มันเหมาะสมรึเปล่าคะที่เรากับเพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชายมาเล่นที่บ้านอยู่สองคน

ขออนุญาตเกริ่นก่อนนะคะว่า เราเป็นเด็กม.ปลายธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่พ่อกับแม่แยกทางกัน และเราก็ย้ายมาเรียนอยู่กับแม่ตั้งแต่ม.ต้นค่ะ แต่กับพ่อก็ยังติดต่อกันปกติค่ะ และก็จะมีกลับไปบ้านพ่อบ้างเวลาปิดเทอมค่ะ ซึ่งเราเองก็เป็นเด็กที่ไม่นอกลู่นอกทางเลยค่ะ เราเชื่อฟังแม่ทุกอย่าง และพยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ค่ะ แต่ข้อเสียหลักๆของเราคือ เราชอบเถียงแม่ค่ะ และแม่เองก็เป็นคนอารมณ์ร้อนและไม่รับฟังข้อเห็นต่างและเหตุผลค่ะ แต่เวลาปกติที่ไม่ได้ทะเลาะกัน แม่ก็จะเป็นคนที่น่ารักมากๆค่ะ แต่เวลาทะเลาะทีก็มักจะพูดแต่คำมี่ทำร้ายจิดใจและรุนแรงตลอดเลยค่ะ และเวลาเรามีเรื่องไม่สบายใจหรือเครียดเรื่องเรียน เราจะปรึกษาพ่อมากกว่าแม่ค่ะ เพราะถ้าปรึกษาแม่แล้วเราทำได้ไม่ดีพอแม่ก็จะต่อว่าและชอบพูดว่าทำไมไม่ทำให้ดีกว่านี้ล่ะ ต่อไปต้องทำให้ได้มากกว่านี้นะ เราไม่เคยได้รับกำลังใจเลยค่ะ แต่ถ้าปรึกษาพ่อ พ่อจะชอบบอกตลอดว่าเราทำดีแล้วนะ ได้เท่านี้ก็โอเคแล้ว อย่าไปเครียดกับเรื่องที่มันยังมาไม่ถึงเลย ไม่ต้องกลัวนะ เราจะได้รับกำลังใจและวิธีการแก้ปัญหาจากพ่อตลอดเลยค่ะ ซึ่งเวลาทะเลาะกับแม่เองก็เหมือนกัน พ่อจะเป็นคนอยู่กับเราและคุยด้วยกันตลอด พ่อจะบอกว่าที่แม่พูดแบบนั้นเพราะแม่เก็นห่วงเรานะ เราเข้าใจดีค่ะว่าแม่เป็นห่วงเราและรักเรามาก แต่การกระทำกับคำพูดที่ไลาเราไปต่างๆนาๆ มันทำให้เรารู้สึกไม่ดีมากๆเลยค่ะ เพราะเราเองก็พยายามปรับตัวให้เย็นลงและคุยกันด้วยเหตุผล แต่แม่ก็ยังเป็นเหมือนเดิมค่ะ ซึ่งคำว่าร้ายต่างๆนาๆที่ออกมาจากแม่เป็นอะไรที่ร้ายแรงมากๆสำหรับเราค่ะ เพราะแม่จะชอบหาว่าเราเป็นแบบนั้นเป็นแบบนี้ ซึ่งตัวเราเองไม่ได้เป็นอย่างที่พูดเลยค่ะ แต่เราตอบโต้อะไรเขาไม่ได้เลยสักอย่าง เรามีแต่ต้องรับฟังอย่างเดียวเท่านั้นในตอนนี้ ซึ่งเรายอมรับว่าเวลาแม่บอกให้ไปทำอะไร เราค่อนข้างที่จะไปทำช้ามากๆจนทำให้แม่โมโหค่ะ เราเข้าใจวนข้อเสียตรงนี้แล้วพยายามปรับปรุงมาโดยตลอด เราก็อยากเห็นแม่เห็นบ้าง ว่าเราเองก็พยายามปรับปรุงตัวเพื่อแม่เหมือนกันนะ อยากให้แม่ลองมองในมุมของเราบ้างค่ะ

ขอโทษที่เราเกริ่นยาวเกินไปนะคะ เรื่องมันเกิดขึ้นวันนี้ค่ะ เพื่อนสนิทเราที่เป็นผู้ชายจะมาเล่นกับเราที่บ้าน ซึ่งเราเองก็อยากให้เขามาเล่นด้วยค่ะ เพราะเป็นช่วงปิดเทอมและในช่วงเวลาที่ผ่านมา เราอยู่แต่บ้านตลอดค่ะ ไม่ได้ออกไปไหนเลยค่ะ ขออนุญาตย้ำว่า เราไม่ได้ออกไปไหนเลยจริงๆค่ะ นอกจากอยู่บ้านแล้วก็ไม่ได้มีอะไรให้ทำเป็นพิเศษ และก็ทำอะไรเดิมๆซ้ำๆแล้วก็เลยเบื่อค่ะ อยากจะออกไปข้างนอกเหมือนเพื่อนๆคนอื่นบ้างค่ะ แต่แม่เราเองก็ไม่อนุญาตเลย ก็เลยได้แต่อยู่แบบนี้ไปค่ะ ซึ่งส่วนตัวเราเองก็ไปไหนเองไม่ค่อยจะเป็นอยู่แล้ว ซึ่งเวลาเราจะขอไปเองไม่รบกวนเวลาแม่เราก็จะโดนว่าตลอดเลยค่ะ ว่า "ถ้าคิดว่าเก่งแล้ว ก็ไม่ต้องมาอยู่ด้วยกันแล้ว" ถ้าคิดว่าตัวเองเก่งพอแล้วก็ย้ายไปเลย  อยากจะทำอะไรก็ทำ" เป็นประโยคประมาณนี้ค่ะ ซึ่งเราเองโดนบ่อยมากถึงเสียความรู้สึกเหมือนกัน เพราะเราอยากทำอะไรเองเป็นบ้าง เวลาต้องอยู่คนเดียวหรือกลับบ้านคนเดียว เราจะได้สามารถทำได้โดยไม่ต้องกลัวว่ามันจะผิดพลาดค่ะ แต่เพราะแม่ชอบพูดแบบนั้นบ่อยๆ เราเลยไม่ค่อยกล้าจะทำอะไร หรือไปไหนมาไหนเลยค่ะ 

ต่อจากที่เพื่อนเราจะมาเล่นด้วยที่บ้านค่ะ คือเพื่อนคนนี้รู้จักกันมาตั้งแต่ม.ต้น และเขาก็เคยเห็นแม่เราและเคยคุยกับแม่เราค่ะ แลพเราเองก็พูดถึงเขาให้แม่ฟังบ่อยๆเพราะเขาเป็นเพื่อนที่ดีมากค่ะ เวลาเพื่อนคนอื่นๆลำบากเขาจะเป็นคนช่วบเหลือตลอด เท่าที่เขาทำได้ ซึ่งก็รวมถึงช่วยเราด้วยค่ะ และเรากับเขาเอง เป็นเพื่อนสนิทกันจริงๆค่ะ แล้วเราบริสุทธิ์ใจเพราะเรากับเพื่อนไม่ได้คิดอะไรกันจริงๆค่ะ และเขาเองก็รู้จักเราดีค่ะ เพราะเราเองก็มีเล่าเรื่องและปรึกษาเขาบ่อยๆค่ะ และเพื่อนคนนี้เขาก็เป็นแบบนี้กับทุกคนด้วยค่ะ เพราะฉะนั้น เราสามารถยืนยันได้จริงๆ ว่าเรากับเขาเป็นเพื่อนกันจริงๆค่ะ และที่เขามาเล่นที่บ้านก็เพราะเห็นว่าเราไม่ได้ออกไปไหนกับเพื่อนเลย เขาก็เลยจะแวะมาเล่นด้วยค่ะ ซึ่งเราเองก็ทักไปบอกแม่ค่ะว่าเพื่อนคนนี้จะมาเล่นด้วยนะ และแม่ก็จะตอบแบบเดิมค่ะ คือ "ไม่ดีมั้ง" "มันไม่เหมาะสมรึเปล่า" อะไรประมาณนี้ค่ะ ซึ่งเราเองก็อธิบายเหตุผลไปแล้วค่ะซึ่งมันเป็ยความผิดของเราเองที่คิดว่าบอกไปแล้วแม่คงไม่โกรธเราหรอก ที่เราคิดแทนแม่ มันเป็นความผิดของเราเองค่ะ เราคิดว่าแม่รู้จักเพื่อนคนนี้แล้วคงไม่ว่าอะไรเราหรอก ซึ่งเรคิดผิดจริงๆค่ะ

แล้วเพื่อนก็มาเล่นที่บ้านค่ะ ซึ่งเพื่อนมา บ้าวเราก็ไม่ได้มีอะไรให้ทำเลยค่ะ นอกจากเล่นเกมส์ด้วยกันแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมค่ะ แต่มีคนอยู่เป็นเพื่อน แล้วก็คุยกันปกติค่ะ จนแม่กลับมาเอาของที่บ้านเพื่อนก็สวัสดีแม่ก็รับไหว้ อยู่สักพักแล้วก็ออกไปค่ะ ก็ปกติเลยค่ะ ซึ่งเราก็ผิดเองที่คิดว่าแม่คงไมาคิดอะไรแล้วค่ะ เพราะเราเองก็โตในลำดับหนึ่งค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าคำว่าโตในละดีบหนึ่งของเรา มันจะกลายเป็นเหมือนคำอวดดีรึเปล่าเราขอโทษด้วยค่ะถ้ามันเป็นเหมือนคำอวดดี แต่เราเองก็คิดแบบนั้นจริงๆค่ะ คิดว่า เราบริสุทธิ์ใจนะกับเพื่อนคนนี้ และเราเองก็ย้ำหลายรอบมากๆค่ะว่า กับเพื่อนก็เป็นแค่เพื่อนที่เขามาแวะเข้ามาเล่นด้วยกันกับเราเฉยๆค่ะ และเรากับเพื่อนเองก็ไม่ได้พากันไปทำอะไรที่ไม่ดีเลยค่ะ 

พอถึงเวลาที่เพื่อนต้องกลับ เพื่อนก็กลับไปค่ะ แล้วแม่ก็เลิกงานกลับเข้ามาบ้าน คำแรกที่เข้ามาคือ ไล่เราออกไปให้เราย้ายไปเรียนที่อื่นค่ะ และไล่ให้เราไปอยู่กับพ่อ แทนตัวด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ขออนุญาตนะคะ แทนตัวเองว่ากู และแทนตัวเราว่าค่ะ ซึ่งปกติแม่เราไม่ชอบให้เราพูดคำหยาบคายค่ะ ซึ่งเราก็พยายามทำให้ตลอด แต่พอมาถึงเขาก็ระเบิดออกมาเลยค่ะ เหมือนว่าเรากับเพื่อนเราทำอะไรที่มันผิดร้ายแรงมากๆจนไม่สามารถที่จะให้อภัยและรับฟังเหตุผลได้เลยค่ะ และยังว่าเราและพูดเสียงดังใส่ค่ะ ซึ่งเราเองเป็นคนไม่ชอบเสียงดังค่ะ ไม่ชอบมากๆเลยค่ะ เราเลยเลือกที่จะพูดเสียงอ่อนกับแม่แต่ยิ่งเราพูดก็เหมือนยิ่งไปกระตุ้นและทำให้แม่เขาพูดเสียงดังขึ้นเรื่อยๆและทำร้ายจิตใจกันมากขึ้นเรื่อยๆค่ะ ซึ่งแม่เองเสลาอารมณ์ร้อน ก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลยค่ะ แม่บอกเราว่าเรทำร้ายจิตใจแม่ ทำให้เสียความรู้สึก และเอาแต่ไล่เราค่ะ ซึ่งเราอาจจะมีความรู้ไม่พอรึเปล่า เราเลยรู้สึกว่า เราแค่ให้เพื่อนมาเล่นที่บ้านเองนะ ทำไมต้องว่าเราขนาดนี้ด้วน เราขอโทษจริงๆค่ะ แต่เราไม่เข้าใจตรงนี้เลยจริงๆค่ะ หรืออาจจะเป็นเพราะเพื่อนเราเป็นผู้ชาย และเราเองเป็นผู้หญิง ทำให้มันไม่เหมาะสม แต่เรากับเพื่อนก็ไม่ได้ทำอะไรที่มันไม่เหมาะสมเลยจริงๆค่ะ เราเลยไม่ค่อยใจว่า ที่เราทำมันร้ายแรงถึงขั้นนั้นจริงๆหรอ

ขอพี่ๆช่วยชี้แนะเราหน่อยนะคะ คือเรารู้สึกเสียใจจริงๆค่ะ แต่เราไม่สามารถจะไปอธิบายให้แม่เข้าใจได้เลยค่ะ เพราะเราเองก็ไม่ได้ใช้อารมณ์เลยค่ะ พยายามที่จะอธิบายก้วยถ้อยคำดีๆแต่ก็โดนว่ากลับมาตลอด จนบางทีเราก็ทนไม่ไหวเหมือนก้นค่ะ การกระทำครั้งนี้ของเรา มันร้ายแรงขนาดนั้นจริงๆหรอคะ

ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ รบกวนพี่ๆด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่