The Asperger story By P surachet ตอนที่ 14 ปัญหากับผู้หญิง 2
 บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ โรคแอสเพอร์เกอร์ (Asperger’s Syndrome) ที่มาจากประสบการณ์ตรงของผม จากที่ผมเคยเรียน จากคุยกับเพื่อนที่เป็นเหมือนกัน และจากคุณหมอครับ เนื่องจากว่าผมเป็นโรคแอสเพอร์เกอร์และได้พบกับความยากลำบากหลายอย่างทั้งๆ ที่ผมเป็นน้อย และคนในสังคมไทยไม่ค่อยได้รู้จักโรคนี้ ผมจึงคิดที่จะทำสื่อเพื่อให้คนไทยรู้จักมากขึ้น โดยได้เขียนบทความที่ชื่อว่า “The Asperger story By P surachet” โดยจะแบ่งเป็น 15 ตอน อันนี้จะเป็นตอนที่ 14 ครับ หากว่าใครชอบดูในรูปแบบของคลิปวิดีโอมากกว่า สามารถรับชมคลิปได้เลยครับ แต่ถ้าใครชอบอ่านก็เลื่อนลงไปอ่านบทความได้เลยครับ





 ** คำเตือน เนี้อหาในตอน “ปัญหากับผู้หญิง” นั้นเป็นเนี้อหาที่ตรง เข้มข้น อาจดูแรงไปไหมผมไม่รู้แต่นี้คือสิ่งที่ผมเจอมาในชีวิตจริงกับผู้หญิงในวัยเดียวกัน ผมว่าผมต้องพูดความจริง เจอแบบนี้ก็ต้องพูดแบบนี้ซึ่งมันจะสะท้อนไปถึงวิธีคิดและการกระทำของผม ซึ่งจริงๆ มันอาจผิดก็ได้นะครับแต่ผมคิดแบบนี้จริงและผมว่ามันเหมาะสมสำหรับผม ไม่ว่ายังไงผมก็ให้เกียรติผู้หญิงเสมอครับ**
.
.
ปากไม่ตรงกับใจ

 เรื่องนี้ก็เป็นอีกปัญหาใหญ่ ผู้หญิงส่วนใหญ่ปากไม่ตรงกับใจ ไม่ว่าจะเป็นต้องการอีกอย่างแต่พูดอีกอย่าง อารมณ์ตอนนี้รู้สึกอย่างหนึ่งแต่แสดงออกมาเป็นอีกอย่างหนึ่งซึ่งมันมีหลายๆ อย่างมาก มากจนบางครั้งผมก็รับไม่ไว้ อันนี้แค่เป็นเพื่อนกันนะถ้ามากกว่าเพื่อนผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร อย่างเช่น การฝากซื้อของหรือการฝากซื้ออาหาร ก็จะมีปัญหาตรงที่เขาอาจสั่งแบบรวมๆ ให้เราคิดเองหรือไม่ก็อาจใช้คำพูดแบบว่าสั่งอะไรก็ได้แต่พอถึงเวลาเราสั่งมาให้จริงๆ กับรู้สึกไม่พอใจ หรืออาจมีลักษณะที่ว่าพอเราซื้ออะไรมาก็จะมีพูดแบบทำไมไม่ซื้อมาฝาก คือแบบไม่ได้บอกให้ฝากซื้อแล้วจะมาร้องขออะไร อีกอย่างผมเบื่อมากกับการฝากซื้อของให้คนอื่น ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิดแต่การที่เราจะซื้อของให้ใครเราต้องถามเขาว่าเขาจะเอาอะไร หรือให้เขาฝากซื้ออะไรแบบนี้ ไม่งั้นเราจะรู้ได้ไงว่าของที่เราซื้อให้เขามันตรงความต้องการเขา บางคนอาจมองว่าการทำแบบนี้เป็นการสร้างความประหลาดใจให้กับคนอื่นอันนี้ก็แล้วแต่คนคิดครับ
.
.
 และเรายังมีอะไรแบบนี้อีกหลายอย่างที่ปากไม่ตรงกับใจ อย่างเช่นการบอกอารมณ์ หลายๆ ครั้งที่ผู้หญิงแสดงอารมณ์ออกมาไม่ตรงกับอารมณ์ของตัวเองเช่น ผมถามว่าอารมณ์ตอนนี้เขาเป็นอย่างไร เขาก็ตอบประมาณว่าโอเค สบายดี ผมจึงชวนเขาคุยและถามคำถามไปบ้างสิ่งที่เขาตอบกลับมาก็คือตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดีและเครียดอยู่จะชวนคุยเรื่องนี้ทำไม เห็นไหมครับมันย้อนแย้งกันเอง นี้ยังไม่รวมที่ว่าบางคนไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมาเลยเราต้องเดาอารมณ์เขาเองอันนี้ยากสุด ซึ่งอันนี้ส่วนใหญ่ผมก็จะใช้วิธีไม่สนใจอยากจะทำอะไรก็ทำ ลองไปเลยเดียวก็รู้เอง ถ้ามันไม่พอใจมันก็แสดงออกมาเอง แต่วิธีนี้ก็อาจทำให้เขารู้สึกไม่ชอบเราครับ แต่เราไม่มีทางเลือกไม่ชอบก็ไม่ชอบ ช่างเหอะ ถ้ามีเพื่อนเขารับเราได้เขาก็โอเคกับเราเองครับ ที่ผมพูดมาเคยมีผู้ชายบางคนบอกว่ามันเป็นเสน่ห์ของผู้หญิงครับ แต่ผมไม่คิดอย่างนั้นผมคิดว่าสิ่งนี้มันทำให้ผมมึนครับ (เป็นความคิดส่วนตัวครับ)
.
.
ประจำเดือน

 สิ่งนี้ก็เป็นปัญหาอีกเหมือนกันครับ เรื่องประจำเดือน ผู้หญิงกับประจำเดือนจะมีเรื่องของอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ปัญหาส่วนใหญ่ก็คือเราไม่รู้ครับว่าเขาประจำเดือนมา นานๆ ทีจะมีผู้หญิงที่พูดตรงๆ ว่าช่วงนี้อารมณ์แปรปวน ที่เหลือเราต้องเดาเอง แล้วส่วนใหญ่เราก็เดาไม่ถูกกว่าจะรู้ก็คืออารมณ์เขาก็ขึ้นแล้วครับ ผมว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมชาติเป็นเรื่องที่เราต้องพูดกันครับอีกฝ่ายเขาจะได้รู้และทำตัวได้ถูก อีกกรณีตัวอย่างหนึ่งที่ผมเจอมาครับ
“มีผู้หญิงคนหนึ่งที่เราคุยกันในระดับหนึ่ง ผมไม่รู้หรอกว่าสนิทไหม เพราะบางครั้งคุยกันแล้วมันก็ไหลไปเรื่อยเหมือนจะสนิทระดับหนึ่ง แต่ความจริงแล้วไม่รู้ มีอยู่วันหนึ่งเขาดูเหนื่อยๆ ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าเขาเป็นอะไรเราเห็นก็เข้าไปถามว่าเขามีอะไรให้เราช่วยไหม ผมก็เลยยถามเขาว่าประจำเดือนมาหรือเปล่า เท่านั้นแระอาการหัวร้อนกำเริบ เขาด่าเรายังเลยประมาณว่า “ใครสั่งใครสอนให้พูดแบบนี้ เป็นผู้ชายมาพูดเรื่องประจำเดือนได้ไง” บร่าๆๆ ผมก็ขอโทษเขาและเดินออกมา”
.
.
 หลังจากนั้นผมก็คิดว่าทำไมมันเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต เราถามเขาด้วยความเป็นห่วง ผมจึงเอาเรื่องนี้มาถามหมอ สรุปเลยก็คือประมาณว่าผมประเมินผิด จริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวพอสมควร แต่ทีนี้มันก็ขึ้นอยู่กับผู้หญิงคนนั้นด้วยว่าเขาเปิดใจคุยเรื่องนี้ได้ไหม เขาถือตัวไหม ถ้าเขาไม่ถือตัวและเราสนิทกันบางคนก็คุยได้ ที่นี้ผู้หญิงคนนี้ผมอาจประเมินผิด จริงๆ ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นแต่ผมประเมินว่าสนิทระดับหนึ่งสามารถคุยทุกเรื่องได้ซึ่งจริงๆ มันเป็นเรื่องส่วนตัวและสถานที่คุยก็เป็นสถานที่สาธารณะ และผู้หญิงคนนี้อาจถือตัวด้วย จึงกลายเป็นปัญหา สรุปเลยก็คือมันขึ้นอยู่กับผู้หญิงแต่ละคนว่าเขามีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไร ถือตัวหรือเปิดใจ และความไว้ใจหรือความสนิทมีมากน้อยแค่ไหนที่จะคุยเรื่องส่วนตัวแบบนี้
นี้ละครับปัญหาเพราะสำหรับผมโดยส่วนตัวนั้นผมว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องความจริงของธรรมชาติ เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องพูดคุยกันได้และควรจะพูดคุยเพื่อจะได้บอกสถานะตัวเองให้คนอื่นรับรู้และทำตัวได้ถูก เรื่องมันก็ประมาณนี้แระครับท่านผู้ชม
.
.
บทบาททางเพศที่ไม่เท่าเทียม

 สำหรับผมนั้นผมถือว่าทุกคนเป็นมนุษย์เหมือนกัน ซึ่งมันหมายถึงเท่าเทียมกัน รายละเอียดลึกๆบางด้านอาจต่างกันก็ไม่เป็นไรแต่โดยรวมนั้นต้องเสมอกัน แต่บทบาททางเพศในสังคมนั้นไม่ได้เป็นแบบนั้น ปากอาจบอกว่าทุกคนเท่าเทียมกันแต่การปฏิบัติไม่ได้เป็นแบบนั้น สังคมของเรานั้นเอื้อให้กับผู้หญิงในหลายๆ ด้านเช่น การขึ้นรถเมส์ รถไฟฟ้า ผู้ชายควรจะยืนให้ผู้หญิงนั่ง สำหรับผมนั้นมองว่ามันไม่เกี่ยวว่าเพศอะไร แต่เกี่ยวที่ว่าคนที่ควรจะนั่ง คือคนที่ร่างกายไม่พร้อมที่จะยืนอาจเหนื่อยล้า เจ็บป่วย พิการ หรือท้อง แต่นั้นแระบางครั้งผู้ชายก็มักจะถูกโจมตีถ้าไม่ให้ผู้หญิงนั่ง บางคนก็บอกว่าเป็นเสน่ห์ของผู้ชาย อันนี้ก็แล้วแต่คนจะคิดครับ
.
.
เข้าเรื่องของเราดีกว่า สำหรับผมนั่งการปฏิบัติตัวระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงนั้นจะเหมือนกัน เราพูดถึงในสังคมมหาลัยละกัน ผมจะใช้วิธีคิด คำพูด การแสดงออกต่างๆ หรือเกือบทุกอย่างเหมือนๆ กัน ซึ่งผู้หญิงบางคนเท่าที่ผมรู้เขาก็ไม่ชอบ คือผู้ชายในวัยมหาลัยมันจะมีเรื่องของอารมณ์ทางเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง ยิ่งถ้าผู้หญิงคนไหนสวยมันจะยิ่งเห็นชัด คือพูดกันตรงๆ ผู้ชายบางคนมันก็หม้อ มันก็ครับ ดังนั้นการปฏิบัติตัวระหว่างเพื่อนผู้ชายด้วยกันกับผู้หญิงจะต่างกัน บางคนต่างกันเยอะ เอาแค่สีหน้า ท่าทาง คำพูดที่ใช้ก็ต่างแล้ว ผู้ชายบางคนใช้คำพูดและท่าทางที่หวานหลายรูปแบบอันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคน หรือลักษณะของการเอาใจเพื่อซื้อใจผู้หญิง ผมคงไม่ต้องอธิบายเยอะหลายๆ ท่านน่าจะนึกออก หรือไม่ต้องซื้อใจก็ได้อาจเป็นเรื่องอื่นแต่เหมือนกับว่าสิ่งที่สังคมเรายอมรับก็คือผู้ชายต้องทำอะไรแบบนี้กับผู้หญิง
.
.
สำหรับผมนั้นผมทำสิ่งเหล่านี้ไม่เป็น ผมพูดอะไรเหมือนๆ กันกับคนทุกเพศ ถ้าต้องใช้กูกับผู้หญิงผมก็จะใช้ ซึ่งจริงๆ มีเพื่อนผู้ชายบางคนมาเตือนว่า “พูดคำพูดนี้กับผู้หญิงไม่ได้” “ทำกิริยาแบบนี้กับผู้หญิงไม่ได้” ผมก็เงียบๆ ไว้แต่ในใจแต่ในใจผมไม่สนใจถ้าผมจะทำก็จะทำถ้าเกิดว่ามันไม่ได้สร้างความเดือนร้อนอะไรนะ ถ้าเขาไม่พอใจอยากจะไปไหนก็ไป แต่คุณเชื่อไหมว่าวิธีนี้เราจะมีเพื่อนผู้หญิงน้อยแต่มันจะมีผู้หญิงบางคนที่เขายอมเป็นเพื่อนเรา ผมเคยถามเขาว่าทำไมเขาถึงเป็นเพื่อนกับเรา เขาบอกว่าดูตรงไปตรงมา จริงใจ ปกติผู้ชายเวลาปฏิบัติกับผู้หญิงบางคนจะมีมายา คือผู้หญิงเขามีสัมผัสความรู้สึกได้ แต่ก็นั้นแระครับก็คงจะมีส่วนน้อยนะเพราะผู้หญิงในวัยมหาลัยถึงเขารู้ว่าผู้ชายปฏิบัติกับเขาแบบมายาแต่ของก็ชอบอยู่ดี รวมทั้งผู้หญิงในวัยนี้ยังมองภายนอกมากกว่าภายในด้วยซ้ำ

ผม P สุรเชษฐ์ ฆังนิมิตร 
สามารถติดตามและพูดคุยกับผมได้ที่เพจ : P สุรเชษฐ์ ฆังนิมิตร
หรือลิงค์ : https://www.facebook.com/psurachet95/?show_switched_toast=0&show_invite_to_follow=0&show_switched_tooltip=0&show_podcast_settings=0&show_community_transition=0&show_community_review_changes=0
ช่อง Youtube : P สุรเชษฐ์ ฆังนิมิตร 
หรือลิงค์ :  https://www.youtube.com/channel/UCcaotwQy4XufCWfUdJGmFtw