ทนายตั้ม โพสต์ดุ ถ้าใจไม่สู้จริง อย่ามาขอความช่วยเหลือ…
https://www.matichon.co.th/politics/news_3304054
ทนายตั้ม โพสต์ดุ ถ้าใจไม่สู้จริง อย่ามาขอความช่วยเหลือจากผม
จากกรณีที่
ทนายตั้ม หรือ นาย
ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้ออกมาเปิดเผยถึงพฤติกรรมฉาวของ นักการเมืองระดับรองหัวหน้าพรรค ก่อเหตุข่มขืน ลวนลาม อนาจารสาวซึ่งหลังจากที่มีการเปิดโปงก็ปรากฎมีหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อเข้าแจ้งความเอาผิดนักการเมืองรายนี้หลายราย ดังที่ปรากฎเป็นข่าว
ต่อมา นาย
ษิทรา หรือ
ทนายตั้ม ออกมาแฉว่ามีนายตำรวจยศ พล.ต.ต. พยายามแทรกแซงคดี เข้าเจรจาเกลี้ยกล่อมแม่เหยื่อ นศ.หญิงอายุ 18 ปี ผู้เสียหายคดีแรก
ล่าสุด ทนาย
ษิทรา โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า
“ถ้าใครมาขอให้ผมช่วยทำคดีอะไร แล้วผมขออนุญาตนำลงเรื่องเพจแล้วเป็นคดีดังขึ้นมา อยู่ดีๆมาขอให้ลบ หรือดัดแปลงข้อมูลเพื่อเอาตัวรอด ผมไม่ทำให้นะครับ เพจผมเน้นเรื่องจริง และขออนุญาตก่อนเผยแพร่เสมอ จะอยู่ดีๆมากลัว มาขอลบ บอกเลยผมไม่ทำให้ ตัวผมเองก็เสี่ยงเปิดหน้าสู้ มีเครดิต มีความน่าเชื่อถือต้องรักษา ถ้าใจไม่สู้จริง อย่ามาขอความช่วยเหลือจากผม”
“หาว่าผมถ่ายรูปโดยไม่อนุญาต วันนั้นผมไปคนเดียว ผมให้พนักงานในร้านถ่ายรูปให้ ผมยังเดินไปหามุมกล้องให้พนักงาน แถมบอกน้องว่าให้จัดผมหน่อย ข้างหลังมันกระเซิง แม่มาพูดแบบนี้ผมเสียนะครับ เหยื่อทุกคนก่อนจะทำอะไรผมขออนุญาตทุกครั้ง แม้แต่เรื่องเล็กน้อย ผมป้องกันแค่ไหน พี่ๆนักข่าวลองถามเหยื่อที่ไม่มีปัญหาทั้ง 14 คนจะรู้ความจริงครับ”
https://www.facebook.com/sittra/posts/7254088407994809
https://www.facebook.com/sittra/posts/7254088407994809
ข้อมูลล่าสุด “โควิด” คร่าชีวิตคนไทยอันดับ 8 โลก “หมอธีระ”ชี้ทางรอดมี 2 ปัจจัย
https://www.nationtv.tv/news/378870837
“หมอธีระ” เปิดข้อมูลล่าสุดไทยเสียชีวิตอันดับ 8 ของโลก มองภาพอนาคตพร้อมวิเคราะห์บนสมมติฐาน 3 ข้อที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง ทางรอดมี 2 ปัจจัยคือความรุนแรงของโอมิครอนและวัคซีนกระจายได้มากเพียงใด
23 เมษายน 2565 รศ.นพ.
ธีระ วรธนารัตน์ หรือ
“หมอธีระ” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยข้อมูลการเสียชีวิตของประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นสวนกระแสโลก โดนล่าสุดมียอดเสียชีวิตรายวันพุ่งอันดับ 8 ของโลก พร้อมวิเคราะห์สถานการณ์การแพร่ระบาด หนทางรอดในอนาคตไว้ มีเนื้อหาดังนี้..
โควิด19 ทะลุ 508 ล้านไปแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 656,588 คน ตายเพิ่ม 2,366 คน รวมแล้วติดไปรวม 508,404,105 คน เสียชีวิตรวม 6,238,724 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เยอรมัน ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ อิตาลี และออสเตรเลีย
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 80.11 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 80.05 การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 28.31 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 24.97
สถานการณ์ระบาดของไทย
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย
ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก
ทั้งนี้จำนวนคนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานนั้นคิดเป็น 21.65% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย
มองแนวโน้มรายสัปดาห์
ข้อมูลจาก Worldometer ชี้ให้เห็นว่าทั่วโลกจำนวนติดเชื้อใหม่ลดลง 27% และจำนวนเสียชีวิตลดลง 22% ในขณะที่ทวีปเอเชียนั้นจำนวนติดเชื้อใหม่ลดลง 34% และจำนวนเสียชีวิตลดลง 26%
ส่วนไทยเรานั้นจำนวนติดเชื้อใหม่ ไม่รวม ATK ลดลง 19% (โดยหากรวม ATK ไปด้วยจะพบว่าลดลง 11.65%) แต่กลับมีจำนวนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นสูงถึง 22% จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะดูจากทั้งจำนวนติดเชื้อใหม่และจำนวนเสียชีวิต เรายังมีสถานการณ์ระบาดที่สวนกระแสโลก เน้นย้ำให้เราทราบสถานการณ์จริง และมีสติในการใช้ชีวิต ป้องกันตัวให้ดี
หากพิจารณาตามข้อมูลทางการแพทย์ปัจจุบันและลองวิเคราะห์บนสมมติฐาน 3 ข้อคือ..
○ สายพันธุ์ Omicron ครองการระบาดไปเรื่อยๆ โดยแตกหน่อต่อยอดเป็นสายพันธุ์ย่อย มีอิทธิฤทธิ์ไม่ต่างไปจากเดิมมากนัก รวมถึงเรื่องวัคซีนและยาที่มีนั้น ก็มีประสิทธิภาพเพียงระดับหนึ่ง ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศว่าจะจัดซื้อจัดหาของที่มีคุณภาพมาให้ประชาชนของตนเองอย่างเพียงพอและทันเวลาหรือไม่
กระแสของประเทศต่างๆ พยายามเปิดประเทศ เสรีการใช้ชีวิต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อนาคตถัดจากนี้ไปจะขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลักคือ
○ หนึ่ง ลักษณะการระบาดของแต่ละประเทศ ว่าจะคุมได้เพียงใด หรือจะปล่อยให้ติดกันไปตามมีตามเกิด
และ
○ สอง Long COVID ซึ่งตอนนี้ทั่วโลกต่างชัดเจนว่าคือของจริง และทำให้เกิดปัญหาระยะยาว แต่รอความรู้อีกเรื่องว่า การติดเชื้อ Omicron นั้นจะทำให้เกิดภาวะ Long COVID มากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ
ฉากทัศน์ที่จะเกิดขึ้นจึงแปรเปลี่ยนไปตามสองปัจจัยข้างต้น คงจะดีมากหากคุมการระบาดในประเทศได้ดี มีการติดเชื้อน้อย และ Long COVID จาก Omicron น้อยกว่าสายพันธุ์เดิมๆ
แต่หากติดเชื้อกันเละเทะไปเรื่อยๆ จำนวนมาก และ Long COVID จาก Omicron นั้นเท่ากับหรือสูงกว่าสายพันธุ์เดิมๆ ก็คงจะทำให้ระยะยาว ประชาชนในสังคมนั้นมีสถานะสุขภาพไม่ดี และส่งผลกระทบต่อผลิตภาพและค่าใช้จ่ายต่างๆ ในระยะยาว
...ทางเลือกที่เราทำได้คือ ป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ เป็นกิจวัตร
ใส่หน้ากากนะครับ สำคัญมาก
https://www.facebook.com/thiraw/posts/10224211039176156
ไข่ไก่พุ่งไม่หยุด เดือนครึ่งขึ้นแผงละ 25 บาท-ไข่เป็ดขึ้นตาม ต้องหยุดขายสู้ราคาไม่ไหว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3304036
เมื่อวันที่ 23 เมษายน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาไข่ไก่ ตามร้านขายไข่ในตลาดสด เขตเทศบาลหนองฉาง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ภายหลังจากที่ไข่ไก่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมาอีก 3 บาทต่อแผง ส่งผลให้ราคาขายไข่ไก่ปลีกแต่ละร้าน ต้องปรับราคาขายขึ้นตามอีกรอบ ซึ่งเมื่อเทียบกับการขยับราคาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม ถึงวันที่ 23 เมษายน 2565 พบว่า ภายในระยะเวลา 1 เดือน 20 วัน ไข่ไก่ถูกขยับขึ้นไปถึง 25 บาท ต่อแผง
นาง
ปวิตรา ม่วงเจริญ อายุ 41 ปี เจ้าของร้านกาญจนาค้าไข่ หนึ่งในร้านขายไข่ไก่ร้านใหญ่ในตลาดสด เขตเทศบาลหนองฉาง เล่าว่า ตอนนี้ราคาไข่ไก่ทุกเบอร์ขยับขึ้นมาอีกรอบที่ 3 บาทต่อแผง ซึ่งที่ร้านจะรับไข่มาขายสัปดาห์ ละ 1 ครั้ง โดยไข่ไก่จะรับมาครั้งละ 800-900 แผง ส่วนไข่เป็ดจะรับมาครั้งละ 200 แผง เพราะที่ร้านลูกค้าจะซื้อไข่ไก่เยอะกว่า
โดยหากเทียบราคาไข่ไก่ที่ขยับขึ้นมานับตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม ถึงวันที่ 23 เมษายน 2565 ปัจจุบัน ไข่ไก่ เบอร์ 0 ราคา 135 บาท จากเดิม 125 บาท
เบอร์ 1 ราคา 125 บาท จากเดิม 115 บาท
เบอร์ 2 ราคา 120 บาท จากเดิม 110 บาท
เบอร์ 3 ราคา 115 บาท จากเดิม 105 บาท
เบอร์ 4 ราคา 110 บาท จากเดิม 90 บาท
เบอร์ 5 ราคา 105 บาท จากเดิม 80 บาท
ซึ่งหลังมีการปรับขึ้นราคาไข่ไก่ในรอบนี้ ผลกระทบที่ตามมาทันทีเลยก็คือ หน้าร้านเงียบลงมากๆ ลูกค้าซื้อไข่ไก่กันลดลงอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับคนละครึ่งหมดลงกันแล้ว แต่ที่ร้านก็จะปรับการขายเพื่อให้ลูกค้าซื้อไข่ไก่ได้ง่ายขึ้น ทั้งแบ่งขายครึ่งแผง 15 ใบ และตะกร้าละ 10 ใบ รองรับลูกค้าที่ไม่อยากซื้อไปยกแผงด้วยเช่นกัน ส่วนราคาแต่ละร้านที่มีการปรับขึ้นไม่เท่ากันนั้น ก็จะอยู่ที่หลายปัจจัย ทั้งหน้าฟาร์มที่รับมาแต่ละที่อาจจะแต่ต่างกัน รวมไปถึงจำนวนที่รับมา ตลอดจนราคาต้นทุนต่างๆที่ร้านต้องจ่าย
“สาเหตุหลักๆที่ทำให้ไข่ไก่ปรับขึ้นราคานั้น คงเป็นเพราะราคาอาหารสัตว์ที่ปรับขึ้นมา ตลอดช่วงนี้ที่อากาศ นั้นร้อนจัดทำให้แต่ละฟาร์ม ไม่ค่อยได้ไข่ไก่ตามยอดเท่าที่ควร รวมไปถึงไข่เป็ดที่ตอนนี้ราคาขายส่งนั้นอยู่ที่แผงละ 103 ถึง 110 บาท ซึ่งราคานี้ถือเป็นราคาขายปลีกหน้าร้าน ทำให้ช่วงนี้ ต้องหยุดรับไข่เป็ดมาขายชั่วคราว เพราะสู้ราคาทุนไม่ไหว อีกทั้งความเสี่ยงที่จะต้องเจอกับไข่เสีย ไข่แตก เมื่อหักลบกันแล้วไม่สามารถนำมาขายราคาปลีกหน้าร้านได้ หากจะต้องขายในราคาที่สูงมากกว่านี้” นาง
ปวิตรา กล่าว
JJNY : ทนายตั้มโพสต์ดุ│“โควิด”คร่าชีวิตคนไทยอันดับ8โลก│ไข่ไก่พุ่งไม่หยุด -ไข่เป็ดขึ้นตาม│“สมชัย”มองจุรีพรคืนของเกิน30วัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3304054
ทนายตั้ม โพสต์ดุ ถ้าใจไม่สู้จริง อย่ามาขอความช่วยเหลือจากผม
จากกรณีที่ ทนายตั้ม หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้ออกมาเปิดเผยถึงพฤติกรรมฉาวของ นักการเมืองระดับรองหัวหน้าพรรค ก่อเหตุข่มขืน ลวนลาม อนาจารสาวซึ่งหลังจากที่มีการเปิดโปงก็ปรากฎมีหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อเข้าแจ้งความเอาผิดนักการเมืองรายนี้หลายราย ดังที่ปรากฎเป็นข่าว
ต่อมา นายษิทรา หรือทนายตั้ม ออกมาแฉว่ามีนายตำรวจยศ พล.ต.ต. พยายามแทรกแซงคดี เข้าเจรจาเกลี้ยกล่อมแม่เหยื่อ นศ.หญิงอายุ 18 ปี ผู้เสียหายคดีแรก
ล่าสุด ทนาย ษิทรา โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า
“ถ้าใครมาขอให้ผมช่วยทำคดีอะไร แล้วผมขออนุญาตนำลงเรื่องเพจแล้วเป็นคดีดังขึ้นมา อยู่ดีๆมาขอให้ลบ หรือดัดแปลงข้อมูลเพื่อเอาตัวรอด ผมไม่ทำให้นะครับ เพจผมเน้นเรื่องจริง และขออนุญาตก่อนเผยแพร่เสมอ จะอยู่ดีๆมากลัว มาขอลบ บอกเลยผมไม่ทำให้ ตัวผมเองก็เสี่ยงเปิดหน้าสู้ มีเครดิต มีความน่าเชื่อถือต้องรักษา ถ้าใจไม่สู้จริง อย่ามาขอความช่วยเหลือจากผม”
“หาว่าผมถ่ายรูปโดยไม่อนุญาต วันนั้นผมไปคนเดียว ผมให้พนักงานในร้านถ่ายรูปให้ ผมยังเดินไปหามุมกล้องให้พนักงาน แถมบอกน้องว่าให้จัดผมหน่อย ข้างหลังมันกระเซิง แม่มาพูดแบบนี้ผมเสียนะครับ เหยื่อทุกคนก่อนจะทำอะไรผมขออนุญาตทุกครั้ง แม้แต่เรื่องเล็กน้อย ผมป้องกันแค่ไหน พี่ๆนักข่าวลองถามเหยื่อที่ไม่มีปัญหาทั้ง 14 คนจะรู้ความจริงครับ”
https://www.facebook.com/sittra/posts/7254088407994809
https://www.facebook.com/sittra/posts/7254088407994809
ข้อมูลล่าสุด “โควิด” คร่าชีวิตคนไทยอันดับ 8 โลก “หมอธีระ”ชี้ทางรอดมี 2 ปัจจัย
https://www.nationtv.tv/news/378870837
“หมอธีระ” เปิดข้อมูลล่าสุดไทยเสียชีวิตอันดับ 8 ของโลก มองภาพอนาคตพร้อมวิเคราะห์บนสมมติฐาน 3 ข้อที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง ทางรอดมี 2 ปัจจัยคือความรุนแรงของโอมิครอนและวัคซีนกระจายได้มากเพียงใด
23 เมษายน 2565 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ หรือ “หมอธีระ” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยข้อมูลการเสียชีวิตของประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นสวนกระแสโลก โดนล่าสุดมียอดเสียชีวิตรายวันพุ่งอันดับ 8 ของโลก พร้อมวิเคราะห์สถานการณ์การแพร่ระบาด หนทางรอดในอนาคตไว้ มีเนื้อหาดังนี้..
โควิด19 ทะลุ 508 ล้านไปแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 656,588 คน ตายเพิ่ม 2,366 คน รวมแล้วติดไปรวม 508,404,105 คน เสียชีวิตรวม 6,238,724 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เยอรมัน ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ อิตาลี และออสเตรเลีย
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 80.11 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 80.05 การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 28.31 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 24.97
สถานการณ์ระบาดของไทย
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย
ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก
ทั้งนี้จำนวนคนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานนั้นคิดเป็น 21.65% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย
มองแนวโน้มรายสัปดาห์
ข้อมูลจาก Worldometer ชี้ให้เห็นว่าทั่วโลกจำนวนติดเชื้อใหม่ลดลง 27% และจำนวนเสียชีวิตลดลง 22% ในขณะที่ทวีปเอเชียนั้นจำนวนติดเชื้อใหม่ลดลง 34% และจำนวนเสียชีวิตลดลง 26%
ส่วนไทยเรานั้นจำนวนติดเชื้อใหม่ ไม่รวม ATK ลดลง 19% (โดยหากรวม ATK ไปด้วยจะพบว่าลดลง 11.65%) แต่กลับมีจำนวนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นสูงถึง 22% จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะดูจากทั้งจำนวนติดเชื้อใหม่และจำนวนเสียชีวิต เรายังมีสถานการณ์ระบาดที่สวนกระแสโลก เน้นย้ำให้เราทราบสถานการณ์จริง และมีสติในการใช้ชีวิต ป้องกันตัวให้ดี
หากพิจารณาตามข้อมูลทางการแพทย์ปัจจุบันและลองวิเคราะห์บนสมมติฐาน 3 ข้อคือ..
○ สายพันธุ์ Omicron ครองการระบาดไปเรื่อยๆ โดยแตกหน่อต่อยอดเป็นสายพันธุ์ย่อย มีอิทธิฤทธิ์ไม่ต่างไปจากเดิมมากนัก รวมถึงเรื่องวัคซีนและยาที่มีนั้น ก็มีประสิทธิภาพเพียงระดับหนึ่ง ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศว่าจะจัดซื้อจัดหาของที่มีคุณภาพมาให้ประชาชนของตนเองอย่างเพียงพอและทันเวลาหรือไม่
กระแสของประเทศต่างๆ พยายามเปิดประเทศ เสรีการใช้ชีวิต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อนาคตถัดจากนี้ไปจะขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลักคือ
○ หนึ่ง ลักษณะการระบาดของแต่ละประเทศ ว่าจะคุมได้เพียงใด หรือจะปล่อยให้ติดกันไปตามมีตามเกิด
และ
○ สอง Long COVID ซึ่งตอนนี้ทั่วโลกต่างชัดเจนว่าคือของจริง และทำให้เกิดปัญหาระยะยาว แต่รอความรู้อีกเรื่องว่า การติดเชื้อ Omicron นั้นจะทำให้เกิดภาวะ Long COVID มากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ
ฉากทัศน์ที่จะเกิดขึ้นจึงแปรเปลี่ยนไปตามสองปัจจัยข้างต้น คงจะดีมากหากคุมการระบาดในประเทศได้ดี มีการติดเชื้อน้อย และ Long COVID จาก Omicron น้อยกว่าสายพันธุ์เดิมๆ
แต่หากติดเชื้อกันเละเทะไปเรื่อยๆ จำนวนมาก และ Long COVID จาก Omicron นั้นเท่ากับหรือสูงกว่าสายพันธุ์เดิมๆ ก็คงจะทำให้ระยะยาว ประชาชนในสังคมนั้นมีสถานะสุขภาพไม่ดี และส่งผลกระทบต่อผลิตภาพและค่าใช้จ่ายต่างๆ ในระยะยาว
...ทางเลือกที่เราทำได้คือ ป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ เป็นกิจวัตร
ใส่หน้ากากนะครับ สำคัญมาก
https://www.facebook.com/thiraw/posts/10224211039176156
ไข่ไก่พุ่งไม่หยุด เดือนครึ่งขึ้นแผงละ 25 บาท-ไข่เป็ดขึ้นตาม ต้องหยุดขายสู้ราคาไม่ไหว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3304036
เมื่อวันที่ 23 เมษายน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาไข่ไก่ ตามร้านขายไข่ในตลาดสด เขตเทศบาลหนองฉาง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ภายหลังจากที่ไข่ไก่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมาอีก 3 บาทต่อแผง ส่งผลให้ราคาขายไข่ไก่ปลีกแต่ละร้าน ต้องปรับราคาขายขึ้นตามอีกรอบ ซึ่งเมื่อเทียบกับการขยับราคาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม ถึงวันที่ 23 เมษายน 2565 พบว่า ภายในระยะเวลา 1 เดือน 20 วัน ไข่ไก่ถูกขยับขึ้นไปถึง 25 บาท ต่อแผง
นางปวิตรา ม่วงเจริญ อายุ 41 ปี เจ้าของร้านกาญจนาค้าไข่ หนึ่งในร้านขายไข่ไก่ร้านใหญ่ในตลาดสด เขตเทศบาลหนองฉาง เล่าว่า ตอนนี้ราคาไข่ไก่ทุกเบอร์ขยับขึ้นมาอีกรอบที่ 3 บาทต่อแผง ซึ่งที่ร้านจะรับไข่มาขายสัปดาห์ ละ 1 ครั้ง โดยไข่ไก่จะรับมาครั้งละ 800-900 แผง ส่วนไข่เป็ดจะรับมาครั้งละ 200 แผง เพราะที่ร้านลูกค้าจะซื้อไข่ไก่เยอะกว่า
โดยหากเทียบราคาไข่ไก่ที่ขยับขึ้นมานับตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม ถึงวันที่ 23 เมษายน 2565 ปัจจุบัน ไข่ไก่ เบอร์ 0 ราคา 135 บาท จากเดิม 125 บาท
เบอร์ 1 ราคา 125 บาท จากเดิม 115 บาท
เบอร์ 2 ราคา 120 บาท จากเดิม 110 บาท
เบอร์ 3 ราคา 115 บาท จากเดิม 105 บาท
เบอร์ 4 ราคา 110 บาท จากเดิม 90 บาท
เบอร์ 5 ราคา 105 บาท จากเดิม 80 บาท
ซึ่งหลังมีการปรับขึ้นราคาไข่ไก่ในรอบนี้ ผลกระทบที่ตามมาทันทีเลยก็คือ หน้าร้านเงียบลงมากๆ ลูกค้าซื้อไข่ไก่กันลดลงอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับคนละครึ่งหมดลงกันแล้ว แต่ที่ร้านก็จะปรับการขายเพื่อให้ลูกค้าซื้อไข่ไก่ได้ง่ายขึ้น ทั้งแบ่งขายครึ่งแผง 15 ใบ และตะกร้าละ 10 ใบ รองรับลูกค้าที่ไม่อยากซื้อไปยกแผงด้วยเช่นกัน ส่วนราคาแต่ละร้านที่มีการปรับขึ้นไม่เท่ากันนั้น ก็จะอยู่ที่หลายปัจจัย ทั้งหน้าฟาร์มที่รับมาแต่ละที่อาจจะแต่ต่างกัน รวมไปถึงจำนวนที่รับมา ตลอดจนราคาต้นทุนต่างๆที่ร้านต้องจ่าย
“สาเหตุหลักๆที่ทำให้ไข่ไก่ปรับขึ้นราคานั้น คงเป็นเพราะราคาอาหารสัตว์ที่ปรับขึ้นมา ตลอดช่วงนี้ที่อากาศ นั้นร้อนจัดทำให้แต่ละฟาร์ม ไม่ค่อยได้ไข่ไก่ตามยอดเท่าที่ควร รวมไปถึงไข่เป็ดที่ตอนนี้ราคาขายส่งนั้นอยู่ที่แผงละ 103 ถึง 110 บาท ซึ่งราคานี้ถือเป็นราคาขายปลีกหน้าร้าน ทำให้ช่วงนี้ ต้องหยุดรับไข่เป็ดมาขายชั่วคราว เพราะสู้ราคาทุนไม่ไหว อีกทั้งความเสี่ยงที่จะต้องเจอกับไข่เสีย ไข่แตก เมื่อหักลบกันแล้วไม่สามารถนำมาขายราคาปลีกหน้าร้านได้ หากจะต้องขายในราคาที่สูงมากกว่านี้” นางปวิตรา กล่าว