ขอเกริ่นด้วยปมตอนเด็กก่อนนะคะเราอยู่กับแม่สองคนค่ะ พ่อเราไปอยู่ที่อื่นกับเมียน้อย แต่ก่อนพ่อเราเป็นคนเสเพลค่ะืำงานก็เอาเงินไปกินเหล้า ไปมั่วผู้หญิง ซึ่งแม่เราก็ไม่ได้ว่าอะไรมาก ค่าใช้จ่ายในบ้านงานบ้านทุกอย่างแม่จะเป็นคนรับผิดชอบค่ะ เหมือนแม่เก็บความทุกข์เอาไว้อ่ะค่ะ ซึ่งเราก็รู้ ตอนพอออกจากบ้านไป เราก็จะแอบร้องไห้ ไม่บอกใคร จากนั้นเราเหมือนเด็กเก็บกดเพราะเราไม่มีปู่ย่าตายายเลย เพราะท่านเสียหมดแล้ว เวลาทะเลาะกับแม่ก็เก็บไว้คนเดียว
เริ่มเรื่องกันเลยค่ะคือเราคิดว่าเรามีอาการทางจิตคือเริ่มจากอยู่ดีๆเราก็ชอบนั่งร้องให้คนเดียวเวลาเครียด(ตอนนั้นยังไม่คิดว่าเป็นอาการทางจิต รู้ตอนที่เราเกลียดที่มีคนมารุกรานความเป็นส่วนตัว จากนั้นเราเริ่มโมโหรุนแรง เวลาตอนกลางคืนอยู่คนเดียวเราพยายยามหาที่ลงอารมณ์ เราตบหน้าตัวเองร้องไห้หนักมากเราถึงรู้ว่าเราเริ่มมีอาการทางจิต) เราจะไม่บอกใครเลยเกี่ยวกับที่เรามีอาการทางจิต (เดิมแต่ก่อนเราเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำจนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ เคยไปอ่านมาว่าโรคนี้มันอาจทำให้เกิดโรคซึมเศร้าได้)เราเป็นคนกลัวเสียงดังค่ะ เดิมก็ไม่ได้กลัวหรอกค่ะ แต่ตอนประมาณ ป.6-ม.1 แม่จะชอบบ่นแล้วเราก็รู้สึกไม่พอใจเราก็จะคล้ายๆว่าทำลายของแต่ไม่เชิงอ่ะค่ะ คือเราจะชอบกระทืบเท้า ทำอะไรเสียงดังเพื่อเป็นการบอกว่าเราไม่ชอบ ไม่อยากทำไม่อยากโดนบังคับ แต่เราไม่ได้พูดอะไรนะคะ แต่เราจะทำเสียง"จึ"
ที่เแสดงอาการไม่พอใจ)แรกๆแม่จะไม่พูดอะไร แต่เราคิดว่าแม่น่าจะเป็นคนแบบเราที่ไม่พูดอะไรแต่โกรธ และโกรธหนักมากด้วย พอทำได้2-3ครั้ง แม่ก็โกรธหนักมากกซึ่งตอนนัเราก็พึ่ง แม่เราจากนอนอยู่ก็ลุกขึ้นมา แล้วกระทืบเท้า(แรงมาก ปกติที่เราทำเราไม่ได้ทำแรงนะ)จากนั้นแม่ก็ด่าเราแบบใส่อารมณ์ เราก็นั่งร้องไห้พยายยามทำอย่างอื่นไป แต่ก็ร้องไห้ไป แบบเงียบๆ เราร้องไห้แบบร้องๆหยุดๆ พยายามหยุดแต่หยุดไม่ได้ จากนั้นก็ไปเข้านอนก็ร้องไห้ต่อจนหลับไป จากนั้นเรากลายเป็นคนกลัวเสียงดัง โดยเฉพาะเสียงที่แม่ทำเช่นตอกตะปู ถึงเราจะรู้ว่านั่นไม่ใช่เสียงที่แม่ทำเพราะโมโหเราแต่เวลาเราได้ยินเรารู้สึกไม่ดีทุกที เวลาเราทะเลาะกับแม่ ตอนนั้นเราเผลอสดุดเก้าอี้ แม่คิดว่าเราโมโห แม่ด่าเราวางของเสียงดังใส่ซึ่งเราก็ไม่ได้ทำอะไรเลยแค่สดุด เราเลยร้องไห้ จากนั้นมันเป็นปมเลยกลัวเสียงที่แม่ทำตลอด จนหนักเข้า เวลาเราโดนแม่ด่า หรือบังคับให้เราทำอะไร เราชอบตบหน้าตัวเอง ชกหน้าตัวเอง หยิกแขน หยิกขา
พยายายามกลั้นน้ำตาไว้ เราไม่อยากให้ใครเห็นเราร้องไห้ แม้แต่แม่เรา เวลามีเรื่องอะไรเราไม่อยากพูดกับใคร ไม่มีใครให้หนีไปอยู่ด้วยสักพัก ต้องกลั้นน้ำตาไว้เพราะไม่อยากให้แม่เห็น
เรื่องวันนี้คือ แม่บอกให้เราสั่งซื้อของให้ค่ะ ซึ่งเราขี้เกียจ แม่ก็บอกเรามาหลายวันเราก็ไม่ได้สั่งซักที จนวันนี้แม่บอกเราก็เลยลุกมาหยิบโน้ตบุ้คจะเอาไปเปิดซื้อของ ด้วยสีหน้าเกียจคร้าน+ความรู้สึกที่โดนบังคับเราคิดในใจแบบว่าทำไมต้องบังคับด้วย(เราไม่ชอบการบังคับ)จากนั้นเราก็รู้สึกโมโหนิดหน่อย) เราทำตุ้กตาตกเราโมโหเราเลยเอาเท้าหยิบขึ้นมา จากนั้น แม่เราก็พูดเรื่องประมาณบ่นอะค่ะแต่ไม่ได้บ่นเรานะ แต่เราไม่ชอบฟังเรื่องแบบนี้เลยเราเหนื่อยเราท้อ เราเลยเอามือมาปิดหู จากนั้น แม่ก็พูดประมาณว่าข้าวก็ทำให้กิน อะไรก็ ตอนนั้นเราพยายยามบอกตัวเองว่าเราหูฝาด แม่เราปิดประตูแรงๆหลายๆรอบเราพยายามไม่คิดอะไร ตอนนั้นแม่ออกไปข้างนอก น้ำตาเราเริ่มคลอ เราตบหน้าตัวเอง ชกหน้าตัวเอง
จากนั้นเราเริ่มคิดเรื่องบุญคุณที่แม่เราเลี้ยงเรามา จากนั้นแม่เราก็กลับมา แม่เริ่มทำอะไรเสียงดังตลอด เราก็นั่งอ่านหนังสือ จากนั้นลุงเรามาหาแต่ไม่ได้มาพูดเรื่องเราหรอกค่ะเพราะลุงเขาไม่รู้ลุงเขาแค่มาพูดคุยทั่วไป เราคิดว่าพอลุงไปแม่น่าจะดีขึ้นค่ะ แต่ไม่เลยค่ะหนักว่าเดิมค่ะ พอแม่เิดนขึ้นบนบ้านแม่ก็เขวี้ยงของลงพื้นค่ะซึ่งบ้านเราเป็นบ้านไม้ แล้วเราอยู่ข้างล่างเสียงมันดังค่ะตอนนั้นเราตกใจเสียงมากๆเพราะเราขี้ตกใจหลังจากที่มีปม แม่เราก็เขวี้ยงของเรื่อยๆเดินเสียงดังทำอะไรแบบแรงๆตอนนั้นเรารู้สึกว่าตัวเองมันไร้ค่า น้ำตาเริ่มไหลแต่เราพยายามกลั้นไว้ เราก็ดเริ่มหยิบคัตเตอร์ขึ้นมาแต่เราเป็นคนกลัวเลือดเลยไม่กล้าทำได้แต่เก็บไว้ในใจ พยายามไม่ทำร้ายตัวเองไม่ร้องไห้ แต่ก็ร้องหน่อยๆน้ำตาไหลไม่หยุดแต่หน้าเรายังนิ่งๆ จากนั้นเราก็คิดว่าเรามันเป็นคนไม่มีประโยชน์เราคิดว่าเราจะเรียนให้จบหาเงินให้ได้เยอะๆเอาให้แม่เราคิดมากกับคำพูดของแม่ที่ว่าเลี้ยงเรา ทำอะไรให้เราหลายๆอย่าง เราไม่อยากค้างบุญคุณ เลยคิดว่าถ้าเรามีเงินให้แม่แล้วนั้นคือทดแทนบุญคุณแลว้จากนั้นเราก็ไม่อยากจะมีชีวิตแล้วค่ะ เราตอบแทนบุญให้แล้ว ตอนนี้เราซึมไปเลยค่ะ
อยากถามคนที่เคยเป็นแบบเราเค้ารักษากันยังไงบ้าง แล้วตอนที่กำลังรักษาเป็นยังไงบ้าง รักษาหายแล้วเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้เรารู้สึกว่าโลกนี้มันว่างเปล่า ในหัวเราคิดถึงโลกที่ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย เราอย่กหายไปที่ๆให้เราได้อยู่คนเดียวซักพัก เราโทรหากรมสุขภาพจิตไม่ได้ค่ะ เพราะไม่มีเวลาให้ได้อยู่คนเดียวเลย
ปล.เราอายุ17 ปกตอแม่เราก็ไม่ได้เป็นคนใจร้อนนะ แต่ชอบบ่น ขอโทษที่เขียนยาวนะคะ
เวลาแม่โกรธจะชอบโยนข่าวของทำเสียงดัง+เรามีอาการทางจิต
เริ่มเรื่องกันเลยค่ะคือเราคิดว่าเรามีอาการทางจิตคือเริ่มจากอยู่ดีๆเราก็ชอบนั่งร้องให้คนเดียวเวลาเครียด(ตอนนั้นยังไม่คิดว่าเป็นอาการทางจิต รู้ตอนที่เราเกลียดที่มีคนมารุกรานความเป็นส่วนตัว จากนั้นเราเริ่มโมโหรุนแรง เวลาตอนกลางคืนอยู่คนเดียวเราพยายยามหาที่ลงอารมณ์ เราตบหน้าตัวเองร้องไห้หนักมากเราถึงรู้ว่าเราเริ่มมีอาการทางจิต) เราจะไม่บอกใครเลยเกี่ยวกับที่เรามีอาการทางจิต (เดิมแต่ก่อนเราเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำจนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ เคยไปอ่านมาว่าโรคนี้มันอาจทำให้เกิดโรคซึมเศร้าได้)เราเป็นคนกลัวเสียงดังค่ะ เดิมก็ไม่ได้กลัวหรอกค่ะ แต่ตอนประมาณ ป.6-ม.1 แม่จะชอบบ่นแล้วเราก็รู้สึกไม่พอใจเราก็จะคล้ายๆว่าทำลายของแต่ไม่เชิงอ่ะค่ะ คือเราจะชอบกระทืบเท้า ทำอะไรเสียงดังเพื่อเป็นการบอกว่าเราไม่ชอบ ไม่อยากทำไม่อยากโดนบังคับ แต่เราไม่ได้พูดอะไรนะคะ แต่เราจะทำเสียง"จึ"ที่เแสดงอาการไม่พอใจ)แรกๆแม่จะไม่พูดอะไร แต่เราคิดว่าแม่น่าจะเป็นคนแบบเราที่ไม่พูดอะไรแต่โกรธ และโกรธหนักมากด้วย พอทำได้2-3ครั้ง แม่ก็โกรธหนักมากกซึ่งตอนนัเราก็พึ่ง แม่เราจากนอนอยู่ก็ลุกขึ้นมา แล้วกระทืบเท้า(แรงมาก ปกติที่เราทำเราไม่ได้ทำแรงนะ)จากนั้นแม่ก็ด่าเราแบบใส่อารมณ์ เราก็นั่งร้องไห้พยายยามทำอย่างอื่นไป แต่ก็ร้องไห้ไป แบบเงียบๆ เราร้องไห้แบบร้องๆหยุดๆ พยายามหยุดแต่หยุดไม่ได้ จากนั้นก็ไปเข้านอนก็ร้องไห้ต่อจนหลับไป จากนั้นเรากลายเป็นคนกลัวเสียงดัง โดยเฉพาะเสียงที่แม่ทำเช่นตอกตะปู ถึงเราจะรู้ว่านั่นไม่ใช่เสียงที่แม่ทำเพราะโมโหเราแต่เวลาเราได้ยินเรารู้สึกไม่ดีทุกที เวลาเราทะเลาะกับแม่ ตอนนั้นเราเผลอสดุดเก้าอี้ แม่คิดว่าเราโมโห แม่ด่าเราวางของเสียงดังใส่ซึ่งเราก็ไม่ได้ทำอะไรเลยแค่สดุด เราเลยร้องไห้ จากนั้นมันเป็นปมเลยกลัวเสียงที่แม่ทำตลอด จนหนักเข้า เวลาเราโดนแม่ด่า หรือบังคับให้เราทำอะไร เราชอบตบหน้าตัวเอง ชกหน้าตัวเอง หยิกแขน หยิกขา
พยายายามกลั้นน้ำตาไว้ เราไม่อยากให้ใครเห็นเราร้องไห้ แม้แต่แม่เรา เวลามีเรื่องอะไรเราไม่อยากพูดกับใคร ไม่มีใครให้หนีไปอยู่ด้วยสักพัก ต้องกลั้นน้ำตาไว้เพราะไม่อยากให้แม่เห็น
เรื่องวันนี้คือ แม่บอกให้เราสั่งซื้อของให้ค่ะ ซึ่งเราขี้เกียจ แม่ก็บอกเรามาหลายวันเราก็ไม่ได้สั่งซักที จนวันนี้แม่บอกเราก็เลยลุกมาหยิบโน้ตบุ้คจะเอาไปเปิดซื้อของ ด้วยสีหน้าเกียจคร้าน+ความรู้สึกที่โดนบังคับเราคิดในใจแบบว่าทำไมต้องบังคับด้วย(เราไม่ชอบการบังคับ)จากนั้นเราก็รู้สึกโมโหนิดหน่อย) เราทำตุ้กตาตกเราโมโหเราเลยเอาเท้าหยิบขึ้นมา จากนั้น แม่เราก็พูดเรื่องประมาณบ่นอะค่ะแต่ไม่ได้บ่นเรานะ แต่เราไม่ชอบฟังเรื่องแบบนี้เลยเราเหนื่อยเราท้อ เราเลยเอามือมาปิดหู จากนั้น แม่ก็พูดประมาณว่าข้าวก็ทำให้กิน อะไรก็ ตอนนั้นเราพยายยามบอกตัวเองว่าเราหูฝาด แม่เราปิดประตูแรงๆหลายๆรอบเราพยายามไม่คิดอะไร ตอนนั้นแม่ออกไปข้างนอก น้ำตาเราเริ่มคลอ เราตบหน้าตัวเอง ชกหน้าตัวเอง
จากนั้นเราเริ่มคิดเรื่องบุญคุณที่แม่เราเลี้ยงเรามา จากนั้นแม่เราก็กลับมา แม่เริ่มทำอะไรเสียงดังตลอด เราก็นั่งอ่านหนังสือ จากนั้นลุงเรามาหาแต่ไม่ได้มาพูดเรื่องเราหรอกค่ะเพราะลุงเขาไม่รู้ลุงเขาแค่มาพูดคุยทั่วไป เราคิดว่าพอลุงไปแม่น่าจะดีขึ้นค่ะ แต่ไม่เลยค่ะหนักว่าเดิมค่ะ พอแม่เิดนขึ้นบนบ้านแม่ก็เขวี้ยงของลงพื้นค่ะซึ่งบ้านเราเป็นบ้านไม้ แล้วเราอยู่ข้างล่างเสียงมันดังค่ะตอนนั้นเราตกใจเสียงมากๆเพราะเราขี้ตกใจหลังจากที่มีปม แม่เราก็เขวี้ยงของเรื่อยๆเดินเสียงดังทำอะไรแบบแรงๆตอนนั้นเรารู้สึกว่าตัวเองมันไร้ค่า น้ำตาเริ่มไหลแต่เราพยายามกลั้นไว้ เราก็ดเริ่มหยิบคัตเตอร์ขึ้นมาแต่เราเป็นคนกลัวเลือดเลยไม่กล้าทำได้แต่เก็บไว้ในใจ พยายามไม่ทำร้ายตัวเองไม่ร้องไห้ แต่ก็ร้องหน่อยๆน้ำตาไหลไม่หยุดแต่หน้าเรายังนิ่งๆ จากนั้นเราก็คิดว่าเรามันเป็นคนไม่มีประโยชน์เราคิดว่าเราจะเรียนให้จบหาเงินให้ได้เยอะๆเอาให้แม่เราคิดมากกับคำพูดของแม่ที่ว่าเลี้ยงเรา ทำอะไรให้เราหลายๆอย่าง เราไม่อยากค้างบุญคุณ เลยคิดว่าถ้าเรามีเงินให้แม่แล้วนั้นคือทดแทนบุญคุณแลว้จากนั้นเราก็ไม่อยากจะมีชีวิตแล้วค่ะ เราตอบแทนบุญให้แล้ว ตอนนี้เราซึมไปเลยค่ะ
อยากถามคนที่เคยเป็นแบบเราเค้ารักษากันยังไงบ้าง แล้วตอนที่กำลังรักษาเป็นยังไงบ้าง รักษาหายแล้วเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้เรารู้สึกว่าโลกนี้มันว่างเปล่า ในหัวเราคิดถึงโลกที่ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย เราอย่กหายไปที่ๆให้เราได้อยู่คนเดียวซักพัก เราโทรหากรมสุขภาพจิตไม่ได้ค่ะ เพราะไม่มีเวลาให้ได้อยู่คนเดียวเลย
ปล.เราอายุ17 ปกตอแม่เราก็ไม่ได้เป็นคนใจร้อนนะ แต่ชอบบ่น ขอโทษที่เขียนยาวนะคะ