13 คำถามยอดฮิต เทรนด์ศัลยกรรมความงามปี 2022
ในยุคที่คนให้ความสนใจกับความสวยความหล่อมากขึ้นอย่างทุกวันนี้ หลาย ๆ คนก็คงกำลังให้ความสนใจกับการศัลยกรรม แต่อาจจะยังกังวล มีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีการและความปลอดภัย วันนี้พี่หมอมีคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมความงามที่เพื่อน ๆ อาจกำลังมีอยู่ในใจ พร้อมคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญให้ได้หายสงสัยและคลายกังวลมาฝาก ไปติดตามพร้อมกันได้เลยครับ 👇🏻
📍 1. เทรนด์การทำศัลยกรรมในปี 2022 เป็นอย่างไร ส่วนไหนที่คนนิยมทำศัลยกรรมมากที่สุด?
ในช่วงโควิด คนใช้เวลาอยู่กับบ้าน อยู่กับตัวเองมากขึ้น ทำงานผ่านการประชุมออนไลน์ มีโอกาสได้เห็นหน้าตัวเองมากขึ้น เหมือนส่องกระจกตลอดเวลาก็จะสังเกตเห็นความผิดปกติเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่เคยเห็น เช่น ชั้นตาไม่เท่ากัน จมูกไม่สวย หน้าตาไม่ขึ้นกล้อง ช่วงที่ยังใช้การออนไลน์ก็ยังสามารถใช้ Application ต่าง ๆ ช่วยแต่งได้ แต่ตอนนี้สถานการณ์เริ่มกลับมาปกติ ต้องกลับมาพบเจอผู้คนแล้ว ก็จะมีความอยากแก้ไขปรับปรุงใบหน้าตัวเอง
หลาย ๆ คนเวลาทำงานจากบ้านจะมีการกินมากขึ้นร่วมกับไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ทำให้เกิดปัญหาอ้วนลงพุง ปัจจัยเร่งอีกอย่างหนึ่งคือการดู Social Media มากขึ้น เช่น Tik Tok มีการเต้นต่าง ๆ ที่อวดรูปร่างมากขึ้น หรือเริ่มออกไปเที่ยวแต่งตัวสวย ๆ กัน ก็เลยสนใจที่อยากจะไป อยากจะทำบ้าง แต่กลัวรูปร่างไม่ดี ใส่ชุดไม่สวย จึงมีความอยากปรับปรุงรูปร่างตัวเองอย่างเร่งด่วน
โดยสรุป เทรนด์ปัจจุบันก็จะเป็นเรื่องของยุคหลังโควิดที่จะกลับไปทำงาน ไปเที่ยว ก็จะสนใจการศัลยกรรมเกี่ยวกับใบหน้าและรูปร่าง ได้แก่ ตา จมูกปาก คาง เหนียงใต้คาง ดึงหน้า ดูดไขมัน ตัดไขมัน
📍 2. จริงหรือไม่ที่การทำศัลยกรรมในปัจจุบันเจ็บน้อยกว่าและมีอันตรายน้อยกว่าเมื่อก่อน?
ข้อนี้ถูกต้องครับ ด้วยการพัฒนาทางการแพทย์ทั้งในเรื่องการให้ยาระงับปวด และการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ทำให้การทำศัลยกรรมในปัจจุบันง่ายขึ้นมาก โดยเฉพาะการส่องกล้องช่วยในการผ่าตัดทำให้สามารถทำผ่าตัดได้ละเอียดมากขึ้น มองเห็นชัดเจน และระมัดระวังจุดสำคัญต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เกิดการกระทบกระเทือนเนื้อเยื่อน้อยลง ความปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งเจ็บน้อยลง และฟื้นตัวเร็ว
อย่างไรก็ตามเครื่องมือเหล่านี้ก็ไม่ได้มีพร้อมในทุกที่และไม่ใช่แพทย์ทุกท่านที่มีความเชี่ยวชาญ ผู้รับบริการควรศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมในจุดนี้ด้วย
📍 3. ทำศัลยกรรมทุกส่วนในร่างกายภายในครั้งเดียวเลยได้หรือไม่ เช่น ทำจมูก ทำตา พร้อมกับทำหน้าอก หรือสามารถทำศัลยกรรมได้มากที่สุดกี่ส่วนภายใน 1 ครั้ง?
เรื่องนี้เป็นเรื่องความปลอดภัยซึ่งเป็นหัวใจหลักขององค์กร ของศัลยแพทย์ตกแต่งระหว่างประเทศหรือที่เรียกว่า ISAPS ซึ่งมีสมาชิกเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งทั่วโลกรวมตัวกันกว่า 5,000 ท่านนะครับ องค์กรได้จัดทำมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่เรียกว่า Safety Diamond ประกอบด้วย 4 หลักสำคัญ ได้แก่
1. วิธีการ (Procedure) ต้องเป็นการผ่าตัดมาตรฐานเป็นที่ยอมรับและต้องเหมาะสมกับผู้รับบริการ
2. ผู้รับบริการ (Patient) ผู้รับบริการต้องเป็นผู้ที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี และมีสภาพที่เหมาะสำหรับการผ่าตัดนั้น
3. ศัลยแพทย์ (Surgeon) ศัลยแพทย์ต้องมีความสามารถและความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในหัตถการที่จะทำ
4. สถานที่ (Facility) สถานที่ต้องได้มาตรฐาน มีเครื่องมือที่พร้อม รวมทั้งมีทีมที่สามารถให้การช่วยเหลือในทุก ๆ ด้าน เมื่อเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นหลัก
โดยสรุปคือ ผู้รับบริการสามารถทำการผ่าตัดหลายอย่างพร้อมกันได้ ตราบเท่าที่เหมาะสมและมีความพร้อมในทุกองค์ประกอบ เช่น สุขภาพแข็งแรงดีไม่มีโรคประจำตัว ก็ทำได้หลายอย่างพร้อม ๆ กัน แต่ข้อจำกัดคือต้องไม่ใช้เวลาผ่าตัดนานเกินไป แพทย์มีความเชี่ยวชาญ ทำในสถานที่ที่มีความพร้อม และคนไข้มีเวลาพักฟื้นเพียงพอก็สามารถทำได้
📍 4. หากต้องการทำศัลยกรรมหลายส่วนพร้อมกัน เช่น ตากับจมูกจะทำให้แผลบวมมากขึ้นหรือไม่ หรือมีผลข้างเคียงอื่นๆ หรือไม่?
แน่นอนครับ การผ่าตัดทำให้เกิดการรบกวนเนื้อเยื่อ ยิ่งทำมากก็ต้องมีผลตามมามากขึ้น โอกาสเกิดปัญหาก็จะมากขึ้นตามไปด้วย แพทย์ที่ดีจะพิจารณาถึงความเหมาะสมจากปัจจัยรอบด้านโดยคำนึงของความปลอดภัยสูงสุดของผู้รับบริการเป็นหลัก
📍 5. ควรเชื่อใคร? (รีวิวจากผู้ทำศัลยกรรม, สื่อโซเชียล, อินฟลูเอนเซอร์, ประวัติแพทย์, เพื่อน, ครอบครัว) หากตัดสินใจทำศัลยกรรมควรศึกษาข้อมูลจากที่ใดบ้าง?
คงต้องพิจารณา 2 ปัจจัยหลัก
1. เรื่องความปลอดภัย แพทย์ที่มาทำการผ่าตัดควรจะเป็นแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมเต็มหลักสูตรของแพทยสภา มีประสบการณ์ในการทำงานมาพอสมควร โดยสามารถหาข้อมูลของแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งได้จากเว็บไซต์แพทยสภาหรือเว็บไซต์
สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย
2. สไตล์การผ่าตัด แพทย์ศัลยกรรมตกแต่งก็เหมือนศิลปินแขนงหนึ่งเปรียบเทียบได้กับนักดนตรีหรือจิตรกร ซึ่งแต่ละท่านก็จะมีความถนัดในแต่ละแบบ มีสไตล์เป็นของตัวเอง ผู้รับบริการแต่ละคนก็น่าจะมีความชอบในแบบที่แตกต่างกัน ผู้รับบริการควรลองติดตามผลงานของแพทย์ท่านที่เราสนใจให้นานพอ ลองเข้าไปปรึกษาก่อน แล้วค่อย ๆ พิจารณาว่าตรงกับความต้องการ ความชอบของเราหรือไม่ ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องเชื่อตามคนอื่น ไม่ต้องเกรงใจคนที่ชักชวนหรือแนะนำมา
📍 6. จะทำศัลยกรรมต้องรู้อะไร? (ข้อจำกัด ข้อห้าม ข้อยกเว้นในการทำศัลยกรรม การเตรียมตัวก่อนและหลังการทำศัลยกรรม)
ปัจจุบันมีข้อมูลให้ศึกษามากมาย จากแหล่งต่าง ๆ ควรจะศึกษาให้มากพอ แต่อย่าปักใจเชื่อทั้งหมด ลองพยายามรวบรวมข้อสงสัยเก็บคำถามมาปรึกษาพูดคุยกับแพทย์ หลังจากพูดคุยและเข้าใจดีแล้วหากตัดสินใจทำ แพทย์และทีมงานก็จะแนะนำการเตรียมตัวเตรียมความพร้อมทางร่างกาย เช่น โรคประจำตัว ยา ข้อห้าม ข้อควรระวังต่าง ๆ ในแง่ของการเตรียมความพร้อมของจิตใจ เมื่อได้พูดคุยซักถามข้อสงสัย ทั้งหมดแล้วก็จะเกิดความมั่นใจ ลดความวิตกกังวลลงไปได้มาก นอกจากนี้ยังควรเตรียมระยะเวลาการพักฟื้นให้เพียงพอเพื่อผลการทำศัลยกรรมที่ดีด้วยครับ
13 คำถามยอดฮิต เทรนด์ศัลยกรรมความงามปี 2022
ในยุคที่คนให้ความสนใจกับความสวยความหล่อมากขึ้นอย่างทุกวันนี้ หลาย ๆ คนก็คงกำลังให้ความสนใจกับการศัลยกรรม แต่อาจจะยังกังวล มีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีการและความปลอดภัย วันนี้พี่หมอมีคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมความงามที่เพื่อน ๆ อาจกำลังมีอยู่ในใจ พร้อมคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญให้ได้หายสงสัยและคลายกังวลมาฝาก ไปติดตามพร้อมกันได้เลยครับ 👇🏻
ในช่วงโควิด คนใช้เวลาอยู่กับบ้าน อยู่กับตัวเองมากขึ้น ทำงานผ่านการประชุมออนไลน์ มีโอกาสได้เห็นหน้าตัวเองมากขึ้น เหมือนส่องกระจกตลอดเวลาก็จะสังเกตเห็นความผิดปกติเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่เคยเห็น เช่น ชั้นตาไม่เท่ากัน จมูกไม่สวย หน้าตาไม่ขึ้นกล้อง ช่วงที่ยังใช้การออนไลน์ก็ยังสามารถใช้ Application ต่าง ๆ ช่วยแต่งได้ แต่ตอนนี้สถานการณ์เริ่มกลับมาปกติ ต้องกลับมาพบเจอผู้คนแล้ว ก็จะมีความอยากแก้ไขปรับปรุงใบหน้าตัวเอง
หลาย ๆ คนเวลาทำงานจากบ้านจะมีการกินมากขึ้นร่วมกับไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ทำให้เกิดปัญหาอ้วนลงพุง ปัจจัยเร่งอีกอย่างหนึ่งคือการดู Social Media มากขึ้น เช่น Tik Tok มีการเต้นต่าง ๆ ที่อวดรูปร่างมากขึ้น หรือเริ่มออกไปเที่ยวแต่งตัวสวย ๆ กัน ก็เลยสนใจที่อยากจะไป อยากจะทำบ้าง แต่กลัวรูปร่างไม่ดี ใส่ชุดไม่สวย จึงมีความอยากปรับปรุงรูปร่างตัวเองอย่างเร่งด่วน
โดยสรุป เทรนด์ปัจจุบันก็จะเป็นเรื่องของยุคหลังโควิดที่จะกลับไปทำงาน ไปเที่ยว ก็จะสนใจการศัลยกรรมเกี่ยวกับใบหน้าและรูปร่าง ได้แก่ ตา จมูกปาก คาง เหนียงใต้คาง ดึงหน้า ดูดไขมัน ตัดไขมัน
📍 2. จริงหรือไม่ที่การทำศัลยกรรมในปัจจุบันเจ็บน้อยกว่าและมีอันตรายน้อยกว่าเมื่อก่อน?
ข้อนี้ถูกต้องครับ ด้วยการพัฒนาทางการแพทย์ทั้งในเรื่องการให้ยาระงับปวด และการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ทำให้การทำศัลยกรรมในปัจจุบันง่ายขึ้นมาก โดยเฉพาะการส่องกล้องช่วยในการผ่าตัดทำให้สามารถทำผ่าตัดได้ละเอียดมากขึ้น มองเห็นชัดเจน และระมัดระวังจุดสำคัญต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เกิดการกระทบกระเทือนเนื้อเยื่อน้อยลง ความปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งเจ็บน้อยลง และฟื้นตัวเร็ว
อย่างไรก็ตามเครื่องมือเหล่านี้ก็ไม่ได้มีพร้อมในทุกที่และไม่ใช่แพทย์ทุกท่านที่มีความเชี่ยวชาญ ผู้รับบริการควรศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมในจุดนี้ด้วย
📍 3. ทำศัลยกรรมทุกส่วนในร่างกายภายในครั้งเดียวเลยได้หรือไม่ เช่น ทำจมูก ทำตา พร้อมกับทำหน้าอก หรือสามารถทำศัลยกรรมได้มากที่สุดกี่ส่วนภายใน 1 ครั้ง?
เรื่องนี้เป็นเรื่องความปลอดภัยซึ่งเป็นหัวใจหลักขององค์กร ของศัลยแพทย์ตกแต่งระหว่างประเทศหรือที่เรียกว่า ISAPS ซึ่งมีสมาชิกเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งทั่วโลกรวมตัวกันกว่า 5,000 ท่านนะครับ องค์กรได้จัดทำมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่เรียกว่า Safety Diamond ประกอบด้วย 4 หลักสำคัญ ได้แก่
1. วิธีการ (Procedure) ต้องเป็นการผ่าตัดมาตรฐานเป็นที่ยอมรับและต้องเหมาะสมกับผู้รับบริการ
2. ผู้รับบริการ (Patient) ผู้รับบริการต้องเป็นผู้ที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี และมีสภาพที่เหมาะสำหรับการผ่าตัดนั้น
3. ศัลยแพทย์ (Surgeon) ศัลยแพทย์ต้องมีความสามารถและความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในหัตถการที่จะทำ
4. สถานที่ (Facility) สถานที่ต้องได้มาตรฐาน มีเครื่องมือที่พร้อม รวมทั้งมีทีมที่สามารถให้การช่วยเหลือในทุก ๆ ด้าน เมื่อเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นหลัก
โดยสรุปคือ ผู้รับบริการสามารถทำการผ่าตัดหลายอย่างพร้อมกันได้ ตราบเท่าที่เหมาะสมและมีความพร้อมในทุกองค์ประกอบ เช่น สุขภาพแข็งแรงดีไม่มีโรคประจำตัว ก็ทำได้หลายอย่างพร้อม ๆ กัน แต่ข้อจำกัดคือต้องไม่ใช้เวลาผ่าตัดนานเกินไป แพทย์มีความเชี่ยวชาญ ทำในสถานที่ที่มีความพร้อม และคนไข้มีเวลาพักฟื้นเพียงพอก็สามารถทำได้
📍 4. หากต้องการทำศัลยกรรมหลายส่วนพร้อมกัน เช่น ตากับจมูกจะทำให้แผลบวมมากขึ้นหรือไม่ หรือมีผลข้างเคียงอื่นๆ หรือไม่?
แน่นอนครับ การผ่าตัดทำให้เกิดการรบกวนเนื้อเยื่อ ยิ่งทำมากก็ต้องมีผลตามมามากขึ้น โอกาสเกิดปัญหาก็จะมากขึ้นตามไปด้วย แพทย์ที่ดีจะพิจารณาถึงความเหมาะสมจากปัจจัยรอบด้านโดยคำนึงของความปลอดภัยสูงสุดของผู้รับบริการเป็นหลัก
📍 5. ควรเชื่อใคร? (รีวิวจากผู้ทำศัลยกรรม, สื่อโซเชียล, อินฟลูเอนเซอร์, ประวัติแพทย์, เพื่อน, ครอบครัว) หากตัดสินใจทำศัลยกรรมควรศึกษาข้อมูลจากที่ใดบ้าง?
คงต้องพิจารณา 2 ปัจจัยหลัก
1. เรื่องความปลอดภัย แพทย์ที่มาทำการผ่าตัดควรจะเป็นแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมเต็มหลักสูตรของแพทยสภา มีประสบการณ์ในการทำงานมาพอสมควร โดยสามารถหาข้อมูลของแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งได้จากเว็บไซต์แพทยสภาหรือเว็บไซต์สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย
2. สไตล์การผ่าตัด แพทย์ศัลยกรรมตกแต่งก็เหมือนศิลปินแขนงหนึ่งเปรียบเทียบได้กับนักดนตรีหรือจิตรกร ซึ่งแต่ละท่านก็จะมีความถนัดในแต่ละแบบ มีสไตล์เป็นของตัวเอง ผู้รับบริการแต่ละคนก็น่าจะมีความชอบในแบบที่แตกต่างกัน ผู้รับบริการควรลองติดตามผลงานของแพทย์ท่านที่เราสนใจให้นานพอ ลองเข้าไปปรึกษาก่อน แล้วค่อย ๆ พิจารณาว่าตรงกับความต้องการ ความชอบของเราหรือไม่ ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องเชื่อตามคนอื่น ไม่ต้องเกรงใจคนที่ชักชวนหรือแนะนำมา
📍 6. จะทำศัลยกรรมต้องรู้อะไร? (ข้อจำกัด ข้อห้าม ข้อยกเว้นในการทำศัลยกรรม การเตรียมตัวก่อนและหลังการทำศัลยกรรม)
ปัจจุบันมีข้อมูลให้ศึกษามากมาย จากแหล่งต่าง ๆ ควรจะศึกษาให้มากพอ แต่อย่าปักใจเชื่อทั้งหมด ลองพยายามรวบรวมข้อสงสัยเก็บคำถามมาปรึกษาพูดคุยกับแพทย์ หลังจากพูดคุยและเข้าใจดีแล้วหากตัดสินใจทำ แพทย์และทีมงานก็จะแนะนำการเตรียมตัวเตรียมความพร้อมทางร่างกาย เช่น โรคประจำตัว ยา ข้อห้าม ข้อควรระวังต่าง ๆ ในแง่ของการเตรียมความพร้อมของจิตใจ เมื่อได้พูดคุยซักถามข้อสงสัย ทั้งหมดแล้วก็จะเกิดความมั่นใจ ลดความวิตกกังวลลงไปได้มาก นอกจากนี้ยังควรเตรียมระยะเวลาการพักฟื้นให้เพียงพอเพื่อผลการทำศัลยกรรมที่ดีด้วยครับ