เอาที่ยกตัวอย่างละกัน

ชีวิตมีแต่บิ๊กไบค์ขับไปไกลและผาดโผนและอันตราย และคุณกลัวทุกครั้งที่เขาใส่หมวกกันน็อกออกจากบ้านไป

ข้อนี้เราเฉยๆ แค่ไม่พาเราไปด้วยก้อพอ ชีวิตนี้เคยซ้อน phantom พ่อจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอนครั้งเดียว เข็ดจนตาย แต่นึกๆ ดูอีกที ถ้าเค้ายอมที่จะไม่ผาดโผนกะเราเพราะเราไม่ชอบ เราอาจจะเปิดใจไปไหนด้วยบ้าง

สิ่งที่เรากลัวจะเป็นปัญหา คือการเก็บเงินแต่งรถมากกว่า เราไม่มีปัญหานะถ้าเขามีรายได้ มาจัดการค่าใช้จ่ายตัวเองได้ ไม่เป็นหนี้ และมีเหลือเก็บด้วย แต่ถ้ามันกลายเป็น เงินเดือนนิดเดียวและซื้อของมาแต่งรถหมดเลย ต้องอดมื้อกินมื้อเงินไม้มีเก็บ ยังต้องหยิบยืมคนอื่นมาอีก แบบนี้ไม่โอเค ซึ่งเราเห็นแบบนี้เยอะเลย

สูบบุหรี่แทบทุกลมหายใจ อันนี้ไม่เอาเลย จะเอาตีนถีบไปไกล เราไม่ชอบกลิ่น

เลี้ยงงูเอามาพันคอ เอามานอนเคลียคลออย่างรักใคร่
อันนี้ก้อไม่เอา ไม่ชอบ

ปีนเขาอันตรายไปทีละนานๆ
ถ้าไปคนเดียวเราไม่สนใจ อย่ามายุ่งกับเราก็พอ

เลี้ยงนกที่เรากลัวเอามาไว้ในห้อง มีนกแก้วขี้อิจฉาที่หวงเจ้า
ถ้าเลี้ยงไว้ในกรงก็โอเคนะ แต่ถ้าปล่อยออกมาข้างนอกนี่ก็ไม่ไหว ก็คงไม่ไปเล่นด้วยหรือไปรับผิดชอบอะไรด้วย เลี้ยงเองก็รับผิดชอบเองนะ ไม่ได้รักสัตว์ขนาดนั้น อันนี้รวมถึงหมาถึงแมวด้วยเลย เลี้ยงเองต้องรับผิดชอบเองอย่าให้มาเป็นภาระเรา

มีแมวที่คุณแพ้มากแบบหายใจแทบไม่ไหว ต้องใช้ยาแก้แพ้ทุกวันตลอดไป
ถ้าเราถึงกับแพ้เราก็คงไม่คบคนเลี้ยงแมวหรอก

เลี้ยงตุ๊กแกที่สุดน่ารัก แต่คุณเห็นแล้วเสียวไปถึงเครื่องใน
อันนี้ก็ไม่เอา ไม่ชอบ

คุณเจอแบบนี้ คุณจะทำยังไงต่อไปคะ

แต่เคยเจอคนชอบดูทีวีช่องการเมืองฝั่งตรงข้ามกับเรา อันนี้เราไม่ถือนะคบได้ คุยได้ เถียงกันได้ด้วยไม่โกรธกัน

ความไม่ชอบทุกอย่างมันไม่เท่ากันนะ ไม่ชอบมากไม่ชอบน้อย แต่ถ้าถึงขั้นรับไม่ได้เราไม่คบทุกกรณี

เรื่องที่เจ้าของกระทู้ยกมามันก็ไม่ใช่เรื่องที่รับไม่ได้ซะทุกกรณีไป อะไรก็ตามที่เป็นเรื่องของเขาที่มันไม่เกี่ยวกับเราเราไม่ยุ่ง แต่ถ้าไรก็ตามที่มันส่งผลกระทบมาของถึงเราด้วย เช่น กลิ่นบุหรี่ หรือให้เราไปเก็บขี้นกขี้แมว แบบนี้ก็ไม่เอาด้วย

บางทีมันง่ายกว่านั้น เราจะถามตัวเองว่าเราคบเขาแล้วเรามีความสุขกว่าเดิมไหม ถ้ารู้สึกว่าชีวิตมันยากลำบากกว่าเดิมทุกข์กว่าเดิม เราก็ถอยแค่นี้เอง