เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ตามคาด เริ่มทำ QT เดือนหน้า
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 0.75-1.00% ในการประชุมวันนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี
ทิศทาง
เฟดยังเปิดเผยแผนทยอยปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งงบดุลดังกล่าวประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) โดยขณะนี้มีมูลค่ารวม 8.9 ล้านล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยจะปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้ MBS วงเงิน 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม
หลังจากนั้น 3 เดือน เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยจะปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้ MBS วงเงิน 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม
https://www.bangkokbiznews.com/world/1002538
เหตุผลการขึ้น ทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยรอบต่อไป และเป้าหมายในการควบคุมเงินเฟ้อ
คาดว่าไม่เกิน 0.5%ในการประชุมครั้งหน้า
“คณะกรรมการมีความเอาใจใส่อย่างมากต่อความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ” คณะกรรมการตลาดเปิดของเฟดกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพุธเมื่อวันพุธและเสริมว่าคาดการณ์ว่าจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยอ้างถึงการรุกรานยูเครนของรัสเซียและการล็อกดาวน์จากการระบาดใหญ่ในจีน อันเป็นสาเหตุของความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและปัจจัยที่มีแนวโน้มว่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น
เป้าหมายในการควบคุมเงินเฟ้อ
ในการแถลงข่าวหลังจากแถลงการณ์เมื่อวันพุธ ประธานเฟดโปร เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อ "สูงเกินไป" และกล่าวว่าธนาคารกลางจะพยายาม "เร่ง" เพื่อคืนอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ที่ 2% ต่อปี อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าพาวเวลล์จะไม่สนใจการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า 0.5% ในการประชุมในอนาคต
https://www.nbcnews.com/business/economy/federal-reserve-interest-rate-increase-inflation-rcna26982
ทิศทางหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ตามคาด เริ่มทำแผนทยอยปรับลดขนาดงบดุล QT เดือนหน้า
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 0.75-1.00% ในการประชุมวันนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี
ทิศทาง
เฟดยังเปิดเผยแผนทยอยปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งงบดุลดังกล่าวประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) โดยขณะนี้มีมูลค่ารวม 8.9 ล้านล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยจะปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้ MBS วงเงิน 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม
หลังจากนั้น 3 เดือน เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยจะปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้ MBS วงเงิน 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม
https://www.bangkokbiznews.com/world/1002538
เหตุผลการขึ้น ทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยรอบต่อไป และเป้าหมายในการควบคุมเงินเฟ้อ
คาดว่าไม่เกิน 0.5%ในการประชุมครั้งหน้า
“คณะกรรมการมีความเอาใจใส่อย่างมากต่อความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ” คณะกรรมการตลาดเปิดของเฟดกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพุธเมื่อวันพุธและเสริมว่าคาดการณ์ว่าจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยอ้างถึงการรุกรานยูเครนของรัสเซียและการล็อกดาวน์จากการระบาดใหญ่ในจีน อันเป็นสาเหตุของความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและปัจจัยที่มีแนวโน้มว่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น
เป้าหมายในการควบคุมเงินเฟ้อ
ในการแถลงข่าวหลังจากแถลงการณ์เมื่อวันพุธ ประธานเฟดโปร เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อ "สูงเกินไป" และกล่าวว่าธนาคารกลางจะพยายาม "เร่ง" เพื่อคืนอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ที่ 2% ต่อปี อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าพาวเวลล์จะไม่สนใจการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า 0.5% ในการประชุมในอนาคต
https://www.nbcnews.com/business/economy/federal-reserve-interest-rate-increase-inflation-rcna26982