[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้าชอบรีวิว สามารถกดไลค์ Facebook Page Go Go Go ได้เลยที่ลิ้งค์นี้เลยครับ: https://www.facebook.com/gogogo.tha

มีโอกาสมาชิมมื้อเที่ยงที่ร้าน  Côte by Mauro Colagreco ที่เพิ่งได้ Michelin Star 1 ดาวในปีนี้ โดยร้านตั้งอยู่ในโรงแรม Capella Bangkok ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นร้านของเชฟ Mauro Colagreco ที่เป็นเจ้าของร้าน MIRAZUR ดีกรี Michelin Star 3 ดาวและอันดับ 1 ของ World’s 50 Best Restaurant ในปี 2019 โดยเลือกทานเป็น 4-course Escapade Lunch (1800++) รสชาติอาหารจะเป็นยังไง อ่านต่อได้เลยครับ
ผมจองโต๊ะไว้ช่วงเที่ยง นั่ง Shuttle Boat ของโรงแรมจากท่าเรือสาธรมาลงบริเวณหน้าโรงแรม พอเดินมาถึงบริเวณด้านหน้าของร้าน พนักงานก็นำทางมาที่โต๊ะของเรา วันนี้ได้โต๊ะริมหน้าต่าง มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาชัดเจนครับ บนโต๊ะมีเมนูตั้งอยู่บนจานสีฟ้าสวยงาม ตัว Main Course วันนี้มาให้เลือกระหว่าง Hake Fish และ Iberico Pork เลยเลือกเป็นปลาไปครับ
หลังจากสั่งอาหารไปไม่นาน ก็เริ่มทำการเสิร์ฟ Amusche Bouche โดยเสิร์ฟมาทั้งหมด 5 คำ
- Crispy Tart with Icefish and Parmesan Jelly กินแล้วกรอบ รสชาติคำนี้มันนัวดี
ต่อมาเสิร์ฟเป็นขนมปังสูตรของคุณย่าเชฟ ด้านนอกผิวกรอบ ส่วนด้านในเนื้อแน่นมาก ทานกับน้ำมันมะกอกสูตรของเชฟที่มีการผสมกับ Lemon และขิง ทำให้ได้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ เลย
1 – Fresh Marinated “Brittany” Sardines / “Puntarella” Salad / Burrata
ผัก Puntarella สด ส่วนน้ำสลัดมีรสเปรี่ยวสดชื่น มีความเค็มมันของ Burrata นุ่มๆ มาช่วยตัดรส แถมยังมีกลิ่นหอมของ Marinated Brittany Sardines มาเพิ่มความหอมกลิ่นทะเลและความเค็มให้กับจานนี้ 
สำหรับขนมปัง จะมีให้เลือก 3 แบบ ทั้ง Baguette Sourdough และ Foccacia ส่วนตัวชอบตัว Focaccia ด้านขวาสุด ด้านนอกกรอบ ส่วนเนื้อด้านในนุ่ม ได้กลิ่นหอมของ Herb ด้วย ทานเพลินจนต้องขอเพิ่มเลยครับ
3 – Hake Fish / Cauliflower / Sake Sauce
จานหลักในวันนี้เลือกเป็นปลา ซึ่งไม่ผิดหวังเลย เพราะเชฟปรุงมาได้ดีมาก เนื้อด้านในยังชุ่มฉ่ำ ตัวซอสรสชาติจะอ่อนๆ เบาๆ นุ่มๆ ทานได้สบายๆ มีกลิ่นหอมของปลาและสาเกที่ใส่ลงไปอ่อนๆ ด้านบนมี Kale ทอดกรอบๆ และ Cauliflower ยังมี Caper เพิ่มรสเปรี้ยวให้กับจานนี้ เสิร์ฟพร้อมกับ Cauliflower Puree ที่ทำออกมาได้เนียนนุ่ม จานนี้ถึงจะดูเรียบๆ แต่รสชาติมันกลมกล่อมและองค์ประกอบทุกอย่างดีมากๆ เลย ส่วนปลานั้นขอยกให้เป็นจานปลาที่ชอบมากที่สุดในบรรดาร้าน Fine Dining ต่างๆ เลยครับ
4 – Yogurt / Raspberry / Rosemary / Coconut
ด้านบนเป็น White Chocolate รสค่อนหวานเคลือบด้วย Dried Raspberry Powder รสเปรี้ยว ร้านแนะนำให้ใช้ช้อนตีให้แตก ก่อนทานคู่กับ Yogurt ด้านล่างรสเปรี้ยวเบาๆ กับ Raspberry ด้านล่าง แถมยังได้ความหอมมันจาก Coconut cream และความหอมนวลๆ จาก Rosemarry Ice Cream เป็นจานของหวานที่ทุกองค์ประกอบลงตัว อร่อยมากๆ เลยจานนี้
ปิดท้ายด้วย Madeline และ Petit four
- Madeline เสิร์ฟมาอุ่นๆ กรอบนอกนุ่มใน มีกลิ่นหอมเลมอนเบาๆ อร่อยมากๆ
- Financier คล้ายกับ Madeline รสชาติอร่อยไม่แพ้กัน
- Avocado Macaron มาการองเนื้อเบาๆ ได้รสชาติอโวคาโดชัดดี
- Earl Grey Chocolate เมื่อกัด Chocolate ไปจะเจอชา Earl Grey หอมๆ แตกออกมา ชอบชิ้นนี้เหมือนกัน
- Elderflower Jelly เยลลี่เคลือบน้ำตาลได้รสหวานอมเปรี้ยว
เป็นมื้อเที่ยงที่อิ่มมากๆ ถึงจะทานแค่ 4 คอร์ส แต่วัตถุดิบและปริมาณคือคุ้มค่ามาก แถมรสชาติอาหารทุกอย่างประทับใจมาก การบริการของพนักงานและการอธิบายเกี่ยวกับอาหารก็ดีมากอีก รับรองว่าต้องหาโอกาสไปทานอีกแน่นอน