ไม่ได้กวนทีนค่ะ นิสัยเขาเป็นแบบนั้นอยู่แล้วค่ะ
เดี๋ยวขอสรุปนิสัยเขาง่ายๆนะคะ
1.พูดคลุมเครือ: อาจเพราะในหัวมีเรื่องยุ่งเหยิงไปหมดให้คิด เลยนึกอะไรได้ก็พูดแบบเน้นเอาเร็วๆเข้าว่า
เรื่องขอดูรายงาน ขอกาแฟ
2. อารมณ์เป็นไงตอนนั้น ก็แสดงออกแบบนั้นทันที ขาดความยั้งคิดก่อนพูด เลยดูผีเข้าผีออก บ้าๆบอๆ
วิธีแก้ (ถ้าเป็นพี่นะคะ)
1. ถามกลับทันทีที่ไม่เข้าใจ เน้นคำพูดสั้นๆ กระชับ และทวนซ้ำคำตอบนั้นที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
เช่น
1. เขาบอกคุณเอารายงานเดือนที่แล้วมาให้ดู ( หรือเขาอาจถามว่า เดือนที่ผ่านมา) ให้คุณถามกลับไปเลยว่า เดือนมีนาคมนะคะ
ถ้าเขาสวนกลับมาว่า ก็เดือนมีนาคมสิ คุณก็ ค่ะ เดือนมีนาคม
2. กาแฟ: เขาบอกจะกินอะไรก็ได้ ถ้าคุณไม่แน่ใจ ก็ชงกาแฟ และวางซองกาแฟกับครีมมาให้เขาด้วย
แต่ถ้าที่บริษัทไม่มีซองน้ำตาลกับกาแฟ บอกเขาเลยว่า หนูจะใส่กาแฟสองช้อน น้ำตาลหนึ่ง ครีมหนึ่งนะคะ
ถ้าเขาบอกว่า ใส่อะไรก็ใส่มาเถอะ แปลว่า ที่คุณบอก เขาโอเค
ปล. ที่บริษัทเรา เจ้านายแต่ละคนจะแจ้งสูตรกาแฟให้แม่บ้านทราบค่ะ เช่น 2/1/2 กาแฟ2 น้ำตาล1 ครีม 2
3. เอาของมาฝาก กินก็ว่า ไม่กินก็ว่า
ไม่กินเวลางานคือดีที่สุด เขาถามก็บอกว่า ไว้ค่อยกินตอนงานเสร็จค่ะ (อะไรก็พูดไป ที่มันดูดีและถนอมน้ำใจอีกฝ่าย)

เวลาเจอคนมีปัญหาในการสื่อสาร  เราก็ต้องหาวิธีจับจุดเขาว่า ลักษณะการสื่อสารเขาเป็นแบบไหน ถ้าคลุมเครือ ต้องถามซ้ำ มีหลักฐานชัดเจน คนพวกนี้ ในหัวจะยุ่งเหยิง ขาดสมาธิ และสติจะไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว การพูดเลยดูลอยๆ ขาดๆเกินๆ ดังนั้น การทวนซ้ำ เก็บหลักฐานให้ชัดในทุกการสื่อสารที่สำคัญ จะทำให้เขาเถียงคุณไม่ได้ แต่ถ้าคุณทำตามที่เขาบอกหมด แล้วเขามาว่าคุณทีหลังโดยที่คุณไม่มีหลักฐาน คนแบบนี้ ก็จะถล่มคุณไม่เลิกค่ะ เพราะอย่างที่บอก คนแบบนี้ เป็นคนที่ในหัวจะมีเรื่องยุ่งเหยิงไปหมด ขาดสมาธิ ขาดสติ