JJNY : 5in1 เปิดสถิติเงินเฟ้อ│SMEs“กาญจน์-แปดริ้ว”อ่วม│น้ำมันขึ้นเกือบยกแผง│สุทินโวพท.แลนด์สไลด์แน่│ฟินแลนด์ประกาศแล้ว

เปิดสถิติ “เงินเฟ้อ” 16 ปีย้อนหลัง น่าห่วงแค่ไหน?
https://www.bangkokbiznews.com/business/1004538
 
 
เปิดสถิติเงินเฟ้อ 16ปีย้อนหลัง ขึ้นมาน้อยแค่ไหน ชี้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น หลังซัพไพร์มดันเงินเฟ้อพุ่งปรี๊ดทะลุ5% ชี้วิกฤติที่ส่งผลเงินเฟ้อสูง พบเงินเฟ้อตกค้างต่อเนื่องไปอีก 2-3ปี จับตาเงินเฟ้อยังสูงต่อเนื่อง ส่งผ่านสู่ต้นทุนอาหาร ที่อยู่อาศัย ค่าขนส่งเพิ่ม

      ประเด็นความกังวล “เงินเฟ้อ”แม้จะเริ่มซาๆลงบ้าง แต่ก็ยังเป็นประเด็นที่ห่วงต่อเนื่อง เงินเงินเฟ้อ ยังทรงตัวระดับสูง เหนือ 4%
 
      ยิ่งเงินเฟ้อขึ้นมาก และกินระยะเวลามาก ก็ยิ่งกระทบต่อผู้บริโภคอย่างๆเราๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเงินเฟ้อยิ่งเพิ่มขึ้น ก็ยิ่งส่งผ่านมาสู่ ต้นทุนราคาสินค้าต่างๆให้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
 
      โดยเฉพาะเงินเฟ้อ ที่มาจากภายนอก หรือเงินเฟ้อที่มาจาก ปัจจัยจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน
 
    ล้วนส่งผลกระทบไปสู่ประชาชนโดยตรงให้ซื้อของแพงขึ้น ทั้งหมวดอาหาร น้ำมัน การขนส่งฯลฯ
 
     “นริศ สถาผลเดชา” หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบี (ttb analytics) กล่าวว่า การเผชิญภาวะ “เงินเฟ้อสูง” อาจไม่ใช่เรื่องที่แปลกมากสำหรับประเทศไทย
 
      เพราะหากย้อนดูสถิติในช่วงที่ผ่านมา ไทยต้องเผชิญกับเงินเฟ้อสูงอยู่หลายระลอก โดยเฉพาะหากย้อนหลังไปถึง 16 ปี จนถึงปัจจุบัน พบว่าเงินเฟ้อได้ปรับขึ้นหลายระลอก
 
     โดยหากย้อนไปดูเงินเฟ้อเมื่อปี 2551 หลังจากทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวจาก วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ หรือซับไพรม์ ขณะนั้น น้ำมันวิ่งสูงใกล้เคียงปัจจุบันที่ 110-120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้เงินเฟ้อไทยปรับตัวขึ้นไปสู่ 5.19%
 
      ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนสินค้าต่างๆทั้งการบริโภค อุปโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งค่าไฟ น้ำมัน น้ำมันเชื้อเพลิง อาหาร เนื้อสัตว์ต่างๆ 
      หรือตอนน้ำท่วม ที่สินค้าต่างๆขาดแคลนในปี 2554 ส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกระลอกที่ระดับ 3.81%แต่ที่น่าสงเกตคือ แม้จะผ่านช่วงที่เงินเฟ้อสูงไปแล้ว แต่จากวิกฤติต่างๆแต่เงินเฟ้อ  ยังคงทรงตัวระดับสูงต่อเนื่อง หรือตกค้างต่อไปอีก 2-3 ปี ให้หลังได้
 
      ดังนั้นเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ก็อาจไม่ใช่เรื่องที่แปลก หรือน่าตกใจ เพราะอิทธิพลของเงินเฟ้อ หลังเพิ่มขึ้น มักไม่ได้ใช้เวลาลงอย่างรวดเร็ว 
 
      ส่วนแนวโน้มปี 2565 คาดการณ์ว่า มีโอกาสที่เงินเฟ้อ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5% ได้ จากไตรมาสแรกที่ผ่านมา ที่เงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 4.72%
 
     ดังนั้นโอกาสที่จะเห็นเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นอีกมีโอกาสสูง และโอกาสที่เห็นเงินเฟ้อตกค้างต่อเนื่องในระยะข้างหน้าก็มีโอกาสเช่นกัน
 
    เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ส่งผ่านไปสู่อะไรบ้าง? หากดูทั้งหมวดอาหาร บ้าน และการขนส่ง เงินเฟ้อมีผลพวงสำคัญทำให้ต้นทุนเหล่านี้ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
 
         อย่างปีที่เงินเฟ้อสูงๆปี 2551 เงินเฟ้อที่สูง ส่งผ่านไปสู่ต้นทุนอาหารให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 11.56% ขนส่ง 6.38% ปีช่วงปีนี้ ที่เงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น

ส่งผ่านไปสู่ต้นทุนอาหารให้เพิ่มขึ้นที่ 4.07%  ไปสู่ต้นทุนที่อยู่อาศัย 3.28% และที่มากที่สุด คือภาคขนส่ง ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 10.22% 
 
    ดังนั้นเงินเฟ้อ ก็ยังคงเป็นปัจจัยที่น่ากังวล และน่าห่วง เพราะเป็นปัจจัยส่งผ่านโดยตรงต่อผู้บริโภค ตราบใดที่เงินเฟ้อยังทรงตัวระดับสูง ผู้บริโภคก็อาจได้รับผลกระทบจากสินค้าแพงต่อเนื่อง
 

 
SMEs “กาญจน์-แปดริ้ว” อ่วม น้ำมันแพง-วัตถุดิบพุ่ง-ปรับราคายาก
https://www.prachachat.net/local-economy/news-930187
 
หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนมาถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครน น้ำมันขึ้นราคา ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ ต้นทุนการผลิตทุกหย่อมหญ้า สวนทางกับรายได้ของประชาชนที่ลดลง ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารจำพวกเบเกอรี่ สินค้าแปรรูป และของฝาก ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สถานการณ์ดังกล่าวค่อนข้างหนัก
  
“วิเชียร เจนตระกูลโรจน์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีฟ้าโฟรเซนฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเบเกอรี่ จ.กาญจนบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ”  ว่า สำหรับสินค้าเบเกอรี่อยู่ในกลุ่มสินค้าจำพวกอาหารทางเลือกไม่ใช่อาหารหลัก ตั้งแต่มีการล็อกดาวน์ในช่วงเกิดโควิด-19 แพร่ระบาด ส่งผลกระทบต่อยอดขายหลังจากนั้นเรื่อยมา กระทั่งสถานการณ์กำลังจะดีขึ้นกลับมีสงครารัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าทางการเกษตรหลายตัว
  
ทำให้ปัจจุบันเกิดผลกระทบหนักคือเรื่องภาวะเงินเฟ้อ วัตถุดิบต้นทุนในการผลิตสินค้าแพงขึ้นทุกอย่าง ทั้งข้าวสาลี น้ำมันพืช ไข่ เมล็ดธัญพืช และอื่น ๆ โดยราคายังคงพุ่งสูงต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 และไม่รู้ว่าจะไปหยุดอยู่จุดไหน
 
“ตอนนี้ราคาวัตถุดิบสูงขึ้น แต่ราคาขายสินค้าของเรากลับปรับขึ้นตามราคาวัตถุดิบไม่ได้ทั้งหมด แม้ใจจริงอยากเพิ่มสัก 20-30% แต่ทำได้เพียงประมาณ 10% โดยเฉพาะตลาดหลักที่ส่งขายกับโมเดิร์นเทรดต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากกลุ่มลูกค้าประชาชนคนทั่วไปมีฐานะยากจนลง ดูได้จากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่เพิ่มขึ้น
 
การทำมาหากิน หลังจากเกิดโควิด-19 ก็ลำบาก เงินในกระเป๋าสวนทางกัน ราคาของแพง ผู้บริโภคซื้อของน้อยลง ศรีฟ้าโฟรเซนฟู้ดจึงมียอดขายลดลงไปเฉลี่ย 10-15% และตอนนี้ต้องปรับตัวในการดูแลค่าใช้จ่ายและปรับราคาสินค้าขึ้นอย่างระมัดระวัง ลดผลกระทบให้น้อยที่สุดเพื่อให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคอยู่ได้อย่างยั่งยืน”
 
ทั้งนี้ การระบาดของโควิด-19 ผู้คนจับจ่ายใช้สอยน้อยลงตามวิถี ความเสียหายไม่มาก ไม่รุนแรงเท่ากับเกิดสงครามที่ของแพงขึ้น เกิดเงินเฟ้อกระทบกับคนทุกระดับ หากภาวการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างนี้ต่อไปผู้คนจะซื้ออาหารหลักอย่างข้าวมากกว่าขนมปังหรือกลุ่มเบเกอรี่ที่เป็นสินค้าทางเลือกอย่างแน่นอน แนวโน้มยอดขายจะแย่ลงไปอีก และหากรัฐบาลประกาศปรับค่าแรงขึ้นก็หนีไม่พ้นต้องปรับราคาสินค้าตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในทุกมิติ
 
“วิเชียร” เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคาวัตถุดิบในการทำขนมเพิ่มขึ้นจากเดิมโดยเฉลี่ยประมาณ 20-30% เช่น แป้งสาลี เนยสด ทั้งนำเข้ามาเองจากต่างประเทศและผ่านตัวแทนจำหน่ายขึ้นราคาประมาณ 20% แต่ในภาพรวมเฉลี่ยวัตถุดิบทั้งหมดที่ทำขนมขึ้นราคาประมาณ 25% ทุกอย่างเป็นไปตามแนวโน้มของราคาน้ำมันรถยนต์ที่ขึ้นไปมากกว่า 30%
 
“วิกฤตภาวะเศรษฐกิจตอนนี้คงไม่สามารถแก้ไขได้ทันที แต่รัฐบาลควรตั้งรับและออกนโยบายเสริมสร้างเศรษฐกิจให้ดีกว่านี้ เพราะปัจจุบันไม่ดีเลย และกลุ่มคนฐานรากควรแข็งแรงกว่านี้ ทุกวันนี้กลายเป็นผู้ขออย่างเดียว โดยรอรับเงินจากรัฐผ่านโครงการต่าง ๆ ถ้ารัฐไม่ให้ก็อดตาย วิธีนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหาหรือเป็นระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืน รัฐต้องคิดถึงว่าจะทำยังไงให้คนกลุ่มนี้เข้มแข็ง ยืนได้ด้วยตัวเอง และอยู่ในห่วงโซ่ของการประกอบอาชีพที่มั่นคง สู่ภาคธุรกิจรายเล็กรายย่อยไปถึงรายใหญ่ถึงระดับส่งออกได้ ไม่ใช่มีตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉพาะรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย”
 
ด้าน “ไมตรี ชัยมงคลานนท์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีดี8 จำกัด ผู้ประกอบการร้านแก้วของฝากเมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันน้ำมันแพงขึ้น วัตถุดิบที่ใช้ก็ขึ้นราคา อาทิ ไข่ แป้ง น้ำตาล ฯลฯ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตไม่น้อยกว่า 5-10% ซึ่งตอนนี้ราคาสินค้าภายในร้านแก้วของฝากเมืองกาญจนบุรีที่ขายในประเทศยังไม่มีการปรับราคาขึ้น เพราะต้องประคองธุรกิจไปก่อน ส่วนการส่งออกต้องนัดเจรจากับเทรดเดอร์เพื่อปรับราคาสินค้าที่จะส่งออกไป
 
ขณะเดียวกันร้านแก้วของฝากเมืองกาญจนบุรีก็เริ่มฟื้นตัว ยอดขายขึ้นมา 80-90% หลังจากได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 มานานกว่า 2-3 ปี เพราะนักท่องเที่ยวเริ่มเดินทาง ซึ่งกิจการร้านขายของฝากจะขึ้นอยู่กับปริมาณของนักท่องเที่ยวโดยตรง อีกทั้งทางร้านมีการพัฒนารูปแบบให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นและกำลังโด่งดังในโลกออนไลน์ ผลิตภัณฑ์ ขนมชั้นมียอดขายมากที่สุดในเมืองไทย แต่ละวันมียอดจองผ่านทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก รวมถึงมีการต่อคิวซื้อที่หน้าร้านอีกด้วย
 
“ชัยรัตน์ โสธรนพบุตร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลไม้แปรรูปวรพร จำกัด เจ้าของแบรนด์ “วรพร” ผู้ผลิตมะม่วงแปรรูปพร้อมรับประทานรายแรกของเมืองไทย จ.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำมันและวัตถุดิบต่าง ๆ ขึ้นราคา จนส่งผลกระทบต่อต้นทุนทำให้รายได้ลดลงประมาณ 2% แต่การปรับขึ้นราคาสินค้าตอนนี้ค่อนข้างยาก เนื่องจากสินค้าของร้านส่วนใหญ่เข้าห้างโมเดิร์นเทรดซึ่งมีสัญญากันปีต่อปี หวังว่าสถานการณ์ดังกล่าวคงจะไม่ยืดยาวนัก เพราะตอนนี้ที่ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ก็ถือว่าดีแล้ว
 
“ขณะที่สินค้าตัวเดิมรายได้หายไป 20% แต่ภาพรวมธุรกิจแบรนด์วรพรถือว่าโชคดีที่มีสินค้าตัวใหม่เข้าตลาด ซึ่งเป็นกลุ่มผลไม้ตามฤดูกาล เช่น มะยม มะขาม มะกอก ทำให้ยอดขายเติบโตประมาณ 30% ส่วนกรณีการขึ้นค่าแรง ธุรกิจของเราถือว่าไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเราจ่ายค่าแรงงานตามชิ้นงานที่พนักงานแต่ละคนทำได้ ซึ่งปกติพนักงานได้รับเงินมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว”
 

 
หยุดไม่อยู่แล้ว! น้ำมันขึ้นเกือบยกแผง เบนซิน – โซฮอล์ – ดีเซลพรีเมียม
https://www.dailynews.co.th/news/1051257/

ขึ้นอีกแล้ว! แวะปั๊มด่วน เบนซิน-โซฮอล์ขึ้น 60 สต. ดีเซลพรีเมียม ขึ้น 1 บ. มีผลพรุ่งนี้ ตี 5 ขณะที่ดีเซลตัวอื่นคงเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น และบางจากฯ ได้ปรับราคาขายปลีกกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด ขึ้น 0.60 บาทต่อลิตร เว้น อี 85 และน้ำมันดีเซลพรีเมียม ปรับขึ้น 1 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลทุกชนิดคงเดิม มีผล 16 พ.ค.65 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้ เบนซิน 49.36 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 41.95 บาทต่อลิตร, อี 20 ราคา 40.84 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 41.68 บาทต่อลิตร, อี 85 ราคา 35.24 บาทต่อลิตร, ดีเซล บี 7 บี 10 บี 20 ราคา 31.94 บาทต่อลิตร, ดีเซลพรีเมียม ราคา 40.36 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร



‘สุทิน’ โว เพื่อไทยแลนด์สไลด์แน่ ไม่หวั่นโดนปฏิวัติอีก เชื่อ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ไม่ใช่เงื่อนไข
https://www.matichon.co.th/politics/news_3345453

‘สุทิน’ โว เพื่อไทยแลนด์สไลด์แน่ ไม่หวั่นโดนปฏิวัติอีก เชื่อ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ไม่ใช่เงื่อนไข
 
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการจัดงานครอบครัวพท.ที่ จ.สมุทรปราการเมื่อวานนี้ (14 พฤษภาคม) ที่ผ่านมาว่า ถือว่ากระแสพรรคพท.บวกขึ้นเรื่อยๆ โอกาสที่พรรคพท. จะแลนด์สไลด์ได้ ส.ส.เกินครึ่งในการเลือกตั้งครั้งต่อไปก็มีมากขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ บริบทต่างๆ เช่น กฎหมายลูก รวมถึงต้องประเมินแนวต้านและคู่แข่งของเราด้วยว่าจะมาไม้ไหน แต่เราเชื่อว่ากระแส พท.ดีขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าหากพรรคพท.ชนะแลนด์สไลด์อาจลงเอยด้วยการถูกปฏิวัติอีกรอบ นายสุทิน กล่าวว่า จะเอาเหตุผลอะไรมาปฏิวัติ ทั้งนี้ เรื่องการปฏิวัติไม่เคยล้าสมัย คนไทยพูดเรื่องนี้อยู่ตลอด แต่ถามว่า ผู้มีอำนาจจะเอาเหตุผลอะไรมาปฏิวัติ คุณจะตอบคนทั้งโลกว่าอย่างไร เชื่อว่าครั้งนี้ผู้มีอำนาจไม่สามารถเต้าเรื่องมาปฏิวัติเพื่อยึดอำนาจได้อีกแล้ว
 
เมื่อถามว่า การเข้ามาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวพท. ในฐานะบุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะถูกใช้เป็นเงื่อนไขได้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า คุณอาจจะรู้สึกไม่ชอบหรือหมั่นไส้ได้ แต่ในทางกฎหมายหรือหลักสิทธิมนุษยชน คุณจะมาขัดขวางการเข้ามาทำหน้าที่ของ น.ส.แพทองธารไม่ได้ และเชื่อว่า น.ส.แพทองธารจะไม่ใช่เงื่อนไขสำคัญหรือใช้เป็นเหตุผลในการยึดอำนาจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่