Psyche เป็นชื่อของดาวเคราะห์น้อยที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี และเป็นชื่อของยานอวกาศในภารกิจ ASU (มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแอริโซนา) เพื่อไปเยี่ยมชมด้วย โดย NASA ได้เลือกภารกิจดังกล่าวเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2017 ให้เป็นหนึ่งในสองภารกิจสำหรับ Discovery Program ของหน่วยงาน ซึ่งเป็นชุดภารกิจต้นทุนต่ำสำหรับเป้าหมายในระบบสุริยะที่จะเปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2022 นี้

การเดินทางไปยังดาวเคราะห์น้อยจะใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (แรงขับต่ำ) กำหนดจะไปถึงในปี 2026 หลังจากบินผ่านดาวอังคารและระบบช่วยโน้มถ่วงของปี 2023 ในแผนภารกิจเพื่อทำแผนที่และศึกษาคุณสมบัติในดาวเคราะห์น้อย ขณะที่ NASA และ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า Psyche อาจเป็นส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของภายในที่อุดมด้วยธาตุเหล็กของโครงสร้างหรือแกนกลางของดาวเคราะห์ยุคแรกๆ โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญที่น่าสนใจคือ การศึกษาโลกที่หายากที่เรียกว่า Psyche จะสามารถช่วยให้เข้าใจจักรวาลรอบตัวเรา รวมถึงบอกเราเพิ่มเติมเกี่ยวกับการก่อตัวของระบบสุริยะของเราได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ดาวเคราะห์น้อยกลายเป็นพื้นที่สำคัญที่น่าสนใจในการสำรวจอวกาศด้วยเหตุผลหลายประการ พวกมันถูกติดตามและศึกษาเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อโลก นักวิทยาศาสตร์ยังคาดว่าพวกมันจะเป็นที่เก็บแร่ธาตุที่มีค่ามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ อย่างเช่นภารกิจไปยังดาวเคราะห์น้อย Lucy ของ NASA เพื่อศึกษาดาวเคราะห์น้อยโทรจันจากมุมมองของฟอสซิล - จักรวาล เนื่องจากพวกมันเป็นที่อยู่อาศัยของวัสดุที่ไม่เปลี่ยนแปลงที่อาจมีอายุย้อนไปถึงยุคแรกๆ ของระบบสุริยะ

Psyche นั้นแตกต่างจากดาวเคราะห์น้อยอื่น ๆ หลายล้านดวง เพราะดูเหมือนว่าจะมีพื้นผิวทำจากนิกเกิลและเหล็กพร้อมกับหินบางส่วน มันกว้างประมาณ 140 ไมล์ หรือ 226 กม. จากการสังเกตการณ์จากเรดาร์และกล้องโทรทรรศน์ภาคพื้นดินแสดงให้เห็นว่าดาวเคราะห์น้อยส่วนใหญ่ประกอบด้วยโลหะ อย่างไรก็ตาม NASA กลับคาดการณ์ว่า Psyche น่าจะเป็นชิ้นส่วนที่เหลือของดาวเคราะห์ที่อุดมด้วยธาตุเหล็กที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยกล่าวว่าดาวเคราะห์ดวงนี้อาจสูญเสียชั้นนอกไปจากการชนกันอย่างรุนแรงในช่วงแรก ๆของระบบสุริยะ ดังนั้น Psyche น่าจะเป็นแกนในส่วนลึกของดาวเคราะห์ที่ถูกปกปิดอยู่และไม่สามารถเข้าถึงได้ (เนื่องมาจากความดัน อุณหภูมิ และกระบวนการกัมมันตภาพรังสีก่อตัวขึ้นในส่วนลึกของดาวเคราะห์)

ที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ที่ NASA JPL, Caltech และ ASU กำลังพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแกนเหล็กของโลกของเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่พบว่ายากต่อการศึกษามานานหลายปี แต่การส่งยานสำรวจไปยัง Psyche พวกเขาหวังว่าจะรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่ดาวเคราะห์ก่อตัวขึ้นจากเศษหิน โลหะ และเศษซากอื่นๆ ที่ล่องลอยอยู่รอบ ๆ เอกภพยุคแรก จากนั้นก็รวมเข้าด้วยกันเป็นดาวเคราะห์ที่ไม่ใช่ก๊าซที่เราสามารถมองเห็นได้ในปัจจุบัน และยังหวังว่าจะยืนยันทฤษฎีของพวกเขาที่ว่า Psyche เป็นแกนกลางของดาวเคราะห์ยุคแรกจริงๆ และกำหนดอายุของมันได้เช่นกัน

นอกจากนี้ Psyche ยังเป็นวัตถุโลหะชิ้นแรกในอวกาศที่ NASA พยายามศึกษา เป็นการสร้างโอกาสที่น่าตื่นเต้นในการ "สำรวจโลกรูปแบบใหม่" โดยเมื่อยานอวกาศไปถึงดาวเคราะห์น้อย มันจะโคจรเข้าใกล้พื้นผิวของ Psyche อย่างช้าๆ ทำให้ยานสามารถรวบรวมข้อมูลที่นักวิทยาศาสตร์สามารถศึกษาได้ ข้อมูลดังกล่าวจะถูกจัดเรียงเป็นสี่ประเภทที่แตกต่างกัน ซึ่งยานจะรวบรวมเมื่อเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ Psyche ในระยะทางที่ต่างกันสี่ระยะ เรียกว่าการแสดงวงโคจรในอวกาศ (staging orbits)

ขณะนี้ ภารกิจ Psyche อยู่ในขั้นตอนการประกอบและทดสอบยานอวกาศ Psyche โดยมีกำหนดเปิดตัวจริงในวันที่ 1 สิงหาคม 2022 ที่จะถึงนี้ โดยโพรบจะใช้แรงขับพลังงานแสงอาทิตย์-ไฟฟ้าแรงขับต่ำเพื่อเดินทางจากโลกผ่านระบบสุริยะเป็นเวลารวม 3.5 ปี เพื่อไปถึงในปี 2026 โดยจะใช้เวลา 21เดือนข้างหน้าในการทำแผนที่ Psyche และศึกษาคุณสมบัติของมัน ในขณะที่มันโคจรรอบวัตถุในอวกาศอย่างช้าๆ ภารกิจนี้ตั้งเป้าจะสิ้นสุดในเดือน ต.ค.2027

สำหรับ ASU เป็นผู้นำภารกิจ Jet Propulsion Laboratory (JPL) ของ NASA ในเมือง Pasadena รัฐแคลิฟอร์เนีย รับผิดชอบด้านการจัดการโดยรวมของภารกิจ วิศวกรรมระบบ การบูรณาการและการทดสอบ และการปฏิบัติการตามภารกิจ Maxar Space Solutions ซึ่งเดิมคือ Space Systems Loral ในเมือง Palo Alto รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งให้บริการโครงยานอวกาศขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์กำลังสูง

David Oh หัวหน้าวิศวกรระบบโครงการของ JPL กล่าวว่า " Psyche เป็นวัตถุที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื่องจากเป็นดาวเคราะห์น้อยที่เป็นโลหะที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีขนาดเท่ารัฐแมสซาชูเซตส์ การสำรวจ Psyche เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการก่อตัวของดาวเคราะห์ การก่อตัวของแกนดาวเคราะห์ และที่สำคัญไม่แพ้กัน เราจะสำรวจโลกรูปแบบใหม่ เราได้พิจารณาโลกที่ประกอบด้วยหิน น้ำแข็ง และ ของก๊าซ แต่เราไม่เคยมีโอกาสได้ดูโลกโลหะ ดังนั้นนี่คือการสำรวจใหม่ล่าสุดในรูปแบบคลาสสิกของ NASA "