บริษัทที่เพื่อนๆทำงานอยู่ เมื่อถึงวันเกิดของเรา ได้ของขวัญอะไรจากบริษัทกันมั้ยครับ
ของผม เขาให้ทุกปีเลย ของเพื่อนร่วมงานนี่ได้จากบางแผนกโดยเฉพาะแผนกที่ต้องคุยงานกันบ่อย จนสนิทคุยหยอกล้อกันได้

ส่วนใหญ่ก็เล็กๆน้อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะอวยพร ซึ่งแค่นี้ก็มากมายแล้ว
ผมไม่ได้ต้องการของขวัญราคาแพง เพราะเงินทุกบาทมีค่า เก็บไว้ใช้จ่ายเลี้ยงดูตัวเอง
และครอบครัวน่าจะดีกว่า และผมก็มองว่ามันถูกต้อง ไม่มีข้อกางขา

แต่ที่เกรงใจน่าจะเป็นของขวัญในนามบริษัทมากกว่า ซึ่งผมก็รู้ว่าใครคือผู้สนับสนุนหลัก
เจ้านายผมเอง (เจ้าของบริษัท) เพราะจะให้เป็นหัวหน้างานก็ไม่ใช่ เนื่องจากตำแหน่งผม มีแค่ผมคนเดียว ฮ่าๆ (โปรแกรมเมอร์และกราฟฟิกดีไซน์)

ของขวัญปีแรก เจ้านายให้เงินสนับสนุนค่าน้ำมันเพื่อใช้มาทำงาน 30,000 ระหว่างไป-กลับ ในวันทำงานตลอดทั้งปี
ที่ทำงานผมกับบ้านระยะทางแค่ 26 กิโล และผมใช้แต่มอไซต์ซะส่วนใหญ่ ใช้รถยนต์แค่ตอนฝนตกหนักจริงๆ

ของขวัญปีที่2 เจ้านายให้แพ็กเกจโปรแกรมตรวจสุขภาพ ใน รพ.เอกชน (ดีสุดในพิดโลก)

ของขวัญปีที่3 มีช่วงนึงที่ผมลาพักร้อนยาว 4 วันเพื่อไปเที่ยวภูเก็ตกับแฟน เจ้านายให้ไปใช้บ้านพักตากอากาศที่เจ้านายซื้อไว้ พักฟรีเลย
แต่ตอนนั้นคือใช้เป็นแค่ที่นอน อาบน้ำเฉยๆ ส่วนค่าไฟค่าน้ำที่เราใช้ 2คืน 3 วัน ผมฝากจ่ายไว้กับคนดูแลบ้านนั่นแล้ว (น่าจะเป็นญาติเจ้านาย)

ของขวัญปีที่4 ปีนี้คือเป็นปีที่โควิดระบาดพอดี !! เจ้านายปรับเงินเดือนให้ผม ซึ่งมันยังไม่ถึงรอบปีที่ควรจะปรับทั้งบริษัท พอสิ้นปีก็ได้ปรับอีก
 
ของขวัญปีที่5 ก็คือเมื่อปีที่แล้ว เจ้านายปรับเงินเดือนให้ผมอีกแล้ว 5,000 ซึ่งจริงๆในมุมของผมคือเยอะนะ
แล้วปีนี้บริษัทไม่มีการปรับเงินเดือนทั้งบริษัทด้วย ฮ่าๆ โชคดีไปเรา

ส่วนปีนี้ เข้าปีนี้ มันผ่านวันเกิดผมมาแล้ว เพราะเบรคเจ้านายทัน พร้อมให้เหตุผลไปว่าแค่ยังจ้างให้ผมทำงานให้
ไม่ลดเงินเดือน ให้ผมมีรถ สร้างตัวได้ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ผมมีเงินเก็บเป็นล้าน ก็เพราะบริษัทนี้ทั้งนั้น แค่นี้ก็มีพระคุณมากแล้ว 

ผมมาแชร์ครับ ว่าที่ทำงานของผมเป็นแบบนี้นะ แต่กว่าจะเจอบริษัทดีๆแบบนี้ ผมก็เคยเจอบริษัทแบบสังคมเลวร้ายมาก่อน
ชีวิตนี้ก็คงจะทำงานที่นี่ไปจนปลดเกษียณ และตั้งใจไว้ว่าจะปฎิบัติงานให้บริษัทอย่างเต็มที่ จนสุดความสามารถ
เพราะเขาดีกับเรามาก และพร้อมเรียนรู้อะไรใหม่ๆเพื่อนำมาใช้พัฒนาบริษัทได้ประโยชน์สูงสุด ผมตั้งใจไว้แบบนี้จริงๆครับ 

บางคนอาจจะมองว่า ทำงานเป็นลูกจ้างเขา ยังไงก็ไม่มีทางรวย 
แต่ตัวผมกลับมองว่า ทุกอย่างมีเหตุผลของมัน บางคนที่เขาพอใจกับการเป็นมนุษย์เงินเดือน มันก็เป็นสิทธิ์และความสบายใจของเขา
บางทีเขาอาจจะต้องการแบบนี้ก็ได้ เพราะที่เขาเป็นอยู่ มันก็ไม่ได้ทุกข์ใจอะไร แถมถ้าเราทำงานที่เราถนัด และอยู่ในองค์กรที่ดี
ทำไมเราต้องอยากลองไปเสี่ยง กับคำว่าเจ้าของธุรกิจ หากเราไม่ถนัดในการทำธุรกิจเอง ขาดทุน เป็นหนี้สิน ก็ไม่มีใครมาช่วยเราจ่ายหนี้ 

แต่บางคนอาจจะเหมาะกับการเป็นเจ้าของธุรกิจ เพราะมองคนละมุมกับข้อความด้านบน อันนั้นก็เป็นสิทธิ์ของเขา 
และมีโอกาสเติบโตมากกว่า ถึงแม้ะจะมีการแบกรับความเสี่ยงมากกว่ามนุษย์เงินเดือนหลายเท่า แต่ผู้ประกอบการไม่มีเพดานเงินเดือนครับผม

บริษัทที่เพื่อนๆทำงาน ได้ของขวัญวันเกิดอะไรจากที่ทำงานกันบ้างครับ มาแชร์กันได้ครับ ทั้งเรื่องดีและไม่ดีก็ได้นะ ผมอยากอ่าน