กรรมทันตา ใส่บาตร ( รีไร้ท์ )

กรรมทันตา ใส่บาตร

แต่ก่อนนี้ ผมไม่ค่อยได้ใส่บาตรเท่าไหร่
ด้วยเหตุผลนานาประการ
โดยเฉพาะ ไม่ค่อยชอบพระ ที่บุคคลิกไม่น่าเลื่อมใส
ยอมรับครับว่า...ติดรูป

อีกอย่างคือ ในอดีต ผมเคยมีความเกี่ยวพันกับ...พระ...ที่ไม่ค่อยดี
ตามประสาคนบาปอย่างผม
เรื่องที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้ค่อนข้างล่อแหลม
ควรใช้วิจารณญาณในการรับฟัง
เนื่องจากเป็นเรื่องจริง แต่ผมกลัวถูกเหยียบ
จึงขอใช้นามสมมุติ และสถานที่สมมุตินะครับ
อ้อ....เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อกว่า 35 ปีมาแล้ว
สิ่งต่างๆ ที่เกิดในสถานที่นั้น ก็คงจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
สิ่งชั่วร้ายต่างๆ ก็น่าจะหมดไปแล้วนะ.....หรือ ยัง ก็ม่ายรู้

อย่างที่เคยเล่าในตอนก่อนๆ นี้แล้วว่า
ผมได้เข้าไปอยู่ในวังวนของคนชั่วเลว และความชั่วร้าย
คนเลว ก็ชอบคบกับคนเลว คุยกันถูกคอหนีกันไม่ค่อยพ้น
ดังเช่น ฝนตกขี้หมูไหลคน...ไร มารวมกัน
ดี…ดูด ดี
ชั่ว…ดูด ชั่ว

เมื่อช่วงวัยรุ่น ทำงานอยู่กับเถ้าแก่เต็นท์ขายรถแห่งหนึ่ง…ชื่อ เฮียเฮง
ตัวแกมีนิสัยแปลกอยู่อีกอย่าง ( ความจริงมีหลายอย่าง )
คือชอบไปวัดภาสี ( นามสมมุติ )
แถวถนนเอกมายยย จำได้แต่มันใกล้ บขส.เอกมายยย
แกมักจะแวะไปหา พระ
ชื่อหลวงพี่จวบ ซึ่งอายุไม่น่าเกิน 30 ปี
มักจะไปคุยกันนาน ๆ ส่วนใหญ่ก็เรื่องเครื่องรางของขลัง
หรือไม่ก็เรื่องพลังจิตพิสดาร ระดับณาน ชั้นไหน ๆ
ใน…กุฏิ ที่ดูเหมือนห้องเช่านี้ จะมีโต๊ะหมู่บูชา
อันมี…พระพุทธรูป มอมแมมฝุ่น อยู่ไม่เกิน 2-3 องค์
แต่จะมี...ฤาษี เทพฮินดู เทพจีน และเทพอีกหลายสัญชาติ
ซึ่งเฮียเฮง แกจะรู้สึกทึ่งในการบูชาแบบ อินเตอร์เนชั่นแนล นี้มาก
หลวงพี่จวบ ก็จะสอนให้รู้จักคุณสมบัติเฉพาะของแต่ละเทพ แต่ละองค์ แต่ละแบบ
รวมถึงอิทธิฤทธิ์ในการดลบันดาล ที่ต่างๆ กันออกไป

คุยกันไปก็กินข้าวที่คนเขาใส่บาตรมา ด้วยกันไป
ผมเคยถามเฮียว่า …ทำไมต้องมากินที่นี่
แกบอกมัน…ของฟรี ไม่เสียตังค์ โว้ยย
กับข้าวก็ของดีๆ ทั้งนั้น เลือกเอาเล๊ย.ย..ย
ขอบอกนะครับ แต่ละวันของที่รับบิณฑบาตรมา อาหารการกิน เยอะมาก..ก..

กินไม่หมด ต้องเลือกเอาที่ดี ๆ อร่อย ๆ
ห่อไหนน่าตาไม่ดีหรือดู...ไร้สกุล ราคาถูกหน่อย
หลวงพี่แกก็โยนออกนอกหน้าต่างลงคูน้ำ ข้างกุฏิ
อ้อ...ลืมบอกไป กุฏิแกอยู่ชั้น 2 แบ่งเป็นห้อง ๆ คล้าย ๆ ห้องเช่า
แต่แกอยู่ห้องริมติดกับ คู คลอง ระบายน้ำ
ซึ่งแกก็โยนมันทั้งห่อ ทั้งถุงพลาสติกนั่นแหละ
เลว …จริง ๆ
ผมเคยถามว่า…ทำไมไม่เอาไปให้คนจน ๆ ล่ะ
แกบอก...วุ่นวาย แล้วไอ้พวกนี้มันก็เรื่องมากเหมือนกัน โยนทิ้งไปดีกว่า ง่ายดี ว่ะ
ผมว่า …อย่างนี้มันก็คู คลองมันก็ตันนะซิ
แกบอก ….โยนทั้งถุง มันจะลอยน้ำไปเอง อย่าถามมาก....

มีอีกอย่างที่คุยกันได้นานๆ จนผมหลับไปจนตื่นแล้วก็ยังไม่จบ
ก็เรื่องพระเครื่อง พระห้อยคอ พระบูชา เครื่องรางต่าง ๆ
แต่จะออกแนวว่า ตอนนี้รุ่นนี้ดัง รุ่นนั้นกำลังจะดัง
รุ่นโน้นน อีกเดี๋ยวก็จะเริ่มดัง

ด้านการประเมินคุณค่า จะเป็นการประเมิน...ราคา...ซะมากกว่า
ซึ่งหลังๆ เฮียเฮง แกพัฒนา สามารถหาพระเครื่องที่กำลังเป็นที่นิยม
โดยรับซื้อต่อ ๆ มาจากพวกโจรตัดช่องย่องเบา
เลือกเอาที่กำลังมีราคาหลายๆ องค์ มาอวดได้ด้วย อ้อ...ขายด้วย

อีกคนหนึ่ง ที่เจอเป็นประจำ ชื่อ...เฮียแดง
เป็นช่างซ่อมทีวี วิทยุ อยู่แถวหน้าวัด
แต่มีอาชีพเสริมให้ พระเช่า...วีดีโอ
ทั้งหนังธรรมดา และหนังเรทอาร์ เรทเอ็กซ์ ...
ใช่แล้วครับ หนังโป๊น่ะแหละ มีบริการส่งถึงกุฎิ......

ในตอนนั้นผมก็ได้แต่สงสัยว่าไอ้พวกนี้มัน คน หรือเปล่าวะ
เคยแอบถามว่าท่านเจ้าอาวาสไม่ว่าอะไรเหรอ
แกก็ว่า บิสิเนสใคร บิสิเนสมัน ท่านเองก็มีบิสิเนสแบบเจ้าสำนัก
ประเภทอสังหาริมทรัพย์ เรียลเอสเตท.....อย่าลืมนะแถวนั้น วาละเท่าไหร่

อีกกิจกรรมหนึ่งที่ หลวงหลวงพี่จวบ กับเฮียเฮง และพวก
คือชอบไปรวมหัวกันคือ วัดโพรงอวกาศ ( นามสมมุติ )
วัดดังอยู่ไม่ห่างกรุงเทพเท่าไหร่
ไปปรึกษาหารือ เรื่องทำเหรียญบูชา
วางแผนการตลาดโดยการ โฆษณาชวนเชื่อ ลงหนังสือแนวอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์
ประมาณว่า แคล้วคลาด หนังเหนียว รถคว่ำแปดตลบ ยังไม่ระคายผิว
โดยทั้งตัวห้อยเหรียญนี้องค์เดียว
แต่ต้องให้มีหลากหลายเคส หลายตัวละคร หลายๆ เหตุการณ์
หรือลงทุนระยะยาวหน่อย เอาฝังไว้ใต้เจดีย์ ซักปี สองปี ค่อยทำกรุแตกออกมาโดยบังเอิญ
รับรองว่าราคาน่าจะดี
ขอให้หนักโฆษณาประชาสัมพันธ์เข้าไว้

อ้อ....ต่อมาภายหลังไอ้คนพวกนี้ก็มี ชะตากรรม ต่างๆ กันไป
หลวงพี่จวบ …โดน อีสาวปอกลอก หลอกให้สึกออกมาแต่งงาน
แต่อยู่กันไม่นานหมดเงินก็เลิกลาไป ชีวิตที่เหลือก็เจริญลง ๆ เรื่อย ๆ
ครั้งสุดท้ายที่ผมเห็น ทำงานเป็น...เด็กล้างรถ
ส่วนเฮียแดง...ไปช่วยเฮียเฮงเปิดแผนกขายรถยนต์ใหม่ป้ายแดง
แรกๆ ก็กำไรดี แต่สุดท้ายที่ผมเห็น...ขาดทุนย่อยยับ เจ๊ง ไม่เป็นท่า
ทะเลาะกันวุ่นวาย
หมดตัวมีแต่….หนี้สิน กลับไปให้ลูกเมียก้อนใหญ่
พระชั่ว คนชั่ว มั่วสุมอยู่ด้วยกัน รับเวร รับกรรมกันไปถ้วนทั่ว

กลับมาเรื่องของเราดีกว่า.....
คุณพ่อตาผม พอ.ลิขิต สว่างวรรณ อาจารย์ ร.ร.นายร้อย จปร.
ท่านชอบทำบุญใส่บาตร ใส่แทบทุกวัน วันละ 3 รูป
ผมเคยถามว่าทำไมชอบใส่บาตร
ท่านบอก ใส่บาตร...แล้วอานิสงส์จะมีกิน
ก็คงจะจริงนะ ท่านเป็นข้าราชการทหารที่ไม่มีเรื่องทุจริต
แต่ก็มีชีวิตอยู่อย่างสุขกาย สบายใจ ไม่เคยขัดสน
เรียกว่า...มีกิน มีใช้ ตลอดจนสิ้นชีวิตของท่าน

ผมก็เลยลองหัดใส่บาตรบ้าง ปัจจุบันนี้บางช่วงถ้าไม่ค่อยได้กินของอร่อย ๆ
ก็ต้องมาคิดดู ว่า....สงสัยพักนี้เราคงจะไม่ค่อยได้ใส่บาตร
แต่ผมมีข้อเสียอยู่อย่างคือ ใส่แต่ของที่ตัวเองชอบ
พวกหมูทอด หมูผัดพริก หมูปิ้ง แซนวิช หรือปลาทูน่าในน้ำเกลือ
ซาลาเปา ขนมเค็ก ฯลฯ
ภรรยาผมมักจะบ่นว่า เรื่องมาก ทำไมไม่ซื้อข้าวแกงที่ตลาดเอาล่ะ ง่ายดี
ผมก็ว่า คิดดูนะเธอ...พอตายไป เจอแต่ข้าวแกงเต็มไปหมด ไม่เบื่อแย่เหรอ
ยังไงก็ขอเจอแต่ของที่ชอบๆ แล้วกัน.

นิสัยเสียมากอีกอย่างคือ เลือก พระ มาก
รูปไหน ท่าทางไม่ค่อยน่าเลื่อมใสก็ไม่ใส่
หรือรูปไหนของเยอะแล้ว ยังบ้าหอบอีกก็ไม่ใส่
เลยใช้เวลาค่อนข้างมากในแต่ละครั้ง

อีกสิ่งหนึ่งที่ผมชอบทำมาก.ก..ก. แต่เป็นที่ประหลาดของคนอื่น คือ
บางทีผมไม่ใส่เอง แต่…ให้คนอื่นช่วยใส่ให้
คือ.....แถวบ้านผม สี่แยกบ้านแขก
จะมีคนบางคนที่ผมคิดว่าเขาน่าสงสาร แต่นิสัยดี
เช่นคนที่ชื่อ...พี่เบิร์ด
แกพิการคล้าย ๆ คนเป็นโปลิโอ เดินเหินไม่ค่อยถนัด
ชักกระตุก หงึก ๆ หงัก ๆ
ยากจนมากนะ ชีวิตลำบากเชียว
เคยคุยกันแกบอกว่า...เกิดอุบัติเหตุ มอเตอร์ไซค์คว่ำ
ผ่าตัดสมองหลายครั้ง สุดท้ายเป็นอย่างงี้
ทุกเช้าแกจะเดินออกกำลัง กะโผลก กะเผลกไป

ผมก็จะคอยดักเจอแก แล้วชวนให้มาใส่บาตรด้วยกัน
แต่...ผมให้แกเป็นคนใส่
แกจะมือไม้สั่นไปหมด น้ำตาคลอทุกครั้ง ดีใจ มาก.ก.ก..ก ที่ได้ใส่บาตร
ผมก็น้ำตาซึม เหมือนกัน.
ปิติซ่าน..น..ได้บุญหลายต่อ

หรือคนที่กวาดถนน เขามากวาดกันแต่เช้ามืด ผมก็จะซื้อของใส่บาตรไปให้เขาช่วยใส่ให้
อยากให้พวกเค้าได้ทำบุญ ทำกุศลบ้าง จิตใจจะได้แจ่มใส
แถมยังมีขนมนมเนยฝากเขาส่วนตัวด้วย เพราะอยากขอบคุณที่ช่วยกวาดถนนให้เรา
ภรรยาบอกว่า ผมนี่...คนพิลึกกก

จำได้ว่าครั้งหนึ่ง …หลายปีมาแล้ว
ตอนช่วงปีใหม่ อากาศหนาวมากกว่าปรกติ
ครอบครัวผมเลยตัดสินใจไปเที่ยวเชียงใหม่กัน
แต่ผมบอกว่า อยากไปใส่บาตร บนภูเขา ที่กันดาร ๆ ระหว่างทาง
น่าจะได้อารมณ์ดีนะ......
ทุกคนเห็นด้วย เที่ยวนั้นเลยออกเดินทางตอนกลางคืน
ออกเดินทางตอนสี่ทุ่ม
กะว่าไปถึงเชียงใหม่เช้ามืดพอดี
ระหว่างทางขับรถกันไป มี 6 คน ผมกับลูกสาวผลัดกันขับ
เดินทางเที่ยวนั้น หนาว..ว..มาก
จำได้ว่าประมาณ ตี 4 ขับมาเหนื่อยแล้ว ประกอบกับหมอกเริ่มลงจัดมาก
ยิ่งใกล้สว่างหมอกยิ่งหนา
หมอกหนามากขนาดมองไปได้ไม่เกินช่วง 1 เสาไฟฟ้า
ระยะทางที่อยู่ตอนนั้น ห่างเชียงใหม่พอควร รู้แต่กำลังขึ้นเขาลงเขา
หมอกหนามากจนมองไม่ชัด เลยต้องหาที่จอด
ได้ที่จอดริมทางบริเวณหน้าสำนักงานทางหลวงอะไรซักแห่ง ไม่มืดเท่าไหร่
เป็นลานสนามหญ้าสวยเชียวแหละ
เมื่อจอดได้ที่แล้ว ภรรยาผมก็เลยบอกให้รื้อของที่เตรียมมา
เดี๋ยวเจอหมู่บ้าน เราน่าจะได้ใส่บาตรกัน
ก็ช่วยกันปูเสื่อ เอาของลงมา
ผมก็ตั้งใจอธิษฐาน...ขอให้ได้ใส่บาตรกับ…พระดี ๆ เถอะ
หมอก.....หนาขึ้นเรื่อย ๆ มองไปมีแต่หมอก ขาว.ว..ว...ไปหมด อากาศเย็น.น..น.
จู่ ๆ ลูกสาวบอกดูซิ โน่นน พระ ....ท่านออกบิณฑบาตร
หันไปดูกัน เห็นเป็นรูปร่างลาง ๆ ในม่านหมอก เห็นสีจีวรถึงได้รู้ว่าเป็น พระ
พวกผมเลยวิ่งไปปูเสื่อรอริมถนน นั่งรอกันเป็นแถว 6 คน สลอนเลย
ก็นั่งพับเพียบ ยกมือพนมคอยท่านแต่ไกล ไม่มีใครพูดอะไรกันเลย
ทุกคน หันหน้าไปทาง พระ ที่เดินมา....ตั้งตาคอยท่าน
ภาพที่ติดอยู่ในหัวใจทุกวันนี้ คือ ภาพที่พระอุ้มบาตร เดินออกมาจากกลุ่มหมอก
ท่านเดินมารูปเดียว สงบ สำรวมมากเลย
เดินมาเรื่อย ๆ ไม่วอกแวก

จับตามองท่านเดินออกจากหมอกมา .....
จนมาถึง เราใส่บาตรกันอย่างสงบเสงี่ยม เพราะบุคคลิกอันสงบสำรวมของท่านสะกดทุกอย่างอยู่เลย
แล้วท่านก็ยิ้มน้อย ๆ ....ชุ่มชื่นหัวใจ
พวกเราก้มลงกราบท่าน...นิ่ง.ง..นาน.น..น..
พอเงยหน้าขึ้นมา เห็นท่านค่อย ๆ เดินห่างไป....ห่างไป....ห่างไป
ค่อย ๆ หายลับไปในสายหมอกหนา
เราทั้ง 6 คน นั่งพนมมือมองตามท่านหายไปในหมอกจนลับตา
ลูกสาวคนเล็ก ก็พูดขึ้นว่า...
...ถ้าเราขับรถตามไป แต่ไม่มีท่าน จะทำยังไงกัน.......
ทุกคนเงียบ....ไม่มีใครกล้าตอบ

ผมกับภรรยาก็คิดว่า ในเมื่อมีพระมา 1 รูป แล้ว ก็น่าจะมีอีกนะ
เลยนั่งบนเสื่อคอยกันต่อไป.......
แต่ผ่านไปอีกร่วมชั่วโมง หมอกเริ่มจางไป ก็ไม่เห็นมีอีก
เลยตัดสินใจ ขึ้นรถขับต่อไป อีกตั้งไกล มีแต่ป่า  มีแต่เขา
อีกหลายสิบกิโล ถึงจะเจอหมู่บ้าน
ได้ใส่บาตรอีกหลายรูป มองดูเวลาท่านเดินมาเป็นแถว
มันช่างเป็นภาพที่น่าดู น่าจดจำมากจริงๆ
โดยเฉพาะ ในหมอกขาวบาง ๆ
สีจีวรของพวกท่าน ช่าง….จับใจจริง ๆ

ภายหลังมาฝึกหัด...ปฏิบัติธรรม ทางอีสาน
เป็นลูกศิษย์วัด เดินตาม หลวงพ่อ และครูบา ยิ่งได้เห็นวัฒนธรรม การใส่บาตรที่สนใจอีกหลายอย่าง
พ่อแม่ คนเฒ่าคนแก่ ก็จะพาลูกหลานออกมายืนหน้าบ้านกันเกือบทุกบ้าน
มีกระติ๊บใส่ข้าวเหนียว แต่ไม่ค่อยเห็นมีกับข้าวอื่น
เมื่อพระมาถึงเค้าก็ใส่กันคนละนิดละหน่อย ข้าวเหนียวแค่ก้อนเท่าหัวแม่มือ เท่านั้น
ส่วนกับข้าว ขนม ผลไม้ จะเอาไปถวายที่วัดทีหลัง เรียกว่า....จังหัน
 
 
หมู่บ้านนี้มี 100 กว่าหลัง แต่จะมีคนออกมาใส่บาตรกันประมาณ 40 - 50 กว่าครอบครัวในวันธรรมดา
ถ้าวันหยุด จะมีเพิ่มมาอีกเยอะ แค่ว่าใส่แต่ข้าวเหนียวเท่าหัวแม่มือ ก็ยังต้องถ่ายของออกจาก บาตร 2 – 3 รอบ
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนมาก คือ... ความศรัทธา ความเชื่อมั่น ในพระพุทธศาสนา
พวกเค้าเชื่ออย่างสนิทใจว่า สิ่งที่พวกเค้ากำลังกระทำ มันคือ.... บุญ
สิ่งที่เค้าทำ มันไม่สูญหายไปไหน แต่จะกลับมาตอบแทนพวกเค้าในชาตินี้ หรือภพหน้า เท่านั้น
สิ่งที่ฉายชัดออกมาจากแววตา คือ... ความสุข ความอิ่มเอิบ
สิ่งที่ คนเฒ่าคนแก่ พ่อ แม่ ทำให้เห็นอยู่ทุกวัน.... มันติดแน่นในความทรงจำส่วนลึกของ เด็ก ๆ ลูก ๆ หลาน ๆ
เด็กน้อยพวกนี้ เค้าเห็น เค้าได้ช่วยพ่อแม่ใส่บาตร...ทู้กกก วัน
จิตใจพวกเค้า ก็จะถูกซักฟอกให้ขาวสะอาด ทุกวัน
การทำความดี การยึดมั่นในศาสนา การเสพสุขจากการทำบุญ มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเด็กพวกนี้
พอโตขึ้น พวกเค้าจะมีภูมิต้านทาน...ความชั่ว มากกว่าคนในเมืองหลวง เมืองใหญ่
เด็กพวกนี้ โตขึ้นจะฉลาดเฉลียว เชี่ยวชาญ การเรียน การหาเงิน เท่าพวกคนในเมืองมั้ย ก็ไม่รู้
แต่ที่แน่ ๆ พวกเค้าเป็น.... คนดี ในเนื้อแท้มากกว่า
 
พวกชาวบ้าน เค้าตื่นแต่เช้ามืด เอาสิ่งที่ดีที่สุด ที่เค้ามีมา....ใส่บาตร
ยกขึ้นเหนือหัว ตั้งจิตอธิษฐาน... 
...... นิพพานะ สัพพะโส นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ
ขอให้ได้ถึงซึ่ง.... พ ร ะ  นิ พ พ า น  เทอญ.

อนณ นิศารัตน์
โทร-ไลน์  0931499564
ใส่โค้ด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่