สาเหตุของอาการนิ้วล็อกและการรักษาทางกายภาพบำบัด

กระทู้สนทนา
อาการนิ้วล็อกหรือนิ้วสะดุด เป็นความผิดปกติของนิ้วมือที่พบได้บ่อยที่สุด โดยมักเกิด
ในผู้ที่ใช้งานมือในลักษณะเกร็งนิ้วบ่อยๆ เช่น การหิ้วของหนัก การทำงานบ้าน หรือการใช้มือในท่ากำบีบอย่างแรง
เกิดการเสียดสีบริเวณเส้นเอ็นทางด้านฝ่ามือและปลอกหุ้มเส้นเอ็น ทำให้มีการอักเสบและหนาตัวขึ้นของปลอกหุ้มเส้นเอ็น
ทำให้เส้นเอ็นเคลื่อนที่ได้ไม่สะดวก เกิดการฝืด ติดขัด เจ็บ และสะดุดเวลางอนิ้ว
ส่วนมากจะพบในวัยกลางคนอายุประมาณ 40 - 50 ปี  โดยปัจจัยที่มีโอกาสทำให้เกิดโรคมากขึ้นได้แก่ โรคเบาหวาน ข้ออักเสบรูมาตอยด์ เป็นต้น
                      
                       อาการของโรคจะแบ่งได้ทั้งหมด 4 ระยะ คือ
                                 ระยะที่ 1 ระยะปวดและมีจุดกดเจ็บ  โดยผู้ป่วยจะมีอาการปวดฐานนิ้วและโคนนิ้วด้านหน้า
                                             จะปวดมากขึ้นเมื่อเอานิ้วมากด
                                 ระยะที่ 2 ระยะสะดุด ผู้ป่วยจะมีอาการสะดุดขณะงอหรือเหยียดนิ้วจนรู้สึกได้ มีเสียงขณะงอหรือเหยียด
                                             และมักจะมีอาการปวดมากขึ้นกว่าระยะแรก  
                                 ระยะที่ 3 ระยะล็อก เมื่อผู้ป่วยงอนิ้วลงไปแล้ว จะติดล็อกไม่สามารถเหยียดออกเองได้
                                             ต้องใช้มืออีกด้านช่วยแกะหรือง้างออก ในผู้ป่วยที่มีอาการมากๆ อาจจะไม่สามารถงอนิ้วได้เอง
                                 ระยะที่ 4 ระยะติดในท่างอหรือเหยียด ระยะนี้ผู้ป่วยจะติดอยู่ในท่างอหรือเหยียดนิ้ว ไม่สามารถง้างออกได้
                                             หากใช้มืออีกข้างแกะ หรือง้างออกจะมีอาการปวดมาก เนื่องจากการอักเสบที่มากขึ้น

                       การรักษาโรค
                                 ระยะที่ 1  ทำได้โดย พักการใช้นิ้วมือและแช่น้ำอุ่น ประมาณ 15- 20 นาที เพื่อลดอาการปวด
                                              หรือรับประทานยาแก้ปวดร่วมด้วย
                                 ระยะที่ 2  ทำได้โดย พักการใช้นิ้วมือ ร่วมกับการรักษาทางกายภาพบำบัด เช่น การแช่พาราฟิน
                                              การทำอัลตร้าซาวด์ การใส่เครื่องดามนิ้ว การใช้ความเย็นรักษาในระยะอักเสบ
                                              และการขยับดัดดึงข้อต่อ เป็นต้น
                                 ระยะที่ 3  สามารถใช้การรักษาทางกายภาพบำบัดหรือปรึกษาแพทย์เพื่อทำการผ่าตัด
                                 ระยะที่ 4  ควรปรีกษาแพทย์เพื่อทำการผ่าตัด

บทความโดย ฟิสิคอลคลินิกกายภาพบำบัด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่