กลุ้มใจเกี่ยวกับกิจการที่บ้าน อยากขอคำแนะนำ

ที่บ้านมีกิจการของครอบครัว บริหารกันเองตั้งแต่รุ่นปู่ย่า และพ่อแม่ ส่วนจขกท.ทำงานประจำ
กิจการตั้งอยู่ใจกลางจังหวัด มีสินค้าหลักๆอยู่ 2 ประเภท ทั้ง 2 ประเภทก็มีหลายระดับราคาต่างๆกัน
ยุคเริ่มต้นปู่-ย่าก็ค้าขายค่อนข้างดีเรื่อยมาจนมาถึงรุ่นพ่อ-แม่ก็ยังขายดี พอถึงรุ่นจขกท.ที่เริ่มมีห้างใหญ่มาเปิดสาขาลูกค้าก็เริ่มน้อยลง
อีกทั้งพิษเศรษฐกิจ และยุคสมัยเปลี่ยนไปคนไม่ค่อยเดินตลาดแล้ว จะพูดได้ว่าที่อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะชื่อเสียงที่สร้างไว้ก็คงไม่ผิด

พอ2-3ปีก่อนจขกท.เรียนจบก็เริ่มรับรู้ว่ากิจการมีโอกาสที่จะไปต่อยาก เหมือนต้องช่วยกันประคองสุดกำลัง
สินค้าชนิดแรกต้องรักษายอดสั่งซื้อ (ยุคโควิด19 ก็ต้องรักษายอดเพิ่มขึ้นด้วย ทางบริษัทคู่ค้าไม่ได้ลดให้) 
จขกท.เข้าใจว่ามันเป็นสินค้าตัวหลักที่เป็นหน้าเป็นตาให้ร้าน ทางครอบครัวก็เลยกัดฟันรักษายอดไว้ เพื่อให้มีของไว้โชว์/ขาย
แต่กลายเป็นว่าเงินต้องมาจม เพราะไม่ได้ขายดีเหมือนแต่ก่อน เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ทำให้การเงินขาดสภาพคล่อง
และสินค้าอีกประเภทนึงของที่ร้านมีคู่แข่งเกิดใหม่ชนิดที่แข่งขันได้ยาก ทำนองว่าคนรุ่นเก่าวุฒิแค่ป.ตรี สู้กับคนรุ่นใหม่จบดร.
ก็คงขึ้นอยู่กับระยะเวลาแล้วว่าเขาจะแย่งฐานลูกค้าเราไปได้มากแค่ไหน

จขกท.เคยแนะนำให้ลองหากิจการอย่างอื่นทำควบคู่ไป ทางบ้านก็บอกว่ามันไม่ได้เริ่มใหม่ง่ายๆ, ไม่มีคนดูแลหรอก 
อยากจะขอคำแนะนำว่า จะทำอย่างไรต่อไปได้บ้าง ตอนนี้เครียด จิตใจมืดมัวไปหมด
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 32
ธุรกิจในต่างจังหวัด มีรูปแบบเฉพาะตัว จขกท.ต้องศึกษาตัวกลุ่มลูกค้าของคุณก่อน ถ้าเข้าใจถ่องแท้ ก็มีโอกาสพลิกสถานการณ์คับ balckberryที่ประสบความสำเร็จได้เพราะทำวิจัยความต้องการลูกค้า ถึงออกผลิตภัณฑ์มือถือส่งข้อความคุยกัน ไปหาข้อมูลที่จังหวัดว่ามีประชากรเท่าไหร่ อายุเฉลี่ยเท่าไหร่ ผมเคยเจอหนังสือหอการค้าโคราช เขายังมีข้อมูลพวกนี้อย่างละเอียด รายได้ต่อประชากรในจังหวัดคือเท่าไหร่ อย่างน้อยมันก็ช่วยให้คุณเห็นภาพว่าควรลุยต่อไหม? ปัจจุบันคนไทยอายุเฉลี่ยเยอะขึ้น และเด็กเกิดใหม่น้อยลง ที่น่าเศร้า คือเพศหญิงเกิดเยอะกว่าเกือบ2เท่า  (เอาที่ผมเคยไปเห็นป้ายข้อมูลในเขตจตุจักร นะ)
ค้าขายออนไลน์ไม่ใช่คำตอบ คุณขายดีขึ้นมา สัก6เดือนจะมีคนเอามาขายตาม อาจจะขอซื้อจากคุณโดยตรงก่อน แล้วหาแหล่งผลิต เพื่อขายแข่ง คนที่พูดว่า ไปขายออนไลน์สิ แสดงว่าไม่ได้ลองทำ จนมีประสบการณ์ถึงพูดแบบนี้ มันง่ายที่ไหน? มิจฉาชีพ หลอกว่าโอนตังแล้ว ก็มี บางทีไปหลอกคนF  ให้โอนตังเข้าบัญชีตัวเองก็มี สมัยนี้ง่ายสุด ก็แอบอ้างชื่อวัดอะไรไม่รู้ในต่างจังหวัด ขอรับบริจาคเข้าบัญชีพระสงฆ์ ก็มี ถ้าคุณยังต้องอยู่ภายใต้การบริหารของพ่อแม่ หรือญาติ คงต้องทำใจ ปล่อยเรื่องนี้ไป คนทำธุรกิจมาเป็นสิบปี จะให้มาเชื่อคุณ ปรับปรุงธุรกิจ คงยาก ตอนผมเริ่มธุรกิจเอง คุณอาที่ไม่เกี่ยวอะไร ได้ยินเรื่อง ยังแนะนำโน่นนี่นั่น เชิงไม่ทำจะดีกว่า ทำให้เรากลัวๆกล้าๆ มากเข้าไปอีก แต่สุดท้าย ก็ลองทำ(สักที)โดยวางแผนไว้ว่า ถ้าขายไม่ได้สักปี จะเลิกกิจการ กว่าจะมีลูกค้าเจ้าแรก ที่สั่งของ ก็8เดือนเต็มๆ ปัจจุบันเปิดมา14ปีแล้ว ส่วนตัวแนะว่า ให้ศึกษากลุ่มเป้าหมาย ดูระดับรายได้ อายุ แล้วต่อยอดจากธุรกิจครอบครัวจะง่ายสุด เช่น ถ้าขายวัสดุก่อสร้าง ก็ต่อยอดรับเหมาก่อสร้างไปด้วย ถ้าขายเฟอร์นิเจอร์ ก็รับตกแต่งภายใน หรือรับซ่อมแซมอะไรงี้ เพราะถ้าคุณต่อยอดธุรกิจ หันไปดูแลหน่วยธุรกิจใหม่ คุณมีอิสระในการบริหารมากขึ้น และใช้ทรัพยากรของธุรกิจครอบครัวให้เกิดประโยชน์มากขึ้น(โดยที่คุณลงทุนน้อยลง) มีรายใหญ่เข้ามา เจ้าเดิมต้องใช้ความได้เปรียบทุกอย่างที่มี แม้ทุนจะน้อยกว่า คุณมีไหม? รู้ไหมว่าลูกค้าใหญ่คุณคือใครในจังหวัด? สนิทกันไหม? ราคาสู้ไม่ได้ แต่มีผลประโยชน์อื่นไหม? ผมเคยคุยกับเถ้าแก่ใหญ่ร้านกันสาด แกว่า ร้านขายแข่งกันเยอะ แกใช้วิธีขับรถเร่ไปตามหมู่บ้าน ประกาศนับติดตั้งผ้าใบ กันสาด แกว่าขายดี กำไรดีมาก(เพราะลูกค้าที่เป็นแม่บ้าน ไม่รู้จักไปเทียบตามร้าน เป็นกลุ่มขี้เกียจเดินทางอยู่แล้ว ผมคิดเอง) แกทำแบบนัจนขับรถไม่ไหว ถึงเลิกไป ลองเปลี่ยนbusiness model แค่เร่ขาย ตามซอกซอย มันก็ทำกำไรเพิ่ม ลดการแข่งขันได้แล้วคับ ลูกค้ายุคใหม่ของคุณ อาจจะชินกับชีวิตออนไลน์ กดสั่ง ของก็มา ลองดูว่าเข้าทางสินค้าคุณไหม?
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
กิจการมีขึ้นมีลง มีเกิดมีดับ
ธุรกิจเก่าไป อันใหม่มา

อย่างร้านอาหาร ตอนนี้ไม่ต้องอยู่ติดถนนใหญ่ ไม่ต้องมีที่จอดรถ คนก็สั่งผ่านแอพได้
ร้านในห้างยังเจ๊งเพระไม่มีคนเดิน

ความเห็นผม ให้มันจบที่รุ่นพ่อแม่พอครับ ยุคสมัยเปลี่ยนไป แล้วเรารุ่นลูกดูแลท่านแทน
เพราะการค้าขายที่ผ่านมา ท่านคงเก็บกำไรไว้เยอะ ซื้อทรัพย์สินอะไรไว้เยอะแล้ว

ถ้าเป็นผมคือเลิกกิจการได้แล้วครับ ดีกว่าเป็นหนี้เป็นสิน ทรัพย์ต้องขายหมดเพื่อพยุงร้าน
และสุดท้ายก็ต้องเลิกอยู่ดี  

เลิกตอนนี้เจ็บตัวน้อยกว่า หรือเลิกตอนหลังเจ็บตัวมากกว่า

ขนาดธนาคารยังต้องควบรวม ปิดตัว ปิดสาขา ไปไม่รอดเลย
เขาบริหารแค่เงิน แล้วคุณขายสินค้าจะไปเหลือเหรอครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่