สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 43
ก็ยังตกเป็นเหยื่อข่าวโปรโมตกันเหมือนเดิม เอาไว้รอดูว่าจบงานมอเตอร์โชว์ว่า MG จะได้ยอดจองรถยนต์ไฟฟ้ากี่คัน และจะใช้เวลาในการส่งมอบรถเหล่านั้นกี่เดือน
อ้างอิงจากงาน Motor Expo ครั้งล่าสุด
TOYOTA มียอดจอง 5,715 คัน
HONDA มียอดจอง 4,115 คัน
ISUZU มียอดจอง 3,329 คัน
MAZDA มียอดจอง 3,189 คัน
ทุกแบรนด์ใช้เวลาทำการผลิตและส่งมอบเพื่อเคลียร์ยอดจองเหล่านั้นในระยะเวลาไม่เกิน 1-2 เดือนจากโรงงานผลิตภายในประเทศ (กรณีที่ไม่ติดปัญหาชิ้นส่วนขาดแคลน) ซึ่งเป็นเวลาที่ลูกค้ายอมรับได้
ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าของ MG ที่จองกันในมอเตอร์โชว์ปีนี้ในหลักร้อยคัน ก็น่าติดตามดูว่าจะใช้เวลาในการผลิตและส่งมอบนานกี่เดือน เพราะต่อให้รับยอดมาแค่ไหนแต่คอขวดมันก็อยู่ที่โควต้าในการผลิตที่โรงงานในต่างประเทศอยู่ดี และเมื่อใช้เวลาในการรอรถนานมากๆจะมียอดจองเพิ่มหลังจากงานมอเตอร์โชว์ได้เท่าไหร่
ปีที่แล้วยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในไทยอยู่ที่ราว 0.5% ของตลาดรวม ปีนี้เอาแค่ 2-3% ได้ก็หรูแล้ว ส่วนการที่จะมาแทนรถยนต์สันดาปและไฮบริดในไทยนั้นจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะมีการผลิต BEV โดยมีการลงทุนด้านสายการผลิตชิ้นส่วนจากผู้ผลิตชิ้นส่วนภายในประเทศเท่านั้น ถ้ายังใช้วิธีนำเข้าแบบ CBU อยู่อย่างนี้ หรือแม้กระทั่งนำเข้าแบบ SKD ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าก็ไม่มีวันทำยอดขายเทียบเคียงรถยนต์สันดาปและไฮบริดในไทยได้เลยเพราะติดปัญหาหลักคือไม่สามารถผลิตและส่งมอบในปริมาณมากๆด้วยระยะเวลาอันสั้นได้ เนื่องจากคอขวดอยู่ที่โควต้าของการผลิตรถและชิ้นส่วนในโรงงานที่ต่างประเทศอยู่ดี
อ้างอิงจากงาน Motor Expo ครั้งล่าสุด
TOYOTA มียอดจอง 5,715 คัน
HONDA มียอดจอง 4,115 คัน
ISUZU มียอดจอง 3,329 คัน
MAZDA มียอดจอง 3,189 คัน
ทุกแบรนด์ใช้เวลาทำการผลิตและส่งมอบเพื่อเคลียร์ยอดจองเหล่านั้นในระยะเวลาไม่เกิน 1-2 เดือนจากโรงงานผลิตภายในประเทศ (กรณีที่ไม่ติดปัญหาชิ้นส่วนขาดแคลน) ซึ่งเป็นเวลาที่ลูกค้ายอมรับได้
ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าของ MG ที่จองกันในมอเตอร์โชว์ปีนี้ในหลักร้อยคัน ก็น่าติดตามดูว่าจะใช้เวลาในการผลิตและส่งมอบนานกี่เดือน เพราะต่อให้รับยอดมาแค่ไหนแต่คอขวดมันก็อยู่ที่โควต้าในการผลิตที่โรงงานในต่างประเทศอยู่ดี และเมื่อใช้เวลาในการรอรถนานมากๆจะมียอดจองเพิ่มหลังจากงานมอเตอร์โชว์ได้เท่าไหร่
ปีที่แล้วยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในไทยอยู่ที่ราว 0.5% ของตลาดรวม ปีนี้เอาแค่ 2-3% ได้ก็หรูแล้ว ส่วนการที่จะมาแทนรถยนต์สันดาปและไฮบริดในไทยนั้นจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะมีการผลิต BEV โดยมีการลงทุนด้านสายการผลิตชิ้นส่วนจากผู้ผลิตชิ้นส่วนภายในประเทศเท่านั้น ถ้ายังใช้วิธีนำเข้าแบบ CBU อยู่อย่างนี้ หรือแม้กระทั่งนำเข้าแบบ SKD ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าก็ไม่มีวันทำยอดขายเทียบเคียงรถยนต์สันดาปและไฮบริดในไทยได้เลยเพราะติดปัญหาหลักคือไม่สามารถผลิตและส่งมอบในปริมาณมากๆด้วยระยะเวลาอันสั้นได้ เนื่องจากคอขวดอยู่ที่โควต้าของการผลิตรถและชิ้นส่วนในโรงงานที่ต่างประเทศอยู่ดี
แสดงความคิดเห็น
ดูเหมือนว่ารถไฟฟ้า EV จะมาไวกว่าที่คิด
เหลือราคา พอจะเอื้อมถึงได้บ้าง
เห็นแล้วอยากได้เลย