>>หลีเป๊ะ 2 วัน 1 คืน<<
8-9 พ.ค. 65
-ผู้หญิงคนเดียว ก็ไปด้ายยยย-
เริ่มจากมีความคิดจะไปหลีเป๊ะมาพักใหญ่ๆ ไม่มีโอกาสซักที แต่มีโอกาสมาทำธุระที่หาดใหญ่ ก็เลยเอาว่ะ ไปเลยดีกว่าแม้จะ แต่ 2 วัน 1 คืนก็ตาม
ขั้นตอนที่ 1
รีวิวตามกระทู้ต่างๆนานา สรุป ดีลซื้อทัวร์ดีกว่าไปคนเดียวแบบเรา (ครั้งแรกด้วยที่ไปคนเดียว) สอบถามไปสัก 3 บริษัท ก็เลือกมาได้ 1 ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ปล.จากที่คุยมา 3 บริษัท 2 บริษัทที่ไม่เลือกคือเค้าไม่ค่อยใส่ใจคนที่เดินทางคนเดียวและ 1 คืนแบบเรา ส่งร.ร.ที่ต้องการไป แต่กลับทำใบจองมาเป็นอีกร.ร. นึง *ใครจองทัวร์ ต้องอ่านรายละเอียดให้รอบคอบในใบจองนะคะ*
นั่นก็คือ This way Travel เรารู้สึกว่าเค้าตอบดี ตอบไม่ช้ามาก ติดต่อโดยโทรไปก่อนและแชทผ่าน fb (บางบริษัท1 คำถาม รอครึ่งวันอ่ะ จบวันยังจองไม่ได้เลย)
ขั้นตอนที่ 2
เลือกดีล ร.ร. ว่าเราสะดวก พอใจ เลือกแบบใน ราคาเท่าไหร่
เราเลือกพักที่ the chic lipe ใกล้ๆ ถนนคนเดิน ไม่ไกลจากเซเว่นนัก ห้องเดี่ยว
ราคา 3070 บาท โดยสิ่งที่ได้คือ
-รถรับส่งที่จากพักหาดใหญ่-ท่าเรือปากบารา
-เรือไปกลับ ท่าเรือปากบารา-เกาะหลีเป๊ะ
-รถรับส่งที่จากท่าเรือปากบารา-สนามบินหาดใหญ่
ไม่ได้ดำน้ำนะ แต่ถ้าดำน้ำ เพิ่ม 600 (ตอนแรกอยากดำมาก แต่พอมาถึงเกาะจริงๆ ดีแล้วที่ไม่ดำเพราะเหนื่อยมาก)
โอนเงินเรียบร้อยรอวันเดินทาง~~~
วันก่อนเดินทาง 1 วัน ทางทัวร์จะแจ้งว่าคนขับรถจะโทรหาเพื่อนัดหมายสถานที่ และ เวลา
วันเดินทาง 8 พ.ค. 2565
เราเริ่มเดินทางจากตัวเมืองหาดใหญ่ โดยรถมารับถึงที่พัก พี่คนขับก็จะโทรมานัดก่อนล่วงหน้าก่อน 1 วัน ของเราพี่บอก 8.30 แต่มาถึงจริง 8.15 รีบเลยจ้าาาา นึกว่ารถตู้คนจะไม่เยอะ ขึ้นไปปุ๊บคนเต็มเลยจ้า รอชั้นคนเดียว จากนั้นรถจะไปแวะรับผู้โดยสารที่สนามบินด้วย ระหว่างทางจะมีแวะพักที่ปั๊ม 1 ครั้ง แล้วเดินทางต่อจนถึงท่าเรือปากบารา ใช้เวลาเดินทาง 8.30-11.00 โดยประมาณ
ถึงแล้วจ้าาาาา เราก็ลงรถเอากระเป๋า ไปรับตั๋วเรือที่จองไว้ของทัวร์รับมารับที่ sea @ holiday
จนท จะทำการให้ตั๋วเรือ และอธิบายว่าต้องไปประตูไหน มีตั๋วเรือขากลับมาด้วยเก็บรักษาให้ดีนะคะเพราะต้องใช้ยื่นวันกลับ แต่ จนท ก็แจ้งว่าจะถ่ายรูปไว้ก็ได้เผื่อหาย
ไปค่ะเดินทางเข้าด้านใน ต้องเปิดหลักฐานการได้วัคซีนครบอย่างน้อย 2 เข็มให้ดูด้วย จากนั้นจะมีโต๊ะเสียค่าทำเนียมผ่านทางและค่าอุทยาน รวมแล้ว 60 บาท
เข้ามาเรียบร้อยเราก็ไปแลกตั๋วเรือ ประตู 1 ซึ่งมีอยู่ 3 โต๊ะ เราก็ยืน งงๆ พักหนึ่ง แล้วก็มี จนท ประจำโต๊ะ หนึ่งในนั้นช่วยบอกว่าให้ยื่นโต๊ะริมสุดติดประตู แลกเสร็จจะได้บัตรเรือspeed boat มา
ได้เรียบร้อยนั่งรอประกาศเรียก เค้าจะแจ้งชื่อเรือspeed boat บัตรสีxxx ไปที่ประตูxxx ไปวางของ ณ จุดที่เค้าแจ้ง และยืนรอเค้าเรียกคิวตามหมายเลขที่เราได้ค่ะ
ของเราใช้เวลานานพอควร เรายืนรอกลางแดด ซึ่งร้อนจริงๆ เพราะไม่รู้ว่าเค้าจะเรียกขึ้นเรือตามคิวรึป่าว เลยต่อแถวไปก่อน แต่แนะนำว่า วางของแล้วหาที่ร่มค่ะ เดี๋ยวเค้าเรียกตามเบอร์
ขึ้นเรือปุ๊บหาที่นั่งจ้า ตามใจชอบ ขึ้นก่อนเลือกก่อน
ประสบการณ์เลือกที่นั่งบนเรือ ของเราส่วนตัวนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ สำหรับเรานะอ่านรีวิวไปมีคนบอกให้นั่งตรงกลางจะได้ไม่โยกมาก ไม่ไหวจ้า เกือบตายตอนใกล้ๆถึงเกาะ ถ้าให้เราแนะนำ เลือกที่นั่งที่เห็นวิว ลมพัดถึง เช่น หัวหรือท้ายเรือ เพราะตรงกลางมองไม่เห็นวิวไรเลย ลมก็ไม่ค่อยถึง
รอบขาไปของเรานี่คนบ่นกันอุบอิบว่าเมา ไม่ไหว มีคนไม่ลงมาถ่ายรูปเกาะไข่เยอะมาก ลงมาไม่ถึงครึ่งลำ
ซึ่งกว่าเรือจะออกก็ใช้เวลาสักพัก จะมึนๆก็คลื่นที่ตีเรือโคลง ก็ตอนรอบนเรือนี่แหละ เพราะฉะนั้นสิ่งจำเป็นคือ ***ยาดม ลูกอม ยาแก้เมารถ *** ขีดเส้นใต้ 3 เส้น ดอกจันทร์ 3 ดอกค่ะ!!!
เรือรอบที่เรานั่งจะแวะ เกาะตะรุเตา และ เกาะไข่
เกาะตะรุเตา : ที่เราไปคนเยอะมาก ก็ถือว่ามานั่งพัก ชมวิว
เกาะไข่ : คนเริ่มเมาเรือกันเยอะ เมฆฝนเริ่มตั้งเค้า จนคนบนเรือเราหลายคนไม่อยากลง และบอกให้ออกเรือไปเลย แต่สุดท้ายก็จอดเพราะมีคนต้องการลง และคนขับเรือแจ้งว่าลงได้ เราว่าลงเถอะมันสวยนะ น้ำใส ทรายขาว แอบมีทะเลแหวกน้อยๆด้วย
เดินทางต่อจนมาถึงแล้วววววว หลีเป๊ะ เมาเรือตอนจะถึงเกาะ เกือบตาย ถึงปุ๊บรีบลงเลยจ้าาา ถึงประมาณ 14.30
รอพี่เค้าขนของลงมาจากเรือ แล้วก็เข้าที่พัก โดยของเราในแชทแจ้งว่าจะมี จนท มารับ รอพักใหญ่ ฝนเริ่มลงเม็ด มีพี่ๆไม่รู้เป็น จนท ส่วนไหน เค้าก็คอยถามเพราะเห็นเรามาคนเดียว สรุปพัก The Chic ไม่มีคนมารับนะคะต้องหาtaxi ไปค่ะ โดยพี่เค้าก็ช่วยเราโทรตามtaxi ให้ด้วย อันนี้แล้วแต่ที่พักนะคะ ถามกันให้ดีๆ
Taxi บนเกาะ เหมาจ่าย 50 บาท ไม่ว่าไปไหน
เบอร์พี่taxi จะให้ไว้ เผื่อเราให้เค้าไปรับที่ไหน สำหรับเราพี่เค้าก็แนะนำดีนะ ถามเค้าเค้าก็ตอบแนะนำโน่นนี่
ถึงที่พัก check in ประมาณ 15.00 เหนื่อยขั้นสุด หมดแรง และหิวโซ
นอนพักเอาแรง กินน้ำ กินขนม
16.30 ออกไป หาดกัน
เริ่มจากไปหาด พัทยา ก่อน ใกล้ๆ ไม่ยาก เราเข้าซอยข้าง seven เดินตามพื้นสีฟ้าไปเรื่อย ผ่านถนนคนเดินจนถึง
ดื่มด่ำสักพัก
ไปหาดsunset ต่อค่ะ
สิ่งที่คิด : ดู map ไม่น่ายาก
ความจริง : ร้อนนน เหนื่อย เพลีย อากาศมันอบๆชื้นๆเนื่องจากฝนเพิ่งหยุด แดดเล็กน้อย
โอ้โห เหงื่อไหล หน้าเปียกกันไปเลย เดินตามmap ยังเลี้ยวผิดไปอีก ก็คือตรงจุดที่เป็นสำนักสงฆ์map ให้เราเลี้ยวซ้าย แต่จริงๆคือเดินตรงไป ขึ้นเนินเดินไปเรื่อยๆจนถึงรีสอร์ท bayview
เพื่อนๆเดินลงบันไดที่พักเค้าลงไปเลยค่ะ งงกับป้ายบอกทางมาก เราไม่ได้งงคนเดียวนะ มีคนมาหลังเรา เค้าก็งงเหมือนเรา กับการหาทางลงไปหาด
เป็นหาดที่เงียบสงบจริงๆ คนไม่เยอะเลย แต่ด้ววความมาคนเดียว ขาตั้งกล้องก็กากๆ เลยดื่มด่ำแป๊บเดียว
ไปต่อค่ะ~~~
หาดSunrise
ครั้งนี้เหนื่อย ขอเอาเงินแก้ปัญหาค่ะ โทรเรียกพี่taxi มารับที่ bayview รอประมาณ 10 นาที ยุงเยอะมากนะตรงที่รอ พกยากันยุงไปด้วย
ถึงหาดแล้ว โดยเรามาณ จุด zodiac คนเยอะมากกกก พี่taxi บอกน่าจะเป็นจุดที่คนมาดูพระอาทิตย์ตกเยอะสุด เพราะวิวดี มีบาร์ มีแสดง
ซึ่งเราว่าหาดก็สวยจริงๆ
ปล.อยากฝากเรื่องการทิ้งขยะ เนื่องจากคนน่าจะมานั่งชิลที่หาดนี้เยอะ จะเห็นขยะ พลาสติก แก้ว ต่างๆ ตามหาดทราย มันทำให้ความสวยลดลงไปพอควรเลย
ถือว่าโชคดีที่หลังฝนตกตอนมาถึงเกาะ แล้วหยุด จากนั้นฟ้าก็ใส ทำให้เห็นน้องพระอาทิตย์มาทักทายก่อนจะตกลงไป อากาศดี นั่งดื่มด่ำบรรยาดาศ สักพักหิวไม่ไหว ไปกินข้าวกันจ้า
ไปถนนคนเดิน โดยใช้บริการพี่taxi เจ้าเดิม
เราเลือกกินอาหาอินเดีย
“อินเดียทักจ้า”
คนเดียวสั่งไปค่ะ 3 อย่าง ….อิ่มแบบจุก และเหลือค่ะ ห่อกลับไปก่อนค่อยว่ากันค่ะ
อิ่มเสร็จจริงๆอยากกินโรตีต่อแต่ไม่ไหวจริงๆ ได้แค่ไอติมกะทิ
เดินเล่นถนนคนเดินสักพัก
กลับที่พัก ประมาณ 2 ทุ่มกว่า
นอนพัก ZzzzZzzz
9 พ.ค. 65
ตั๋วเราเขียนเรือรอบ 9.30 จนท โรงแรมแนะนำต้องไปท่าเรือ(หาดพัทยา) ประมาณ 9 โมง
ตื่นมากินอาหารเช้า the chic มีให้เลือก ข้าวต้ม หรือ american breakfast
กินเสร็จ chech out
เรียก taxi ไปส่งท่าเรือถึงประมาณ 9 โมง
ได้บัตรเรือมา รอเรียกตามสี ตามคิวเหมือนเดิม
แต่!!! หลังขึ้นเรือมา เราก็งง เพราะคนมันน้อยประมาณครึ่งลำเอง ก็คิดในใจและน้อยจังว่ะ สรุปรอบนเรือ เพื่อ ผดส คนอื่นมาเพิ่ม รอ15 นาทีได้อ่ะ โอ้โหหหห โยกไปสิจ๊ะบนเรือ ไม่เมาก็บุญแล้ว ขอบคุณยาแก้เมาเรือ
)
(ถ้าใครลืมเอายามาบนเกาะมีร้านยานะคะ แต่ราคาจะสูงกว่าปกติ)
ถึงท่าเรือปากบารา รอรับของ ไปที่ sea @ holiday เหมือนเดิม รอเรียกขึ้นรถตู้ นั่งยาววว แวะพักเข้าห้องน้ำ 1 ครั้ง
ถึงสนามบินหาดใหญ่ แล้ววววว
จบทริปการไปเที่ยวคนเดียวครั้งแรก หลายคนอาจคิดว่าไป 1 คืนจะไปทำไม แค่เดินทางก็หมดเวลาแล้ว ซึ่งก็จริงค่ะ แต่สำหรับเรามีเวลาแค่นี้ แค่ลองไปสักครั้ง นั่งดูนั่งแพลนมานานแล้ว อยากไปก็ไปเถอะค่ะ ร่างกายพร้อม เงินพร้อม ยาดมพร้อม ยาแก้เมาเรือก็ต้องพร้อม💪🏻
[ลองไปคนเดียว]หลีเป๊ะคนเดียว 2 วัน 1 คืน 8-9 พ.ค.65
>>หลีเป๊ะ 2 วัน 1 คืน<<
8-9 พ.ค. 65
-ผู้หญิงคนเดียว ก็ไปด้ายยยย-
เริ่มจากมีความคิดจะไปหลีเป๊ะมาพักใหญ่ๆ ไม่มีโอกาสซักที แต่มีโอกาสมาทำธุระที่หาดใหญ่ ก็เลยเอาว่ะ ไปเลยดีกว่าแม้จะ แต่ 2 วัน 1 คืนก็ตาม
ขั้นตอนที่ 1
รีวิวตามกระทู้ต่างๆนานา สรุป ดีลซื้อทัวร์ดีกว่าไปคนเดียวแบบเรา (ครั้งแรกด้วยที่ไปคนเดียว) สอบถามไปสัก 3 บริษัท ก็เลือกมาได้ 1 ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นั่นก็คือ This way Travel เรารู้สึกว่าเค้าตอบดี ตอบไม่ช้ามาก ติดต่อโดยโทรไปก่อนและแชทผ่าน fb (บางบริษัท1 คำถาม รอครึ่งวันอ่ะ จบวันยังจองไม่ได้เลย)
ขั้นตอนที่ 2
เลือกดีล ร.ร. ว่าเราสะดวก พอใจ เลือกแบบใน ราคาเท่าไหร่
เราเลือกพักที่ the chic lipe ใกล้ๆ ถนนคนเดิน ไม่ไกลจากเซเว่นนัก ห้องเดี่ยว
ราคา 3070 บาท โดยสิ่งที่ได้คือ
-รถรับส่งที่จากพักหาดใหญ่-ท่าเรือปากบารา
-เรือไปกลับ ท่าเรือปากบารา-เกาะหลีเป๊ะ
-รถรับส่งที่จากท่าเรือปากบารา-สนามบินหาดใหญ่
ไม่ได้ดำน้ำนะ แต่ถ้าดำน้ำ เพิ่ม 600 (ตอนแรกอยากดำมาก แต่พอมาถึงเกาะจริงๆ ดีแล้วที่ไม่ดำเพราะเหนื่อยมาก)
โอนเงินเรียบร้อยรอวันเดินทาง~~~
วันก่อนเดินทาง 1 วัน ทางทัวร์จะแจ้งว่าคนขับรถจะโทรหาเพื่อนัดหมายสถานที่ และ เวลา
วันเดินทาง 8 พ.ค. 2565
เราเริ่มเดินทางจากตัวเมืองหาดใหญ่ โดยรถมารับถึงที่พัก พี่คนขับก็จะโทรมานัดก่อนล่วงหน้าก่อน 1 วัน ของเราพี่บอก 8.30 แต่มาถึงจริง 8.15 รีบเลยจ้าาาา นึกว่ารถตู้คนจะไม่เยอะ ขึ้นไปปุ๊บคนเต็มเลยจ้า รอชั้นคนเดียว จากนั้นรถจะไปแวะรับผู้โดยสารที่สนามบินด้วย ระหว่างทางจะมีแวะพักที่ปั๊ม 1 ครั้ง แล้วเดินทางต่อจนถึงท่าเรือปากบารา ใช้เวลาเดินทาง 8.30-11.00 โดยประมาณ
ถึงแล้วจ้าาาาา เราก็ลงรถเอากระเป๋า ไปรับตั๋วเรือที่จองไว้ของทัวร์รับมารับที่ sea @ holiday
จนท จะทำการให้ตั๋วเรือ และอธิบายว่าต้องไปประตูไหน มีตั๋วเรือขากลับมาด้วยเก็บรักษาให้ดีนะคะเพราะต้องใช้ยื่นวันกลับ แต่ จนท ก็แจ้งว่าจะถ่ายรูปไว้ก็ได้เผื่อหาย
ไปค่ะเดินทางเข้าด้านใน ต้องเปิดหลักฐานการได้วัคซีนครบอย่างน้อย 2 เข็มให้ดูด้วย จากนั้นจะมีโต๊ะเสียค่าทำเนียมผ่านทางและค่าอุทยาน รวมแล้ว 60 บาท
เข้ามาเรียบร้อยเราก็ไปแลกตั๋วเรือ ประตู 1 ซึ่งมีอยู่ 3 โต๊ะ เราก็ยืน งงๆ พักหนึ่ง แล้วก็มี จนท ประจำโต๊ะ หนึ่งในนั้นช่วยบอกว่าให้ยื่นโต๊ะริมสุดติดประตู แลกเสร็จจะได้บัตรเรือspeed boat มา
ได้เรียบร้อยนั่งรอประกาศเรียก เค้าจะแจ้งชื่อเรือspeed boat บัตรสีxxx ไปที่ประตูxxx ไปวางของ ณ จุดที่เค้าแจ้ง และยืนรอเค้าเรียกคิวตามหมายเลขที่เราได้ค่ะ
ของเราใช้เวลานานพอควร เรายืนรอกลางแดด ซึ่งร้อนจริงๆ เพราะไม่รู้ว่าเค้าจะเรียกขึ้นเรือตามคิวรึป่าว เลยต่อแถวไปก่อน แต่แนะนำว่า วางของแล้วหาที่ร่มค่ะ เดี๋ยวเค้าเรียกตามเบอร์
ขึ้นเรือปุ๊บหาที่นั่งจ้า ตามใจชอบ ขึ้นก่อนเลือกก่อน
ประสบการณ์เลือกที่นั่งบนเรือ ของเราส่วนตัวนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซึ่งกว่าเรือจะออกก็ใช้เวลาสักพัก จะมึนๆก็คลื่นที่ตีเรือโคลง ก็ตอนรอบนเรือนี่แหละ เพราะฉะนั้นสิ่งจำเป็นคือ ***ยาดม ลูกอม ยาแก้เมารถ *** ขีดเส้นใต้ 3 เส้น ดอกจันทร์ 3 ดอกค่ะ!!!
เรือรอบที่เรานั่งจะแวะ เกาะตะรุเตา และ เกาะไข่
เกาะตะรุเตา : ที่เราไปคนเยอะมาก ก็ถือว่ามานั่งพัก ชมวิว
เกาะไข่ : คนเริ่มเมาเรือกันเยอะ เมฆฝนเริ่มตั้งเค้า จนคนบนเรือเราหลายคนไม่อยากลง และบอกให้ออกเรือไปเลย แต่สุดท้ายก็จอดเพราะมีคนต้องการลง และคนขับเรือแจ้งว่าลงได้ เราว่าลงเถอะมันสวยนะ น้ำใส ทรายขาว แอบมีทะเลแหวกน้อยๆด้วย
เดินทางต่อจนมาถึงแล้วววววว หลีเป๊ะ เมาเรือตอนจะถึงเกาะ เกือบตาย ถึงปุ๊บรีบลงเลยจ้าาา ถึงประมาณ 14.30
รอพี่เค้าขนของลงมาจากเรือ แล้วก็เข้าที่พัก โดยของเราในแชทแจ้งว่าจะมี จนท มารับ รอพักใหญ่ ฝนเริ่มลงเม็ด มีพี่ๆไม่รู้เป็น จนท ส่วนไหน เค้าก็คอยถามเพราะเห็นเรามาคนเดียว สรุปพัก The Chic ไม่มีคนมารับนะคะต้องหาtaxi ไปค่ะ โดยพี่เค้าก็ช่วยเราโทรตามtaxi ให้ด้วย อันนี้แล้วแต่ที่พักนะคะ ถามกันให้ดีๆ
Taxi บนเกาะ เหมาจ่าย 50 บาท ไม่ว่าไปไหน
เบอร์พี่taxi จะให้ไว้ เผื่อเราให้เค้าไปรับที่ไหน สำหรับเราพี่เค้าก็แนะนำดีนะ ถามเค้าเค้าก็ตอบแนะนำโน่นนี่
ถึงที่พัก check in ประมาณ 15.00 เหนื่อยขั้นสุด หมดแรง และหิวโซ
นอนพักเอาแรง กินน้ำ กินขนม
16.30 ออกไป หาดกัน
เริ่มจากไปหาด พัทยา ก่อน ใกล้ๆ ไม่ยาก เราเข้าซอยข้าง seven เดินตามพื้นสีฟ้าไปเรื่อย ผ่านถนนคนเดินจนถึง
ดื่มด่ำสักพัก
ไปหาดsunset ต่อค่ะ
สิ่งที่คิด : ดู map ไม่น่ายาก
ความจริง : ร้อนนน เหนื่อย เพลีย อากาศมันอบๆชื้นๆเนื่องจากฝนเพิ่งหยุด แดดเล็กน้อย
โอ้โห เหงื่อไหล หน้าเปียกกันไปเลย เดินตามmap ยังเลี้ยวผิดไปอีก ก็คือตรงจุดที่เป็นสำนักสงฆ์map ให้เราเลี้ยวซ้าย แต่จริงๆคือเดินตรงไป ขึ้นเนินเดินไปเรื่อยๆจนถึงรีสอร์ท bayview
เพื่อนๆเดินลงบันไดที่พักเค้าลงไปเลยค่ะ งงกับป้ายบอกทางมาก เราไม่ได้งงคนเดียวนะ มีคนมาหลังเรา เค้าก็งงเหมือนเรา กับการหาทางลงไปหาด
เป็นหาดที่เงียบสงบจริงๆ คนไม่เยอะเลย แต่ด้ววความมาคนเดียว ขาตั้งกล้องก็กากๆ เลยดื่มด่ำแป๊บเดียว
ไปต่อค่ะ~~~
หาดSunrise
ครั้งนี้เหนื่อย ขอเอาเงินแก้ปัญหาค่ะ โทรเรียกพี่taxi มารับที่ bayview รอประมาณ 10 นาที ยุงเยอะมากนะตรงที่รอ พกยากันยุงไปด้วย
ถึงหาดแล้ว โดยเรามาณ จุด zodiac คนเยอะมากกกก พี่taxi บอกน่าจะเป็นจุดที่คนมาดูพระอาทิตย์ตกเยอะสุด เพราะวิวดี มีบาร์ มีแสดง
ซึ่งเราว่าหาดก็สวยจริงๆ
ปล.อยากฝากเรื่องการทิ้งขยะ เนื่องจากคนน่าจะมานั่งชิลที่หาดนี้เยอะ จะเห็นขยะ พลาสติก แก้ว ต่างๆ ตามหาดทราย มันทำให้ความสวยลดลงไปพอควรเลย
ถือว่าโชคดีที่หลังฝนตกตอนมาถึงเกาะ แล้วหยุด จากนั้นฟ้าก็ใส ทำให้เห็นน้องพระอาทิตย์มาทักทายก่อนจะตกลงไป อากาศดี นั่งดื่มด่ำบรรยาดาศ สักพักหิวไม่ไหว ไปกินข้าวกันจ้า
ไปถนนคนเดิน โดยใช้บริการพี่taxi เจ้าเดิม
เราเลือกกินอาหาอินเดีย
“อินเดียทักจ้า”
คนเดียวสั่งไปค่ะ 3 อย่าง ….อิ่มแบบจุก และเหลือค่ะ ห่อกลับไปก่อนค่อยว่ากันค่ะ
อิ่มเสร็จจริงๆอยากกินโรตีต่อแต่ไม่ไหวจริงๆ ได้แค่ไอติมกะทิ
เดินเล่นถนนคนเดินสักพัก
กลับที่พัก ประมาณ 2 ทุ่มกว่า
นอนพัก ZzzzZzzz
9 พ.ค. 65
ตั๋วเราเขียนเรือรอบ 9.30 จนท โรงแรมแนะนำต้องไปท่าเรือ(หาดพัทยา) ประมาณ 9 โมง
ตื่นมากินอาหารเช้า the chic มีให้เลือก ข้าวต้ม หรือ american breakfast
กินเสร็จ chech out
เรียก taxi ไปส่งท่าเรือถึงประมาณ 9 โมง
ได้บัตรเรือมา รอเรียกตามสี ตามคิวเหมือนเดิม
แต่!!! หลังขึ้นเรือมา เราก็งง เพราะคนมันน้อยประมาณครึ่งลำเอง ก็คิดในใจและน้อยจังว่ะ สรุปรอบนเรือ เพื่อ ผดส คนอื่นมาเพิ่ม รอ15 นาทีได้อ่ะ โอ้โหหหห โยกไปสิจ๊ะบนเรือ ไม่เมาก็บุญแล้ว ขอบคุณยาแก้เมาเรือ
(ถ้าใครลืมเอายามาบนเกาะมีร้านยานะคะ แต่ราคาจะสูงกว่าปกติ)
ถึงท่าเรือปากบารา รอรับของ ไปที่ sea @ holiday เหมือนเดิม รอเรียกขึ้นรถตู้ นั่งยาววว แวะพักเข้าห้องน้ำ 1 ครั้ง
ถึงสนามบินหาดใหญ่ แล้ววววว
จบทริปการไปเที่ยวคนเดียวครั้งแรก หลายคนอาจคิดว่าไป 1 คืนจะไปทำไม แค่เดินทางก็หมดเวลาแล้ว ซึ่งก็จริงค่ะ แต่สำหรับเรามีเวลาแค่นี้ แค่ลองไปสักครั้ง นั่งดูนั่งแพลนมานานแล้ว อยากไปก็ไปเถอะค่ะ ร่างกายพร้อม เงินพร้อม ยาดมพร้อม ยาแก้เมาเรือก็ต้องพร้อม💪🏻