รู้สึกว่าเป็นแค่เครื่องมือไว้หาเงินของพ่อแม่มาตลอด

สวัสดีค่ะ ถ้าเเท็กผิดห้อง หรือเขียนตกหล่นไปบ้าง ต้องขออภัยนะคะ

เราทำงานตั้งแต่เด็กจนโต จำความได้ก็ต้องทำงานเเล้ว โดนไม่ให้เรียนบ้าง โดนบังคับให้เริ่มทำงานตั้งเเต่ประถมต้น โดนบังคับให้ออกเรียนม.3 มาทำงานที่บ้านเเบบfull time ปัจจุบันเข้าปีที่ 8 อายุก็เลข2กว่าๆ

พ่อเเม่เป็นเด็ก ตจว ที่ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัวมา ไม่ใช่คนจีน เเต่ความคิดคือโบราณมาก แต่เเม่จะเป็นคนที่เข้าใจลูก ส่วนพ่อคือ ไม่เอาอะไรเลย เอาเเต่ตัวเอ็งเป็นหลัก ส่วนเราที่เป็นรุ่นลูกก็ช่วยพ่อเเม่สร้างมาตลอดจนครอบครัวมีทุกวันนี้ ที่บ้านทำเกี่ยวกับธุรกิจครอบครัว ส่วนเราก็เป็นลูกจ้างพ่อเเม่ ช่วยเขาอีกทีนึง เรามีพี่ชายคนนึง พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นคนที่ไม่เอาไหน ไม่สามารถพึ่งพาอะไรได้ เกาะพ่อเเม่พี่น้องกินไปวันๆ จนพ่อเเม่ก็เอือมระอา เเต่ก็ปล่อยไปเฉยๆ ไม่จัดการอะไร

เข้าเรื่องเลยก็ รู้สึกนอยด์ๆ เพราะที่ผ่านมารู้สึกว่าเราเป็นเเค่เครื่องมือทำเงิน มีพี่ชายคนนึง เเต่ก็เหมือนเราทำงานหนักอยู่คนเดียว เวลาพ่อเเม่ถามเรื่องเงิน ขอเงิน ก็จะขอแต่เรา ไม่เคยเอ่ยปากขอพี่ชายซักครั้ง เวลาทำงาน พ่อเเม่ก็จะบอกให้ช่วยๆกัน ครอบครัวเดียวกัน ยังไงๆทุกอย่างมันก็เป็นของพวกเอ็ง เราก็เออ ออ ทำเต็มที่
รักครอบครัวอะเนอะ

ครั้งนึงเราช่วยหาลูกค้าให้ที่บ้าน จากทางเน็ตบ้าง โฆษณาบ้าง เเล้วมันดันบูมขึ้นมา จนทำให้ที่บ้านมีรายได้หลักล้านภายในเดือนเดียว สุดท้ายรายได้-กำไรทั้งหมด ไปอยู่ที่พ่อเเม่หมด  เราได้เเค่เงินเดือนขั้นต่ำ วันละ200 (หลายปีมาเเล้ว) ไม่เคยได้เปอร์เซนต์หรือส่วนเเบ่งเลย เเล้วไม่ใช่แค่ครั้งนี่ครั้งเดียวด้วย แล้วพอถามหาส่วนเเบ่ง ก็บอก ค่าเเรงก็ได้ ข้าวก็มีกิน บ้านก็มีให้อยู่ ค่าใช้จ่ายอะไรก็ไม่มี จะเอาไปทำไม พ่อเเม่ตายไป เดี๋ยวทั้งหมดก็เป็นของพวกเองอยู่ดี จากหน้ามือเป็นหลังมือ 😞

บางครั้งเวลาพ่อโมโห หรือหาเรื่องทะเลาะแบบไม่มีเหตุผล หรือมาคอยจับผิดลูกว่าอู้งานอย่างนั้น ขี้เกียจอย่างนี้ ก็จะพูดขู่ใส่ว่า งานน่ะ จะทำมั้ย บ้านน่ะจะเอามั้ย สมบัติน่ะ จะเอามั้ย ถ้าพวกมืงทำตัวเเบบนี้ กูจะขายกินทิ้งให้หมดเลย พวกมืงอย่าได้หวัง เงินกู สมบัติกู กูจะทำอะไรมันก็เรื่องของกู เเต่ลืมไปรึป่าว เงินพวกนั้นทั้งครอบครัวก็ช่วยกันหามา เเต่มาเหมารวมว่าเป็นของตัวเองคนเดียว บ้านกี่หลัง รถกี่คัน ที่ดินเท่าไหร่ ก็ทำงานช่วยกันหามาทั้งนั้น เเต่จดเป็นชื่อตัวคนเดียวไม่แบ่งใคร

เเล้วไอ้เรื่องอู้งาน ไม่ทำงาน นั่นก็เพราะจากพี่ชายล้วนๆ เเต่พ่อชอบมาด่าเหมารวมเราไปด้วย เรานั่งทำงานงกๆอยู่ๆก็โมโหเดินมาด่าพวกมืงมันไม่เอาไหน ขี้เกียจสันหลังยาวไปวันๆ ทั้งๆที่เรานั่งทำงานอยู่ เเต่มาเหมารวมเราไปกับพี่ชายที่นอนตื่นบ่าย ทำงานเย็น ทำไมเราต้องมาโดนด่าเเทนคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวห่าอะไรเลย ทำไมไม่ไปด่าเจ้าตัวตรงๆเอง มันโดนบ่อย จนเกินไปอ่ะ ทั้งอึดอัด ทั้งน้อยใจ  

อย่างเมื่อหลายปีก่อนก็ช่วยกันเก็บหอมรอมริบเพื่อสร้างบ้านหลังแรก พอเงินขาดค่าต่อเติมบ้าน พ่อก็เอ่ยปากขอเงินยืมเงินเรา ตอนนั้นเราอายุเเค่17 เเต่เราพอมีเงินเก็บประมาณ2แสนกว่า ก็ยกให้หมดตัวเลย เเถมไม่เอาเงินเดือนอีก เพราะหวังจะช่วยลดภาระให้พ่อเเม่ เเต่เขาไม่ขอพี่ชายเราให้ช่วยซักบาท คือไรอ่ะ ตอนนั้นพ่อเขาก็รับปากว่าจะคืนนะ ตอนนี้ผ่านมา5ปีละ ก็เฉไฉ ปากก็พูดใส่เหมือนเดิม ข้าวก็มีให้กิน บ้านก็ให้อยู่ กูเลี้ยงมาตั้งเเต่เล็กจนโต ไม่เคยทวงคืน เเค่นี้ให้พ่อเเม่มั่งไม่ได้หรอ อ่าว กลายเป็นทวงบุญคุณ เราผิดไปอีก อ่ะ ช่างมัน ยังไงก็คงไม่ได้คืน
จนปัจจุบัน เจอหน้าพ่อที พ่อไม่เคยถามสารทุกข์สุขดิบหรอกนะ ว่าลูกสาวเป็นยังไง กินอะไรรึยัง มีเเต่ถามว่ามีตังป่าว เอามายืมหน่อย เห้อ ฟังเเล้วก็ท้อ ละเนี่ยถามเเต่เรา เเต่เขาก็ไม่เคยไปถามพี่ชายนะว่ามีตังไหมเอามายืมหน่อย เอะอ่ะก็เราทั้งปี ทุกวันนี้ตังจ่ายค่านู้นนี้ ใช้เดือนชนเดือนก็จะไม่พออยู่เเล้ว

อีกเรื่องเลย เขาก็จะกรอกหูเราตลอดตั้งเเต่เด็กว่า
บ้านเราก็ไม่ใช่ไก่กา หาเเฟนก็หาที่มันรวยๆนะ เอาที่มาช่วยงานที่บ้านได้ด้วย ถ้ามาช่วยไม่ได้ก็หานักธุรกิจรวยๆไปเลย เอาที่เลี้ยงเอ็งได้ เเล้วเค้าบอกไว้เลยนะ ( พ่อจะเเทนตัวเขาว่าเค้า) “ ถ้าเอ็งเเต่งงาน อย่างน้อย เค้าต้องได้สินสอดขั้นต่ำๆเลยล้านนึง “ ใช่ อ่านไม่ผิด ล้านนึง เเล้วเราก็โดนกรอกหูเเบบนี้มาตลอด ซึ่งเราไม่ชอบมากๆ มันเหมือนเราโดนพ่อเเม่ขายกินอ่ะ เอะอะก็จะเอาเงินอย่างเดียวเลย คิดเเต่เรื่องเงิน

เเล้วตอนนี้ เราก็มีเเฟนคบมาได้เกือบปี เขาเป็นคนอายุมากกว่าเรา ฐานะดี การงานดี ชีวิตดี พอพ่อเเม่รู้ว่าเขามีรายได้เยอะ ก็บอกเมื่อไหร่จะมาขอ จะมาผูกข้อไม้ข้อมือก่อนก็ได้ จะได้ไม่ผิดผี ไว้หน้าพ่อหน้าเเม่ด้วยคนอื่นจะมองยังไง ค่าสินสอดอ่ะ บอกเลยนะ ขั้นต่ำล้านนึง อะไรวะ คือเราฟังเเล้วโคตรไม่โอเคอ่ะ เรื่องเงินอีกเเล้ว คือเรากับเเฟนไม่คิดที่จะเเต่งงาน เพราะมันสิ้นเปลือง
เอาเงินเเต่งงานไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์กว่านี้

เราอาจจะคิดไม่เหมือนคนอื่นนะ เเต่เราคิดว่า ความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคน ทำไมต้องมีคนที่3-4-5 มายุ่งวุ่นวายกับชีวิตด้วย
รักกันสองคน ก็ตัดสินใจกันเเค่สองคนพอ ไม่จำเป็นต้องมีคนอื่นมาตัดสินใจชีวิตเราเเทน พ่อเเม่คือเเค่รับรู้ก็พอมั้ย จะมาบังคับให้ทำนู้นนี่ทำไม บงการมาทั้งชีวิต ยังจะมายุ่งเรื่องนี้อีกหรอ ควรจะปล่อยให้ลูกๆจัดการชีวิตตัวเองพอ ส่วนเรื่องเงินยังไงเราก็ต้องให้พ่อให้เเม่อยู่เเล้ว ก็ต้องดูเเลพวกเขานั่นเเหละ ไม่ว่าจะชีวิตหรือค่าใช้จ่ายต่างๆ

เหมือนกระทู้บ่นมากกว่าเลย5555
สรุปเราควรทำยังไง พูดยังไง อธิบายยังไง ให้พ่อเเม่เลิกกดดันเเบบนี้ซักทีคะ
เหนื่อยกายไม่เท่าไหร่ เเต่เหนื่อยใจมาก ไม่ไหวเเล้ว

ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่