รัสเซียแฉหลักฐานไม่หยุด ห้องแลปชีวภาพลับ มีสหรัฐ เยอรมนี โปแลนด์ มีเอี่ยว
จากกรณีวันที่ 24 ก.พ.65 รัสเซีย ได้เปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครน และบุกตลุยทำลาย ยึด หลักฐานห้องแลปชีวภาพของสหรัฐ มากถึง 30 แห่งในยูเครน (ทั่วโลกมี 200 แห่ง ,
ในจำนวนนี้ชายแดนจีน-รัสเซีย 60 แห่ง) ที่
เกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสโคโรนาจากค้างคาว , ไข้หวัดนก , แอนแทรกซ์ , กาฬโรค , อหิวาห์ ฯลฯ และรัสเซียนำเสนอหลักฐานที่พบในที่ประชุมฉุกเฉินสหประชาชาติ (UN) เพื่อพิจารณาว่าสหรัฐ ละเมิดกฎ UN ที่ห้ามนานาชาติพัฒนาอาวุธชีวภาพ ที่ประชุมถกเถียงกัน แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปใดได้
ต่อมาวันที่ 11 มี.ค.65 นางอาฟริล เฮย์นส ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (DNI) ยอมรับต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสหรัฐ ว่า
"ในยูเครนมีห้องปฏิบัติการทางชีวภาพจริง แต่มีประมาณ 10 กว่าแห่งเท่านั้น”
และรัฐบาลสหรัฐ “เคยมอบความช่วยเหลือ” ,
ในวันเดียวกันนั้น น.ส.มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย
แถลงข่าวแสดงเอกสารหลักฐานว่า กระทรวงสาธารณสุขของยูเครน มีคำสั่งให้ "เร่งทำลายตัวอย่างเชื้อกาฬโรค อหิวาตกโรค แอนแทรกซ์ และตัวอย่างเชื้อจุลินทรีย์อีกหลายชนิด ก่อนวันที่ 24 ก.พ.65 ซึ่งเป็นวันแรกที่รัสเซียเข้ามาปฏิบัติการทางทหารในยูเครน
ต่อมาองค์การอนามัยโลก (WHO) ยอมรับว่ามีความร่วมมือเกี่ยวกับความปลอดภัยทางสุขภาพกับยูเครนมานานหลายปีแล้ว " เพื่อป้องกันการหลุดรอดของเชื้อโรคร้ายแรง ไม่ว่าโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม”
WHO จึงเป็นผู้แนะนำให้ "รัฐบาล ยูเครนทำลายตัวอย่างเชื้อโรคอันตราย"
โดย WHO ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ว่า "ยูเครนปฏิบัติตามหรือไม่" ,
ถัดมาวันที่ 6 พ.ค.65 อัยการสูงสุดจากรัฐมิสซูรี และรัฐหลุยเซียน่า ได้ยื่นฟ้องประธานาธิบดีโจ ไบเดน และพวก เช่น Jen Psaki , Dr Anthony Fauci ฉายา "หมอผีเฟาซี" ร่วมเป็นจำเลยต่อศาลในข้อหา "กดดันและสมรู้ร่วมคิด"
พยายามปกปิดข้อมูลใน Labtop ของนายฮันเตอร์ ไบเดน ผู้เป็นบุตรชาย ในหลายประเด็น เช่น การทุจริตในบริษัทน้ำมันบิวริสมา ยูเครน , ต้นกำเนิดของไวรัสโควิด-19 ฯลฯ
วันที่ 11 พ.ค.65 นายพลอิกอร์ คิริลลอฟ หัวหน้ากองกำลังป้องกันรังสี เคมี และชีวภาพ กองทัพรัสเซีย แถลงว่าพลเรือนยูเครนผู้ถูกทดลองชีวภาพของสหรัฐในยูเครน คือ กลุ่มผู้ป่วยชายอายุ 40-60 ปี ที่มีร่างกายอ่อนแอมาก
โดยคณะผู้เชี่ยวชาญที่ทำการวิจัยทางชีววิทยากลาโหมสหรัฐ ได้เดินทางเข้ายูเครน ผ่านประเทศที่สามเพื่อปกปิดความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ แล้วอพยพ หนีออกนอกยูเครน เมื่อเดือน ม.ค. 2022 ก่อนที่รัสเซียจะบุกยึดและทำลายห้องแลปชีวภาพในยูเครนทั้ง 30 แห่ง
การทดลองดังกล่าว นอกจากกลาโหมสหรัฐ แล้ว ยังมีบริษัทเภสัชภัณฑ์วัคซีนขนาดใหญ่ และบริษัท ที่เพนตากอนพัวพันกับการทดลองชีววิทยาทางทหารของสหรัฐฯ ในยูเครนด้วย
ภายหลังรัสเซีย ยึดพื้นที่เมืองท่ามาริอูปัลได้ คณะผู้เชี่ยวชาญของรัสเซียได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในห้องปฏิบัติการทางชีววิทยา จำนวน 2 แห่งในเมือง
และพบว่าสหรัฐฯ ใช้เมืองดังกล่าวเป็น "ศูนย์กลางระดับภูมิภาคสำหรับเก็บรวบรวมข้อมูลการทดลองเชื้อโรคหนึ่ง"
วันเดียวกันนั้น พล.ท.อิกอร์ คิริลลอฟ หัวหน้ากองกำลังป้องกันรังสี เคมี และชีวภาพของรัสเซีย ได้แสดงหลักฐานเครือข่ายห้องแลปชีวภาพที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสหรัฐฯ ในยูเครน
โดยระบุเพิ่มจากครั้งก่อนว่า ไม่เพียงแต่สหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงพันธมิตร NATO อีกจำนวนหนึ่งกำลังดำเนิน "โครงการชีวภาพทางทหารในดินแดนของยูเครน” โดย "เยอรมัน เปิดตัวโครงการทางชีวภาพระดับชาติโดยไม่ขึ้นกับสหรัฐในปี 2013 ร่วมกับ 12 ประเทศรวมถึงยูเครนในโครงการนี้"
เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาศาสตร์ชั้นนำของเยอรมนี เช่น สถาบัน Robert Koch และสถาบันจุลชีววิทยาของกองทัพเยอรมัน ระหว่างปี 2016 - 2019 มีตัวอย่างซีรั่มในเลือดจำนวน 3,500 ตัวอย่างจากคนที่อาศัยอยู่ใน 25 ภูมิภาคของยูเครน
โดย "โปแลนด์ ก็มีส่วนร่วมอย่างมากในโครงการดังกล่าวเช่นกัน" เอกสารระบุว่าโปแลนด์ได้รับทุนสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งชาติในเมืองลวิฟ ทางตะวันตกของยูเครน โดยสถาบันระบาดวิทยาและสุขอนามัยสาขาหนึ่งของมหาวิทยาลัยนี้ได้เข้าร่วมใน "โครงการทางชีววิทยาทางทหารของสหรัฐฯ "
ยิ่งไปกว่านั้น สถาบันสัตวแพทยศาสตร์แห่งโปแลนด์ ยังได้มีส่วนร่วมใน “การวิจัยเกี่ยวกับไวรัสพิษสุนัขบ้าในยูเครน" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การศึกษาเหล่านี้ได้ดำเนินการร่วมกับ American Battelle Institute "ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาหลักของเพนตากอน สหรัฐ” ,
วันที่ 3 พ.ค.65 ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ต่อสายด่วนหาประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียขอเจรจาหยุดยิงในยูเครน และเงื่อนไขลับ ,
จากนั้นวันที่ 12 พ.ค.65 นายพลลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ต่อสายด่วนหา นายพลเซียร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมขอเจรจาหยุดยิงในยูเครน
วันที่ 14 พ.ค.65 นายโอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี โทรสายด่วนหาประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เรื่อง สถานการณ์อาหารทั่วโลก , นักรบ Azov Neonazi ในยูเครน ,
และขอเจรจาหยุดยิงในยูเครน..สหรัฐ NATO สามารถแถลง "แสดงความไม่สบายใจได้ทุกเรื่องกับทุกชาติในโลก"
แต่มีเรื่องเดียวที่สหรัฐ หวั่นไหวที่สุดไม่กล้าจ้อ คือ "ห้องแลปชีวภาพลับในยูเครน".
.หวั่นรัสเซียจะแฉเชื้อโรคอะไร บริษัทวิจัยเยอรมนี ร่วมกับบริษัทยาสหรัฐ ขายเวชภัณฑ์อะไรขนานใหญ่ บุคคลสำคัญ NATO ในห้องใต้ดินโรงงานเหล็ก Azovstal ที่พล่านขอปล่อยตัวคือใครบ้าง ..ชาติบิ๊ก NATO สหรัฐ เยอรมนี ถึงนั่งไม่ติดขนาดนี้ "
ที่มา : Reuters , Foxnews, Russiatoday, World war 3 news , Interfax
#WorldUpdate
🥰 เรื่องเดิม ช็อค!! รัสเซีย เปิดข้อมูลชาติตะวันตก ใช้ชาวยูเครนทดลองทางชีวภาพ
รัสเซีย แฉ ห้องแลปชีวภาพลับ 30 กว่าแห่งในยูเครน มี สหรัฐ เยอรมนี โปแลนด์ เกี่ยวข้อง
จากกรณีวันที่ 24 ก.พ.65 รัสเซีย ได้เปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครน และบุกตลุยทำลาย ยึด หลักฐานห้องแลปชีวภาพของสหรัฐ มากถึง 30 แห่งในยูเครน (ทั่วโลกมี 200 แห่ง ,
ในจำนวนนี้ชายแดนจีน-รัสเซีย 60 แห่ง) ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสโคโรนาจากค้างคาว , ไข้หวัดนก , แอนแทรกซ์ , กาฬโรค , อหิวาห์ ฯลฯ และรัสเซียนำเสนอหลักฐานที่พบในที่ประชุมฉุกเฉินสหประชาชาติ (UN) เพื่อพิจารณาว่าสหรัฐ ละเมิดกฎ UN ที่ห้ามนานาชาติพัฒนาอาวุธชีวภาพ ที่ประชุมถกเถียงกัน แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปใดได้
ต่อมาวันที่ 11 มี.ค.65 นางอาฟริล เฮย์นส ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (DNI) ยอมรับต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสหรัฐ ว่า
"ในยูเครนมีห้องปฏิบัติการทางชีวภาพจริง แต่มีประมาณ 10 กว่าแห่งเท่านั้น”
และรัฐบาลสหรัฐ “เคยมอบความช่วยเหลือ” ,
ในวันเดียวกันนั้น น.ส.มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงข่าวแสดงเอกสารหลักฐานว่า กระทรวงสาธารณสุขของยูเครน มีคำสั่งให้ "เร่งทำลายตัวอย่างเชื้อกาฬโรค อหิวาตกโรค แอนแทรกซ์ และตัวอย่างเชื้อจุลินทรีย์อีกหลายชนิด ก่อนวันที่ 24 ก.พ.65 ซึ่งเป็นวันแรกที่รัสเซียเข้ามาปฏิบัติการทางทหารในยูเครน
ต่อมาองค์การอนามัยโลก (WHO) ยอมรับว่ามีความร่วมมือเกี่ยวกับความปลอดภัยทางสุขภาพกับยูเครนมานานหลายปีแล้ว " เพื่อป้องกันการหลุดรอดของเชื้อโรคร้ายแรง ไม่ว่าโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม”
WHO จึงเป็นผู้แนะนำให้ "รัฐบาล ยูเครนทำลายตัวอย่างเชื้อโรคอันตราย"
โดย WHO ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ว่า "ยูเครนปฏิบัติตามหรือไม่" ,
ถัดมาวันที่ 6 พ.ค.65 อัยการสูงสุดจากรัฐมิสซูรี และรัฐหลุยเซียน่า ได้ยื่นฟ้องประธานาธิบดีโจ ไบเดน และพวก เช่น Jen Psaki , Dr Anthony Fauci ฉายา "หมอผีเฟาซี" ร่วมเป็นจำเลยต่อศาลในข้อหา "กดดันและสมรู้ร่วมคิด" พยายามปกปิดข้อมูลใน Labtop ของนายฮันเตอร์ ไบเดน ผู้เป็นบุตรชาย ในหลายประเด็น เช่น การทุจริตในบริษัทน้ำมันบิวริสมา ยูเครน , ต้นกำเนิดของไวรัสโควิด-19 ฯลฯ
วันที่ 11 พ.ค.65 นายพลอิกอร์ คิริลลอฟ หัวหน้ากองกำลังป้องกันรังสี เคมี และชีวภาพ กองทัพรัสเซีย แถลงว่าพลเรือนยูเครนผู้ถูกทดลองชีวภาพของสหรัฐในยูเครน คือ กลุ่มผู้ป่วยชายอายุ 40-60 ปี ที่มีร่างกายอ่อนแอมาก
โดยคณะผู้เชี่ยวชาญที่ทำการวิจัยทางชีววิทยากลาโหมสหรัฐ ได้เดินทางเข้ายูเครน ผ่านประเทศที่สามเพื่อปกปิดความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ แล้วอพยพ หนีออกนอกยูเครน เมื่อเดือน ม.ค. 2022 ก่อนที่รัสเซียจะบุกยึดและทำลายห้องแลปชีวภาพในยูเครนทั้ง 30 แห่ง
การทดลองดังกล่าว นอกจากกลาโหมสหรัฐ แล้ว ยังมีบริษัทเภสัชภัณฑ์วัคซีนขนาดใหญ่ และบริษัท ที่เพนตากอนพัวพันกับการทดลองชีววิทยาทางทหารของสหรัฐฯ ในยูเครนด้วย
ภายหลังรัสเซีย ยึดพื้นที่เมืองท่ามาริอูปัลได้ คณะผู้เชี่ยวชาญของรัสเซียได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในห้องปฏิบัติการทางชีววิทยา จำนวน 2 แห่งในเมือง
และพบว่าสหรัฐฯ ใช้เมืองดังกล่าวเป็น "ศูนย์กลางระดับภูมิภาคสำหรับเก็บรวบรวมข้อมูลการทดลองเชื้อโรคหนึ่ง"
วันเดียวกันนั้น พล.ท.อิกอร์ คิริลลอฟ หัวหน้ากองกำลังป้องกันรังสี เคมี และชีวภาพของรัสเซีย ได้แสดงหลักฐานเครือข่ายห้องแลปชีวภาพที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสหรัฐฯ ในยูเครน
โดยระบุเพิ่มจากครั้งก่อนว่า ไม่เพียงแต่สหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงพันธมิตร NATO อีกจำนวนหนึ่งกำลังดำเนิน "โครงการชีวภาพทางทหารในดินแดนของยูเครน” โดย "เยอรมัน เปิดตัวโครงการทางชีวภาพระดับชาติโดยไม่ขึ้นกับสหรัฐในปี 2013 ร่วมกับ 12 ประเทศรวมถึงยูเครนในโครงการนี้"
เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาศาสตร์ชั้นนำของเยอรมนี เช่น สถาบัน Robert Koch และสถาบันจุลชีววิทยาของกองทัพเยอรมัน ระหว่างปี 2016 - 2019 มีตัวอย่างซีรั่มในเลือดจำนวน 3,500 ตัวอย่างจากคนที่อาศัยอยู่ใน 25 ภูมิภาคของยูเครน
โดย "โปแลนด์ ก็มีส่วนร่วมอย่างมากในโครงการดังกล่าวเช่นกัน" เอกสารระบุว่าโปแลนด์ได้รับทุนสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งชาติในเมืองลวิฟ ทางตะวันตกของยูเครน โดยสถาบันระบาดวิทยาและสุขอนามัยสาขาหนึ่งของมหาวิทยาลัยนี้ได้เข้าร่วมใน "โครงการทางชีววิทยาทางทหารของสหรัฐฯ "
ยิ่งไปกว่านั้น สถาบันสัตวแพทยศาสตร์แห่งโปแลนด์ ยังได้มีส่วนร่วมใน “การวิจัยเกี่ยวกับไวรัสพิษสุนัขบ้าในยูเครน" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การศึกษาเหล่านี้ได้ดำเนินการร่วมกับ American Battelle Institute "ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาหลักของเพนตากอน สหรัฐ” ,
วันที่ 3 พ.ค.65 ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ต่อสายด่วนหาประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียขอเจรจาหยุดยิงในยูเครน และเงื่อนไขลับ ,
จากนั้นวันที่ 12 พ.ค.65 นายพลลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ต่อสายด่วนหา นายพลเซียร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมขอเจรจาหยุดยิงในยูเครน
วันที่ 14 พ.ค.65 นายโอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี โทรสายด่วนหาประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เรื่อง สถานการณ์อาหารทั่วโลก , นักรบ Azov Neonazi ในยูเครน ,
และขอเจรจาหยุดยิงในยูเครน..สหรัฐ NATO สามารถแถลง "แสดงความไม่สบายใจได้ทุกเรื่องกับทุกชาติในโลก"
แต่มีเรื่องเดียวที่สหรัฐ หวั่นไหวที่สุดไม่กล้าจ้อ คือ "ห้องแลปชีวภาพลับในยูเครน".
.หวั่นรัสเซียจะแฉเชื้อโรคอะไร บริษัทวิจัยเยอรมนี ร่วมกับบริษัทยาสหรัฐ ขายเวชภัณฑ์อะไรขนานใหญ่ บุคคลสำคัญ NATO ในห้องใต้ดินโรงงานเหล็ก Azovstal ที่พล่านขอปล่อยตัวคือใครบ้าง ..ชาติบิ๊ก NATO สหรัฐ เยอรมนี ถึงนั่งไม่ติดขนาดนี้ "
ที่มา : Reuters , Foxnews, Russiatoday, World war 3 news , Interfax
#WorldUpdate