8 ภารกิจยานที่สำคัญสำหรับการค้นพบใหม่ของ NASA ที่ได้ขยายเวลาต่อ




(ฝูงยานต่างๆ ของ NASA ที่จะไปยังดาวเคราะห์ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2022 Cr. NASA)

หลังจากการประเมินอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว NASA ได้ขยาย 8 ภารกิจด้านวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์มีมาอย่างยาวนานนี้ออกไป เนื่องจากประสิทธิภาพทางวิทยาศาสตร์ของพวกมันและศักยภาพในการพัฒนาความรู้และความเข้าใจในระบบสุริยะของเราและอื่น ๆ ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

การตัดสินใจที่จะรักษาและขยายขอบเขตภารกิจเหล่านี้ ได้รับการตรวจสอบโดยคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระจากภาควิชาการ อุตสาหกรรม และองค์การนาซ่าเองประมาณ 50 คน เพื่อประเมินผลตอบแทนทางวิทยาศาสตร์ของข้อเสนอที่เกี่ยวข้อง (มีคณะกรรมการตรวจสอบอิสระ 2 คนคอยดูแลกระบวนการ) ซึ่งจากการประเมินของคณะกรรมการ ได้ตรวจสอบแล้วว่าภารกิจทางวิทยาศาสตร์ทั้ง 8 นี้ มีศักยภาพอย่างมากที่จะนำเสนอการค้นพบใหม่ๆ และตอบคำถามทางวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจใหม่ ๆ ต่อไป

นอกเหนือจากการมอบผลประโยชน์เชิงโปรแกรมที่สำคัญแก่ NASA แล้ว หลายภารกิจเหล่านี้ยังให้ประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ในหลายสาขาให้กับองค์กร Science Mission Directorate (SMD) รวมถึงยังใช้เป็น data relays (ติดตามและถ่ายทอดข้อมูล) สำหรับยานลงจอดและยานสำรวจพื้นผิวดาวอังคารด้วย ตลอดจนสนับสนุนโครงการริเริ่มอื่นๆ ของ NASA เช่น เป็นบริการบรรทุกสินค้าเชิงพาณิชย์ของดวงจันทร์ (CLPS)
 
Lori Glaze ผู้อำนวยการแผนกการวิจัยระบบสุริยะ (Planetary Science Division) ของสำนักงานใหญ่ของ NASA ใน Washington กล่าวว่า ภารกิจที่ขยายออกไปทำให้เรามีโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากการลงทุนขนาดใหญ่ของ NASA ในการสำรวจ ให้สามารถดำเนินการด้านวิทยาศาสตร์ได้อย่างต่อเนื่องโดยมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าการพัฒนาภารกิจใหม่อย่างมาก อย่างไรก็ตาม ยังมีสองภารกิจเสริมคือ MAVEN และ OSIRIS-REx กับผู้ตรวจสอบหลัก
คนใหม่ (PIs) ทั้งนี้ ปัจจุบัน กองวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ของ NASA ดำเนินการยานอวกาศ 14 ลำทั่วทั้งระบบสุริยะ โดยมี 12 ภารกิจในการกำหนดและดำเนินการ และเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานด้านอวกาศระหว่างประเทศอีก 7 แห่ง

1) Mars Science Laboratory / MSL 
The Mars Science Laboratory หรือยานสำรวจ Curiosity ที่ลงจอดใน Gale Crater บนดาวอังคารในปี 2012 ได้ขับบนพื้นผิวดาวอังคารมากกว่า 16 ไมล์ (27 กม.) เพื่อทำความเข้าใจว่าน้ำและสภาวะที่อาจเกิดขึ้นสำหรับชีวิตเกิดขึ้นในภูมิภาคนั้นของโลกได้อย่างไร ภารกิจครั้งที่สี่ MSL นี้จะขยายออกไปอีก 3 ปีในการปีนขึ้นที่สูงของ Mount Sharp(Aeolis Mons) เพื่อสำรวจชั้นที่มีซัลเฟตที่สำคัญซึ่งจะให้ข้อมูลเชิงลึกที่ไม่เหมือนใครเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของน้ำบนดาวอังคาร

2) Lunar Reconnaissance Orbiter / LRO 
Lunar Reconnaissance Orbiter หรือยานยานสำรวจดวงจันทร์ไร้มนุษย์ LRO ที่เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2009 เพื่อรวบรวมข้อมูลโดยละเอียดและสภาพแวดล้อมของดวงจันทร์ ภารกิจดำเนินการศึกษาพื้นผิวและธรณีวิทยาของดวงจันทร์นี้จะขยายต่อไปอีก 3 ปี สำหรับการทำแผนที่รายละเอียดพื้นผิวในความละเอียดสูง การติดตามภารกิจการลงจอด (หรือการชน) ในอดีตและปัจจุบัน และการค้นหาแหล่งน้ำน้ำแข็งบนดวงจันทร์บริเวณใหม่ๆ รวมถึงบริเวณที่เงาถาวร (PSR) ใกล้ขั้วที่อาจพบน้ำแข็งในน้ำ นอกจากนี้ NASA วางแผนจะใช้ข้อมูลจากยาน LRO สนับสนุนทางโปรแกรมการลงจอดบนดวงจันทร์ของ Artemis ซึ่งวางแผนจะบู๊ตบนพื้นผิวไม่ช้ากว่าปี 2025 สำหรับความพยายามของ NASA ในการกลับสู่ดวงจันทร์ด้วย

 
3) OSIRIS - APEX / OSIRIS-REx 
ภายในปี 2023 ยานอวกาศ OSIRIS-REx ที่เริ่มต้นขึ้นในปี 2016 สำหรับการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับวัตถุที่เป็นหิน เพื่อช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ได้เรียนรู้เพิ่มเติมว่าแสงแดดสามารถเปลี่ยนตำแหน่งของดาวเคราะห์น้อยได้อย่างไร (ในภารกิจ Origins, Spectral Interpretation, Resource Identification, Security-Regolith Explorer) กำลังเดินทางกลับมายังโลกเพื่อส่งตัวอย่างดาวเคราะห์น้อย Bennu ที่รวบรวมได้ในปี 2020 จากนั้นยานจะถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยัง Apophis ดาวเคราะห์น้อยใกล้โลกที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1,200 ฟุต (ประมาณ 370 ม.) ซึ่งจะเข้าใกล้โลกอย่างปลอดภัยในระยะ 20,000 ไมล์ (32,000 กิโลเมตร) ในปี 2029

การเปลี่ยนเส้นทางนี้เป็นภารกิจที่ขยายออกไป และจะได้รับชื่อใหม่ว่า OSIRIS-Apophis Explorer (APEX) เพื่อสะท้อนถึงเป้าหมายใหม่ โดยมีแผนจะศึกษาการเปลี่ยนแปลงของดาวเคราะห์น้อยที่เกิดจากการเคลื่อนตัวเข้าใกล้โลก รวมถึงการใช้เครื่องขับแก๊สของยานอวกาศเพื่อพยายามเคลื่อนตัวเข้าไปศึกษาฝุ่น - หินก้อนเล็กๆ ทั้งบนพื้นผิวและข้างใต้ของ Apophis 
 
OSIRIS-APEX จะมีผู้ตรวจสอบหลักคนใหม่คือ Daniella DellaGiustina นักวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ที่มหาวิทยาลัยแอริโซนา ซึ่งเป็นรองผู้ตรวจสอบหลักในภารกิจ OSIRIS-REx ใหม่ ส่วนผู้ตรวจสอบหลักของ OSIRIS-REx เดิมคือนักวิทยาศาสตร์ด้านดาวเคราะห์ Dante Lauretta จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ซึ่งจะเปลี่ยนไปวิเคราะห์ตัวอย่างจาก Bennu หลังจากที่พวกมันกลับมายังโลก

4) MAVEN 
ภารกิจ Mars Atmosphere and Volatile Evolution (MAVEN) เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2013 เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงในบรรยากาศของดาวอังคาร
ที่นักวิทยาศาสตร์สงสัยว่า การค่อยๆ พังทลายของชั้นบรรยากาศเหนือยุคสมัยอาจทำให้น้ำไหลน้อยลงที่พื้นผิวดาวอังคารเมื่อความดันลดลง ภารกิจนี้จะถูกขยายเวลาต่อไปอีกสามปี สำหรับการวางแผนที่จะศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างชั้นบรรยากาศของดาวอังคารกับสนามแม่เหล็กในช่วงที่ดวงอาทิตย์มีค่าสูงสุดที่กำลังจะมาถึง

NASA กล่าวว่า การสังเกตการณ์ของ MAVEN เมื่อระดับกิจกรรมของดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้นจนถึงรอบสูงสุด 11 ปีจะทำให้เราเข้าใจลึกซึ้งขึ้นว่าชั้นบรรยากาศและสนามแม่เหล็กของดาวอังคารมีปฏิสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์อย่างไร โดยภารกิจ MAVEN ที่ขยายออกไปนี้จะเป็นภารกิจแรกของผู้ตรวจสอบหลักคนใหม่คือ Shannon Curry นักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับดาวเคราะห์ที่ Space Sciences Laboratory (SSL) มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียใน Berkeley (ก่อนหน้านี้เดิมเป็น Bruce Jakosky จากห้องปฏิบัติการฟิสิกส์บรรยากาศและอวกาศ - LASP ที่มหาวิทยาลัย Colorado Boulder เป็นผู้ตรวจสอบหลัก ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึง 7 ปีของการปฏิบัติงานในวงโคจร)

5) InSight Mars
นับตั้งแต่ InSight ลงจอดบนดาวอังคารในปี 2018 ภารกิจสำรวจภายในของมันโดยใช้ Seismic Investigations, Geodesy and Heat Transport (InSight) ได้ถูกดำเนินการด้วยสถานีตรวจสอบคลื่นไหวสะเทือนเพียงแห่งเดียวที่อยู่นอกโลกนี้ แม้จะมีประโยชน์ในการรับข้อมูลเกี่ยวกับ "marsquakes" เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะภายในและวิธีที่วิวัฒนาการข้ามยุคของมัน แต่การตรวจสอบคลื่นไหวสะเทือนของ "marsquakes" ก็ทำให้เกิดข้อจำกัดเกี่ยวกับการก่อตัว และกิจกรรมปัจจุบันของดาวอังคาร

แม้ตอนนี้ยานอวกาศยังทำงานได้ดี นอกจากความล้มเหลวของโพรบใต้พื้นผิวที่เรียกว่า "mole" และการสะสมฝุ่นทีละน้อยบนแผงโซลาร์เซลล์ที่อาจทำให้สถานะพลังงานสั่นคลอน แต่ยานอวกาศยังมีเวลาอีกสองสามเดือนในภารกิจของมันจนถึงสิ้นปี 2022 ซึ่งก็ไม่นานนัก ดังนั้น หากยาน InSight ยังคงแข็งแรง ภารกิจนี้จะได้รับการขยายเวลาเพื่อติดตามแผ่นดินไหวและสภาพอากาศของดาวอังคารต่อไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฝุ่นที่สะสมบนแผงโซลาร์เซลล์ มีผลต่อการผลิตพลังงานไฟฟ้าของ InSight ที่จะต่ำได้ ถ้าเป็นอย่างนั้น ภารกิจอาจไม่น่าจะดำเนินการต่อไปตลอดระยะเวลาของภารกิจที่ขยายออกไปในปัจจุบัน เว้นแต่จะสามารถกำจัด 'ฝุ่น' บนดาวอังคารออกจากแผงโซลาร์ของมันได้


6) New Horizons 
New Horizons เปิดตัวในปี 2006 และได้ไปเยือนสองโลกแล้วคือ บินผ่านดาวเคราะห์แคระพลูโตในปี 2015 และวัตถุในแถบไคเปอร์ (KBO) Arrokoth (2014 MU69)ในปี 2019 โดยยานสามารถดำเนินการสังเกตการณ์แบบหลายสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับระบบสุริยะรวมทั้งการศึกษา  heliophysics และ astrophysics ของ NASA ทำให้ได้รับการขยายเวลาครั้งที่สอง โดยภารกิจนี้คาดว่าจะบินได้ไกลถึง 63 หน่วยดาราศาสตร์ /AU (หรือระยะทางโลก-ดวงอาทิตย์ ) ในอีกสามปีข้างหน้า ซึ่งจะยังคงสำรวจระบบสุริยะที่อยู่ห่างไกลออกไปจากโลก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป (และหากมีการวางแผนบินผ่านอื่น) ยังคงอยู่ภายใต้การสรุป ซึ่ง NASA กล่าวว่า รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนวิทยาศาสตร์ของยานจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง


7) Mars Odyssey 

ยานอวกาศ Mars Odyssey เริ่มทำงานในปี 2001 และยังคงทำงานได้ดีในทศวรรษที่สามในอวกาศ ในขณะที่ NASA เตือนว่าภารกิจดังกล่าวมีเชื้อเพลิงจรวดเหลือน้อยแล้ว แต่ก็หวังว่าจะใช้เวลาอีกสามปีจากภารกิจด้านวิทยาศาสตร์ที่ขยายออกไป โดยภารกิจที่ขยายออกไปของ Mars Odyssey นี้จะทำ การศึกษาความร้อนของหินและน้ำแข็งใต้พื้นผิวดาวอังคาร ตรวจสอบสภาพแวดล้อมการแผ่รังสี และดำเนินการรณรงค์ติดตามสภาพอากาศในระยะยาว
นอกจากการเป็นนักวิทยาศาสตร์จากระยะไกลแล้ว Mars Odyssey ยังทำหน้าที่เป็นตัวถ่ายทอดข้อมูลแบบเรียลไทม์จากยานอวกาศลำอื่นๆ ของดาวอังคารบนพื้นผิว ในการส่งการสื่อสารกลับมายังโลกด้วย
 

8) Mars Reconnaissance Orbiter / MRO 

Mars Reconnaissance Orbiter หรือ MRO เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2005 และให้มุมมองระยะยาวของพื้นผิวของดาวเคราะห์สีแดง มันทำแผนภูมิการเปลี่ยนแปลงในเนินทราย แผ่นน้ำแข็ง และคุณสมบัติอื่น ๆ ทั้งยังคอยจับตาดูภารกิจบนดาวเคราะห์แดงที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งให้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับกระบวนการบนพื้นผิวดาวอังคาร ในภารกิจที่ขยายเวลาครั้งที่หกต่อไปอีกสามปีของ MRO นี้ จะศึกษาวิวัฒนาการของพื้นผิวดาวอังคาร น้ำแข็ง ธรณีวิทยาที่เคลื่อนไหว และบรรยากาศและสภาพอากาศของดาวอังคาร นอกจากนี้ MRO จะยังคงให้บริการถ่ายทอดข้อมูลที่สำคัญแก่ภารกิจอื่นๆ ของดาวอังคารด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สูญเสียน้ำหล่อเย็นที่ปิดหนึ่งในสองสเปกโตรมิเตอร์ CRISM (Compact Reconnaissance Imaging Spectrometer for Mars) เครื่องมือหนึ่งของ MRO จะปิดตัวลงโดยสมบูรณ์
 

Cr.https://solarsystem.nasa.gov/news/2222/exploration-extended-for-8-planetary-science-missions/
Cr.https://www.space.com/nasa-extends-8-solar-system-missions-mars-asteroids/ Elizabeth Howell
Cr.https://www.nasa.gov/feature/nasa-extends-exploration-for-8-planetary-science-missions
Cr.https://scitechdaily.com/nasa-extends-exploration-for-8-planetary-science-missions-substantial-potential-for-new-discoveries/

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่