ได้หมายศาล กรณีหนี้บัตรเครดิต ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำบัตรเครดิต

กระทู้สนทนา
   จู่ๆ ก็ได้หมายศาล จากบริษัท ktcพอเปิดดูก็เจอสัญญาเงินกู้ สำเนาบัตรประชาชน และใบแจ้งยอดหนี้ต่างๆ และเอกสารอื่นๆ อีกมากมายที่แนบมากับหมายศาล ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยทำ หรือเขียนสัญญาฉบับนี้ขึ้นมาเลยครับ

    ที่อยู่ในการจัดส่งเอกสารใบแจ้งหนี้ที่เขาแนบมาก็ถูกต้อง  แต่ผมก็ไม่เคยเห็นใบแจ้งหนี้เลย  เพราะถ้าผมเห็นใบแจ้งหนี้ ผมก็คงจะแจ้งปฏิเสธยอดไปตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้ว  สัญญาเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 49 แล้วครับ  พอได้หมายศาลก็โทรไปสอบถามทางบริษัท และได้บอกเรื่องราวปฏิเสธไปหมดแล้ว  แต่เขาก็ยืนยันว่าผมเป็นคนทำสัญญาขึ้นมาจริง  เพราะเขาบอกว่าได้มีการชำระยอดเข้ามาตลอด  จนเมื่อเดือน พ.ย. 53  จึงได้ขาดส่ง  เขาก็ได้ทวงถามมาหลายครั้งแล้ว  แต่ผมก็ไม่เคยได้รับจดหมายทวงถามหนี้อะไรจากเขาเลย   มีได้ฉบับเดียวเมื่อ 13 ก.ค. 55 ซึ่งจดหมายฉบับนี้ได้ส่งไปตามที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน   ส่วนใบแจ้งหนี้และเอกสารอื่นๆ เขาส่งมาที่หอพัก และที่ทำงาน   ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี 49 – ปี 53 ที่เขาส่งใบแจ้งหนี้มาตามที่อยู่ที่ทำงานผมไม่เคยได้รับซักใบเลยครับ  

    ประเด็นหลักๆ ที่เจอในสัญญาก็คือ ลายมือชื่อ และรายละเอียดบางส่วน เช่น เบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อ  บุคคลที่สามารถติดต่อได้  สถานที่รับบัตรกดเงินสด  และที่สำคัญเลย คือ ลายเซ็นต์ไม่ใช่ของผมเลยครับ

    สัญญานี้เป็นสัญญาสินเชื่อพร้อมใช้  และมีบัตรกดเงินสดมาให้ด้วยครับ ยอดหนี้ทั้งหมด 50000 กว่าๆ ครับ

    ได้ขึ้นศาลมา 2 นัดแล้ว  นัดแรกได้ปฏิเสธกับศาลและทนายโจทก์ไปแล้วว่าผมไม่ได้ทำสินเชื่อกับบริษัท ktc ศาลท่านก็ให้เลื่อนเพื่อให้ทั้งโจทย์และจำเลย ไปหาหลักฐานมาเพิ่มเติม

    นัดที่ 2  ทางโจทย์เขายืนยันมาว่าได้โอนเงินเข้าบัญชีผม 10000  บ.   ซึ่งตรงนี้เขาก็โอนเข้ามาจริงๆ ครับ เพราะสเตทเม้นท์ และหมายเลขบัญชีธนาคารที่ใช้ประกอบเอกสารในการสมัครเป็นของผมจริงทุกอย่าง  

    แต่ว่ายอดหนี้ที่เกิดขึ้นในสัญญาฉบับนี้มี 2 ช่องทางครับ  ก็คือ  อนุมัติครั้งแรกจะโอนเงินเข้าบัญชี  และจะมีบัตรกดเงินสดให้อีก 1 ใบครับ   ยอมรับว่าผมไม่ได้ตรวจสอบบัญชีของตัวเองเลยว่าตอนนั้นมีเงินเข้ามา

    ส่วนบัตรกดเงินสด เขาเขียนในสัญญาว่า  ไปรับบัตรที่ฟิวเจอร์ฟาร์ครังสิต ครับ    ผมได้โทรไปเจรจากับบริษัทแล้ว ว่าผมจะชดใช้ยอด 10000 บ. ที่โอนเข้ามา  นอกเหนือจากนั้นผมไม่รับผิดชอบใดๆ  เพราะสัญญาฉบับนี้ผมไม่ได้เป็นคนเขียนขึ้นมาครับ  แต่ทางบริษัทเขาไม่ยอมท่าเดียว  เขาบอกว่าในเมื่อเงินโอนเข้าบัญชีของคุณ  คุณก็ต้องรับผิดชอบ

    ไม่รู้ว่าขึ้นศาลนัดต่อไปจะเป็นอย่างไร  ถ้าตกลงกันไม่ได้  อาจจะต้องถึงขั้นตรวจสอบลายเซ็น  ผมก็อยากให้ตรวจสอบครับ  แต่ว่าค่าใช้จ่ายก็สูง  ผมสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว  ผมทำงานที่นนทบุรี  ต้องเดินทางไปขึ้นศาลที่ขอนแก่น  ค่าใช้จ่ายในการเดินทางแต่ละครั้งก็สูงครับ

    สอบถามท่านผู้รู้ทุกท่านด้วยนะครับ  ผมมีหนทางจะสู้คดีนี้ได้อย่างไรบ้างครับ   แล้วในเรื่องพิสูจน์ลายเซ็นต์เป็นหน้าที่ของโจทก์หรือจำเลยครับ   เพราะทางทนายโจทก์เขาโยนมาให้ผมเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบเอง   ผมอยากให้คดีนี้จบเร็วๆ  วอนผู้รู้ทุกท่านช่วยผมด้วยนะครับ

    ปล. เมื่อประมาณปี 48 ผมเคยสมัครบัตรเครดิตกับหลายบริษัทครับ  บางบริษัทก็ผ่าน  บางบริษัทก็ไม่ผ่าน  แล้วสมัยนั้นยังไม่มีการเซ็นต์รับรองสำเนาที่รัดกุมขนาดนี้  เซ็นแค่  สำเนาถูกต้อง  แค่นั้นเองครับ  ประเด็นนี้อาจจะทำให้เอกสารของผมหลุดไปก็ได้ครับ

แก้ไขคำว่า อัยการ  
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่