สวัสดีค่า
ดรีมมาส่งกระทู้ล่าสุด หลังจากได้มีโอกาสร่วมทริปกับทางพันทิปและทาง ททท. อีกครั้ง
โดยในครั้งนี้ ดรีมได้ไปอีกหนึ่งจังหวัดโปรดของดรีมเลย นั่นก็คือ "จังหวัดจันทบุรี" นั่นเองค่ะ
และยังได้แวะเที่ยวที่ชลบุรีในวันกลับอีกด้วยน้า ^_^
ทริปนี้ต้องบอกว่า มาไว ไปไว มากค่ะ
พอได้รับการติดต่อจากทีมงาน สิ่งแรกที่ดรีมอยากรู้คือ...
"ไปหนายยยยยค๊า?"
พอรู้ว่าเป็นทะเล และจุดหมายคือ จันทบุรีและแวะเที่ยวชลบุรีในวันกลับ
จึงตอบตกลงแบบไม่ต้องคิดนานเลยค่ะ ไอ้เรามันคอทะเลอยู่แล้ว
กระทู้นี้ดรีมจะลงรูปไป บรรยายไปเรื่อยๆตามสไตล์ดรีมนะ
ว่าเราไปแวะที่ไหนกันบ้าง มีจุดไหนที่น่าสนใจ และมีรายละเอียดอะไรคร่าวๆบ้างค่ะ
ข้อมูลเบื้องต้นของทริป : เรามีสมาชิกร่วมทริปทั้งหมด 5 ล็อคอิน (และผู้ติดตามของแต่ละล็อคอินอย่างละ 1 คน)
เป็นทั้งหมด 10 คน รวมทีมงานจากทางพันทิปและ ททท. รวมๆกันไม่เกิน 20 คนค่ะ
โดยมีการแจ้งผลส่ง ATK ก่อนการเดินทางหนึ่งวัน รวมไปถึงต้องแจ้งรายละเอียดการฉีดวัคซีนกับทางทีมงานให้ชัดเจนด้วยค่ะ
ออกเดินทางวันแรก ศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2565
เราไปเจอกันที่สำนักงานใหญ่ ททท. ค่ะ รถออก 07.15
ตอนลงทะเบียน มีเซทของน่ารักๆมาให้เรากันอีกแล้ว กระจุ๊กกระจิ๊กไปหมดเลย
รอบนี้หมวกน้องเพี้ยนใบใหญ่กว่ารอบที่ดรีมไปนครนายก ชอบมาก 555
มุมเช็คอินของดรีมทุกรอบ พรีเซ็นเตอร์ด้านหลังก็เปลี่ยนไปทุกรอบ
ยังไม่ทันได้งีบเลยค่ะ แป๊บๆพวกเราก็มาถึงจันทบุรีที่ ท่าเรือแฉลบ แล้ว
เป็นจุดที่พวกเราจะขึ้นเรือไปชมฟาร์มหอยนางรมลุงทมป้าหลุย แล้วก็ไปแวะทานข้าวกันต่อที่แพของลุงกับป้านี่แหละค่า
ฟ้าใส แดดดี ลมดี วิวก็ดีมากๆ ดรีมชอบ
ส่องน้ำ ส่องฟ้า ส่องกระชังเลี้ยงปลากันไปเพลินๆ
มีน้องเหยี่ยวแดงมาทักทายพวกเราแล้ว
บินสูงงงงงงง
ลงมาโฉบอาหารแว้ว
ต้นไม้ตรงนี้สวยเด่นเป็นสง่ากลางน้ำเลย
วิวภูเขาตัดขอบฟ้าขอบน้ำก็ดูเพลิน
เริ่มเห็นฟาร์มหอยนางรมแบบใกล้ๆแล้วค่ะ
คุณลุงทม มายกพวงหอยนางรมขนาดต่างๆให้พวกเราดูกันแว้ว
พวงนี้คือ "อีแปะ" ค่ะ
อีแปะหอย ก็คือ แป้นปูนที่ทำมาจากปูนซีเมนต์ผสมกับทราย นำมาหยอดลงบนเชือก
ใน 1เส้นก็จะมีแป้นปูนแบบนี้ หย่อนลงไปในน้ำโดยผูกไว้กับราวไม้ไผ่ เพื่อการเพาะเชื้อทำให้ลูกหอยมาติดแป้นปูนนั่นเอง
ขนาดของหอยนางรมขนาดต่างๆ ตามอายุการเติบโต
(ไม่มาเห็นกับตาก็ไม่รู้เลยนะคะ ว่าหอยนางรมตัวโตๆ ใช้เวลาเป็นปีเลยทีเดียวในการเจริญเติบโต ดรีมกินเป็นอย่างเดียวเลย -*-)
ได้เวลามื้อเที่ยงกันแล้วค่ะ ไปขึ้นแพลุงทมป้าหลุยกัน ยิ่งเข้าใกล้แพ ยิ่งได้กลิ่นอาหารหอมๆ ลอยลมมาเลย
มาทะเลขนาดนี้ก็ต้องซีฟู้ดสิคะ อาหารเติมได้เรื่อยๆด้วยนะ
มาเมืองจันท์ขนาดนี้จะขาดเส้นจันท์ไปได้อย่างไร
พระเอกของเรามื้อนี้ อาหย่อยยยย ความสดไม่ต้องพูดถึง แกะกันสดๆตรงแพเลยค่ะ
พออิ่มหนำสำราญกันแล้ว ป้าหลุยก็มาสาธิตการทำอีแปะให้ดูค่ะ
(ดรีมแอบคิดถึงขนมเมอแร็งก์) ดรีมก็ได้หยอดด้วยนะ แต่ไม่มีความเท่ากันเลยสักอัน 5555
ก่อนจะลงเรือกลับ ป้ากับลุงก็เอาน้ำลูกสำรองแช่เย็นชื่นใจมาให้ชิมกันอีกด้วย จดจื้นมากๆ ^_^
สำหรับการมาชมฟาร์มหอยนางรมหรือทานข้าวที่แพของลุงทมกับป้าหลุย ต้องติดต่อทางคุณลุงล่วงหน้าก่อนนะคะ
ส่วนใหญ่ (ที่ดรีมเข้าใจนะ) คุณลุงจะรับเป็นกรุ๊ปค่ะ ประมาณ 6 คนขึ้นไป ราคาประมาณคนละ 1000 บาทค่ะ
สามารถเข้าไปอัพเดทสอบถามได้ที่
https://www.facebook.com/trvhomestay1
พอตกบ่าย ทางทีมงานก็พาพวกเราไปร้านกาแฟสวยๆ ชิคๆ ริมทะเลกันค่ะ (พูดเลยว่าทริปนี้กลับมาไม่กล้าชั่งน้ำหนักเลย อิอิ)
ชื่อร้านก็เก๋ไม่หยอก "ซีห์ หรดี" กาแฟและขนมคือดีเลยค่ะ วิวและมุมถ่ายรูปในร้านก็คือดีไม่แพ้กันเลย
สาวๆที่ชอบการถ่ายรูปต้องรักเลยแหละที่นี่
มีที่พักเก๋ๆด้วยค่ะ
มุมดีไปหมด
ฉดใฉ
พอตกบ่ายแก่ๆ พวกเราก็ได้เวลาออกกำลังกายกันแล้วค่ะ
เป้าหมายต่อไปของพวกเราคือ "ลานหินสีชมพู"
ที่ชื่อสถานที่ดูหวานหวาน แต่เส้นทางการไปนั้น ก็คืออาจไม่ได้หวานสักเท่าใดนัก 5555
มีคุณเจ้าหน้าที่ผู้ใจดีและขี้เล่น นำทีมการผจญภัยการเดินทางในครั้งนี้ โดยมีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรค่ะ
ควรไปช่วงน้ำลง และไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มิถุนายน จะเห็นลานหินสีชมพูได้ชัดเจนขึ้นค่ะ
ทางเดินไม่เป็นอุปสรรค หากมีความรักคอยนำทาง 555
วิวสวยๆ ก็เพลินๆกันไปสิคะ
เริ่มเห็นลานหินสีชมพูแล้ว
หินสีชมพู ที่เราเห็นกันนี้คือ หินทรายอาร์โคส (Arkosic Sandstone)
ที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็กอยู่เยอะ เลยทำให้หินดูมีโทนออกสีแดงๆ ชมพู ม่วงแดง น้ำตาลแดง อย่างที่เห็นค่ะ
และจะยิ่งมองเห็นสีได้ชัดขึ้นถ้ามีแสงแดดมาส่องกระทบโดยตรงค่ะ
ดรีมไม่ได้ร้อน ไม่ได้เหนื่อยเลยนะคะ สบายมากๆ แค่เหงื่อท่วมตัวและขอนั่งพักแป๊บนึง 555
มีแต่วิวสวยๆ
ทุกคนช่วยกันดูแล ฉุดกันขึ้นลงตลอดๆ (ส่วนดรีมคือ ต้องเอากระโปรงมุ้งให้รอดก่อน 5555)
ส่วนจุดสุดท้ายก่อนมื้อค่ำและเข้าที่พักในคืนนี้ เราไปแวะกันที่ จุดชมวิวเนินนางพญา
จำได้ว่าไปถึงคือพระอาทิตย์จะบ๊ายบายพวกเราแล้ว ทุกคนก็คือลงจากรถตู้แล้ววิ่งสุดชี เพื่อจะไปเก็บภาพกัน 555
แต่ภาพที่ได้กันมา ก็คือ ฟ้าดูสวยงาม อบอุ่น ดูสงบ และสบายใจดีนะคะ ^^
หลังจากนั้นพวกเราก็ไปเก็บกระเป๋ากันที่ มัลดีฟ บีช รีสอร์ท กันก่อนค่ะ
ที่นี่ค่อนข้างดังเลยนะคะ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เหมือนดรีมรู้สึกว่ามีคนรอบตัวมาพักที่นี่กันค่อนข้างเยอะ
ส่วนดรีมได้มาครั้งแรกก็ค่อนข้างประทับใจในความกว้างของห้อง ชอบบาร์เล็กๆในห้อง น่ารักดีค่ะ
บริเวณภายในที่พัก
ไปดูในห้องพักกันบ้างค่ะ
ส่วนมื้อค่ำ เราไปทานกันที่ร้านเรือนริมน้ำค่ะ กับข้าวออกไว ราคาไม่แพง รสชาติเข้มข้น แล้วก็ของสดดีค่ะ
ของที่ระลึกจากทีมงานก่อนเข้านอน ^_^
[SR] "จงใจจะไปจันท์(บุรี) จบสองวันจึงมาชล(บุรี) ^_^"
ดรีมมาส่งกระทู้ล่าสุด หลังจากได้มีโอกาสร่วมทริปกับทางพันทิปและทาง ททท. อีกครั้ง
โดยในครั้งนี้ ดรีมได้ไปอีกหนึ่งจังหวัดโปรดของดรีมเลย นั่นก็คือ "จังหวัดจันทบุรี" นั่นเองค่ะ
และยังได้แวะเที่ยวที่ชลบุรีในวันกลับอีกด้วยน้า ^_^
ทริปนี้ต้องบอกว่า มาไว ไปไว มากค่ะ
พอได้รับการติดต่อจากทีมงาน สิ่งแรกที่ดรีมอยากรู้คือ...
"ไปหนายยยยยค๊า?"
พอรู้ว่าเป็นทะเล และจุดหมายคือ จันทบุรีและแวะเที่ยวชลบุรีในวันกลับ
จึงตอบตกลงแบบไม่ต้องคิดนานเลยค่ะ ไอ้เรามันคอทะเลอยู่แล้ว
กระทู้นี้ดรีมจะลงรูปไป บรรยายไปเรื่อยๆตามสไตล์ดรีมนะ
ว่าเราไปแวะที่ไหนกันบ้าง มีจุดไหนที่น่าสนใจ และมีรายละเอียดอะไรคร่าวๆบ้างค่ะ
ข้อมูลเบื้องต้นของทริป : เรามีสมาชิกร่วมทริปทั้งหมด 5 ล็อคอิน (และผู้ติดตามของแต่ละล็อคอินอย่างละ 1 คน)
เป็นทั้งหมด 10 คน รวมทีมงานจากทางพันทิปและ ททท. รวมๆกันไม่เกิน 20 คนค่ะ
โดยมีการแจ้งผลส่ง ATK ก่อนการเดินทางหนึ่งวัน รวมไปถึงต้องแจ้งรายละเอียดการฉีดวัคซีนกับทางทีมงานให้ชัดเจนด้วยค่ะ
ออกเดินทางวันแรก ศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2565
เราไปเจอกันที่สำนักงานใหญ่ ททท. ค่ะ รถออก 07.15
ตอนลงทะเบียน มีเซทของน่ารักๆมาให้เรากันอีกแล้ว กระจุ๊กกระจิ๊กไปหมดเลย
รอบนี้หมวกน้องเพี้ยนใบใหญ่กว่ารอบที่ดรีมไปนครนายก ชอบมาก 555
มุมเช็คอินของดรีมทุกรอบ พรีเซ็นเตอร์ด้านหลังก็เปลี่ยนไปทุกรอบ
ยังไม่ทันได้งีบเลยค่ะ แป๊บๆพวกเราก็มาถึงจันทบุรีที่ ท่าเรือแฉลบ แล้ว
เป็นจุดที่พวกเราจะขึ้นเรือไปชมฟาร์มหอยนางรมลุงทมป้าหลุย แล้วก็ไปแวะทานข้าวกันต่อที่แพของลุงกับป้านี่แหละค่า
ฟ้าใส แดดดี ลมดี วิวก็ดีมากๆ ดรีมชอบ
ส่องน้ำ ส่องฟ้า ส่องกระชังเลี้ยงปลากันไปเพลินๆ
มีน้องเหยี่ยวแดงมาทักทายพวกเราแล้ว
บินสูงงงงงงง
ลงมาโฉบอาหารแว้ว
ต้นไม้ตรงนี้สวยเด่นเป็นสง่ากลางน้ำเลย
วิวภูเขาตัดขอบฟ้าขอบน้ำก็ดูเพลิน
เริ่มเห็นฟาร์มหอยนางรมแบบใกล้ๆแล้วค่ะ
คุณลุงทม มายกพวงหอยนางรมขนาดต่างๆให้พวกเราดูกันแว้ว
พวงนี้คือ "อีแปะ" ค่ะ
อีแปะหอย ก็คือ แป้นปูนที่ทำมาจากปูนซีเมนต์ผสมกับทราย นำมาหยอดลงบนเชือก
ใน 1เส้นก็จะมีแป้นปูนแบบนี้ หย่อนลงไปในน้ำโดยผูกไว้กับราวไม้ไผ่ เพื่อการเพาะเชื้อทำให้ลูกหอยมาติดแป้นปูนนั่นเอง
ขนาดของหอยนางรมขนาดต่างๆ ตามอายุการเติบโต
(ไม่มาเห็นกับตาก็ไม่รู้เลยนะคะ ว่าหอยนางรมตัวโตๆ ใช้เวลาเป็นปีเลยทีเดียวในการเจริญเติบโต ดรีมกินเป็นอย่างเดียวเลย -*-)
ได้เวลามื้อเที่ยงกันแล้วค่ะ ไปขึ้นแพลุงทมป้าหลุยกัน ยิ่งเข้าใกล้แพ ยิ่งได้กลิ่นอาหารหอมๆ ลอยลมมาเลย
มาทะเลขนาดนี้ก็ต้องซีฟู้ดสิคะ อาหารเติมได้เรื่อยๆด้วยนะ
มาเมืองจันท์ขนาดนี้จะขาดเส้นจันท์ไปได้อย่างไร
พระเอกของเรามื้อนี้ อาหย่อยยยย ความสดไม่ต้องพูดถึง แกะกันสดๆตรงแพเลยค่ะ
พออิ่มหนำสำราญกันแล้ว ป้าหลุยก็มาสาธิตการทำอีแปะให้ดูค่ะ
(ดรีมแอบคิดถึงขนมเมอแร็งก์) ดรีมก็ได้หยอดด้วยนะ แต่ไม่มีความเท่ากันเลยสักอัน 5555
ก่อนจะลงเรือกลับ ป้ากับลุงก็เอาน้ำลูกสำรองแช่เย็นชื่นใจมาให้ชิมกันอีกด้วย จดจื้นมากๆ ^_^
สำหรับการมาชมฟาร์มหอยนางรมหรือทานข้าวที่แพของลุงทมกับป้าหลุย ต้องติดต่อทางคุณลุงล่วงหน้าก่อนนะคะ
ส่วนใหญ่ (ที่ดรีมเข้าใจนะ) คุณลุงจะรับเป็นกรุ๊ปค่ะ ประมาณ 6 คนขึ้นไป ราคาประมาณคนละ 1000 บาทค่ะ
สามารถเข้าไปอัพเดทสอบถามได้ที่ https://www.facebook.com/trvhomestay1
พอตกบ่าย ทางทีมงานก็พาพวกเราไปร้านกาแฟสวยๆ ชิคๆ ริมทะเลกันค่ะ (พูดเลยว่าทริปนี้กลับมาไม่กล้าชั่งน้ำหนักเลย อิอิ)
ชื่อร้านก็เก๋ไม่หยอก "ซีห์ หรดี" กาแฟและขนมคือดีเลยค่ะ วิวและมุมถ่ายรูปในร้านก็คือดีไม่แพ้กันเลย
สาวๆที่ชอบการถ่ายรูปต้องรักเลยแหละที่นี่
มีที่พักเก๋ๆด้วยค่ะ
มุมดีไปหมด
ฉดใฉ
พอตกบ่ายแก่ๆ พวกเราก็ได้เวลาออกกำลังกายกันแล้วค่ะ
เป้าหมายต่อไปของพวกเราคือ "ลานหินสีชมพู"
ที่ชื่อสถานที่ดูหวานหวาน แต่เส้นทางการไปนั้น ก็คืออาจไม่ได้หวานสักเท่าใดนัก 5555
มีคุณเจ้าหน้าที่ผู้ใจดีและขี้เล่น นำทีมการผจญภัยการเดินทางในครั้งนี้ โดยมีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรค่ะ
ควรไปช่วงน้ำลง และไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มิถุนายน จะเห็นลานหินสีชมพูได้ชัดเจนขึ้นค่ะ
ทางเดินไม่เป็นอุปสรรค หากมีความรักคอยนำทาง 555
วิวสวยๆ ก็เพลินๆกันไปสิคะ
เริ่มเห็นลานหินสีชมพูแล้ว
หินสีชมพู ที่เราเห็นกันนี้คือ หินทรายอาร์โคส (Arkosic Sandstone)
ที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็กอยู่เยอะ เลยทำให้หินดูมีโทนออกสีแดงๆ ชมพู ม่วงแดง น้ำตาลแดง อย่างที่เห็นค่ะ
และจะยิ่งมองเห็นสีได้ชัดขึ้นถ้ามีแสงแดดมาส่องกระทบโดยตรงค่ะ
ดรีมไม่ได้ร้อน ไม่ได้เหนื่อยเลยนะคะ สบายมากๆ แค่เหงื่อท่วมตัวและขอนั่งพักแป๊บนึง 555
มีแต่วิวสวยๆ
ทุกคนช่วยกันดูแล ฉุดกันขึ้นลงตลอดๆ (ส่วนดรีมคือ ต้องเอากระโปรงมุ้งให้รอดก่อน 5555)
ส่วนจุดสุดท้ายก่อนมื้อค่ำและเข้าที่พักในคืนนี้ เราไปแวะกันที่ จุดชมวิวเนินนางพญา
จำได้ว่าไปถึงคือพระอาทิตย์จะบ๊ายบายพวกเราแล้ว ทุกคนก็คือลงจากรถตู้แล้ววิ่งสุดชี เพื่อจะไปเก็บภาพกัน 555
แต่ภาพที่ได้กันมา ก็คือ ฟ้าดูสวยงาม อบอุ่น ดูสงบ และสบายใจดีนะคะ ^^
หลังจากนั้นพวกเราก็ไปเก็บกระเป๋ากันที่ มัลดีฟ บีช รีสอร์ท กันก่อนค่ะ
ที่นี่ค่อนข้างดังเลยนะคะ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เหมือนดรีมรู้สึกว่ามีคนรอบตัวมาพักที่นี่กันค่อนข้างเยอะ
ส่วนดรีมได้มาครั้งแรกก็ค่อนข้างประทับใจในความกว้างของห้อง ชอบบาร์เล็กๆในห้อง น่ารักดีค่ะ
บริเวณภายในที่พัก
ไปดูในห้องพักกันบ้างค่ะ
ส่วนมื้อค่ำ เราไปทานกันที่ร้านเรือนริมน้ำค่ะ กับข้าวออกไว ราคาไม่แพง รสชาติเข้มข้น แล้วก็ของสดดีค่ะ
ของที่ระลึกจากทีมงานก่อนเข้านอน ^_^
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้