คดีร่วมกัฉ้อโกง

คดีร่วมกันฉ้อโกง(อาญา)

ฝ่ายโจทย์ได้ให้ทนายยื่นฟ้องต่อศาลโดยตรงโดยมีจำเลย3คนดังนี้
1 พี่สาวของแฟนเก่า (คนก่อเรื่อง)
2น้าสาวของแฟนเก่า (คนเปิดบช.ให้พี่สาว)
3.เรา(จำเลยที่3) คนกลางโอนเงิน

โดยในใบฟ้องได้ระบุว่า จำเลยทั้ง3บังอาจกระทำความผิดฐานฉ้อโกงโดยวางแผนหลอกลวงโจทย์ว่าเป็นนายหน้าขายรถยนต์มือ2โดยหากโจทย์นำเงินมาร่วมลงทุนกับจำเลยทั้ง3จะได้รับกำไรปันผลร้อยละ6บาทต่อ1วันซึ่งเป็นความเท็จ

ความจริงจำเลยทั้ง3ไม่ได้ประกอบธุระกิจตั่งแต่แรกอยู่แล้วและไม่มีเจตนานำเงินโจทย์ไปประกอบธุรกิจดังกล่าว แต่เป็นกลอุบายที่จำเลยทั้ง3สร้างขึ้นอย่างเป็นขั้นตอนให้โจทย์หลงเชื่อเพื่อให้โจทย์ส่งมอบเงินให้แก่จำเลยทั้ง3เท่านั้น และโดยการหลอกลวงดังกล่าวทำให้โจทย์หลงเชื่อโดยมีการส่งมอบเงินให้แก่จำเลยทั้ง3คนโดยการโอนเงินทั้งหมด 13ครั้งจำนวน1,429,000บาท ดังนี้

1)10 กค.63         100,000
2)11 ก.ค.63        100,000
3)12.ก.ค.63        200,000
4)15.ก.ค.63          76,000
5)17 ก.ค.63        200,000
6)19 ก.ค.63          13,000
7)21 ก.ค.63        100,000
8)7 ส.ค. 63            50,000
9)8 ส.ค.63             60,000
10)10 ส.ค.63       200,000
11)11 ส.ค.63       180,000
12)12. ส.ค.63        50,000
13)14 ส.ค. 63      100,000

ภายหลังมีการโอนเงินคืนเป็นจำนวน 342,400บาท
เหลือยอดเสียหาย1,086,600บาท

จากรายละเอียดข้างบนนี้นะคะ
เราไม่รุ้เรื่องเลยค่ะว่าเป็นการหลอกให้ลงทุน เพียงแต่พี่สาว(1)บอกว่าช่วยโอนค่าแชร์ให้พี่หน่อยแค่นั้นเองเราก็ไม่ได้เอะใจอะไรเลย

เหตุเกิดเดือนกรกฎาคม แต่เราดูที่สแตนเมนเรามีเงินเข้าช่วงเดือนสิงหาคมค่ะ ตามที่เราพิมพ์เลยค่ะ
เรามั่นใจมากว่าเราไม่เกี่ยวข้องเลย
เมื่อไหร่ที่โจทย์โอนมาเราก้โอนไปให้พี่สาว(1)หรือน้าสาวเราเลย ยกตัวอย่างเช่น

7 ส.ค. โจทย์ได้โอนเงินมาบช.เรา 50,000บาท
ิเราก็โอนเงินไปให้น้าสาว(2)เราเลยทันที 50,000บาท

เป็นอย่างงี้ทุกรอบเลยค่ะ หลักฐานที่เรามีคือ
สแตนเม้น กับ สลืปการโอนเงินทุกรอบ

เรามาทราบเรื่องตอนมีใบฟ้องมาเมื่อเดือนตุลาคม63
อยากจะถามผู้รุ้ว่าเราผิดมั้ยค่ะ บช.ที่เกิดเรื่องเราก็ใช้อยู่ปกติค่ะ เราพยายามติดต่อพี่สาวแฟนเก่าก้ติดต่อได้เค้าบอกว่าจะจัดการเอง เราก็เห็นนะคะว่าแกก็ทักมาบอกเดินเรื่องอยู่ไม่ต้องห่วงเพราะเราไม่ผิด 

จากนั้นก้มีใบนัดศาลใบแรก(นัดไต่สวน)
ก็ยังติดต่อพี่สาวแฟนเก่าได้ปกติแกว่าให้ทนายไปแทน

มาใบที่2เราก้กังวลละทำไมติดต่อไม่ได้
แต่ใบ2มากะทันหันมาก(มาก่อน2วันนัด)
เราเก็บเงินไม่ทันเลย(ศาลที่กทม. เราอยู่ ตจว.)
เราเริ่มหาแล้วว่ามีทางอื่นมั้ยจนเราได้ดูทางเว็บไซต์เอาว่าเค้าจะนัดอีกวันไหน

จนรู้ว่านัดอีก30พ.ค.65
เป็นหมายเรียก นัดร้อม/สอบคำให้การจำเลย/ตรวจพยานหลักฐาน

คือเราตัดสินใจแล้วว่าจะขึ้นไปอย่างแน่นอนไม่มีทนายเราก็จะขึ้นไปเอาหลักฐานที่เรามีคือสแตนเม้น
กับสลิปการโอนไปให้ศาลดู (เราไม่รุ้เลยว่าต้องทำยังไงแล้ว เรามีเงิน แค่หมื่นเดียวในการไปศาล
(ใช้เวลา2เดือนในการเก็บเงิน)

จากที่อ่านมาขอถามว่า
1. เราผิดมั้ยค่ะ
2.ศาลนัดครั้งล่าสุดเราจะทำยังไงดี เตรียมตัวอย่างไร
3.ถ้าศาลเห็นว่าเรามีความผิดควรทำไง ติดกี่ปี?

ขอบคุณทุกๆท่านล่วงหน้า
หากพิมพ์ข้อความใดผิดก็ขอโทษด้วยนะคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
โจทก์ฟ้องเอง ตอนนัดไต่สวนมูลฟ้องพี่สาวแฟนให้ทนายไปแทน แล้วทนายของคุณล่ะคะได้เซ็นแต่งทนายคนเดียวกันกับพี่ไหม? หรือไม่ได้เซ็นแต่งตั้งทนายไป? ทนายจำเลยที่ 1 ไม่เกี่ยวกับจำเลยที่ 3 นะ ถ้าคุณไม่เกี่ยวข้องจริงก็สามารถจบได้ในการไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าไม่แต่งทนายไปซักค้านก็แย่เลย ศาลคงรับฟ้องไปแล้ว ผิดไม่ผิดไปว่ากันทีหลัง

ถ้าไม่มีทนายก็ต้องไปขอ "ทนายขอแรง" ที่ศาลค่ะ พิมพ์เอกสารหลักฐานของคุณไปจากบ้านให้เรียบร้อย ทีนี้ถ้าศาลรับฟ้องแล้ว คุณกลายเป็นจำเลยแล้ว การไปศาลต้องมีเงินประกันตัวไปนะคะ ถ้าไม่มีเงินสด หลักทรัพย์ หรือนายประกันไปด้วย การไปศาลหลังจากศาลรับฟ้องแล้วคือคุณเดินไปเข้าคุกฝากขังรอการพิจารณาคดีค่ะ และถ้าคุณไม่ไปตามนัดศาลก็จะมีหมายจับจากศาลตามมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่