แฟนมีภาระเยอะ เรารักอยู่แต่มองไม่เห็นชีวิตครอบครัวตัวเอง

มีปัญหาคิดไม่ตก ขอเริ่มเล่าก่อนนะคะ แฟนเราเป็นลูกคนโต แม่เขามีลูก 3 คน คนโตคือแฟนเรา  คนที่สองเป็นน้องผู้หญิงทำงานอยู่แถวบ้านจบปริญญาวิทย์อุตสาหกรรม อายุ 25-26 แต่ทำงานเงินเดือนเก้าพันบอกไม่อยากไปหางานโรงงานทำจบด้านที่ทำงานโรงงานแม่แฟนว่าจะให้ไปเรียนปริญญาอีกใบจะได้หางานด้านอื่นแต่ปัจจุบันยังไม่ได้เรียนแค่คิดๆไว้ ส่วนคนสุดท้องกำลังเรียนปี 2จะขึ้นปี3 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ค่าใช้จ่ายน้ำ-ไฟ ค่าผ่อนคอนโด ค่าอาหารเสริมแอมเวย์ของแม่แฟนเราออกเองทั้งหมด ต่อมาแฟนเรากำลังเริ่มทำธุรกิจโดยแฟน เราและน้องที่ทำงานเก่าตกลงออกมาเปิดบริษัทร่วมกันไม่ใช่กงสี และแม่เอาเงินตัวเองให้ยืม 50,000 เงินลูกพี่ลูกน้อง50,000มาให้ยืม  (ขออภัย พึ่งทราบภายหลังเงินน้องสาว20,000 แม่ 30,000 เงินลูกพี่ลูกน้อง 50,000 ) และเงินแฟนเองอีกส่วนใหญ่เพื่อมาเปิดธุรกิจมาได้ปีกว่าๆแล้ว โดนแม่ทวงถามว่า"ได้กำไรหรือยังตลอดจะได้คืนมาให้บ้างจะได้รวยบ้าง" พอแฟนจะคืนจริงเขาบอกเอาไว้ก่อนแซวเล่นยังไม่ได้จะเอา แต่พอมีเรื่องอะไรทะเลาะขัดใจ หรือบ้านแฟนพากันไปเที่ยวไหนต้องจ่ายค่าอาหารค่าต่างๆ เขาจะแซวแฟนตลอดทั้งญาติทุกคนว่า "ที่นั่งอยู่นี่เจ้าหนี้ทั้งโต๊ะเลยนะ จะรวยหรือยัง" บางทีก็บอกว่า "เอาญาติๆไปทำงานด้วยสิ (ญาติที่ให้ยืมเงินพูด)มีตำแหน่งอะไรบ้าง เอาเราไปเป็นทนายประจำบริษัทไหม หรือเอาแม่เราไปเป็นแม่บ้านไหม"   ต่อมาแฟนเราจะเช่าบ้านเพื่อทำออฟฟิศ มีพนักงานคือเรา แฟน และพนักงานอีก 1 คน แต่พอดีได้เช่าบ้านเดี่ยวแม่แฟนเลยบอกจะย้ายจากคอนโดที่ผ่อนอยู่และมาอยู่บ้านที่เช่าทำออฟฟิศด้วยโดยให้บริษัทจ่ายทั้งหมด (แม่แฟนบอกว่าคนอื่นที่รู้จักเขาเป็นเจ้าของยังเอาเงินออกมาใช้ได้ซื้อโน่นนี่ได้เลย)และจะชวนญาติที่เข้ามาเรียนและทำงานเช่าที่หอในกรุงเทพอีก 2-3 คนมาอยู่ด้วย เนื่องจากคิดว่าสมัยตัวเองสาวๆยังอยากให้มีบ้านที่กรุงเทพเพื่อไว้ญาติๆมาอยู่คงดี ตัวแม่เลยอยากให้รุ่นลูกหลานญาติทุกคนไม่ว่าใครมาอยู่บ้านเช่านี้รวมกัน  อีกหน่อยมีบ้านแม่ก็อยากได้บ้านหลังใหญ่ๆหน่อยมีที่ปลูกผัก ปลูกต้นไม้ ให้มาอยู่รวมกันใครไม่มีที่อยู่ก็มาอยู่  **เรากับแฟนยังไม่ได้แต่งงานกัน (เพียงวางแผนเก็บเงินแต่งงานกัน)เราเคยถามอนาคตกับเขา เขาบอกระหว่างนี้ต้องซื้อบ้านให้แม่ก่อน อยู่รวมกับแม่ไม่ได้เหรอ ** เราก็อยู่ได้นะ แต่อยากได้ความส่วนตัวอยากมีบ้านเราเองบ้างเราขอให้เขามากู้ร่วมกับเราซื้อบ้านเล็กๆไม่แพง ทาวเฮ้าส์ก็ได้ เขาก็บอกต้องเอาบ้านให้แม่ก่อน ปล.เรากับแฟนและน้องพนักงานที่ทำงานเก่าตกลงออกมาเปิดบริษัทช่วยกัน (ไม่ใช่ธุรกิจกงสีของแฟน)เราอายุสามสิบกว่าแล้วออกงานมาช่วยทำบัญชีภาษีให้เขา งานเอกสารทุกอย่างงานระบบHR บัญชี การเงิน จัดซื้อจัดจ้าง เป็นเซลบ้างบางที ทำคนเดียวทั้งระบบในองค์กร แฟนกับน้องทำงานออกหน้างาน (เรารู้สึกเครียด มองไม่เห็นอนาคต ณ ตอนนี้เขาบอกแค่รอก่อนเดี๋ยวก็ดีขึ้น เคลียร์ทุกอย่างให้แม่ก่อน)  เพื่อนๆว่าเราควรเอาไงดีคะ  เครียดมาสักพักแล้วค่ะ เรารู้สึกความต้องการฝ่ายครอบครัวเขาเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ แม่แฟนไม่เคยพูดหรือบอกให้น้องมาช่วยกัน บอกเสมอว่าเป็นคนโตก็เหมือนพ่อของน้องต้องดูแลแม่ดูแลน้อง แม่ทำงานมาเหนื่อยแล้วอยากพักสักที (พนักงานประจำบริษัทแห่งหนึ่ง) แม่อายุประมาณ 53 ส่วนน้องสาวเงินเดือน 9,000 แม่ให้ทำติดที่คอนโดดีกว่าขึ้นรถไปทำงานที่อื่น น้องชายคนเล็กก็ต้องส่งเรียนให้จบ ถ้าจบก็ว่าจะให้ทำงานที่บริษัทถ้าหางานทำเองไม่ได้ แม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพแอมเวย์ทุกอย่าง วิตามินแอมเวย์ รายจ่ายหลายทาง ไม่เคยช่วยประหยัด  เราเอาไงกับชีวิตเราดีคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
เราว่าเริ่มจากจัดสรรปันส่วนรายได้ให้ชัดเจนก่อนค่ะ เงินที่เข้ามา ตามหลักแล้วไม่ว่าจะเป็นธุรกิจครอบครัวยังไงก็ตาม ต้องแบ่งจ่ายเงินเดือนแต่ละคน เงินเดือนส่วนเงินเดือน กำไรส่วนกำไร
ทำให้เหมือนทุกคนทำงานประจำมีเงินเดือนประจำ ส่วนที่จะคืนให้แม่กับญาติก็แบ่งออกมาจะคืนเดือนละเท่าไหร่ เขาไม่เอาก็เก็บแยกไว้ ใส่บัญชีต่างหาก ให้เขารู้เลยว่าเนี่ยคืนแล้วนะอยู่ตรงนี้จะมาเอาเมื่อไหร่ก็มาเอา ควรจะมีปันผลหรือกำไรให้เขาด้วย
ในส่วนตัวของคุณ 2 คนพอแยกเงินเดือนแต่ละคนแล้ว ก็เอาเงินส่วนหนึ่งมารวมกันเป็นกองกลางใช้จ่ายด้วยกัน อีกส่วนหนึ่งรวมกันเป็นเงินเก็บออม เหมือนครอบครัวที่ทำงานประจำทั่วๆไปเลยค่ะ
ถ้าทำแบบนี้อะไรมันจะชัดเจนขึ้นมากค่ะ ถ้าแฟนคุณอยากซื้อบ้านให้แม่ก่อนก็ให้เขาเอาเงินส่วนของเขาซื้อ
ถ้ายังมีเหลือพอก็เอามาแชร์กับคุณเพื่อซื้อบ้านกับคุณอีกหลังนึง ต่างหาก

แยกให้มันเป็นระบบระเบียบชัดเจนค่ะดีทั้งกับบริษัทและกับส่วนตัวคุณ 2 คน

แต่ถ้าคุยกับแฟนว่าจะจัดการแบบนี้แล้วแฟนไม่โอเคแนะนำให้เริ่มต้นจากการออกไปทำงานประจำที่อื่นก่อนเลยค่ะ หน้าที่ส่วนของคุณให้จ้างคนเอาแยกตัวเองออกมาก่อนเลย เพราะเราคิดว่า ต่อให้คุณอยากจะเฟสตัวเองออกมามากแค่ไหนมันก็คงใช้เวลาพอสมควรแหละ ไม่ได้แยกจากกันมาง่ายๆ หรอกเริ่มจากทำงานเอง มีชีวิตของตัวเอง มีเงินเดือนของตัวเองก่อน ขั้นตอนต่อไปมันก็จะง่ายขึ้นเยอะ

ระหว่างนี้ก็พยายามกันเงินส่วนหนึ่งที่คิดว่าควรจะเป็นส่วนของคุณออกมาเก็บไว้เป็นส่วนตัวบ้างค่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวคุณจะไม่เหลืออะไรเลย
ความคิดเห็นที่ 7
ไม่ได้อยากพูดอะไรที่เป็นการยัดเยียดให้เลิกกันหรอกนะคะ   #####แต่เลิกเถอะค่ะ  อะไรๆก็แม่ อนาคตไม่ได้มีเราอยู่ในนั้นเลย  ตอนนี้ยังไม่แต่งยังหนักขนาดนี้  แต่งไปเป็นเมียจะขนาดไหน   อึดอัดนะคะ คับที่อยู่ได้ คับใจสักวันจะอกแตกตายค่ะ
ความคิดเห็นที่ 11
ออกมาหางานทำที่อิ่น ก่อนเวลาจะผ่านไปจนคุณกลับเข้าระบบยากด้วยอายุ

แยกกันอยู่ แยกกันทำงาน ซักพักจะเห็นเองว่าควรทำยังไง

ยังไงคุณก็เป็นลำดับท้ายๆที่เค้าให้ความสำคัญอยู่แล้ว ออกมาดิ้นรนเองดูอาจจะเจออะไรดีๆมากกว่านะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่