ในข้อหาให้การเท็จ ผมมองว่า ปอกับโรเบิร์ต จะมีความผิดในข้อหาให้การเท็จได้อย่างไร ในเมื่อปอกับโรเบิร์ตตกเป็นผู้ต้องหาในคดีประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตั้งแต่แรกแล้ว การให้การในฐานะผู้ต้องหา จะให้การอย่างไรหรือไม่ให้การเลยก็ได้ แม้คำให้การของผู้ต้องหาจะไม่เป็นความจริง ก็ไม่เป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
คำพิพากษาฎีกาที่ 1093/2522
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 ผู้ต้องหาจะให้การอย่างใดหรือไม่ให้การเลยก็ได้ เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างใดก็ได้ แม้คำให้การของผู้ต้องหาจะไม่เป็นความจริง ก็ไม่เป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาแก่จำเลยว่าขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วสอบสวนจดคำให้การของจำเลยไว้ ต่อมามีพยานหลักฐานว่าผู้อื่นเป็นผู้ขับรถชนผู้เสียหายมิใช่จำเลย พนักงานสอบสวนเห็นว่าคำให้การของจำเลยที่จดไว้เป็นความเท็จจึงแจ้งข้อหาจำเลยเพิ่มเติมว่าแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานดังนี้
คำให้การของจำเลยที่พนักงานสอบสวนจดไว้เป็นคำให้การในฐานะผู้ต้องหา แม้ไม่เป็นความจริง จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
*แต่ทีนี้ ถ้าข้อเท็จจริงเปลี่ยนเป็นว่า ปอ กับ โรเบิร์ต ให้การเท็จในขณะที่ยังมิได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาฐานประมาทฯ ก็เป็นความผิดในข้อหาให้การเท็จได้เพราะในขณะนั้นยังมิใช่ผู้ต้องหา
___________________________________________________
ส่วนข้อหาทำลายพยานหลักฐาน จะต้องเป็นการทำลายเพื่อช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ แต่ถ้าเป็นการทำลายเพื่อช่วยตนเองมิให้ต้องรับโทษ ก็ไม่มีความผิดในข้อหานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 786/2522
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย เมื่อเจ้าพนักงานไปที่บ้านจำเลยทั้งสองเพื่อตรวจค้นจับกุม
จำเลยที่ 1 รับห่อเฮโรอีนจากจำเลยที่ 2 แล้วโยนทิ้งในทันทีดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำไปเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดหลักฐานเกี่ยวกับความผิดได้ที่ตนเป็นการกระทำด้วยเจตนาเพื่อช่วยตนเองแม้จำเลยที่ 2 อาจจะได้รับประโยชน์จากการกระทำดังกล่าวด้วย
จำเลยที่ 1 ก็ไม่มีความผิดฐานทำให้เสียหายทำลายพยานหลักฐานในการกระทำความผิดเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา184
เคสนี้ ถ้าปอหรือโรเบิร์ตใช้ให้จ็อบทำลายพยานหลักฐานโดยโยนขวดไวน์ทิ้งแม่น้ำ ปอหรือโรเบิร์ตก็ไม่มีความผิดในข้อหาทำลายพยานหลักฐาน
_________________________________________
ส่วนนายเอ็ม หากเป็นนายปอ หรือโรเบิร์ตที่โทรไปหานายเอ็มในคืนนั้น และได้รับคำแนะนำจากนายเอ็มให้ทำลายหลักฐานขวดไวน์ อย่างนี้นายเอ็ม ก็ไม่มีความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด หรือยุยงส่งเสริมให้กระทำความผิด เพราะในเมื่อการกระทำของปอและโรเบิร์ตไม่เป็นความผิดฐานทำลายพยานหลักฐานแล้ว การกระทำของนายเอ็ม ก็จะเป็นความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิดฐานทำลายพยานหลักฐานไม่ได้
แต่ถ้าข้อเท็จจริงเปลี่ยนเป็นว่า เอ็มโทรสั่งการจ๊อบโดยตรงว่าให้เอาขวดไวน์โยนทิ้งแม่น้ำ อย่างนี้ นายเอ็มก็จะมีความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดได้
[คดีแตงโม] นักกฎหมายคิดว่า ปอ/โรเบิร์ต จะถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาให้การเท็จและทำลายพยานหลักฐานหรือไม่ครับ
คำพิพากษาฎีกาที่ 1093/2522
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 ผู้ต้องหาจะให้การอย่างใดหรือไม่ให้การเลยก็ได้ เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างใดก็ได้ แม้คำให้การของผู้ต้องหาจะไม่เป็นความจริง ก็ไม่เป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาแก่จำเลยว่าขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วสอบสวนจดคำให้การของจำเลยไว้ ต่อมามีพยานหลักฐานว่าผู้อื่นเป็นผู้ขับรถชนผู้เสียหายมิใช่จำเลย พนักงานสอบสวนเห็นว่าคำให้การของจำเลยที่จดไว้เป็นความเท็จจึงแจ้งข้อหาจำเลยเพิ่มเติมว่าแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานดังนี้ คำให้การของจำเลยที่พนักงานสอบสวนจดไว้เป็นคำให้การในฐานะผู้ต้องหา แม้ไม่เป็นความจริง จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
*แต่ทีนี้ ถ้าข้อเท็จจริงเปลี่ยนเป็นว่า ปอ กับ โรเบิร์ต ให้การเท็จในขณะที่ยังมิได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาฐานประมาทฯ ก็เป็นความผิดในข้อหาให้การเท็จได้เพราะในขณะนั้นยังมิใช่ผู้ต้องหา
___________________________________________________
ส่วนข้อหาทำลายพยานหลักฐาน จะต้องเป็นการทำลายเพื่อช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ แต่ถ้าเป็นการทำลายเพื่อช่วยตนเองมิให้ต้องรับโทษ ก็ไม่มีความผิดในข้อหานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 786/2522
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย เมื่อเจ้าพนักงานไปที่บ้านจำเลยทั้งสองเพื่อตรวจค้นจับกุม จำเลยที่ 1 รับห่อเฮโรอีนจากจำเลยที่ 2 แล้วโยนทิ้งในทันทีดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำไปเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดหลักฐานเกี่ยวกับความผิดได้ที่ตนเป็นการกระทำด้วยเจตนาเพื่อช่วยตนเองแม้จำเลยที่ 2 อาจจะได้รับประโยชน์จากการกระทำดังกล่าวด้วย จำเลยที่ 1 ก็ไม่มีความผิดฐานทำให้เสียหายทำลายพยานหลักฐานในการกระทำความผิดเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา184
เคสนี้ ถ้าปอหรือโรเบิร์ตใช้ให้จ็อบทำลายพยานหลักฐานโดยโยนขวดไวน์ทิ้งแม่น้ำ ปอหรือโรเบิร์ตก็ไม่มีความผิดในข้อหาทำลายพยานหลักฐาน
_________________________________________
ส่วนนายเอ็ม หากเป็นนายปอ หรือโรเบิร์ตที่โทรไปหานายเอ็มในคืนนั้น และได้รับคำแนะนำจากนายเอ็มให้ทำลายหลักฐานขวดไวน์ อย่างนี้นายเอ็ม ก็ไม่มีความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด หรือยุยงส่งเสริมให้กระทำความผิด เพราะในเมื่อการกระทำของปอและโรเบิร์ตไม่เป็นความผิดฐานทำลายพยานหลักฐานแล้ว การกระทำของนายเอ็ม ก็จะเป็นความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิดฐานทำลายพยานหลักฐานไม่ได้
แต่ถ้าข้อเท็จจริงเปลี่ยนเป็นว่า เอ็มโทรสั่งการจ๊อบโดยตรงว่าให้เอาขวดไวน์โยนทิ้งแม่น้ำ อย่างนี้ นายเอ็มก็จะมีความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดได้