10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ E85 ยุคน้ำมันแพงสุดในรอบ 10 ปี

1. เอทานอลถูกกว่าเบนซินแล้ว: ณ วันที่ 25/3/65 ราคาผลิตหน้าโรงกลั่นอยู่ที่ 28.9301บาท/ลิตร สำหรับเบนซิน95 และE85 อยู่ที่ 26.1937บาท/ลิตร โดยเอทานอล E100 อยู่ที่ 25.61บาท/ลิตร
2. รถที่เติมE85ได้มีมากมาย: เช่น Honda MG Mazda Mitsubishi Toyota Volvo และรถที่ติดกล่องE85 รวมๆก็เป็นแสนเป็นล้านคัน
3. ราคาเอทานอลไม่ขึ้นตามราคาน้ำมันโลก นั้นหมายถึงยุคสงครามรัสเซีย-ยูเครน น้ำมันและแก๊สธรรมชาติ(LNG) ยังจะแพงขึ้นได้อีก ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซินและไฟฟ้าก็จะปรับขึ้นตามไปด้วย
4. E85 หาซื้อง่าย มีขายรวมๆเกิน 1000ปั้ม ปตท และ บางจาก ทั้วประเทศ
5. E85 เป็นเชื้อเพลิงรถแข่งที่มีค่า Octane สูงถึง 105 พูดง่ายๆก็ คือช่วยให้เครื่องยนต์ทำงาน เดินเรียบขึ้นดีขึ้นกว่าเบนซินธรรมดา
6. รัฐบาลไทยเคยส่งเสริมการใช้ E85 แบบจริงจังเมื่อปี 2555 ช่วงนั้นน้ำมันแพงเท่าๆปัจจุบัน เพื่อเป็นการลดต้นทุนนำเข้าน้ำมันมาจากต่างประเทศให้ลดน้อยลง เพราะยิ่งมีสัดส่วนการใช้ E85 มากขึ้นเท่าไรยิ่งลดภาระในการนำเข้าน้ำมันและประเทศของเราสามารถผลิตเองได้ซึ่งทำให้ลดค่าใช้จ่ายลงและเพิ่ม GDP ให้กับประเทศไทย
7. E85 ลด CO2 และ PM 2.5 ได้มากกว่า 70%
8. เอทานอลในE85 มาจากพืชเช่น มันสำปะหลัง อ้อย ซึ่งเป็นการส่งเสริมภาคเกษตรโดยตรง อีกทั้งเทคโนโลยีเอทานอลGen3 ก็จะมาจากสาหร่ายที่ต้นทุนถูกกว่าและไม่แย่งกันกับอาหารมนุษย์และสัตว์
9. รัฐบาลปี 2555 เคยอุดหนุน E85 ที่ 11บาทกว่า ณ 28/3/65 รัฐอุดหนุนอยู่ที่ 4.53บาท แต่ตั้งค่าการตลาดE85ไว้ที่8.0571บาท(สูงมาก) อุดหนุนดีเซลที่ 10.16บาท
10. ปัจจุบันรัฐขึ้นราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินเท่าๆกันทั้งๆที่ราคาเอทานอลไม่ได้ขึ้นเลย

โดยส่วนตัวก็ใช้ E85 มาตลอดตั้งแต่เริ่มมีขายมา แต่ก็หยุดใช้ช่วงโควิดล็อกดาวน์เพราะส่วนต่างราคาน้ำมันไม่คุ้มที่จะเติม ปัจจุบันก็กลับมาใช้ E85 อีกเพราะประหยัดเงินมากกว่าและรถวิ่งดี ไอเสียไม่เหม็น ช่วยลดมลภาวะและโลกร้อน  แต่E85ก็น่าจะถูกกว่านี้ได้....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่