เขี้ยวสยองกลางดง

งานพี่ลิอยู่ที่ช่องลุงอ้นเล่าผีนี้อีกค่ะ มีให้ทั้งอ่านและฟังนะคะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ





เขี้ยวสยองกลางดง

ล. วิลิศมาหรา
 
หมู่บ้านห้วยหินอยู่ติดชายแดนไทยกับกัมพูชา ระยะนี้มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นทุกคืน นั่นคือพอรุ่งเช้ามา ชาวบ้านมักจะพบว่าสัตว์เลี้ยงของตนถูกกัดกินนอนตายในสภาพเนื้อตัวฉีกขาดแหว่งวิ่น เหมือนถูกสัตว์ร้ายมากัดกิน สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก

 “ไก่เล้าข้าตายไปอีกหลายตัว ถ้าเป็นแบบนี้สงสัยจะหมดเล้าเข้าสักวัน” ตาสมมาหาผู้ใหญ่เม่นที่บ้าน แกเริ่มโวยวายที่เมื่อคืนนี้ไก่ของแกตายไปโดยไม่รู้สาเหตุอีกแล้ว

“วัวข้าเพิ่งเกิดใหม่ก็โดนกัดคอตายไปเมื่อวานซืน ข้าเสียใจจนพูดไม่ออก” ไอ้มั่นตามมาสมทบอีกคน มันมาตอกย้ำซ้ำเติมคำพูดของตาสมเข้าไปอีก 
“ตาผันแกไปใส่ตาข่ายดักกระต่าย พอเช้ามากระต่ายในตาข่ายแกก็โดนตัวอะไรมากินก็ไม่รู้ เหลือแต่ซาก แกบอกว่าเจอแบบนี้บ่อยเหมือนกัน” ป้าผ่องเดินเข้ามารายงานข่าวอีกคน

“ผู้ใหญ่ต้องจัดการอะไรสักอย่างแล้วนะ ชาวบ้านเขาเดือดร้อนกันไปหมดแล้วเนี่ย” ตาสมคาดคั้นเอากับผู้ใหญ่มั่น ให้ทำอะไรสักอย่าง ทำให้ผู้นำหมู่บ้านต้องคิดหนัก

“เอาล่ะ ข้ารู้แล้ว ข้าจะหาทางจัดการเรื่องนี้เอง

ผู้ใหญ่บ้านรับคำพลางนึกทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึงเดือน เมื่อเดือนก่อน ท้ายหมู่บ้านห้วยหินมีครอบครัวหนึ่งเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ เป็นแม่ลูกคู่หนึ่ง แม่ชื่อยายสา เป็นหญิงชราตัวผอมแห้ง ใบหน้าซูบตอบ จมูกยื่นยาวเหมือนแม่มด เส้นผมขาวโพลนไปทั้งศีรษะ ส่วนลูกชายชื่อเมฆ มีร่างกายผอมบางเช่นเดียวกัน แต่หน้าตาดูดุดัน มองไปคล้ายเค้าหน้าของพวกแขก ยายสาดูเงียบขรึม ไม่ทำการทำงานอะไร ปล่อยให้ลูกชายไปรับจ้างทำงานหาเลี้ยงชีวิต เขามักเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อของานทำ บางทีก็เก็บผักที่ปลูกเองเอาไปขาย พอมีรายได้มาเลี้ยงแม่ สองคนนี้ดูเหมือนจะย้ายมาจากฝั่งเขมร แต่ไม่ค่อยมีใครสนใจเท่าไหร่ เพราะยายสาไม่ออกจากบ้านไปไหนเลย ลูกชายก็ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่ตอนนี้แม่ลูกคู่นี้กลายเป็นที่จับตามองของผู้ใหญ่มั่น

“แม่ลูกคู่นั้นน่าสงสัย มันอาจเป็นเสือสมิงก็ได้นา ผู้ใหญ่” ป้าผ่องซึ่งเป็นคนที่สนใจเรื่องของชาวบ้านอยู่เสมอ มาพูดกับผู้ใหญ่มั่นในวันหนึ่ง แกเฝ้าจับตามองสองแม่ลูกคู่นี้ด้วยเหมือนกัน

“ไอ้เมฆหน้าตามันดุ ดูไปเหมือนเสือ ยายสาก็เงียบ ๆ ไม่ค่อยพูดกับใคร ทำตัวลึกลับทั้งแม่ทั้งลูก บางทีพวกมันอาจเป็นเสือสมิงทั้งคู่”

ผู้ใหญ่มั่นฟังดูแล้วเริ่มคิดไปทางนั้นเหมือนกัน 

ขณะนั้นเองได้มีชาวบ้านอีกคนชื่อไอ้อุ่น วิ่งกระหืดกระหอบขึ้นมาแจ้งข่าวร้ายแก่ผู้ใหญ่มั่นที่บ้าน

“ไอ้จ้อยมันเอาควายไปเลี้ยงที่แหล่งแล้วหายตัวไป พวกข้าออกไปตามหา เจอมันถูกตัวอะไรไม่รู้กัดตายอยู่ที่ชายป่าด้านโน้น ตายทั้งมันทั้งควายเลย”

ผู้ใหญ่มั่นตกใจ นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุร้ายแบบนี้ขึ้น รีบไปดูในที่เกิดเหตุก็พบไอ้จ้อยนอนตายในสภาพถูกกัดกินร่างกายจนแหว่งวิ่น เนื้อที่ขาหายไปทั้งท่อน ใบหน้าแหว่งไปครึ่งหนึ่ง ส่วนควายก็โดนกัดเข้าที่คอ ท้องถูกกัดกินจนเป็นแผลเหวะหวะ อวัยวะภายในหายเกลี้ยง สัตว์ที่มาทำร้ายไอ้จ้อยและควายได้ถึงขนาดนี้ จะต้องเป็นสัตว์ที่ดุร้ายและทรงพลังมาก แถมยังลากซากไปถึงชายป่า เหมือนจะลากไปกินซ้ำอีก สัตว์แบบนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเสือ แต่เสือธรรมดาก็ไม่น่าจะเล่นงานทั้งคนและควายได้ในคราวเดียวกัน นอกจากมันจะเป็นเสือสมิง!

“ไปที่บ้านไอ้เมฆกัน” ผู้ใหญ่มั่นกัดกรามกรอด สิ่งแรกที่เขานึกถึงก็คือ สองแม่ลูกผู้มีที่มาเป็นปริศนา เขานำชาวบ้านจำนวนหนึ่งไปหาเมฆกับแม่ที่บ้าน ซึ่งขณะนั้นกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ในบ้านทั้งสองคน

“ไอ้เมฆ เมื่อคืนนี้มีคนตาย ไอ้จ้อยมันเหมือนถูกตัวอะไรมากัดมันจนตาย แกบอกข้ามาซิ เมื่อคืนนี้แกไปที่ไหนมาบ้าง” 

พอไปถึงแกก็เริ่มต้นซักไซ้ไต่ถาม

“ไม่ได้ไปไหนเลยพ่อผู้ใหญ่ ข้าอยู่ในบ้านกับแม่” พอรู่ว่ามีคนตายอย่างผิดธรรมชาติ เมฆก็รู้สึกไม่สบายใจ เขารีบปฏิเสธ

“แล้ววันนี้ทำไมแกไม่ไปทำงาน หรือว่าแกกินอิ่มแล้ว สบายท้องไปหลายวัน” ผู้ใหญ่บ้านตั้งคำถามอีก

“โธ่ ผู้ใหญ่ สบายท้องอะไรกัน หมู่นี้ไม่มีใครจ้างข้าไปทำงานเลย ว่าจะหาเก็บยอดกระถินยอดตำลึงจิ้มกินกับน้ำพริกไปพลาง ๆ ตามประสาเราแม่ลูกเท่านั้นแหละจ้ะ”

ผู้ใหญ่บ้านเขม้นมองเพื่อจับผิด ก็เห็นแต่แววตาซื่อ ๆ และสีหน้าเหลอหลาของเมฆ อย่างคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เมื่อถามไถ่และมองดูแล้วไม่มีวี่แววให้จับผิดอะไรได้ ผู้ใหญ่มั่นจึงต้องกลับไปอย่างผิดหวัง แต่ในใจของผู้ใหญ่และชาวบ้านต่างนึกสงสัยในตัวของแม่ลูกคู่นี้เข้าเสียแล้ว

“ข้าเคยเห็นเงาดำ ๆ พุ่งหายออกจากกระต๊อบของยายสา มันเร็วมากจนข้ามองแทบไม่ทัน” ไอ้อุ่นซึ่งเสียวัวไป และยังไม่หายแค้นใจ ได้เฝ้าจับตามองครอบครัวของสองแม่ลูกมาโดยตลอด บอกกับผู้ใหญ่มั่น ระหว่างเดินกลับมาด้วยกัน

“จับตาดูมันต่อไป ข้าจะหาวิธีพิสูจน์มันให้ได้ ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง ข้ายังสงสัยในตัวไอ้เมฆกับแม่ของมันอยู่”

(มีต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่