รู้หรือไม่ว่าต้นแบบแรกสำหรับ
โปรแกรมประมวลผลคำ Word Processor
ถูกคิดค้นโดยสตรี เธอสร้างพวกมันขึ้นมา
เพื่อช่วยการทำงานของเลขานุการ
อาชีพที่ทำโดยสตรีเป็นส่วนใหญ่
รู้หรือไม่ว่ากระบวนการผลิตกระจกกันแสงสะท้อน
แบบที่ใช้อ่านบทความนี้อยู่ในขณะนี้
หรือที่อยู่บนแว่นตา เลนส์กล้อง กระจกบังลม
ได้รับการจดสิทธิบัตรโดยสตรี
แล้วสิ่งประดิษฐ์ที่พวกเราแทบจะคิดไม่ถึง
แต่สตรีต้องใช้อยู่เป็นประจำทุกเดิอน
ถ้ายังไม่หมดประจำเดือน/ตั้งครรภ์
อุปกรณ์สำคัญในห้องสุขภัฑณ์
Hydyne เชื้อเพลิงที่ส่งยานอวกาศอเมริกัน
สู่อวกาศในทศวรรษ 1960
กระบวนการกำหนดการศึกษา
การปนเปื้อนรังสีนิวเคลียร์
ในมหาสมุทรที่เกิดจากนิวเคลียร์
ทั้งหมดเหล่านี้คิดค้นโดยสตรี
นี่คือนักประดิษฐ์สตรีห้าคน
และสิ่งประดิษฐ์ที่พวกเธอสร้างขึ้นมา
.
1.
.
Evelyn/New York Times
.
.
Evelyn Berezin
จะไม่มี Microsoft Word ไม่มี Google Docs
หากไม่มี Evelyn Berezin
ในฐานะสตรึคนเดียวในสำนักงาน
ในปี 1951
Evelyn Berezin ได้รับคำสั่ง
ให้ออกแบบคอมพิวเตอร์
โดยที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
แต่เธอก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก
ในปี 1969
เธอได้ก่อตั้ง Redactron Corporation
ซึ่งเป็นบริษัท Startup ใน Long Island
และเป็นบริษัทแรกที่ผลิตและจำหน่าย
เครื่องพิมพ์ดีดคอมพิวเตอร์ของเธอ
เธอเรียกเครื่องของเธอว่า Data Secretary
และในขณะที่มันดูค่อนข้างแตกต่าง
จากคอมพิวเตอร์ที่เรารู้จักในปัจจุบัน
(มีขนาดเทียบเท่าตู้เย็นขนาดเล็ก ไม่มีหน้าจอ)
แต่เปลี่ยนวิธีทำงานของเลขานุการ
ในการ edit delete cut และ paste ข้อความ
ตามที่ New York Times อธิบายเกี่ยวกับ
Evelyn Berezin ในปี 1972
“คุณ Berezin เป็นคนที่จริงจังและพูดจานุ่มนวล
แต่บางครั้งก็พูดเหมือนวิศวกรระบบ (ซึ่งเธอเป็น)
ผู้บริหารฝ่ายขาย (ซึ่งเธอเป็น)
และผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อน (ซึ่งเธอเป็น)
เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นผู้หญิงในระดับแนวหน้า
(วิศวกรอาวุโสของงานอาชีพนี้)
ซึ่งเพศของเธอยังคงหายากในทุกระดับ ”
.
2.
.
Blodgett demonstrates equipment in a lab in 1938
Smithsonian Institution Archives
.
.
สิ่งประดิษฐ์สมัยใหม่น้อยมากที่ไม่ได้มาจาก
การนำร่องของผลงานของ
Katherine Burr Blodget
ในปี ค.ศ. 1938 นักฟิสิกส์และนักเคมี
ได้จดสิทธิบัตรกระบวนการสำหรับกระจก
ที่มองไม่เห็น หรือ ไม่สะท้อนแสง
เป็นฟิล์มสบู่ที่เคลือบกระจกรูปภาพ/แว่นตา
ตลอดจนจอแสดงผล แว่นตา
หรือกระจกตู้ปลาในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
ตลอดระยะเวลาเกือบสิบปี
Katherine Burr Blodget ได้พัฒนา
กระบวนการป้องกันแสงสะท้อน
จะสร้างฟิล์มหนาหนึ่งโมเลกุลที่เหมือนกันทีละชั้น
มากถึงประมาณ 3,000 ชั้นในแต่ละครั้ง
คล้ายฟองสบู่จำนวนมาก(ที่อาจละลายได้)
และวางไว้บนพื้นผิวที่แข็ง ด้วยการทำเช่นนี้
จึงสามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำว่า
ฟิล์มจะตัดกันมากน้อยเพียงใด
ทำให้แก้วที่เคลือบไว้แทบจะมองไม่เห็น
สารเคลือบแบบดั้งเดิมของ Katherine Burr Blodget
อาจไม่ใช่สิ่งที่อยู่บนแว่นตา
หรือหน้าจอทีวีในทุกวันนี้แล้ว
แต่เป็นสิทธิบัตรที่เป็นต้นแบบการเคลือบ
แบบไม่สะท้อนแสง ทำให้มองได้ชัดเจน/ไม่หลอน
ในยุคปัจจุบันได้กลายเป็นธุรกิจที่สำคัญ
.
.
Mary Beatrice Davidson Kenner
เป็นชื่อที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จัก
แต่ผลงานประดิษฐ์ของเธอเป็นส่วนหนึ่ง
ของชีวิตประจำวันของหลายคนอย่างแน่นอน
Mary Beatrice Davidson Kenner
มาจากครอบครัวนักประดิษฐ์
พ่อของเธอจดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์หลายอย่าง
(เตารีดเสื้อผ้าที่สามารถใส่ในกระเป๋าเดินทางได้)
ปู่ของเธอประดิษฐ์สัญญาณไฟสำหรับรถไฟ
และน้องสาวคิดค้นและขายเกมกระดาน
Mary Beatrice Davidson Kenner
มีสิทธิบัตร 5 ฉบับ ซึ่งยังคงเป็นสิทธิบัตร
จำนวนมากที่สุดของผู้หญิงแอฟริกัน-อเมริกัน
แม้ว่าการได้มาสิทธิบัตรของเธอ
จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากมาก
สิ่งประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเธอ
คือ เข็มขัดอนามัยของสตรี
ซึ่งป้องกันเลือดประจำเดือนไหลลงบนเสื้อผ้า
เธอคือผู้คิดค้นขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1920
แต่ไม่สามารถขายสิทธิบัตรได้
ในปี 1957 บริษัท Sonn-Nap-Pack
ได้ให้ความสนใจจากแนวคิดที่ประณีตเรื่องนี้
ในเรื่องเข็มขัดอนามัยและติดต่อเธอ
เพื่อจะทำการตลาดและวางขายสินค้า
แต่แล้วทางบริษัทก็ปฏิเสธ
เมื่อพบว่าเธอเป็นคนผิวดำ
แม้ว่าเธอจะได้จดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์นี้ในปีนั้น
แต่ในช่วงทศวรรษ 1970
แนวคิดดังกล่าวมีการพัฒนาต่อยอดไปสู่
ผ้าอนามัยแบบสอด/ผ้าอนามัยปีกแบบแถบกาว
จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามมาก
เธอจึงหันไปเปิดร้านขายดอกไม้แทน
แต่ยังคงประดิษฐ์งานต่าง ๆ อยู่
เธอสร้างสิ่งที่แนบมากับรถเข็น
สำหรับวอล์คเกอร์และวีลแชร์
ซึ่งเธอคิดค้นขึ้นหลังจากที่น้องสาวของเธอ
กลายเป็นโรคเส้นโลหิตตีบหลายเส้น
ทำให้มีผลต่อการเดิน/ใช้ชีวิตประจำวัน
เธอยังคิดที่ใส่ม้วนกระดาษชำระและที่ยึดกับผนัง
เครื่องซักผ้าและเครื่องนวด
.
.
Mary Sherman Morgan
การสร้างสรรค์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเธอ
ได้ขับเคลื่อนสหรัฐอเมริกาให้เข้าสู่ยุคอวกาศ
ในปี 1921
เธอเกิดในครัวเรือนเกษตรกรรมขนาดใหญ่
ใน North Dakota ของสหรัฐ
และไม่ได้เรียนหนังสือจนกระทั่งอายุ 9 ขวบ
เธอได้รับทุนเรียนต่อในวิทยาลัย Ohio
แต่สหรัฐฯ อยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว
เธอจึงต้องออกจากวิทยาลัย
ไปทำงานที่โรงงานผลิตอาวุธใกล้เคียง
หลังสงคราม เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว
และเป็นคนเดียวที่ไม่มีปริญญา
แต่ทำงานในแผนกวิศวกรรม
ที่นั่นเธอถูกขอให้ทำงานต่อไปนี้ให้สำเร็จ
ประดิษฐ์เชื้อเพลิงจรวดที่จะส่งจรวด Jupiter-C
ตามข้อเสนอของกองทัพสหรัฐอเมริกา
ในการแข่งขันอวกาศกับรัสเซีย
พลังงานที่จำเป็นในการเข้าสู่วงโคจรอวกาศ
ที่ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องยนต์ได้รับการพัฒนา
โดยไม่ได้ติดตั้งถังเชื้อเพลิงขนาดเทอะทะ
เธอจึงต้องติดตั้งน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปใน
เครื่องยนต์ ซึ่งเป็นงานช้างมากในยุคนั้น
แต่เธอทำงานครั้งนั้นได้สำเร็จ
และเชื้อเพลิง
Hydyne ของเธอ
ก็ส่ง Explorer I ขึ้นสู่วงโคจร
ในวันที่ 31 มกราคม 1958
แม้ว่าเชื้อเพลิง Hydyne จะไม่ได้ถูกใช้อีกแล้ว
เพราะมีเชื้อเพลิงที่ทรงพลังมากกว่านั้น
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ชื่อของเธอมักไม่อยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์
ที่กล่าวถึงการยิงจรวดในครั้งแรกของสหรัฐ
แต่เธอก็ยังมีอารมณ์ขันเช่นกัน
เพราะจรวด Jupiter-C ใช้
LOX (ออกซิเจนเหลว)
เธอจึงเสนอชื่อเพื่อตั้งชื่อสูตรเชื้อเพลิงใหม่
ของเธอว่า
Bagel ขนมชนิดหนึ่ง
นัยว่า ยานสำรวจได้รับเชื้อเพลิงจาก Bagel/LOX
แต่กองทัพสหรัฐฯ ไม่มึอารมณ์ขันแบบเธอ
จึงเรียกชื่อเชื้อเพลิงนี้ว่า Hydyne
.
.
.
.
.5.
.
Geochemist Katsuko Saruhashi Sankei
© Getty Images
.
.
Katsuko Saruhashi
เธอได้พัฒนาวิธีแรกในการวัดระดับ
คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในน้ำทะเล
ช่วยให้นักวิจัยสามารถวัดปริมาณ
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมา
และดูดซับอยู่ในมหาสมุทรหลายปีก่อน
ที่จะมีการตรวจวัดค่าเหล่านี้
ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสำรวจ
และทำความเข้าใจวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
เธอเข้าสู่โลกแห่งวิทยาศาสตร์เมื่ออายุ 21 ปี
หลังจากที่ได้เห็นผู้หญิงที่ไม่มีภูมิหลังทางวิชาชีพ
หลายคนต้องดิ้นรนหาเงินหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
เธอได้พัฒนาวิธีแรก และปัจจุบันเป็นมาตรฐานสากล
สำหรับการวัด CO2 โดยใช้อุณหภูมิ ค่า pH และ คลอรีน
งานของเธอเกี่ยวกับสภาพอากาศในมหาสมุทร
ทำให้เธอเป็นหนึ่งในผู้แจ้งเบาะแสคนแรก
เกี่ยวกับการปนเปื้อนรังสีนิวเคลียร์
เพราะเธอกับเพื่อนร่วมงานได้ติดตามการไหลเวียน
ของมหาสมุทรรอบ ๆ Bikini Atoll
ซึ่งเป็นพื้นที่ทดสอบนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ
ระยะทาง 2,300 ไมล์ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น
เธอกับทีมงานพบว่ากระแสน้ำผลักดัน
น้ำปนเปื้อนรังสีนิวเคลียร์กลับมาสู่ท้องทะเลญี่ปุ่น
ส่งผลให้ญี่ปุ่นมีระดับรังสีนิวเคลียร์
ที่ระเบิดออกมาแล้วจากการทดลองของสหรัฐ
สูงกว่าฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ มาก
ทั้งยังพิสูจน์ความเร็วและอัตราการปนเปื้อนด้วย
โดยเตือนว่ามหาสมุทรแปซิฟิกทั้งหมด
จะปนเปื้อนรังสีนิวเคลียร์ภายในปี 1969
ผลงานของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะถูกสอบปากคำ
โดยคณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณูของสหรัฐอเมริกา
ในที่สุดได้รับการพิสูจน์แล้วว่า แม่นยำและเป็นส่วนสำคัญ
ในการยุติการทดสอบนิวเคลียร์เหนือพื้นดินในช่วงสงครามเย็น
เธอยังได้ก่อตั้งสมาคมนักวิทยาศาสตร์สตรีชาวญี่ปุ่นขึ้นโดยเฉพาะ
เพื่อรับรู้ แก้ปัญหา และหารือเกี่ยวกับ
ปัญหาที่นักวิทยาศาสตร์สตรีต้องเผชิญในภาคสนาม
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/3JmiVyB
5 นักวิทยาศาสตร์สตรีที่โลกลืม
โปรแกรมประมวลผลคำ Word Processor
ถูกคิดค้นโดยสตรี เธอสร้างพวกมันขึ้นมา
เพื่อช่วยการทำงานของเลขานุการ
อาชีพที่ทำโดยสตรีเป็นส่วนใหญ่
รู้หรือไม่ว่ากระบวนการผลิตกระจกกันแสงสะท้อน
แบบที่ใช้อ่านบทความนี้อยู่ในขณะนี้
หรือที่อยู่บนแว่นตา เลนส์กล้อง กระจกบังลม
ได้รับการจดสิทธิบัตรโดยสตรี
แล้วสิ่งประดิษฐ์ที่พวกเราแทบจะคิดไม่ถึง
แต่สตรีต้องใช้อยู่เป็นประจำทุกเดิอน
ถ้ายังไม่หมดประจำเดือน/ตั้งครรภ์
อุปกรณ์สำคัญในห้องสุขภัฑณ์
Hydyne เชื้อเพลิงที่ส่งยานอวกาศอเมริกัน
สู่อวกาศในทศวรรษ 1960
กระบวนการกำหนดการศึกษา
การปนเปื้อนรังสีนิวเคลียร์
ในมหาสมุทรที่เกิดจากนิวเคลียร์
ทั้งหมดเหล่านี้คิดค้นโดยสตรี
นี่คือนักประดิษฐ์สตรีห้าคน
และสิ่งประดิษฐ์ที่พวกเธอสร้างขึ้นมา
.
.
Evelyn/New York Times
.
Evelyn Berezin
จะไม่มี Microsoft Word ไม่มี Google Docs
หากไม่มี Evelyn Berezin
ในฐานะสตรึคนเดียวในสำนักงาน
ในปี 1951
Evelyn Berezin ได้รับคำสั่ง
ให้ออกแบบคอมพิวเตอร์
โดยที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
แต่เธอก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก
ในปี 1969
เธอได้ก่อตั้ง Redactron Corporation
ซึ่งเป็นบริษัท Startup ใน Long Island
และเป็นบริษัทแรกที่ผลิตและจำหน่าย
เครื่องพิมพ์ดีดคอมพิวเตอร์ของเธอ
เธอเรียกเครื่องของเธอว่า Data Secretary
และในขณะที่มันดูค่อนข้างแตกต่าง
จากคอมพิวเตอร์ที่เรารู้จักในปัจจุบัน
(มีขนาดเทียบเท่าตู้เย็นขนาดเล็ก ไม่มีหน้าจอ)
แต่เปลี่ยนวิธีทำงานของเลขานุการ
ในการ edit delete cut และ paste ข้อความ
ตามที่ New York Times อธิบายเกี่ยวกับ
Evelyn Berezin ในปี 1972
“คุณ Berezin เป็นคนที่จริงจังและพูดจานุ่มนวล
แต่บางครั้งก็พูดเหมือนวิศวกรระบบ (ซึ่งเธอเป็น)
ผู้บริหารฝ่ายขาย (ซึ่งเธอเป็น)
และผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อน (ซึ่งเธอเป็น)
เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นผู้หญิงในระดับแนวหน้า
(วิศวกรอาวุโสของงานอาชีพนี้)
ซึ่งเพศของเธอยังคงหายากในทุกระดับ ”
.
2.
.
Blodgett demonstrates equipment in a lab in 1938
Smithsonian Institution Archives
.
สิ่งประดิษฐ์สมัยใหม่น้อยมากที่ไม่ได้มาจาก
การนำร่องของผลงานของ Katherine Burr Blodget
ในปี ค.ศ. 1938 นักฟิสิกส์และนักเคมี
ได้จดสิทธิบัตรกระบวนการสำหรับกระจก
ที่มองไม่เห็น หรือ ไม่สะท้อนแสง
เป็นฟิล์มสบู่ที่เคลือบกระจกรูปภาพ/แว่นตา
ตลอดจนจอแสดงผล แว่นตา
หรือกระจกตู้ปลาในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
ตลอดระยะเวลาเกือบสิบปี
Katherine Burr Blodget ได้พัฒนา
กระบวนการป้องกันแสงสะท้อน
จะสร้างฟิล์มหนาหนึ่งโมเลกุลที่เหมือนกันทีละชั้น
มากถึงประมาณ 3,000 ชั้นในแต่ละครั้ง
คล้ายฟองสบู่จำนวนมาก(ที่อาจละลายได้)
และวางไว้บนพื้นผิวที่แข็ง ด้วยการทำเช่นนี้
จึงสามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำว่า
ฟิล์มจะตัดกันมากน้อยเพียงใด
ทำให้แก้วที่เคลือบไว้แทบจะมองไม่เห็น
สารเคลือบแบบดั้งเดิมของ Katherine Burr Blodget
อาจไม่ใช่สิ่งที่อยู่บนแว่นตา
หรือหน้าจอทีวีในทุกวันนี้แล้ว
แต่เป็นสิทธิบัตรที่เป็นต้นแบบการเคลือบ
แบบไม่สะท้อนแสง ทำให้มองได้ชัดเจน/ไม่หลอน
ในยุคปัจจุบันได้กลายเป็นธุรกิจที่สำคัญ
.
.
https://bit.ly/375ayuc
.
Mary Beatrice Davidson Kenner
เป็นชื่อที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จัก
แต่ผลงานประดิษฐ์ของเธอเป็นส่วนหนึ่ง
ของชีวิตประจำวันของหลายคนอย่างแน่นอน
Mary Beatrice Davidson Kenner
มาจากครอบครัวนักประดิษฐ์
พ่อของเธอจดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์หลายอย่าง
(เตารีดเสื้อผ้าที่สามารถใส่ในกระเป๋าเดินทางได้)
ปู่ของเธอประดิษฐ์สัญญาณไฟสำหรับรถไฟ
และน้องสาวคิดค้นและขายเกมกระดาน
Mary Beatrice Davidson Kenner
มีสิทธิบัตร 5 ฉบับ ซึ่งยังคงเป็นสิทธิบัตร
จำนวนมากที่สุดของผู้หญิงแอฟริกัน-อเมริกัน
แม้ว่าการได้มาสิทธิบัตรของเธอ
จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากมาก
สิ่งประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเธอ
คือ เข็มขัดอนามัยของสตรี
ซึ่งป้องกันเลือดประจำเดือนไหลลงบนเสื้อผ้า
เธอคือผู้คิดค้นขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1920
แต่ไม่สามารถขายสิทธิบัตรได้
ในปี 1957 บริษัท Sonn-Nap-Pack
ได้ให้ความสนใจจากแนวคิดที่ประณีตเรื่องนี้
ในเรื่องเข็มขัดอนามัยและติดต่อเธอ
เพื่อจะทำการตลาดและวางขายสินค้า
แต่แล้วทางบริษัทก็ปฏิเสธ
เมื่อพบว่าเธอเป็นคนผิวดำ
แม้ว่าเธอจะได้จดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์นี้ในปีนั้น
แต่ในช่วงทศวรรษ 1970
แนวคิดดังกล่าวมีการพัฒนาต่อยอดไปสู่
ผ้าอนามัยแบบสอด/ผ้าอนามัยปีกแบบแถบกาว
จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามมาก
เธอจึงหันไปเปิดร้านขายดอกไม้แทน
แต่ยังคงประดิษฐ์งานต่าง ๆ อยู่
เธอสร้างสิ่งที่แนบมากับรถเข็น
สำหรับวอล์คเกอร์และวีลแชร์
ซึ่งเธอคิดค้นขึ้นหลังจากที่น้องสาวของเธอ
กลายเป็นโรคเส้นโลหิตตีบหลายเส้น
ทำให้มีผลต่อการเดิน/ใช้ชีวิตประจำวัน
เธอยังคิดที่ใส่ม้วนกระดาษชำระและที่ยึดกับผนัง
เครื่องซักผ้าและเครื่องนวด
.
.
.
4.
.
Mary Sherman Morgan
การสร้างสรรค์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเธอ
ได้ขับเคลื่อนสหรัฐอเมริกาให้เข้าสู่ยุคอวกาศ
ในปี 1921
เธอเกิดในครัวเรือนเกษตรกรรมขนาดใหญ่
ใน North Dakota ของสหรัฐ
และไม่ได้เรียนหนังสือจนกระทั่งอายุ 9 ขวบ
เธอได้รับทุนเรียนต่อในวิทยาลัย Ohio
แต่สหรัฐฯ อยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว
เธอจึงต้องออกจากวิทยาลัย
ไปทำงานที่โรงงานผลิตอาวุธใกล้เคียง
หลังสงคราม เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว
และเป็นคนเดียวที่ไม่มีปริญญา
แต่ทำงานในแผนกวิศวกรรม
ที่นั่นเธอถูกขอให้ทำงานต่อไปนี้ให้สำเร็จ
ประดิษฐ์เชื้อเพลิงจรวดที่จะส่งจรวด Jupiter-C
ตามข้อเสนอของกองทัพสหรัฐอเมริกา
ในการแข่งขันอวกาศกับรัสเซีย
พลังงานที่จำเป็นในการเข้าสู่วงโคจรอวกาศ
ที่ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องยนต์ได้รับการพัฒนา
โดยไม่ได้ติดตั้งถังเชื้อเพลิงขนาดเทอะทะ
เธอจึงต้องติดตั้งน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปใน
เครื่องยนต์ ซึ่งเป็นงานช้างมากในยุคนั้น
แต่เธอทำงานครั้งนั้นได้สำเร็จ
และเชื้อเพลิง Hydyne ของเธอ
ก็ส่ง Explorer I ขึ้นสู่วงโคจร
ในวันที่ 31 มกราคม 1958
แม้ว่าเชื้อเพลิง Hydyne จะไม่ได้ถูกใช้อีกแล้ว
เพราะมีเชื้อเพลิงที่ทรงพลังมากกว่านั้น
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ชื่อของเธอมักไม่อยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์
ที่กล่าวถึงการยิงจรวดในครั้งแรกของสหรัฐ
แต่เธอก็ยังมีอารมณ์ขันเช่นกัน
เพราะจรวด Jupiter-C ใช้ LOX (ออกซิเจนเหลว)
เธอจึงเสนอชื่อเพื่อตั้งชื่อสูตรเชื้อเพลิงใหม่
ของเธอว่า Bagel ขนมชนิดหนึ่ง
นัยว่า ยานสำรวจได้รับเชื้อเพลิงจาก Bagel/LOX
แต่กองทัพสหรัฐฯ ไม่มึอารมณ์ขันแบบเธอ
จึงเรียกชื่อเชื้อเพลิงนี้ว่า Hydyne
.
.
.
.5.
.
Geochemist Katsuko Saruhashi Sankei
© Getty Images
.
Katsuko Saruhashi
เธอได้พัฒนาวิธีแรกในการวัดระดับ
คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในน้ำทะเล
ช่วยให้นักวิจัยสามารถวัดปริมาณ
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมา
และดูดซับอยู่ในมหาสมุทรหลายปีก่อน
ที่จะมีการตรวจวัดค่าเหล่านี้
ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสำรวจ
และทำความเข้าใจวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
เธอเข้าสู่โลกแห่งวิทยาศาสตร์เมื่ออายุ 21 ปี
หลังจากที่ได้เห็นผู้หญิงที่ไม่มีภูมิหลังทางวิชาชีพ
หลายคนต้องดิ้นรนหาเงินหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
เธอได้พัฒนาวิธีแรก และปัจจุบันเป็นมาตรฐานสากล
สำหรับการวัด CO2 โดยใช้อุณหภูมิ ค่า pH และ คลอรีน
งานของเธอเกี่ยวกับสภาพอากาศในมหาสมุทร
ทำให้เธอเป็นหนึ่งในผู้แจ้งเบาะแสคนแรก
เกี่ยวกับการปนเปื้อนรังสีนิวเคลียร์
เพราะเธอกับเพื่อนร่วมงานได้ติดตามการไหลเวียน
ของมหาสมุทรรอบ ๆ Bikini Atoll
ซึ่งเป็นพื้นที่ทดสอบนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ
ระยะทาง 2,300 ไมล์ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น
เธอกับทีมงานพบว่ากระแสน้ำผลักดัน
น้ำปนเปื้อนรังสีนิวเคลียร์กลับมาสู่ท้องทะเลญี่ปุ่น
ส่งผลให้ญี่ปุ่นมีระดับรังสีนิวเคลียร์
ที่ระเบิดออกมาแล้วจากการทดลองของสหรัฐ
สูงกว่าฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ มาก
ทั้งยังพิสูจน์ความเร็วและอัตราการปนเปื้อนด้วย
โดยเตือนว่ามหาสมุทรแปซิฟิกทั้งหมด
จะปนเปื้อนรังสีนิวเคลียร์ภายในปี 1969
ผลงานของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะถูกสอบปากคำ
โดยคณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณูของสหรัฐอเมริกา
ในที่สุดได้รับการพิสูจน์แล้วว่า แม่นยำและเป็นส่วนสำคัญ
ในการยุติการทดสอบนิวเคลียร์เหนือพื้นดินในช่วงสงครามเย็น
เธอยังได้ก่อตั้งสมาคมนักวิทยาศาสตร์สตรีชาวญี่ปุ่นขึ้นโดยเฉพาะ
เพื่อรับรู้ แก้ปัญหา และหารือเกี่ยวกับ
ปัญหาที่นักวิทยาศาสตร์สตรีต้องเผชิญในภาคสนาม
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/3JmiVyB
.
25 สิ่งประดิษฐ์ที่คิดโดยสตรี
.
.
Hedy Lamarr
.