คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
พ่อแม่ไม่ให้ไปเพราะ กังวลว่าการไปแบบนั้นเสีย่งกับเรื่องร้ายแรงที่อาจเกิดได้
-สิ่งมึนเมา จะมากจะน้อย นั่งจิบสปายก็เป็นจุดเริ่มได้
-เรื่องชู้สาว เพื่อนกันรักกัน เพื่อนกันได้กัน มีมากมาย เพื่อนของเพื่อนที่มาอีกล่ะ
-อุบัติเหตุ อันตรายต่างๆ ที่วัยยังคะนอง อาจมองความเสี่ยงแล้วไม่ตระหนัก เล่นน้ำ ลงเรือ ขี่รถ
แต่
สามอย่างนี้ สามารถป้องกันได้ด้วยการปลูกฝังอย่างสร้างสรรค์ตั้งแต่เด็กครับ เดาว่าพ่อแม่ของคุณใช้วิธี"ห้าม" และ มองเป็นเรื่อง"ต้องห้าม" มาตลอด ดังนั้น จึงไม่ไว้ใจในตัวคุณเองว่าจะมีเกราะป้องกันสิ่งเหล่านี้มากแค่ไหน ทางออกที่ง่ายที่สุดคือ ไม่ให้ไปใกล้ ไม่ให้มีโอกาสไปยุ่งเอาซะเลยตั้งแต่แรก
ทางออกที่แนะนำได้คือ
ดึงพ่อแม่เข้ามาหากลุ่มเพื่อนเราก่อนครับ อย่าคิดจะขอตัวออกไปจากพ่อแม่ พาเพื่อนมาให้พ่อแม่ได้สัมผัส ดูท่าที คุยกับพ่อแม่เรือ่งเพื่อนบ้าง คนไหนเป็นอย่างไร เพื่อนคนนั้นดีไม่ดียังไง ให้พ่อแม่ได้รับรู้มิติต่างๆ ได้ฟังและรู้สึกถึงวุฒิภาวะของเรากับเพื่อนๆ แล้วเปิดใจรับฟังพ่อแม่บ้าง เวลาเค้าพูดถึงเพื่อนของเรา อย่างไร แบบไหน เพราะบางมุม อย่าว่าแต่เป็นผู้ใหญ่กว่าเลยครับ บางเรื่อง คนนอกมองเข้ามาจะเห็นได้ง่ายกว่าคนในมองกันเอง ดังนั้น ใครเป็นยังไง ดี ไม่ดี ตรงๆหน เราต้องรับฟังคนอื่น
เมื่อพ่อแม่รับรู้ว่าได้ คุณมีความคิดที่ดี โตแล้ว ดูแลตัวเองได้ เพื่อนคนไหนดีอย่างไร ช่วยเหลือยังไง น่าไว้ใจได้ ก็จะได้มีเวลากับเพื่อนมากขึ้นครับ
ถ้าปิดๆเงียบๆ รับรองว่า ไม่มีทาง นอกจากจะหนีไปเท่านั้น
ผมก็ไม่เคยให้ลูกสาวไปนอนบ้านเพื่อนนะครับ แต่ชอบพาไปเที่ยวด้วยกันสองคนพ่อลูก (ตอนนี้จะ 14 แล้ว) พาไปทะเล น้ำตก ภูเขา เหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า แล้วชอบคุยกับลูกเรือ่งเพื่อนๆเค้า คุยกับเพื่อนๆลูกสาว เหมือนเป็นกลุ่มเดียวกัน เปิดบ้านให้เด็กๆสาวๆมาค้าง ทำการบ้าน เล่นสิ่งต่างๆกัน
เฉพาะของลูกสาวตัวเอง ก็ให้ลองจิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถ้าเค้าอยากรู้อยากลองเองไม่ได้ห้ามอะไร ทำค็อกเทลกินจนเมาหัวทิ่มเวลาไปปาร์ตี้กับแก็งค์พ่อๆ พับสลบอ้วกท่วมก็เป็นมาแล้ว ไม่ห้ามไม่บังคับ อยากรู้ก็ได้ลองในสายตาครับ
วันก่อนเดินช็อปปิ้งแล้วผ่านย่านห้างดังกลางเมืองที่มุมห้างมีเป็นผับ บาร์ไวน์ สถานบันเทิง เชื่อมกับรถไฟฟ้าที่เราต้องเดินผ่าน มีสาวๆหนุ่มๆเมาเรื้อนกัน สาวแต่งตัวสวยผมยาว เดินเมาโวยวายกับเพื่อนเก้ง ประคองมา เสียงลั่นเรื่องผู้ชาย เหมือนอกหักมา เดินตรงไม่ได้แล้ว ใช้พื้นที่เดินประมาณ 2.5 เมตรรอบตัวเลย ตอนสวนกัน กลิ่นเหล้านี่หึ่งมากๆ
ลูกสาวถามว่า ถ้าจะเมาขนาดนี้ ออกมาทุเรศขนาดนี้ อยู่บ้านดีกว่ามั้ย? จะมาเดินเมาโวยวาย เหม็นกลิ่นเหล้าผสมกลิ่นอ้วกให้คนเค้าสังเวชทำไม (มีความปากดี)
อยากบอกว่า ชีวิตมันมีเรื่องต้องเรียนรู้อีกเยอะมากมายเลยครับ พ่อแม่คุณอาจเป็นห่วงว่า คุณไม่มีความพร้อมเจอเรื่องเหล่านั้น ถ้าเจอจะรับมือมันไม่ได้แล้วเกิดปัญหา
เล่าเรื่องโบราณย้อนวัยนะครับ
ผมไปค้างบ้านเพื่อนแบบไปเพื่อเจตนาไม่ดีไม่งาม คือไปกินเหล้านั่นแหละ ครั้งแรกตอน ม.4 ปกติค้างบ้านเพื่อนแบบไม่ทุจริตมาตั้งแต่ ม.1 ครับ ค้างโรงเรียนทำกิจกรรมมาก็ตลอด จนตอนนั้น ได้รู้จักเพื่อนต่างโรงเรียนที่ทำกิจกรรมมาเจอกัน สนิทกัน เค้าก็ชวนไปค้างเล่นกันกับบ้านรุ่นพี่ที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ ก็เป็น วัยรุ่น 6-7 คน มีชายและหญิง ไปถึงก็ตั้งวงกัน แน่นอนว่า ตอนนั้นก็กินไม่เป็น ให้กินอะไรก็กิน กินจนเมา หลับฟุบ อ้วกเละเทะ โดนจับราดน้ำแก้ผ้าเปลี่ยนชุดโยนเข้าไปนอนห้องรับแขก ส่วนที่ไปด้วยกันคือรุ่นพี่ผู้หญิงอีกสองคน ก็เมา แล้วมีรุ่นพี่เจ้าของบ้านจากโรงเรียนอื่นนี่แหละ เข้าไปนอนลวนลามด้วย แต่จำไม่ได้แล้วว่าพลาดท่าถึงขั้นไหน
แล้วก็มีตอนมหาวัทยาลัย ที่ไปเที่ยวทะเลกันเป็นสิบๆคน หนุ่มๆต่างก็มีสาวหมายปองจ้องกัน หาโอกาสแยกเป็นคู่ๆ พวกชายโฉดไม่สนใครก็ร่ำเมากันไป กลางคืนก็มีหนุ่มสายสำองค์นั่งเล่นกีตาร์ร้องเพลงล้อมกองไฟให้สาวๆเพลิดเพลิน จากเพื่อนสนิทกันไปๆมาๆ มนต์รักเสียงเพลง แสงดาวและเกลียวคลื่น ก็มีคู่ที่ได้เสียกันในวันนั้นแหละครับ บรรยากาศเป็นใจให้เจริญพันธุ์ซะงั้น
ทำไมถึงรู้น่ะหรอ ไม่ยากเลยครับ ก็ไอ้พวกขี้เมา มันหลับหัวทิ่มตั้งแต่ไม่กี่ทุ่มแล้ว จะรอดได้ไง นั่งโจ้กันตั้งแต่บ่าย พอดึกๆก็ตื่นมาต่อยกใหม่ ไอ้ผมก็ตื่นมาเที่ยงคืน ล้างหน้าหาอะไรกิน จะเดินไปร่วมวงที่ชายหาดผ่านเต็นท์ของเพื่อนขลุกขลักๆๆ เสียงแปลกๆ จังหวะนั้น รถที่จอดที่ ที่จอดรถถัดไปสิบเมตรสตาร์ทเครื่องคงจะไปวื้อของเปิดไฟสาดมาทะลุเต็นท์ได้เห็นหนังตะลุงเป็นเงาขยับๆพั่บๆอยู่แล้วหยุด
พอมาถึงวงโฉดก็ได้รู้ว่า เค้าแยกย้ายกันไปพลอดรัก คุยกัน เดินเล่นเป็นคู่ๆหมดแล้ว
จริงๆมันก็คือชีวิตคนเราครับที่ต้องพบเจอเรียนรู้และพัฒนาตัวเองไปกับประสบการณ์เหล่านี้ จะทุกข์จะสุขก็ต้องรับมันเอาเอง แต่พ่อแม่คุณ จขกท ไม่อยากให้คุณทุกข์จากเรื่องที่อาจพบเจอครับเลยกักเอาไว้ในที่ๆปลอดภัยแน่ๆแต่ลืมไปว่า ไม่ทุกข์จากภัยเหล่านั้นแต่ก็ทุกข์จากการถูกกักกันไว้ให้ห่างจากสิ่งต้องห้าม
-สิ่งมึนเมา จะมากจะน้อย นั่งจิบสปายก็เป็นจุดเริ่มได้
-เรื่องชู้สาว เพื่อนกันรักกัน เพื่อนกันได้กัน มีมากมาย เพื่อนของเพื่อนที่มาอีกล่ะ
-อุบัติเหตุ อันตรายต่างๆ ที่วัยยังคะนอง อาจมองความเสี่ยงแล้วไม่ตระหนัก เล่นน้ำ ลงเรือ ขี่รถ
แต่
สามอย่างนี้ สามารถป้องกันได้ด้วยการปลูกฝังอย่างสร้างสรรค์ตั้งแต่เด็กครับ เดาว่าพ่อแม่ของคุณใช้วิธี"ห้าม" และ มองเป็นเรื่อง"ต้องห้าม" มาตลอด ดังนั้น จึงไม่ไว้ใจในตัวคุณเองว่าจะมีเกราะป้องกันสิ่งเหล่านี้มากแค่ไหน ทางออกที่ง่ายที่สุดคือ ไม่ให้ไปใกล้ ไม่ให้มีโอกาสไปยุ่งเอาซะเลยตั้งแต่แรก
ทางออกที่แนะนำได้คือ
ดึงพ่อแม่เข้ามาหากลุ่มเพื่อนเราก่อนครับ อย่าคิดจะขอตัวออกไปจากพ่อแม่ พาเพื่อนมาให้พ่อแม่ได้สัมผัส ดูท่าที คุยกับพ่อแม่เรือ่งเพื่อนบ้าง คนไหนเป็นอย่างไร เพื่อนคนนั้นดีไม่ดียังไง ให้พ่อแม่ได้รับรู้มิติต่างๆ ได้ฟังและรู้สึกถึงวุฒิภาวะของเรากับเพื่อนๆ แล้วเปิดใจรับฟังพ่อแม่บ้าง เวลาเค้าพูดถึงเพื่อนของเรา อย่างไร แบบไหน เพราะบางมุม อย่าว่าแต่เป็นผู้ใหญ่กว่าเลยครับ บางเรื่อง คนนอกมองเข้ามาจะเห็นได้ง่ายกว่าคนในมองกันเอง ดังนั้น ใครเป็นยังไง ดี ไม่ดี ตรงๆหน เราต้องรับฟังคนอื่น
เมื่อพ่อแม่รับรู้ว่าได้ คุณมีความคิดที่ดี โตแล้ว ดูแลตัวเองได้ เพื่อนคนไหนดีอย่างไร ช่วยเหลือยังไง น่าไว้ใจได้ ก็จะได้มีเวลากับเพื่อนมากขึ้นครับ
ถ้าปิดๆเงียบๆ รับรองว่า ไม่มีทาง นอกจากจะหนีไปเท่านั้น
ผมก็ไม่เคยให้ลูกสาวไปนอนบ้านเพื่อนนะครับ แต่ชอบพาไปเที่ยวด้วยกันสองคนพ่อลูก (ตอนนี้จะ 14 แล้ว) พาไปทะเล น้ำตก ภูเขา เหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า แล้วชอบคุยกับลูกเรือ่งเพื่อนๆเค้า คุยกับเพื่อนๆลูกสาว เหมือนเป็นกลุ่มเดียวกัน เปิดบ้านให้เด็กๆสาวๆมาค้าง ทำการบ้าน เล่นสิ่งต่างๆกัน
เฉพาะของลูกสาวตัวเอง ก็ให้ลองจิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถ้าเค้าอยากรู้อยากลองเองไม่ได้ห้ามอะไร ทำค็อกเทลกินจนเมาหัวทิ่มเวลาไปปาร์ตี้กับแก็งค์พ่อๆ พับสลบอ้วกท่วมก็เป็นมาแล้ว ไม่ห้ามไม่บังคับ อยากรู้ก็ได้ลองในสายตาครับ
วันก่อนเดินช็อปปิ้งแล้วผ่านย่านห้างดังกลางเมืองที่มุมห้างมีเป็นผับ บาร์ไวน์ สถานบันเทิง เชื่อมกับรถไฟฟ้าที่เราต้องเดินผ่าน มีสาวๆหนุ่มๆเมาเรื้อนกัน สาวแต่งตัวสวยผมยาว เดินเมาโวยวายกับเพื่อนเก้ง ประคองมา เสียงลั่นเรื่องผู้ชาย เหมือนอกหักมา เดินตรงไม่ได้แล้ว ใช้พื้นที่เดินประมาณ 2.5 เมตรรอบตัวเลย ตอนสวนกัน กลิ่นเหล้านี่หึ่งมากๆ
ลูกสาวถามว่า ถ้าจะเมาขนาดนี้ ออกมาทุเรศขนาดนี้ อยู่บ้านดีกว่ามั้ย? จะมาเดินเมาโวยวาย เหม็นกลิ่นเหล้าผสมกลิ่นอ้วกให้คนเค้าสังเวชทำไม (มีความปากดี)
อยากบอกว่า ชีวิตมันมีเรื่องต้องเรียนรู้อีกเยอะมากมายเลยครับ พ่อแม่คุณอาจเป็นห่วงว่า คุณไม่มีความพร้อมเจอเรื่องเหล่านั้น ถ้าเจอจะรับมือมันไม่ได้แล้วเกิดปัญหา
เล่าเรื่องโบราณย้อนวัยนะครับ
ผมไปค้างบ้านเพื่อนแบบไปเพื่อเจตนาไม่ดีไม่งาม คือไปกินเหล้านั่นแหละ ครั้งแรกตอน ม.4 ปกติค้างบ้านเพื่อนแบบไม่ทุจริตมาตั้งแต่ ม.1 ครับ ค้างโรงเรียนทำกิจกรรมมาก็ตลอด จนตอนนั้น ได้รู้จักเพื่อนต่างโรงเรียนที่ทำกิจกรรมมาเจอกัน สนิทกัน เค้าก็ชวนไปค้างเล่นกันกับบ้านรุ่นพี่ที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ ก็เป็น วัยรุ่น 6-7 คน มีชายและหญิง ไปถึงก็ตั้งวงกัน แน่นอนว่า ตอนนั้นก็กินไม่เป็น ให้กินอะไรก็กิน กินจนเมา หลับฟุบ อ้วกเละเทะ โดนจับราดน้ำแก้ผ้าเปลี่ยนชุดโยนเข้าไปนอนห้องรับแขก ส่วนที่ไปด้วยกันคือรุ่นพี่ผู้หญิงอีกสองคน ก็เมา แล้วมีรุ่นพี่เจ้าของบ้านจากโรงเรียนอื่นนี่แหละ เข้าไปนอนลวนลามด้วย แต่จำไม่ได้แล้วว่าพลาดท่าถึงขั้นไหน
แล้วก็มีตอนมหาวัทยาลัย ที่ไปเที่ยวทะเลกันเป็นสิบๆคน หนุ่มๆต่างก็มีสาวหมายปองจ้องกัน หาโอกาสแยกเป็นคู่ๆ พวกชายโฉดไม่สนใครก็ร่ำเมากันไป กลางคืนก็มีหนุ่มสายสำองค์นั่งเล่นกีตาร์ร้องเพลงล้อมกองไฟให้สาวๆเพลิดเพลิน จากเพื่อนสนิทกันไปๆมาๆ มนต์รักเสียงเพลง แสงดาวและเกลียวคลื่น ก็มีคู่ที่ได้เสียกันในวันนั้นแหละครับ บรรยากาศเป็นใจให้เจริญพันธุ์ซะงั้น
ทำไมถึงรู้น่ะหรอ ไม่ยากเลยครับ ก็ไอ้พวกขี้เมา มันหลับหัวทิ่มตั้งแต่ไม่กี่ทุ่มแล้ว จะรอดได้ไง นั่งโจ้กันตั้งแต่บ่าย พอดึกๆก็ตื่นมาต่อยกใหม่ ไอ้ผมก็ตื่นมาเที่ยงคืน ล้างหน้าหาอะไรกิน จะเดินไปร่วมวงที่ชายหาดผ่านเต็นท์ของเพื่อนขลุกขลักๆๆ เสียงแปลกๆ จังหวะนั้น รถที่จอดที่ ที่จอดรถถัดไปสิบเมตรสตาร์ทเครื่องคงจะไปวื้อของเปิดไฟสาดมาทะลุเต็นท์ได้เห็นหนังตะลุงเป็นเงาขยับๆพั่บๆอยู่แล้วหยุด
พอมาถึงวงโฉดก็ได้รู้ว่า เค้าแยกย้ายกันไปพลอดรัก คุยกัน เดินเล่นเป็นคู่ๆหมดแล้ว
จริงๆมันก็คือชีวิตคนเราครับที่ต้องพบเจอเรียนรู้และพัฒนาตัวเองไปกับประสบการณ์เหล่านี้ จะทุกข์จะสุขก็ต้องรับมันเอาเอง แต่พ่อแม่คุณ จขกท ไม่อยากให้คุณทุกข์จากเรื่องที่อาจพบเจอครับเลยกักเอาไว้ในที่ๆปลอดภัยแน่ๆแต่ลืมไปว่า ไม่ทุกข์จากภัยเหล่านั้นแต่ก็ทุกข์จากการถูกกักกันไว้ให้ห่างจากสิ่งต้องห้าม
แสดงความคิดเห็น
มีใครอายุ 19 แล้ว แต่พ่อแม่ยังไม่ให้ออกไปนอนค้างคืนกับเพื่อนไหมคะ