สวัสดีทุกท่าน ผมชื่อเอก เป็นการไปเที่ยวทะเลแบบต้องดำน้ำด้วย ครั้งแรกในชีวิต ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ แบบฉบับมนุษย์เงินเดือนที่มีวันหยุดแสนน้อยนิด แอบตื่นเต้นหน่อยๆตรงกลัวจมน้ำเนี้ยแหละ

 

ไปครั้งนี้ พอไปทะเลที่อื่นๆกลายเป็นว่า ที่อื่นๆสวยไม่เท่าเลย ไม่เชื่อต้องลองไปดูเอาเอง ถือว่าคุ้มค่าอยู่น่ะ

 

(ตารางเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ 3วัน 2คืน)

***ใช้เวลานานพอสมควร***

1 จากสนามบินดอนเมือง – สนามบินหาดใหญ่ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) ***แนะนำให้จองไฟล์ทบินช่วงเช้า***

2 สนามบินหาดใหญ่ – ท่าเรือปากบารา (นั่งรถตู้ที่รวมอยู่ในแพคเกจแล้ว ไปยังท่าเรือปากบารา ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง)

3 ท่าเรือปากบารา – เกาะหลีเป๊ะ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) ***แนะนำให้แวะเซเว่นตรงท่าเรือปากบารา ซื้อของที่จำเป็น เพราะบนเกาะของแพงมาก***

ใครที่นั่งเรือสปีทโบ้ท เมาเรือ หรือไม่เคยนั่ง ***แนะนำให้พกยาแก้เมาไปด้วย*** และบนเรือวันนั้นไปถือว่ามีคลื่นแรง เราก็จะกระเด้งๆหน่อยๆ

ถึงเกาะแล้ว เย้ๆ!! คือภาพที่เห็นภูเขาตัดกับทะเลสีเขียวๆ และอากาศแบบลมเย็นๆ ทำให้รู้สึกสบายใจ รู้สึกคลายเครียดได้

พอลงเรือสปีทโบ้ท ก็เดินไปหารถแท็กซี่ แต่เอ๊ะ!! แท็กซีที่ว่าก็คือรถพ่วงนั้นเอง ก็เอาฮาดี คือมันก็จะคล้ายๆรถตุ๊กๆบ้านเรา ขับไวเว่อร์ๆ 555!! ต้องเกาะที่จับอย่างแน่น ตอนนั้นจองไว้ที่ อันดามันรีสอร์ท คือมันใกล้อยู่จริงๆเดินก็ได้ (เสียค่าแท็กซี่ไป50บาท) ก็ไม่เป็นไรเพราะสนุกดี

ห้องก็พอได้ สะดวกสบายดี แต่เป็นห้องเริ่มต้น ไม่ได้ติดหาดอะไรขนาดนั้น คือก็ต้องเดินออกมาอยู่ดีแต่ถือว่าคุ้มค่า ตอนแรกแอบไปอ่านรีวิวมาจากเว็บไซต์อื่นๆเกี่ยวกับอันดามัน รีสอร์ทนี้แหละ ประเด็นคือมีแต่คนบอกว่าห้องเก่า เก่าแบบเก่ามาก เราก็เลยได้มาเห็นกับตาตัวเอง ทำไมไม่เหมือนที่อ่านมาเลย ก็เลยแอบถามกับพนักงานที่มาจัดห้องให้ เขาก็บอกว่า “ที่รีสอร์ทนี้เขาเริ่มปรับปรุงแล้ว” ปกติโทรมกว่านี้ ก็เลยถือว่าเป็นโชคดีของเราเลยหล่ะมั้ง !!

 

หลังจากนั้นก็ออกมาเดินเล่น เวลาก็ประมาณเย็นๆแล้ว ขนาดตอนเย็นแล้วแดดยังแรงมาก เผาหน้าไหม้ หน้าแดงเลยอ่ะ ฝั่งรีสอร์ทที่พัก ก็จะเป็นฝั่งซันไรซ์ (พระอาทิตย์ขึ้น) วันแรกที่มาถึงทำไรไม่ได้นอกจากเดินเล่น แต่ด้วยความที่เราอยากไปดูพระอาทิตย์ตก ก็เลยต้องเดินไปฝั่งซันเซ็ท (พระอาทิตย์ตก) เดินเล่นๆชิล์ลๆเรียบหาด มันก็จะไม่รู้สึกเหนื่อย คนช่วงนั้นค่อยข้างเยอะเลยหล่ะ !

บรรยากาศหน้ารีสอร์ท แดดแรงๆ จะไว้ใจได้กา หน้าไหม้หมดแล้ว หน้ารีสอร์ทของอันดามัน ก็จะมีร้านน้ำปั่น + ห้องอาหารของทางรีสอร์ทเองด้วย

***เห็นห้องทางซ้ายมือนั้นไหม แพงมาก แต่ถือว่าวิวหาด*** รอแดดหายแรง ก็เดินไปหาดฝั่งซันเซ็ททันที

 

หาดฝั่งซันเซ็ท (พระอาทิตย์ตก) หน้า Mountain Resort มันฟินจริงๆ ยืนอยู่นิ่งๆ สูดอากาศเข้าปอดแรงๆ โครตฟิน (แต่คนจีนที่ไปเที่ยวเยอะไปหน่อย) กำลังอินกับบรรยากาศ ร้องเพลงในใจ ♫ ♪ อารมณ์อินๆหายไปเลยจ้าา ใครชอบดูพระอาทิตย์ตก ต้องมา ***คำเตือนคนที่กำลังอกหักหรือเศร้าไม่ควรมา*** ”ความคิดเห็นส่วนตัวน่ะจ้าา” ดูแล้วมันเศร้าจริงๆ เผลอแป๊ปเดียว มึดเฉยเลย !!

ตกดึงไง !! หิวไง ไปเซเว่นคือทางทัวร์เขาเตือนมาแล้วน่ะว่าของแพง ไอเราก็จะไปอ่ะ ความหิวไม่เคยปราณีใคร ถ้าเซเว่นที่ใกล้รีสอร์ทเราที่สุดก็จะเป็นเซเว่นหน้าทางเข้าถนนคนเดิน

จบไปวันแรก ความเหนื่อยบวกกับความสนุก สนุกแบบสงบมองทะเล ทรายขาวๆ สูดบรรยากาศบริสุทธิ์ เจอผู้คนวิ่งเล่นหัวเราะ ก็แอบมีความสุขตามไปด้วย

ตื่นเช้ามาอีกวัน ปกติกรุงเทพเรามองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นสะที่ไหน ไหนๆก็มาล่ะ! ยอมตื่นเช้ามาเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นแล้วกัน ก็เดินๆเรียบหาดไปจนถึงหน้า Salisa Resort คือแอบเห็นบ้านที่เป็น 3 หลังๆหน้ารีสอร์ท ก็แอบด่าตัวเอง “ทำไมไม่มาเอาห้องนี้” อีบ้า คือคิดในใจตื่นมาก็ออกมานอกระเบียงมาดูพระอาทิตย์ขึ้นได้เลย เออ!ฟินดีว่ะ หลังจากนั้นก็ได้เห็นสมใจอยากเลย สวยสะพรึง สำหรับคนที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆแบบนี้ ใครที่ไม่เคยตื่นมา มันสดชื่นขึ้นมาจริงๆ

หลังจากนั้นก็เดินกลับมาที่ห้องพัก เพื่อเตรียมตัวไปดำน้ำ วันที่รอคอย♫ ♪  วันที่ความฝันเป็นจริง ได้แต่ดูคลิปคลิปของทางทัวร์ แต่วันนี้ก็เลยจัดเป็นทริปดำน้ำ 8 เกาะทางทัวร์เสนอมาตอนแรกว่าให้เราเพิ่มเงินอีกนิด 800.-บาทจ้า ไม่นิดน่ะ แต่ไหนๆก็มาแล้วก็เลยจัดไปเลย ทางทัวร์ก็ส่งใบมาให้เราดูว่ามีไปจุดไหนบ้าง เราก็เลยคิดว่ามันคุ้มอยู่นะ ปกติเขาบอกถ้าไป A&B ต้องไปถึง 2วัน แต่โปรแกรมนี้เขารวบให้เรา

☉ 9:00 น. ทางทัวร์ก็เรียกให้ไปนัดรวมกันที่ Salisa Resort เพื่อขึ้นเรือสปีทโบ้ท

ตอนไปจำไม่ได้เลยว่าไปเกาะไหนก่อน หลัง แถมเอาโทรสับลงน้ำไม่ได้ด้วย ˇ︿ˇ