สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
ตอนเราเด็กๆ ครูถามว่า ถ้ามีเงิน 1 ล้าน จะเอาไปทำอะไร เราตอบว่าเอาไว้ใช้ในครอบครัว
ขีวิตช่วงนั้น ไม่มีอะไรที่รู้สึกขาด เราคิดว่าบ้านเรารวยมาก เพราะเรากลับจากโรงเรียน ก็มีข้าวให้กินเต็มโต๊ะ
มีนมอุ่นๆให้ดื่ม มีผ้านวมนุ่มๆให้ห่มนอน
บ้านเราอยู่กัน 10 คน มียายทวดเล่านิทานก่อนนอนเกือบทุกวัน เราจะช่วยยายตำหมาก เล่นขี่ช้างกันน้า แล้วก็เข้านอนพร้อมกัน
เงินแทบไม่มีบทบาทในชีวิตเลย
ตอนนั้นน่าจะเป็นความทรงจำที่บอกว่าเรามีอิสระภาพทางการเงิน คือมันไม่ใช่จำนวนเงินเท่าไหร่ แต่มันคือความพึงพอใจในสถานภาพ
แต่พอโตมา เราเข้าสู่ระบบวัตถุนิยมมากขึ้น
เงิน 1 ล้าน คือเหมือนเงินก้นบัญชี เก็บไว้แค่เฉยๆเพื่อป้องกันตัวเองในกรณีมีเรื่องฉุกเฉิน
เราเลยคิดว่าอิสระภาพทางการเงิน มันไม่น่าจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงิน
แต่ขึ้นอยู่กับว่าเงินมีบทบาทในการใช้ชีวิตของคนๆนั้นมากน้อยแค่ไหน
คนรวยบางคนยังไม่มีอิสระภาพทางการเงิน เพราะอยากได้ อยากมีไปเรื่อยๆ เรามองว่าก็เป็นความก้าวหน้าอย่างนึง
เพราะความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุดของมนุษย์นี่แหละที่ทำให้โลกพัฒนา และมีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ มีนวัตกรรมมาเรื่อยๆ ข้อเสียอาจทำให้มนุษย์ตกเป็นทาสของวัตถุนิยม
ในขณะที่บางคนก้าวข้ามเรื่องวัตถุนิยมได้ ก็มีอิสระทางการเงินได้เร็ว ก็จะหลุดพ้นได้เร็ว แต่การพึงพอใจในตัวเอง เมื่อไหร่ที่คนก้าวข้ามความโลภก็อาจจะขาดแรงจูงใจในการสร้างสรรค์ผลงาน เพราะชีวิตก็มีความสุขดีอยู่แล้ว จะลงทุนในทำไม
มันเลยจำเป็นต้องมีคนทั้งสองประเภทเพื่อถ่วงสมดุลกัน
ขีวิตช่วงนั้น ไม่มีอะไรที่รู้สึกขาด เราคิดว่าบ้านเรารวยมาก เพราะเรากลับจากโรงเรียน ก็มีข้าวให้กินเต็มโต๊ะ
มีนมอุ่นๆให้ดื่ม มีผ้านวมนุ่มๆให้ห่มนอน
บ้านเราอยู่กัน 10 คน มียายทวดเล่านิทานก่อนนอนเกือบทุกวัน เราจะช่วยยายตำหมาก เล่นขี่ช้างกันน้า แล้วก็เข้านอนพร้อมกัน
เงินแทบไม่มีบทบาทในชีวิตเลย
ตอนนั้นน่าจะเป็นความทรงจำที่บอกว่าเรามีอิสระภาพทางการเงิน คือมันไม่ใช่จำนวนเงินเท่าไหร่ แต่มันคือความพึงพอใจในสถานภาพ
แต่พอโตมา เราเข้าสู่ระบบวัตถุนิยมมากขึ้น
เงิน 1 ล้าน คือเหมือนเงินก้นบัญชี เก็บไว้แค่เฉยๆเพื่อป้องกันตัวเองในกรณีมีเรื่องฉุกเฉิน
เราเลยคิดว่าอิสระภาพทางการเงิน มันไม่น่าจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงิน
แต่ขึ้นอยู่กับว่าเงินมีบทบาทในการใช้ชีวิตของคนๆนั้นมากน้อยแค่ไหน
คนรวยบางคนยังไม่มีอิสระภาพทางการเงิน เพราะอยากได้ อยากมีไปเรื่อยๆ เรามองว่าก็เป็นความก้าวหน้าอย่างนึง
เพราะความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุดของมนุษย์นี่แหละที่ทำให้โลกพัฒนา และมีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ มีนวัตกรรมมาเรื่อยๆ ข้อเสียอาจทำให้มนุษย์ตกเป็นทาสของวัตถุนิยม
ในขณะที่บางคนก้าวข้ามเรื่องวัตถุนิยมได้ ก็มีอิสระทางการเงินได้เร็ว ก็จะหลุดพ้นได้เร็ว แต่การพึงพอใจในตัวเอง เมื่อไหร่ที่คนก้าวข้ามความโลภก็อาจจะขาดแรงจูงใจในการสร้างสรรค์ผลงาน เพราะชีวิตก็มีความสุขดีอยู่แล้ว จะลงทุนในทำไม
มันเลยจำเป็นต้องมีคนทั้งสองประเภทเพื่อถ่วงสมดุลกัน
แสดงความคิดเห็น
ในความคิดท่าน มีเท่าไหร่ คือ “มีอิสรภาพการเงิน” มีเท่าไหร่ คือ “รวย”
จริงๆ ต้องดูกระแสเงินสดจากสินทรัพย์ด้วย เพราะบ้านที่นั่งทับ กับคอนโดปล่อยเช่าก็ค่าต่างกันในมุม กระแสเงินสด
เลยขอเลขแบบคร่าวๆ ครับ
สำหรับผมคิดว่า
มีอิสรภาพการเงิน คือ 30 ล้าน
รวย อย่างน้อย คือ 100 ล้านครับ
ขอบคุณครับ 🙏