือพื้นที่ที่ต้องระมัดระวังเรื่องกันลื่นเป็นพิเศษ เช่น บริเวณรอบสระว่ายน้ำ
- R12 : กระเบื้องผิวสาก
- GRIP : กระเบื้องที่มีผิวสากมาก
กระเบื้อง Anti-Slip :
มาตรฐานการทดสอบ : กระเบื้อง COTTO ที่ได้กำกับ ระดับค่า R10-R11 ผ่านการทดสอบ COTTO Tiles'R Test is classified by Oil Wet Ramp (R-Test) AS/NZS 4586 : 2004
ค่า R หรือค่า slip resistance rating คือหน่อยวัดแบบมาตรฐาน วัดและทดสอบโดยการปูกระเบื้องในความชันที่ต่างกันและทดสอบความกันลื่นของพื้นผิวดังกล่าวโดยค่า R จะถูกแบ่งออกเป็น 5 ระดับคือ R9-R13 ซึ่งแต่ละค่าจะมีความกันลื่นในองศาที่เหมาะสม ไม่เท่ากัน
- R9 [การกันลื่นต่ำ องศาความชันของพื้นที่ ประมาณ 5 องศา แต่ไม่เกิน 10 องศา ] :
เหมาะสำหรับบริเวณพื้นที่แห้ง หรือพื้นที่ทั่วไปที่ไม่มีความเสี่ยงในการลื่น เช่น ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น
- R10 [การกันลื่นต่ำ องศาความชันของพื้นที่ ประมาณ 10 องศา แต่ไม่เกิน 19 องศา ] :
เหมาะสำหรับบริเวณพื้นกึ่งเปียกกึ่งแห้ง เช่น ห้องน้ำส่วนแห้ง ห้องครัว ที่จอดรถที่มีหลังคาปิด ที่จอดรถในอาคาร และบันได้
- R11 [การกันลื่นต่ำ องศาความชันของพื้นที่ ประมาณ 19 องศา แต่ไม่เกิน 27 องศา ] :
เหมาะสำหรับบริเวณพื้นที่เปียก พื้นที่ภายนอก หรือพื้นที่ที่ต้องระมัดระวังอาจเกิดความเลี่ยงในการลื่นล้ม เช่น ห้องน้ำส่วนเปียก ลานจอดรถ ลานซักล้าง ทางเดินนอกอาคาร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การเลือกวัสดุสำหรับพื้นที่ที่มีน้ำมาเกี่ยวข้อง ยิ่งต้องระวังความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานมากที่สุด
อาทิ การอาบน้ำในห้องน้ำ ทำกับข้าวในห้องครัว พื้นที่รอบสระว่ายน้ำ หรือนานๆ ทำครั้งอย่างการล้างรถในโรงรถ การรดน้ำในสวนหน้าบ้าน ทั้งหมดนี้คือพื้นที่ที่ต้องระมัดระวังขณะใช้งานอยู่เสมอ
-
การใช้พื้นกระเบื้อง R11 สำหรับพื้นผิวที่ต้องสัมผัสน้ำอยู่เสมอจึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการลื่นล้มได้ระดับหนึ่ง
เพื่อมั่นใจว่าพื้นทุกส่วนที่ติดตั้งจะเป็นเกราะป้องกันอุบัติเหตุไว้ก่อน ทั้งยังทนทานต่อการใช้งานอย่างต่อเนื่องได้ในระยะยาว การเลือกสรรวัสดุที่ดีจึงเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างบ้านให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยและพื้นที่แห่งคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนในครอบครัว
-
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเนื้อหาเกี่ยวกับกระเบื้องผิวหน้ากระเบื้องต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วมีความแตกต่างเชิงอัตลักษณ์ความสวยงาม และเหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ขึ้นอยู่กับ lifestyle และการออกแบบของคุณ ถ้าชาวพันทิปอยากได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับกระเบื้องเรื่องใด สามารถพิมพ์มาบอกกันได้ที่คอมเม้นท์หรือจะ ทักมาบอกกันได้นะคะ
ชวนมารู้จักลักษณะผิวหน้ากระเบื้อง กับคุณสมบัติที่น่ารู้ก่อนจะนำเอาไปใช้งาน
จึงทำให้เลือกผิด และติดตั้งกระเบื้องคุณสมบัติไม่ตรงกับการใช้งาน เช่น พื้นที่ลื่นจนเกินไป เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ
-
วิธีการที่ดีที่สุดก็คือการเลือกกระเบื้องที่ถูกต้องตั้งแต่แรก ซึ่งคุณจะต้องรู้จักและเข้าใจประเภทของกระเบื้องแบบต่าง ๆ
เราขออนุญาติแบ่งประเภทของสินค้า ตามลักษณะผิวหน้าได้เป็น 12 ประเภท
ไล่ตามผิวเรียบมัน เรียบลื่น ไปยังผิวหยาบ พร้อมทั้งแนะนำการติดตั้ง ดังนี้ค่ะ
-
สำหรับพื้นที่ภายในอาคาร :
ควรดูและประเมินพื้นที่ว่า เสี่ยงต่อการลื่นล้มไหม เช่นห้องครัว หรือบริเวณที่เกี่ยวกับน้ำ ก็ควรเลือกผิวหน้าที่มีลักษณะหยาบนิดนึง
สำหรับพื้นที่ภายนอกอาคาร :
พื้นที่ภายนอกอาคารส่วนใหญ่ มักจะเป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการโดนน้ำ เช่นฝน หรือเป็นพื้นที่ที่ต้องการความทนต่อการขูดขีด เช่น โรงจอดรถ ดังนั้นการพิจารณากระเบื้องผิวหยาบจึงเป็นสิ่งที่เรามักจะแนะนำ
สำหรับพื้นที่ภายในอาคาร
อาทิ ห้องโถงขออาคาร หรือห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องทำงาน หรือห้องนอน
การเลือกกระเบื้องผิวหน้าที่ค่อนข้างเรียบจะให้ความรู้สึกสบายเท้าเวลาเดิน โดยกระเบื้องที่มีผิวเรียบนั้น ได้แบ่งลักษณะผิวหน้าออกเป็นหลายๆแบบ ดังนี้
Polish / Glossy / Semi-polish / Satin / R9
ลักษณะผิวหน้าของกระเบื้อง
- Polish : เป็นกระเบื้องที่มีความมันเงา จากการขัด มีเงาสะท้อน ทำให้ดูหรูหรา
- Glossy : เป็นกระเบื้องที่มีความมันเงาจากการเคลือบ เหมาะสำหรับติดตั้งเป็นผนัง เช่น ผนังของห้องน้ำ
- Semi-Polish : ลักษณะผิวนวล มาจากการเคลือบและการขัด เหมาะกับพื้นที่ที่ไม่ต้องการความเงามากนัก
- Satin : ผิวนวลจากการเคลือบ ลวดลายคล้าย texture ผ้า
- R9 : กระเบื้องผิวด้าน อาทิกระเบื้องลายไม้ขัด หรือลายหินละเอียด
สำหรับพื้นที่ภายนอกอาคาร
โรงจอดรถ , ทางเดินนอกอาคาร, สวนหน้าบ้าน, สระว่ายน้ำ
ส่วนใหญ่พื้นที่ Outdoor หรือพื้นที่ที่มีการโดนน้ำบ่อย ต้องการความปลอดภัย ไม่ลื่นเวลาใช้งาน และมี texture เหมือนธรรมชาติ โดยเจ้าของบ้านสามารถเลือกระดับให้เหมาะกับความต้องการได้เลย ตั้งแต่หยาบน้อย ไปจนถึงผิวสากมากที่เหมาะกับพื้นที่ เช่น บริเวณรอบสระว่ายน้ำ ลานซักผ้า
ลักษณะผิวหน้าที่เราแนะนำแบ่งออกเป็นหลายๆแบบ ดังนี้
Natural / R10 / Matt / R11 / R12 / GRIP
- Natural : กระเบื้องที่มีผิวด้านหยาบเล็กน้อย
- R10 : กระเบื้องผิวหยาบที่มีการออกแบบพื้นผิวให้มีริ้วรอยค่อนข้างลึก กันลื่นได้ดี
- Matt : กระเบื้องผิวหยาบปานกลาง
- R11 : หรือที่เรามักเรียกว่ากระเบื้องกันลื่น (Anti-Slip) จะมีผิวหน้าที่ค่อนข้างหยาบมาก ผิวกันลื่น เหมาะกับห้องน้ำโซนเปียก หรือพื้นที่ที่ต้องระมัดระวังเรื่องกันลื่นเป็นพิเศษ เช่น บริเวณรอบสระว่ายน้ำ
- R12 : กระเบื้องผิวสาก
- GRIP : กระเบื้องที่มีผิวสากมาก
กระเบื้อง Anti-Slip :
มาตรฐานการทดสอบ : กระเบื้อง COTTO ที่ได้กำกับ ระดับค่า R10-R11 ผ่านการทดสอบ COTTO Tiles'R Test is classified by Oil Wet Ramp (R-Test) AS/NZS 4586 : 2004
ค่า R หรือค่า slip resistance rating คือหน่อยวัดแบบมาตรฐาน วัดและทดสอบโดยการปูกระเบื้องในความชันที่ต่างกันและทดสอบความกันลื่นของพื้นผิวดังกล่าวโดยค่า R จะถูกแบ่งออกเป็น 5 ระดับคือ R9-R13 ซึ่งแต่ละค่าจะมีความกันลื่นในองศาที่เหมาะสม ไม่เท่ากัน
- R9 [การกันลื่นต่ำ องศาความชันของพื้นที่ ประมาณ 5 องศา แต่ไม่เกิน 10 องศา ] :
เหมาะสำหรับบริเวณพื้นที่แห้ง หรือพื้นที่ทั่วไปที่ไม่มีความเสี่ยงในการลื่น เช่น ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น
- R10 [การกันลื่นต่ำ องศาความชันของพื้นที่ ประมาณ 10 องศา แต่ไม่เกิน 19 องศา ] :
เหมาะสำหรับบริเวณพื้นกึ่งเปียกกึ่งแห้ง เช่น ห้องน้ำส่วนแห้ง ห้องครัว ที่จอดรถที่มีหลังคาปิด ที่จอดรถในอาคาร และบันได้
- R11 [การกันลื่นต่ำ องศาความชันของพื้นที่ ประมาณ 19 องศา แต่ไม่เกิน 27 องศา ] :
เหมาะสำหรับบริเวณพื้นที่เปียก พื้นที่ภายนอก หรือพื้นที่ที่ต้องระมัดระวังอาจเกิดความเลี่ยงในการลื่นล้ม เช่น ห้องน้ำส่วนเปียก ลานจอดรถ ลานซักล้าง ทางเดินนอกอาคาร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การเลือกวัสดุสำหรับพื้นที่ที่มีน้ำมาเกี่ยวข้อง ยิ่งต้องระวังความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานมากที่สุด
อาทิ การอาบน้ำในห้องน้ำ ทำกับข้าวในห้องครัว พื้นที่รอบสระว่ายน้ำ หรือนานๆ ทำครั้งอย่างการล้างรถในโรงรถ การรดน้ำในสวนหน้าบ้าน ทั้งหมดนี้คือพื้นที่ที่ต้องระมัดระวังขณะใช้งานอยู่เสมอ
-
การใช้พื้นกระเบื้อง R11 สำหรับพื้นผิวที่ต้องสัมผัสน้ำอยู่เสมอจึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการลื่นล้มได้ระดับหนึ่ง
เพื่อมั่นใจว่าพื้นทุกส่วนที่ติดตั้งจะเป็นเกราะป้องกันอุบัติเหตุไว้ก่อน ทั้งยังทนทานต่อการใช้งานอย่างต่อเนื่องได้ในระยะยาว การเลือกสรรวัสดุที่ดีจึงเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างบ้านให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยและพื้นที่แห่งคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนในครอบครัว
-
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเนื้อหาเกี่ยวกับกระเบื้องผิวหน้ากระเบื้องต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วมีความแตกต่างเชิงอัตลักษณ์ความสวยงาม และเหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ขึ้นอยู่กับ lifestyle และการออกแบบของคุณ ถ้าชาวพันทิปอยากได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับกระเบื้องเรื่องใด สามารถพิมพ์มาบอกกันได้ที่คอมเม้นท์หรือจะ ทักมาบอกกันได้นะคะ