เกริ่นคร่าวๆก่อนนะครับ ขณะนี้ ผมอาศัยอยู่ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลียนะครับ อยู่ด้วยวีซ่าถาวร กำลังได้จะได้สัญชาติเร็วๆนี้
พื้นฐานผมเอง จบ ป.ตรี ที่มหาวิทยาลัยแถวสยามสแควร์ ตอน 2012 ตอนนั้นได้โอกาสเข้ามาทำงานที่ 1 ในบริษัทไอทีที่หลายคนอยากเข้าในเวลานั้น (สมัยนี้ ที่อยากเข้ากันคงเป็นบริษัทรับจองห้องพักบนตึก CTW แต่สมัยนู้น ก็จะมีบริษัทบนตึกอื้อจือเหลียง ตึกอับดุลราฮิม สุขุมวิท31 และ พหลโยธินแถวอารีย์ ลองเดาดูนะครับว่าที่ไหน) เข้ามาตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากนอกจากว่า เห็นว่าเงินสูงดี เทียบกับเกรดผมขนาดนั้น (เกรดผมไม่ค่อยดี แต่เน้นว่าภาษาอังกฤษค่อนข้างได้เยอะกว่าคน IT ทั่วๆไป) และก็หลายๆคนบอกว่าดีกัน ก็เลย เข้าไป
ในปีแรกเป็นการ Training และเขียนโปรแกรม COBOL ต่อจากนั้น ด้วยเหตุที่ทำตัวไม่ค่อยน่ารัก และก็มีการ Restructuring กัน ปีต่อมาเลยได้ไปอยู่อีกทีมแทน หลักๆเขียนโปรแกรมพวก Unix Shell Script, Perl แนว Automation ทั้งหลาย มีทำ C กับ Java บ้าง พวกแนว Backend, Pre-processing แต่ก็ค่อนข้างน้อย มีทำ Web Java J2EE (ชื่อเรียกสมัยนั้น) Struts Framework บ้าง ไม่ค่อยมาก ไม่ได้ create from scratch เน้นงานพวก แก้บั๊ก เพิ่ม Features มากกว่า ซี่งผมทำแล้วก็สนุกดี แต่ด้วยเหตุที่ว่าไม่ใช่งานหลัก เลยเป็นแนวไม่ได้รู้จริง (งานทั้งหลายที่ผมทำ Technology ทั้งหลาย ส่วนใหญ่ผมแนวไม่รู้จริง แต่อาศัยการสังเกตุ ว่า ตัว Code ตัว Configuration มีอะไร แล้ว จับทางได้ ก็จะรู้ว่า ต้องทำอะไรต่อ)
ตอนที่อยู่บริษัทนั้น ด้วยความที่ผมไม่มีจุดหมายอะไรตอนนั้น และก็ยังเด็กๆอยู่ เลยไม่ได้ใส่ใจเรื่องการอัพทเดตัวเองให้ทันเทคโนโลยีมาก อาศัยว่าเขาให้เราทำอะไร เราก็ทำไป แต่พอได้มาเจอพี่คนนึงที่ย้ายมาจากที่อื่น ที่พยายาม encourage ผม ให้ไปงาน Event Community ต่างๆ หรือไปสอบใบ Cert ผมได้เปิดโลกว่าข้างนอกมีอะไรเยอะกว่านี้อีกมากมาย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากเท่าไร ตอนนั้นเน้นที่ว่า ทำงาน หาเงิน ใช้ชีวิตให้สนุกดีกว่า เที่ยวต่างประเทศต่างๆนาๆ (ผมชอบเที่ยวต่างประเทศ ชอบนั่งเครื่องบิน)
จากนั้น แม่ผม บังคับให้ไปเรียน ป.โท ตอนปี 2016 ผมพยายามมองประเทศที่น่าจะมีโอกาสได้ทำงานหลังเรียนจบ ซึ่งก็มาลงที่ออสเตรเลีย ช่วงที่ผมเรียน ตอนนั้น Focus แค่ว่า เรียนให้จบให้ได้ เวลาตอนนั้น เป็นเรื่องการอ่านหนังสือ ตั้งใจเรียนเป็นหลัก มีลองสมัครงานพวก Graduate/Junior Level เพราะผมมีวีซ่าทำงานหลังเรียนจบได้ 2 ปี สมัครไปสมัครมา ผมได้งานกับบริษัท Startup ด้าน Job Classified แห่งหนึ่ง HQ อยู่ที่ UK แต่มีสำนักงานที่ซิดนีย์ และเดาว่าที่ได้มา เพราะว่าผมมีประสบการณ์ด้าน Perl มาก่อน ซึ่งทางบริษัทใช้เป็นหลัก ก็เลยให้โอกาสผมได้เข้ามาทำ
ปีแรก ค่อนข้างแอบเบื่อ เพราะเป็นงาน Routine ทำ Module อะไรต่างๆเดิมๆ (ทำพวก Web Crawler ดูดข้อมูลจากเว็บทั้งหลาย) ตัว Framework เป็นของข้างใน มีมาให้หมดแล้ว แค่มา Override และ Customise ตามแต่ละเว็บไซต์ ปีที่สองค่อนข้างดีขึ้น เพราะได้มีโอกาสทำ Web Full-Stack ทั้ง BE,FE แต่ ตัวภาษาโปรแกรมก็ยังเป็น Perl อยู่ Front-end มี JS, React, jQuery แต่ได้ทำน้อย เพราะงาน Product Development จะอยู่ฝั่ง UK เป็นหลัก เช่นเคย งานหลักเป็นพวกแก้บั๊ก มีทำ Features ใหม่บ้าง
ล่าสุด มีบริษัท Tech Consultant แห่งหนึ่ง สัญชาติอินเดีย ขึ้นต้นด้วยตัว T ทำ Outsource เดาว่าน่าจะได้ Project กับ Operator มือถือแห่งหนึ่งที่นี้ ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ AIS ประเทศไทย มี Project ที่ต้องใช้ Perl กระบวนการ Hiring ค่อนข้างรวดเร็ว จนผมตกใจมาก วันศุกร์โทรศัพท์หาผม ผมยังไม่ได้ตกลงหรือปฏิเสธ วันจันทร์บอกว่าส่ง Resume ผมไปหามือถือเจ้านั้นแล้ว (โมโหมาก ผมยังไม่ได้อนุญาตแต่อย่างใด) วันอังคาร Call คุยกับคนจากมือถือเจ้านั้น วันพุธ รับเลย ซึ่งตอนนี้ ผมกำลังตัดสินใจอยู่
เป้าหมายของผมขณะนี้ คือผมอยากไปทำงานกับ Stack ที่มีความทันสมัย และตลาดรองรับมากกว่า อย่าง node.js,Express,React,MongoDB,etc. เวลานี้ผมยังอยากอยู่กับ Web Application มากกว่า แต่อาจจะเปิดใจให้ Mobile App หรือ Trend อื่นๆที่กำลังจะมาใหม่ สืบเนื่องมาจากว่า ปัญหาที่ผมเจอคือ ผมหางานยากมาก ด้วยความที่ผมไม่ได้รู้อะไรในแบบที่ชาวบ้านชาวช่องเขารู้กัน อีกเรื่องคือ ผมคุยกับพวก Community ทั้งหลายไม่รู้เรื่องเลย เพราะไม่ใช่ของที่เขาใช้กัน ผมเลยอยากไปลองทำของที่ชาวบ้านชาวช่องใช้กันบ้าง ซึ่งขณะนี้ ผมก็กำลัง Self Learning ฝึกหัด ทำ Project ลง Github และไล่สมัครงานเรื่อยๆ เข้าใจว่าเปลี่ยนภาษา เปลี่ยน Stack อาจจะต้องเริ่มจากเงินน้อย แต่ไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่เป็นสิ่งที่ผมอยากทำ ผมเองอายุก็พอประมาณแล้ว (31-32-33) การที่ต้องไปเสียเวลาต่อจากนี้ ผมมองว่า อาจจะไม่เป็นประโยชน์ต่อเส้นทางของผมเท่าไร
ผมมองข้อดี - ข้อเสีย ถ้าจะย้ายไปนะครับ
ข้อดี
1.ได้เงินเยอะขึ้น (ซื้อตัวผมอย่างแรงจนผมตกใจกับเลขมาก 1x0,000 AUD ต่อปี อันนี้เป็น package กับที่เดิมของผม 7x,000 ต่อปี base ไม่รวมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ - superannutaion - สำหรับคนที่อยู่เมืองไทย เลขคูณมาเป็นเงินไทยจะดูเหมือนเยอะ แต่จริงๆค่าใช้จ่ายเบี้ยใบ้รายทางเยอะเหมือนกันนะครับ)
2.ดูน่าจะเป็นโอกาสที่ดี ในการเข้าไปทำงานร่วมกับ Operator ยักษ์ใหญ่ ที่มีลูกค้าเยอะ เป็นที่รู้จักของคนที่นี้
ข้อเสีย
1.เป็นงาแบบ Outsource ซึ่งผมมองว่า มีความไม่ค่อยแน่นอน อาจจะโดนลูกค้า (บ.มือถือ) บอกเลิก หรือเตะออกได้ทุกเมื่อ
2.งานแบบ Outsource น่าจะต้องรองรับอารมณ์ลูกค้าเยอะ ซึ่งผมเองไม่มีประสบการณ์แบบนี้ ที่ฟังประสบการณ์จากเพื่อนๆผมในเมืองไทย บอกค่อนข้างเหนื่อย ขนาดภาษาไทยยังเหนื่อยแล้ว ภาษาอังกฤษนี่อาจจะยิ่งกว่าอีก มีความเครียด กดดันสูง
3.ตัวบริษัทที่ Outsource เอง ดู feedback ไม่ค่อยดี มีสาขาที่เมืองไทย ผมลองอ่านในพันทิปเองเห็นมีบอกจ่ายเงินเดือนไม่ตรงด้วย แต่ที่นี้ไม่น่าจะมี เพราะ กม น่าจะแรงอยู่
4.นายปัจจุบันผม เป็นคนอินเดียเหมือนกัน แกบอกว่า บริษัทอินเดียเนี่ย จะต้องทำงานล่วงเวลาเยอะ และก็ ไม่ค่อยรับฟังลูกจ้าง (บริษทฝรั่ง ถ้า Complain อะไรไป นายจ้างจะฟังและ Take Action แต่บริษัทอินเดียจะฟังไว้เฉยๆ ไม่ทำอะไร)
5.การทำงาน คนส่วนใหญ่น่าจะเป็นแขก ผมไม่รู้ว่า Culture เป็นอย่างไร เวลาอยู่ด้วยกันมากๆน่ะครับ (ผมไม่ได้ Discriminate นะ แต่ผมรับฟังจากประสบการณ์ในเน็ต กับประสบการณ์อยู่ที่นี้ ที่แขกค่อนข้างเยอะมาก จนแซงหน้าฝรั่งไปแล้ว)
6.ข้อนี้สำคัญที่สุด ผมบอกเป้าหมายของผมข้างบนไปแล้ว ซึ่งผมมองว่า งานนี้ ไม่น่าจะทำให้ผมบรรลุเป้าหมายที่ผมบอกเอาไว้ได้ ผมยอมรออีกหน่อย เพื่อสมัครงานที่ถูกใจ และตรงกับเป้าหมายของผม เงินอาจจะไม่ต้องเยอะมาก แต่ได้ความสบายใจ ได้ทำสิ่งที่รัก น่าจะดีกว่าหรือเปล่า
ไม่ทราบว่า คิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ ยังไงลองคอมเมนต์ประกอบการตัดสินใจดูครับ ผมจะต้องบอกคำตอบเขา ภายในวันจันทร์นี้ ขอบคุณมากครับ
**ใครอ่านประวัติผมแล้ว อาจจะเป็นคนใกล้ตัว ทักมาใน FB หรือ Line ก็ได้นะครับ ยินดีรับฟังทุกคนใกล้ตัวผม**
มี Offer งานใหม่ ผมควรจะเปลี่ยนงานดีมั๊ยครับ (สายไอที Developer)
พื้นฐานผมเอง จบ ป.ตรี ที่มหาวิทยาลัยแถวสยามสแควร์ ตอน 2012 ตอนนั้นได้โอกาสเข้ามาทำงานที่ 1 ในบริษัทไอทีที่หลายคนอยากเข้าในเวลานั้น (สมัยนี้ ที่อยากเข้ากันคงเป็นบริษัทรับจองห้องพักบนตึก CTW แต่สมัยนู้น ก็จะมีบริษัทบนตึกอื้อจือเหลียง ตึกอับดุลราฮิม สุขุมวิท31 และ พหลโยธินแถวอารีย์ ลองเดาดูนะครับว่าที่ไหน) เข้ามาตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากนอกจากว่า เห็นว่าเงินสูงดี เทียบกับเกรดผมขนาดนั้น (เกรดผมไม่ค่อยดี แต่เน้นว่าภาษาอังกฤษค่อนข้างได้เยอะกว่าคน IT ทั่วๆไป) และก็หลายๆคนบอกว่าดีกัน ก็เลย เข้าไป
ในปีแรกเป็นการ Training และเขียนโปรแกรม COBOL ต่อจากนั้น ด้วยเหตุที่ทำตัวไม่ค่อยน่ารัก และก็มีการ Restructuring กัน ปีต่อมาเลยได้ไปอยู่อีกทีมแทน หลักๆเขียนโปรแกรมพวก Unix Shell Script, Perl แนว Automation ทั้งหลาย มีทำ C กับ Java บ้าง พวกแนว Backend, Pre-processing แต่ก็ค่อนข้างน้อย มีทำ Web Java J2EE (ชื่อเรียกสมัยนั้น) Struts Framework บ้าง ไม่ค่อยมาก ไม่ได้ create from scratch เน้นงานพวก แก้บั๊ก เพิ่ม Features มากกว่า ซี่งผมทำแล้วก็สนุกดี แต่ด้วยเหตุที่ว่าไม่ใช่งานหลัก เลยเป็นแนวไม่ได้รู้จริง (งานทั้งหลายที่ผมทำ Technology ทั้งหลาย ส่วนใหญ่ผมแนวไม่รู้จริง แต่อาศัยการสังเกตุ ว่า ตัว Code ตัว Configuration มีอะไร แล้ว จับทางได้ ก็จะรู้ว่า ต้องทำอะไรต่อ)
ตอนที่อยู่บริษัทนั้น ด้วยความที่ผมไม่มีจุดหมายอะไรตอนนั้น และก็ยังเด็กๆอยู่ เลยไม่ได้ใส่ใจเรื่องการอัพทเดตัวเองให้ทันเทคโนโลยีมาก อาศัยว่าเขาให้เราทำอะไร เราก็ทำไป แต่พอได้มาเจอพี่คนนึงที่ย้ายมาจากที่อื่น ที่พยายาม encourage ผม ให้ไปงาน Event Community ต่างๆ หรือไปสอบใบ Cert ผมได้เปิดโลกว่าข้างนอกมีอะไรเยอะกว่านี้อีกมากมาย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากเท่าไร ตอนนั้นเน้นที่ว่า ทำงาน หาเงิน ใช้ชีวิตให้สนุกดีกว่า เที่ยวต่างประเทศต่างๆนาๆ (ผมชอบเที่ยวต่างประเทศ ชอบนั่งเครื่องบิน)
จากนั้น แม่ผม บังคับให้ไปเรียน ป.โท ตอนปี 2016 ผมพยายามมองประเทศที่น่าจะมีโอกาสได้ทำงานหลังเรียนจบ ซึ่งก็มาลงที่ออสเตรเลีย ช่วงที่ผมเรียน ตอนนั้น Focus แค่ว่า เรียนให้จบให้ได้ เวลาตอนนั้น เป็นเรื่องการอ่านหนังสือ ตั้งใจเรียนเป็นหลัก มีลองสมัครงานพวก Graduate/Junior Level เพราะผมมีวีซ่าทำงานหลังเรียนจบได้ 2 ปี สมัครไปสมัครมา ผมได้งานกับบริษัท Startup ด้าน Job Classified แห่งหนึ่ง HQ อยู่ที่ UK แต่มีสำนักงานที่ซิดนีย์ และเดาว่าที่ได้มา เพราะว่าผมมีประสบการณ์ด้าน Perl มาก่อน ซึ่งทางบริษัทใช้เป็นหลัก ก็เลยให้โอกาสผมได้เข้ามาทำ
ปีแรก ค่อนข้างแอบเบื่อ เพราะเป็นงาน Routine ทำ Module อะไรต่างๆเดิมๆ (ทำพวก Web Crawler ดูดข้อมูลจากเว็บทั้งหลาย) ตัว Framework เป็นของข้างใน มีมาให้หมดแล้ว แค่มา Override และ Customise ตามแต่ละเว็บไซต์ ปีที่สองค่อนข้างดีขึ้น เพราะได้มีโอกาสทำ Web Full-Stack ทั้ง BE,FE แต่ ตัวภาษาโปรแกรมก็ยังเป็น Perl อยู่ Front-end มี JS, React, jQuery แต่ได้ทำน้อย เพราะงาน Product Development จะอยู่ฝั่ง UK เป็นหลัก เช่นเคย งานหลักเป็นพวกแก้บั๊ก มีทำ Features ใหม่บ้าง
ล่าสุด มีบริษัท Tech Consultant แห่งหนึ่ง สัญชาติอินเดีย ขึ้นต้นด้วยตัว T ทำ Outsource เดาว่าน่าจะได้ Project กับ Operator มือถือแห่งหนึ่งที่นี้ ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ AIS ประเทศไทย มี Project ที่ต้องใช้ Perl กระบวนการ Hiring ค่อนข้างรวดเร็ว จนผมตกใจมาก วันศุกร์โทรศัพท์หาผม ผมยังไม่ได้ตกลงหรือปฏิเสธ วันจันทร์บอกว่าส่ง Resume ผมไปหามือถือเจ้านั้นแล้ว (โมโหมาก ผมยังไม่ได้อนุญาตแต่อย่างใด) วันอังคาร Call คุยกับคนจากมือถือเจ้านั้น วันพุธ รับเลย ซึ่งตอนนี้ ผมกำลังตัดสินใจอยู่
เป้าหมายของผมขณะนี้ คือผมอยากไปทำงานกับ Stack ที่มีความทันสมัย และตลาดรองรับมากกว่า อย่าง node.js,Express,React,MongoDB,etc. เวลานี้ผมยังอยากอยู่กับ Web Application มากกว่า แต่อาจจะเปิดใจให้ Mobile App หรือ Trend อื่นๆที่กำลังจะมาใหม่ สืบเนื่องมาจากว่า ปัญหาที่ผมเจอคือ ผมหางานยากมาก ด้วยความที่ผมไม่ได้รู้อะไรในแบบที่ชาวบ้านชาวช่องเขารู้กัน อีกเรื่องคือ ผมคุยกับพวก Community ทั้งหลายไม่รู้เรื่องเลย เพราะไม่ใช่ของที่เขาใช้กัน ผมเลยอยากไปลองทำของที่ชาวบ้านชาวช่องใช้กันบ้าง ซึ่งขณะนี้ ผมก็กำลัง Self Learning ฝึกหัด ทำ Project ลง Github และไล่สมัครงานเรื่อยๆ เข้าใจว่าเปลี่ยนภาษา เปลี่ยน Stack อาจจะต้องเริ่มจากเงินน้อย แต่ไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่เป็นสิ่งที่ผมอยากทำ ผมเองอายุก็พอประมาณแล้ว (31-32-33) การที่ต้องไปเสียเวลาต่อจากนี้ ผมมองว่า อาจจะไม่เป็นประโยชน์ต่อเส้นทางของผมเท่าไร
ผมมองข้อดี - ข้อเสีย ถ้าจะย้ายไปนะครับ
ข้อดี
1.ได้เงินเยอะขึ้น (ซื้อตัวผมอย่างแรงจนผมตกใจกับเลขมาก 1x0,000 AUD ต่อปี อันนี้เป็น package กับที่เดิมของผม 7x,000 ต่อปี base ไม่รวมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ - superannutaion - สำหรับคนที่อยู่เมืองไทย เลขคูณมาเป็นเงินไทยจะดูเหมือนเยอะ แต่จริงๆค่าใช้จ่ายเบี้ยใบ้รายทางเยอะเหมือนกันนะครับ)
2.ดูน่าจะเป็นโอกาสที่ดี ในการเข้าไปทำงานร่วมกับ Operator ยักษ์ใหญ่ ที่มีลูกค้าเยอะ เป็นที่รู้จักของคนที่นี้
ข้อเสีย
1.เป็นงาแบบ Outsource ซึ่งผมมองว่า มีความไม่ค่อยแน่นอน อาจจะโดนลูกค้า (บ.มือถือ) บอกเลิก หรือเตะออกได้ทุกเมื่อ
2.งานแบบ Outsource น่าจะต้องรองรับอารมณ์ลูกค้าเยอะ ซึ่งผมเองไม่มีประสบการณ์แบบนี้ ที่ฟังประสบการณ์จากเพื่อนๆผมในเมืองไทย บอกค่อนข้างเหนื่อย ขนาดภาษาไทยยังเหนื่อยแล้ว ภาษาอังกฤษนี่อาจจะยิ่งกว่าอีก มีความเครียด กดดันสูง
3.ตัวบริษัทที่ Outsource เอง ดู feedback ไม่ค่อยดี มีสาขาที่เมืองไทย ผมลองอ่านในพันทิปเองเห็นมีบอกจ่ายเงินเดือนไม่ตรงด้วย แต่ที่นี้ไม่น่าจะมี เพราะ กม น่าจะแรงอยู่
4.นายปัจจุบันผม เป็นคนอินเดียเหมือนกัน แกบอกว่า บริษัทอินเดียเนี่ย จะต้องทำงานล่วงเวลาเยอะ และก็ ไม่ค่อยรับฟังลูกจ้าง (บริษทฝรั่ง ถ้า Complain อะไรไป นายจ้างจะฟังและ Take Action แต่บริษัทอินเดียจะฟังไว้เฉยๆ ไม่ทำอะไร)
5.การทำงาน คนส่วนใหญ่น่าจะเป็นแขก ผมไม่รู้ว่า Culture เป็นอย่างไร เวลาอยู่ด้วยกันมากๆน่ะครับ (ผมไม่ได้ Discriminate นะ แต่ผมรับฟังจากประสบการณ์ในเน็ต กับประสบการณ์อยู่ที่นี้ ที่แขกค่อนข้างเยอะมาก จนแซงหน้าฝรั่งไปแล้ว)
6.ข้อนี้สำคัญที่สุด ผมบอกเป้าหมายของผมข้างบนไปแล้ว ซึ่งผมมองว่า งานนี้ ไม่น่าจะทำให้ผมบรรลุเป้าหมายที่ผมบอกเอาไว้ได้ ผมยอมรออีกหน่อย เพื่อสมัครงานที่ถูกใจ และตรงกับเป้าหมายของผม เงินอาจจะไม่ต้องเยอะมาก แต่ได้ความสบายใจ ได้ทำสิ่งที่รัก น่าจะดีกว่าหรือเปล่า
ไม่ทราบว่า คิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ ยังไงลองคอมเมนต์ประกอบการตัดสินใจดูครับ ผมจะต้องบอกคำตอบเขา ภายในวันจันทร์นี้ ขอบคุณมากครับ
**ใครอ่านประวัติผมแล้ว อาจจะเป็นคนใกล้ตัว ทักมาใน FB หรือ Line ก็ได้นะครับ ยินดีรับฟังทุกคนใกล้ตัวผม**