กระทู้นี้ตั้งโดยไม่ใส่ tag
ตอนผมเป็นวัยรุ่นผมโดนล้อว่าไม่ดูดบุหรี่ ดื่มเหล้า เล่นแชร์ เรียนไม่เก่ง หน้าตัวสะอาด ครูผู้ชายชอบใช้ผมทำงานวันหยุด ผมต้องเป็นเกย์แอบจิตแน่ๆ
พอมาวันนึงเด็กหญิงในห้องที่หวานชื่นกับคู่รักในวัยมัธยมอุดมศึกษา แต่ stall จน terrain terrain แล้วตูม กลายเป็นคนที่ต้องวิ่งหายาสอดรีดเด็ก แล้วย้ายที่อยู่แก้อายและหนีคนที่เคยหลงใจ แล้วมาเจอผม ผมไม่ใช่ตะกร้าล้างน้ำ แต่โอนเงินให้ ให้เธอมีเงินเช่าห้องหางานทำ เธอเริ่มจะมีความอยากมีผู้ มีผู้เลี้ยงแล้วจะได้สบาย
เธอมาเห็นว่าผมมีทรัพย์ที่เธอเกาะกินได้ ถึงผมจะไม่ใช่หมอ วิศวกร ขรก ยศโต ศิลปินยอดฮิต แต่ก็นั่นล่ะผมมันเหมือนของใกล้มือเธอ ผมมีอดีตที่เธอเคยทำไว้ ผมเกือบฆ่าตัวตายเพราะสังคมทำร้ายผมเพราะปากแจ๋วของเธอ ผมไม่ให้เธอเข้าใกล้ผมเลย ผมเคยเห็นเธอจับผู้ในลักษณะที่ผู้คนไหนไม่เจนจัดต้องเกมไปกับเธอ ผมไม่เก่ง สิ่งที่ผมทำดีที่สุด คือเก็บหลักฐาน ผมไม่เคยแชร์ แต่ไม่เคยลบ และเว้นระยะห่างอย่างดี สุดท้ายเธอก็เจอคนศีลเท่ากัน แล้วจบลงที่ซังเต
ในยุคนี้ ยุคเน็ตมือถือ 100mbps ไม่ใช่ความฝัน คอนเทนต์ออนไลน์กระตุ้นตัณหาดาเมจรุนแรงมาก นอกจาก bad boy ที่ล่าแต้มแล้วเลื่อมใสจนเทิดทูนหม้อออกหน้าออกตาก็มีมาก ขนาดเมียเล่นชู้ก็ร้องไห้ออกโซเชียลแต่ไม่กล้าหย่า (เพราะบ้านรถเป็นของเมีย ซื้อสิ่งของให้ใช้ชื่อเมียเพราะหลงเมียมาากกกกกก) พวกหนุ่มน้อยใสๆ เปิดหน้าต่างบานแรก เจอนางมารโหนกดจนตกต่ำ ก็มีมากมาย แต่ไม่ค่อยมีใครกล้าแสดงออกในเน็ต บางคนไปผิดทาง เคียดแค้น กินยาเม็ดแดง กลายร่างเป็น incel ก่ออาชญากรรมสะเทือนสังคม ในช่วงเวลาสูญญากาศ พวกเขาไม่มีที่พักใจ ที่ปรึกษา เยียวยา เสริมภูมิคุ้มกัน เสริมปัญญา และรู้สิทธิผู้ชาย น่าเสียดาย หนุ่มน้อยหลายคนที่หลงทางอาจไม่หลับมาเข้าลู่เข้าทางได้อีก
หลายหนุ่มน้อยลำบากใจ ทำไมชีวิตวัยรุ่นของเขาซึ่งเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ เวลาทองเดียวของชีวิตเขา ต้องโดนกดทับโดยแม่ ทั้งครูสาว ทั้งเด็กสาว เช้ามาแม่ไล่ไปกรอกน้ำ รดน้ำต้นไม้ ซักผ้า ล้างจาน ถ้าไม่ตื่นเช้ามืดก็ไปเรียนสาย เจอครูสาวไม่น่าเคารพบังคับบงการบีบเกรดถ้าไม่เรียนพิเศษ นักเรียนหญิงในห้องก็ทำตัวเหมือนอนิเมะดักชายใสๆ ไม่ก็เฟมินิสซึ่ม แบ่งแยก กด ด้อยค่า เพศอื่น (แต่ลาก lgbt เข้าพวก) เมื่อมีเวลาที่ต้องเจอพวกเขาด้วยกัน กลายเป็นช่วงเวลาที่อยากจะอยู่ให้นานเท่านาน (เพราะกลับบ้านไปก็เจอแม่ใจยักษ์ที่บ้านอีก) ความรู้สึกที่มีต่อครอบครัวของหนุ่มน้อย (โดยเฉพาะแม่) กลายเป็นปัญหาที่ครอบครัวอยากจะผลักออกไป สุดท้ายเขาก็ไร้ที่พึ่งชีวิตโดยสมบูรณ์ ทุกอย่างดำเนินไปราวกับเดินไต่เชือก
วิถีชีวิตของผู้ชายไม่ควรจะปล่อยสะเปะสะปะ หรือต้องเดินบนเส้นทางที้ผู้หญิงตกแต่งเส้นทางชีวิต ผมขอให้คนที่มีความสามารถสร้างสังคมผู้ชาย มาโนสเฟียร์ มามีบทบาทในสภา เพื่อผลักดันสังคมให้เด็กผู้ชายมีชีวิตโดยมีที่พึ่ง ไม่โดนแม่กระทำทารุณ ไม่โดนครูสาวบีบบังคับอนาคต ไม่โดนเด็กสาวฉกฉวยโอกาส ให้เขาได้มีแนวทางชีวิตจนสุดทางการเรียนอย่างปลอดภัย ออกไปเจอสังคมผู้ชายทันสมัยที่แตกต่าง พวกเขาไม่ใช่ queer gay แต่เขาคือ mgtow ที่พยายามเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ชีวิต โดยไม่ลุ่มหลงตัณหา หลงรัก หลงหม้อ พวกเฟมินิสไม่ใช่ศัตรู แต่คือเส้นคู่ขนานไร้ทางบรรจบ
ตอนนี้ยังไม่มีใครที่เป็นแคนดิเดทสำหรับผม แต่วันหน้ามันต้องมี
พรรคการเมืองที่ผมจะให้คะแนนเสียงในครั้งต่อไป ต้องมีแนวคิด mgtow mra ที่ปราศจากจุดอ่อน
ตอนผมเป็นวัยรุ่นผมโดนล้อว่าไม่ดูดบุหรี่ ดื่มเหล้า เล่นแชร์ เรียนไม่เก่ง หน้าตัวสะอาด ครูผู้ชายชอบใช้ผมทำงานวันหยุด ผมต้องเป็นเกย์แอบจิตแน่ๆ
พอมาวันนึงเด็กหญิงในห้องที่หวานชื่นกับคู่รักในวัยมัธยมอุดมศึกษา แต่ stall จน terrain terrain แล้วตูม กลายเป็นคนที่ต้องวิ่งหายาสอดรีดเด็ก แล้วย้ายที่อยู่แก้อายและหนีคนที่เคยหลงใจ แล้วมาเจอผม ผมไม่ใช่ตะกร้าล้างน้ำ แต่โอนเงินให้ ให้เธอมีเงินเช่าห้องหางานทำ เธอเริ่มจะมีความอยากมีผู้ มีผู้เลี้ยงแล้วจะได้สบาย
เธอมาเห็นว่าผมมีทรัพย์ที่เธอเกาะกินได้ ถึงผมจะไม่ใช่หมอ วิศวกร ขรก ยศโต ศิลปินยอดฮิต แต่ก็นั่นล่ะผมมันเหมือนของใกล้มือเธอ ผมมีอดีตที่เธอเคยทำไว้ ผมเกือบฆ่าตัวตายเพราะสังคมทำร้ายผมเพราะปากแจ๋วของเธอ ผมไม่ให้เธอเข้าใกล้ผมเลย ผมเคยเห็นเธอจับผู้ในลักษณะที่ผู้คนไหนไม่เจนจัดต้องเกมไปกับเธอ ผมไม่เก่ง สิ่งที่ผมทำดีที่สุด คือเก็บหลักฐาน ผมไม่เคยแชร์ แต่ไม่เคยลบ และเว้นระยะห่างอย่างดี สุดท้ายเธอก็เจอคนศีลเท่ากัน แล้วจบลงที่ซังเต
ในยุคนี้ ยุคเน็ตมือถือ 100mbps ไม่ใช่ความฝัน คอนเทนต์ออนไลน์กระตุ้นตัณหาดาเมจรุนแรงมาก นอกจาก bad boy ที่ล่าแต้มแล้วเลื่อมใสจนเทิดทูนหม้อออกหน้าออกตาก็มีมาก ขนาดเมียเล่นชู้ก็ร้องไห้ออกโซเชียลแต่ไม่กล้าหย่า (เพราะบ้านรถเป็นของเมีย ซื้อสิ่งของให้ใช้ชื่อเมียเพราะหลงเมียมาากกกกกก) พวกหนุ่มน้อยใสๆ เปิดหน้าต่างบานแรก เจอนางมารโหนกดจนตกต่ำ ก็มีมากมาย แต่ไม่ค่อยมีใครกล้าแสดงออกในเน็ต บางคนไปผิดทาง เคียดแค้น กินยาเม็ดแดง กลายร่างเป็น incel ก่ออาชญากรรมสะเทือนสังคม ในช่วงเวลาสูญญากาศ พวกเขาไม่มีที่พักใจ ที่ปรึกษา เยียวยา เสริมภูมิคุ้มกัน เสริมปัญญา และรู้สิทธิผู้ชาย น่าเสียดาย หนุ่มน้อยหลายคนที่หลงทางอาจไม่หลับมาเข้าลู่เข้าทางได้อีก
หลายหนุ่มน้อยลำบากใจ ทำไมชีวิตวัยรุ่นของเขาซึ่งเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ เวลาทองเดียวของชีวิตเขา ต้องโดนกดทับโดยแม่ ทั้งครูสาว ทั้งเด็กสาว เช้ามาแม่ไล่ไปกรอกน้ำ รดน้ำต้นไม้ ซักผ้า ล้างจาน ถ้าไม่ตื่นเช้ามืดก็ไปเรียนสาย เจอครูสาวไม่น่าเคารพบังคับบงการบีบเกรดถ้าไม่เรียนพิเศษ นักเรียนหญิงในห้องก็ทำตัวเหมือนอนิเมะดักชายใสๆ ไม่ก็เฟมินิสซึ่ม แบ่งแยก กด ด้อยค่า เพศอื่น (แต่ลาก lgbt เข้าพวก) เมื่อมีเวลาที่ต้องเจอพวกเขาด้วยกัน กลายเป็นช่วงเวลาที่อยากจะอยู่ให้นานเท่านาน (เพราะกลับบ้านไปก็เจอแม่ใจยักษ์ที่บ้านอีก) ความรู้สึกที่มีต่อครอบครัวของหนุ่มน้อย (โดยเฉพาะแม่) กลายเป็นปัญหาที่ครอบครัวอยากจะผลักออกไป สุดท้ายเขาก็ไร้ที่พึ่งชีวิตโดยสมบูรณ์ ทุกอย่างดำเนินไปราวกับเดินไต่เชือก
วิถีชีวิตของผู้ชายไม่ควรจะปล่อยสะเปะสะปะ หรือต้องเดินบนเส้นทางที้ผู้หญิงตกแต่งเส้นทางชีวิต ผมขอให้คนที่มีความสามารถสร้างสังคมผู้ชาย มาโนสเฟียร์ มามีบทบาทในสภา เพื่อผลักดันสังคมให้เด็กผู้ชายมีชีวิตโดยมีที่พึ่ง ไม่โดนแม่กระทำทารุณ ไม่โดนครูสาวบีบบังคับอนาคต ไม่โดนเด็กสาวฉกฉวยโอกาส ให้เขาได้มีแนวทางชีวิตจนสุดทางการเรียนอย่างปลอดภัย ออกไปเจอสังคมผู้ชายทันสมัยที่แตกต่าง พวกเขาไม่ใช่ queer gay แต่เขาคือ mgtow ที่พยายามเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ชีวิต โดยไม่ลุ่มหลงตัณหา หลงรัก หลงหม้อ พวกเฟมินิสไม่ใช่ศัตรู แต่คือเส้นคู่ขนานไร้ทางบรรจบ
ตอนนี้ยังไม่มีใครที่เป็นแคนดิเดทสำหรับผม แต่วันหน้ามันต้องมี