มารผจญ 1
เคยได้ยินว่า…. เมื่อเราเริ่มทำความดี หรือเริ่มปฏิบัติธรรม มักจะเจอมารผจญกันทั้งนั้น
ผมเองเมื่อครั้งไปปฏิบัติกรรมฐาน ที่วัดอัมพวัน ครั้งแรก ก็เจอ
แต่จะว่าเป็นมารมาแกล้ง หรือก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะเป็นเรื่องแปลกๆ ซะมากกว่า
เช่น คืนวันแรก ได้ยินเสียงเปรตร้องดังลั่น สั่นประสาทไปหมด
วันที่สอง ก็จะเป็นเรื่องปวดเมื่อยไปตามเรื่อง แต่ก็สุดทรมานเลยละ
โดยเฉพาะผมมีโรคปวดหลังเป็นแฟนประจำอยู่แล้ว นอกนั้นก็จะเป็นมด เป็นยุงซะมากกว่า
วันที่สาม ปวดหัว มึนตึ๊บบบ ๆ บ่นตัดพ้อว่าเทวดาฟ้าดิน
จนท่านมาสั่งสอน เปิดกรรมที่ได้เคยทำไว้เมื่อตอนยังเด็ก….ให้ดูกับตาตัวเอง เลย
วันที่สี่ …..มีเรื่องที่ต้องผจญอย่างแรง
คือตั้งแต่วันแรกๆ แล้ว ผมมองไปรอบๆ จะเห็น ผู้หญิง มากกว่าผู้ชาย
ผู้หญิงที่มาปฏิบัติธรรม เมื่อนุ่งขาว ห่มขาวแล้ว จะดูดีมาก.ก..ก
แต่ละคนเก็บเส้นผมเรียบ ไม่มีเครื่องสำอาง ใบหน้างี้นวลผ่อง..ง คงจะอิ่มบุญน่ะ
กริยาก็สงบเรียบร้อย ยิ่งเดินจงกรม ก็จะเห็นได้ว่ายิ่งน่าดู น่าเลื่อมใสมาก เห็นแล้วประทับใจ
แต่ไม่ใช่เรื่องของกาม หรือความใคร่ นะครับ....
แค่รู้สึกน่าศรัทธามาก
มายุ่งก็เพราะวันที่สาม ผมมองๆ พวกผู้หญิงแล้ว คิดลำพองในใจว่า…
ตัวเรานี่ก็ดีนะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องผู้หญิง ศีลข้อกาเมฯ เราน่าจะผุดผ่องดีนะ...นึกมั่นใจมาก
พอเช้าวันที่สี่ …..
ทำวัตรเช้าตีห้า กว่าจะเสร็จก็ 7 โมง ไปกินข้าว
เริ่มปฏิบัติอีกที 8 โมง .......
ผมออกไปปฏิบัติฯ ด้านนอกห้อง ที่เรียกว่า….ลานดิน
ซึ่งเป็นลานกว้างๆ พื้นเป็นดินทราย
มีต้นไม้ใหญ่ๆ หลายต้น อากาศถ่ายเทดีมากๆ
ผู้ปฏิบัติก็แยกย้ายไปใต้ต้นไม้ ตามแต่ชอบ แต่ก็จะไม่ห่างกันมาก
ผมเดินจงกรมเสร็จ ก็ลงนั่งสงบนิ่ง.ง..ง...รู้สึกได้ถึงลมอ่อนๆ กำลังดี
สดชื่นมาก.........ดำดิ่ง...ได้ดีมาก
เมื่อครบ 45 นาที ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ.....จนลืมเต็มตา.....โอ๊ะ....
ภาพที่เห็นตรงหน้า ….เป็นภาพหญิงสาวคนหนึ่ง
เธอกำลังนั่งปฏิบัติสมาธิ ห่างไปประมาณ 5 เมตร
เธอนั่งสงบนิ่ง หลังตรง สง่างามมาก
สายลมอ่อนๆ ใบไม้ไหวน้อยๆ ....มีแสงแดดอ่อนๆ ส่องมาอย่างเหมาะเหม็ง
ยิ่งช่วยขับเน้นให้เด่นชัด ถึงความ…สวย สดใส
โอ้ยยยย……เธอช่างสดใส เป็นแบบที่ผมชอบมาก ยิ่งกว่าคำว่า สเปค ร้อยเท่า
ปรกติ ผมเป็นคนชอบผู้หญิงอวบนิดๆ ไม่ชอบพวกหุ่นนางแบบ
ชอบคนไม่แต่งหน้า ชอบผิวธรรมชาติ ....ซึ่ง เธอ เป็นทุกอย่างที่เราชอบ
ผมเป็นคนรักครอบครัวมาก โดยเฉพาะภรรยา
ผมทำงานกับลูกน้องสาวๆ สวยๆ มามากมาย ทั้งๆที่ใกล้ชิด และพยายามมาชิดใกล้เยอะแยะ
แต่ผมก็ไม่เคยวอกแวก เพราะเคยผ่านเรื่องวุ่นวายแบบนี้มาแล้ว ทำให้เบื่อมาก ภูมิต้านทานด้านนี้เลยเยอะ
แต่ภาพที่เห็นเต็มตาอยู่ตรงหน้านี้ เธอช่างสดใส งดงาม ซึ่งไม่ใช่สวยเลิศ นะครับ
แต่เป็นงดงามมาก โดยเฉพาะแดดอ่อนๆ ส่องกระทบผิวเธอ อย่างกับมีความเรืองรองออกมาเลย
โอ้โฮ...ตอนนั้น สติ และสัมปชัญญะ หรืออะไรก็แล้วแต่มันถูกเธอคนนั้นดูดกลืน หายไปหมด
สติสัมปชัญญะ ความยั้บยั้งชั่งใจ ความรู้สึกนึกคิด อะไร ๆ ……มันก็ไม่มีเหลือเลย
ที่เค้าว่า…ต้องมนต์ คงเป็นอย่างงี้เอง
ผมได้แต่นั่งมองดูเธอคนนั้น....
เธอ ค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ อย่างมีสติ.....ยืนขึ้นเดินจงกรม ช้า..ช้า………ช้า
เธอก้าว ขวา...ย่างงง...หนออออ
ซ้าย...ย่างงง...หนออออ...........มันเหมือนภาพสโลว์สเตป จนกระทั่งหมดเวลา 45 นาที
ส่วนผมนะเหรอ ได้แต่….. ก้าวขวา...หันไปดูหนอ
.....ซ้ายเหลือบตาดูหนอ จนหมดเวลา
จากนั้น ทั้งวัน ได้แต่คอยมองหา ว่า เธอคนนั้นไปนั่งปฏิบัติฯ อยู่ตรงไหนกันนะ
อยากเข้าไปพูดคุย ไปคุยด้วยจังเลย
พอช่วงค่ำ สวดมนต์ทำวัตรจบแล้ว ค่อยมีสติขึ้นมาบ้าง
คิดได้ว่า เฮ้ยยย….เรามาทำอะไร มาทำไม แล้วเกิดอะไรขึ้นกัน เนี่ยะ
จะมาบ้าอย่างนี้ได้ยังไง....ไอ้บ้าเอ๊ย...ย
เมื่อปลงได้ก็ค่อยสงบใจ ปฏิบัติไปได้พอสมควร
แต่ก็ยังเห็น… เธอ โผล่ตรงนั้น โผล่ตรงนี้ เฉียดไป เฉียดมา
มีแต่ความน่าหลงใหล ไปซะหมดทุกอย่าง ทุกอริยาบท
ผมพยายามนึกถึงที่ได้ยินมา…. รูปไม่เที่ยงหนอ
ถ้าเอาหนังออก เนื้อออก คงจะแย่
พยายามหันไปดูคนแก่ๆ ที่มาปฏิบัติ แล้วใคร่ครวญ คิด
อีกหน่อยก็ยังงี้เหมือนกัน มันจะไม่เหี่ยวให้มันรู้ไป.....
เช้าวันที่ห้า ทำวัตรเช้า แล้วผมก้มหน้า ก้มตาปฏิบัติฯ
ตั้งใจไว้….ไม่อยากเห็น ไม่อยากดู ไม่อยากรู้ ขอความสงบอย่างเดียว
จนถึงเวลากินข้าว....
ทุกคนก็จะเดินเข้าแถวเป็นระเบียบ ไปหยิบถาดหลุมเพื่อไปรับข้าวต้ม
ก้มหน้าก้มตา เดินตามคนอื่น
เมื่อถึงคิวผม พอยื่นถาดไป แต่....โอ๊ยยยยย.....
คนที่ตักให้เป็น เธอ สาวน้อย แสนสดใส ที่น่าหลงใหลลลล คนนั้นเอง.......
ผมนะใจเต้น ตุ๊บ..ตุ๊บบ..ตุ๊บ.บบ….ตุ๊บบบบ
แต่แล้วก็ ฉุกใจคิดได้ทันทีเลย......เธอ คนนี้ คือ….. มารผจญ
…..อาจจะเป็นเพราะผมชงักไป ทำให้การตักเสียจังหวะ
เธอจึงเงยหน้ามามอง แล้วยิ้มที่มุมปากนิดๆ …….
เป็นรอยยิ้ม ที่เต็มไปด้วย…เสน่ห์ และความรู้สึกอีกมากมาย
ทั้งยั่วเย้า และ…เวทนา
ชั่วเวลาแค่…วินาที นั้น มันหยุดนิ่ง นานนน
ความรู้สึกของผม ในตอนนั้น มัน แว่บบบ เข้าไปอก ที่หัวใจ
อึดอัด ติดขัด
ได้แต่พยายามหายใจเข้าให้..ลึกกกก ที่สุด
แล้ว ถอนหายใจออกยาว นึกในใจ
...ผมขอโทษ...ผมเข้าใจแล้ว...ผมจะไม่ประมาทอีกแล้วครับ...
เธอ คนนั้นก็กลับ…ยิ้มมากขึ้น เหมือนกับ..ดีใจด้วย
แววตา บอกถึงความยินดี ไปกับผมอย่าง จริงใจ
นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เห็น ….เธอ
หลังจากนั้นไม่ได้เห็น หรือรู้สึกถึงอีกเลย ก็แปลกดี
เฮ้อออ....การต่อสู้ ยกนี้ไม่รู้ว่า แพ้ หรือชนะ
แต่แน่นอน เกือบถูกน๊อค........
อนณ นิศารัตน์
โทร – ไลน์. 0931499564
กรรมทันตา มารผจญ 1 ( รีไร้ท์ )
เคยได้ยินว่า…. เมื่อเราเริ่มทำความดี หรือเริ่มปฏิบัติธรรม มักจะเจอมารผจญกันทั้งนั้น
ผมเองเมื่อครั้งไปปฏิบัติกรรมฐาน ที่วัดอัมพวัน ครั้งแรก ก็เจอ
แต่จะว่าเป็นมารมาแกล้ง หรือก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะเป็นเรื่องแปลกๆ ซะมากกว่า
เช่น คืนวันแรก ได้ยินเสียงเปรตร้องดังลั่น สั่นประสาทไปหมด
วันที่สอง ก็จะเป็นเรื่องปวดเมื่อยไปตามเรื่อง แต่ก็สุดทรมานเลยละ
โดยเฉพาะผมมีโรคปวดหลังเป็นแฟนประจำอยู่แล้ว นอกนั้นก็จะเป็นมด เป็นยุงซะมากกว่า
วันที่สาม ปวดหัว มึนตึ๊บบบ ๆ บ่นตัดพ้อว่าเทวดาฟ้าดิน
จนท่านมาสั่งสอน เปิดกรรมที่ได้เคยทำไว้เมื่อตอนยังเด็ก….ให้ดูกับตาตัวเอง เลย
วันที่สี่ …..มีเรื่องที่ต้องผจญอย่างแรง
คือตั้งแต่วันแรกๆ แล้ว ผมมองไปรอบๆ จะเห็น ผู้หญิง มากกว่าผู้ชาย
ผู้หญิงที่มาปฏิบัติธรรม เมื่อนุ่งขาว ห่มขาวแล้ว จะดูดีมาก.ก..ก
แต่ละคนเก็บเส้นผมเรียบ ไม่มีเครื่องสำอาง ใบหน้างี้นวลผ่อง..ง คงจะอิ่มบุญน่ะ
กริยาก็สงบเรียบร้อย ยิ่งเดินจงกรม ก็จะเห็นได้ว่ายิ่งน่าดู น่าเลื่อมใสมาก เห็นแล้วประทับใจ
แต่ไม่ใช่เรื่องของกาม หรือความใคร่ นะครับ....
แค่รู้สึกน่าศรัทธามาก
มายุ่งก็เพราะวันที่สาม ผมมองๆ พวกผู้หญิงแล้ว คิดลำพองในใจว่า…
ตัวเรานี่ก็ดีนะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องผู้หญิง ศีลข้อกาเมฯ เราน่าจะผุดผ่องดีนะ...นึกมั่นใจมาก
พอเช้าวันที่สี่ …..
ทำวัตรเช้าตีห้า กว่าจะเสร็จก็ 7 โมง ไปกินข้าว
เริ่มปฏิบัติอีกที 8 โมง .......
ผมออกไปปฏิบัติฯ ด้านนอกห้อง ที่เรียกว่า….ลานดิน
ซึ่งเป็นลานกว้างๆ พื้นเป็นดินทราย
มีต้นไม้ใหญ่ๆ หลายต้น อากาศถ่ายเทดีมากๆ
ผู้ปฏิบัติก็แยกย้ายไปใต้ต้นไม้ ตามแต่ชอบ แต่ก็จะไม่ห่างกันมาก
ผมเดินจงกรมเสร็จ ก็ลงนั่งสงบนิ่ง.ง..ง...รู้สึกได้ถึงลมอ่อนๆ กำลังดี
สดชื่นมาก.........ดำดิ่ง...ได้ดีมาก
เมื่อครบ 45 นาที ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ.....จนลืมเต็มตา.....โอ๊ะ....
ภาพที่เห็นตรงหน้า ….เป็นภาพหญิงสาวคนหนึ่ง
เธอกำลังนั่งปฏิบัติสมาธิ ห่างไปประมาณ 5 เมตร
เธอนั่งสงบนิ่ง หลังตรง สง่างามมาก
สายลมอ่อนๆ ใบไม้ไหวน้อยๆ ....มีแสงแดดอ่อนๆ ส่องมาอย่างเหมาะเหม็ง
ยิ่งช่วยขับเน้นให้เด่นชัด ถึงความ…สวย สดใส
โอ้ยยยย……เธอช่างสดใส เป็นแบบที่ผมชอบมาก ยิ่งกว่าคำว่า สเปค ร้อยเท่า
ปรกติ ผมเป็นคนชอบผู้หญิงอวบนิดๆ ไม่ชอบพวกหุ่นนางแบบ
ชอบคนไม่แต่งหน้า ชอบผิวธรรมชาติ ....ซึ่ง เธอ เป็นทุกอย่างที่เราชอบ
ผมเป็นคนรักครอบครัวมาก โดยเฉพาะภรรยา
ผมทำงานกับลูกน้องสาวๆ สวยๆ มามากมาย ทั้งๆที่ใกล้ชิด และพยายามมาชิดใกล้เยอะแยะ
แต่ผมก็ไม่เคยวอกแวก เพราะเคยผ่านเรื่องวุ่นวายแบบนี้มาแล้ว ทำให้เบื่อมาก ภูมิต้านทานด้านนี้เลยเยอะ
แต่ภาพที่เห็นเต็มตาอยู่ตรงหน้านี้ เธอช่างสดใส งดงาม ซึ่งไม่ใช่สวยเลิศ นะครับ
แต่เป็นงดงามมาก โดยเฉพาะแดดอ่อนๆ ส่องกระทบผิวเธอ อย่างกับมีความเรืองรองออกมาเลย
โอ้โฮ...ตอนนั้น สติ และสัมปชัญญะ หรืออะไรก็แล้วแต่มันถูกเธอคนนั้นดูดกลืน หายไปหมด
สติสัมปชัญญะ ความยั้บยั้งชั่งใจ ความรู้สึกนึกคิด อะไร ๆ ……มันก็ไม่มีเหลือเลย
ที่เค้าว่า…ต้องมนต์ คงเป็นอย่างงี้เอง
ผมได้แต่นั่งมองดูเธอคนนั้น....
เธอ ค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ อย่างมีสติ.....ยืนขึ้นเดินจงกรม ช้า..ช้า………ช้า
เธอก้าว ขวา...ย่างงง...หนออออ
ซ้าย...ย่างงง...หนออออ...........มันเหมือนภาพสโลว์สเตป จนกระทั่งหมดเวลา 45 นาที
ส่วนผมนะเหรอ ได้แต่….. ก้าวขวา...หันไปดูหนอ
.....ซ้ายเหลือบตาดูหนอ จนหมดเวลา
จากนั้น ทั้งวัน ได้แต่คอยมองหา ว่า เธอคนนั้นไปนั่งปฏิบัติฯ อยู่ตรงไหนกันนะ
อยากเข้าไปพูดคุย ไปคุยด้วยจังเลย
พอช่วงค่ำ สวดมนต์ทำวัตรจบแล้ว ค่อยมีสติขึ้นมาบ้าง
คิดได้ว่า เฮ้ยยย….เรามาทำอะไร มาทำไม แล้วเกิดอะไรขึ้นกัน เนี่ยะ
จะมาบ้าอย่างนี้ได้ยังไง....ไอ้บ้าเอ๊ย...ย
เมื่อปลงได้ก็ค่อยสงบใจ ปฏิบัติไปได้พอสมควร
แต่ก็ยังเห็น… เธอ โผล่ตรงนั้น โผล่ตรงนี้ เฉียดไป เฉียดมา
มีแต่ความน่าหลงใหล ไปซะหมดทุกอย่าง ทุกอริยาบท
ผมพยายามนึกถึงที่ได้ยินมา…. รูปไม่เที่ยงหนอ
ถ้าเอาหนังออก เนื้อออก คงจะแย่
พยายามหันไปดูคนแก่ๆ ที่มาปฏิบัติ แล้วใคร่ครวญ คิด
อีกหน่อยก็ยังงี้เหมือนกัน มันจะไม่เหี่ยวให้มันรู้ไป.....
เช้าวันที่ห้า ทำวัตรเช้า แล้วผมก้มหน้า ก้มตาปฏิบัติฯ
ตั้งใจไว้….ไม่อยากเห็น ไม่อยากดู ไม่อยากรู้ ขอความสงบอย่างเดียว
จนถึงเวลากินข้าว....
ทุกคนก็จะเดินเข้าแถวเป็นระเบียบ ไปหยิบถาดหลุมเพื่อไปรับข้าวต้ม
ก้มหน้าก้มตา เดินตามคนอื่น
เมื่อถึงคิวผม พอยื่นถาดไป แต่....โอ๊ยยยยย.....
คนที่ตักให้เป็น เธอ สาวน้อย แสนสดใส ที่น่าหลงใหลลลล คนนั้นเอง.......
ผมนะใจเต้น ตุ๊บ..ตุ๊บบ..ตุ๊บ.บบ….ตุ๊บบบบ
แต่แล้วก็ ฉุกใจคิดได้ทันทีเลย......เธอ คนนี้ คือ….. มารผจญ
…..อาจจะเป็นเพราะผมชงักไป ทำให้การตักเสียจังหวะ
เธอจึงเงยหน้ามามอง แล้วยิ้มที่มุมปากนิดๆ …….
เป็นรอยยิ้ม ที่เต็มไปด้วย…เสน่ห์ และความรู้สึกอีกมากมาย
ทั้งยั่วเย้า และ…เวทนา
ชั่วเวลาแค่…วินาที นั้น มันหยุดนิ่ง นานนน
ความรู้สึกของผม ในตอนนั้น มัน แว่บบบ เข้าไปอก ที่หัวใจ
อึดอัด ติดขัด
ได้แต่พยายามหายใจเข้าให้..ลึกกกก ที่สุด
แล้ว ถอนหายใจออกยาว นึกในใจ
...ผมขอโทษ...ผมเข้าใจแล้ว...ผมจะไม่ประมาทอีกแล้วครับ...
เธอ คนนั้นก็กลับ…ยิ้มมากขึ้น เหมือนกับ..ดีใจด้วย
แววตา บอกถึงความยินดี ไปกับผมอย่าง จริงใจ
นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เห็น ….เธอ
หลังจากนั้นไม่ได้เห็น หรือรู้สึกถึงอีกเลย ก็แปลกดี
เฮ้อออ....การต่อสู้ ยกนี้ไม่รู้ว่า แพ้ หรือชนะ
แต่แน่นอน เกือบถูกน๊อค........
อนณ นิศารัตน์
โทร – ไลน์. 0931499564