ลูกชายเป็นเด็กพิเศษอายุ 25 เพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยป.ตรีนี่ จะลำบากในอนาคตไหมครับ

พอดีว่าลูกชายของผมนั้น อายุปีนี้ก็เพิ่งย่าง 25 นี่แหละครับ แต่ผมก็ดูแลได้ดี ใช้ชีวิตได้ตามปกตินะครับ

แต่เขาก็เพิ่งได้ไปสมัครเรียนต่อป.ตรีที่ใหม่หนะครับ (ตอนนี้อยู่ในการจัดการเอกสารบางส่วนและจ่ายค่าสมัครไปแล้ว) แต่ก็กลัวว่าเขาจะเข้ากับสังคมไม่ค่อยได้อะครับจนต้องลาออกเป็นรอบ 2 แล้วก็กลัวว่าเขาจะเรียนจบแล้วไม่ได้ทำงานหนะครับ ส่วนเงินเดือนนั้น ผมก็ทำอาชีพอิสระ ก็ได้เดือนละประมาณ 25,000 - 40,000 บาทนี่แหละครับ แต่ถ้าหักลบพวกค่าใช้จ่ายก็เหลือประมาณ 7,000-8,000 เผลอ ๆ เดือนละ 10,000 เลยครับ เรียกว่าถ้าน้องไม่เรียนหนังสือก็อยู่แบบว่าเกาะพ่อกินไปสบายก็ได้ครับ เพราะน้องก็ไม่ค่อยใช้เงินเยอะเท่าไหร่ ประมาณแค่ 500-1,500 บาทต่อเดือนเองครับ

โดยผมก็หวังว่าเขาจะเรียนจบป.ตรี ที่ผมคาดหวังอะครับ แต่ก็กลัวว่ามันจะหนักไปไหมสำหรับสมองเด็กพิเศษ เพราะน้องเองก็เพิ่งผ่านเหตุการณ์เลวร้ายจนเป็นซึมเศร้าหนัก และทำให้น้องตัดสินใจผิดไปประมาณหนึ่ง ทั้งยอมเรียนที่รามคำแหงเพราะอยากช่วยพ่อประหยัดเงิน (ส่วนหนึ่งคือน้องคงอยากจบตามพ่อด้วยแหละครับ และก็เป็นฝ่ายที่พูดไม่ค่อยดีไปว่าบ้านกำลังจะโดนยึด ซึ่งด้วยความที่น้องรักครอบครัวมากก็เลยเป็นอีกสาเหตุที่น้องอยากจะรักษาบ้านที่อยู่ด้วยครับ) แต่ก็ด้วยสมองของน้องด้วยนะครับ ทำให้น้องจบช้ากว่าเพื่อนจนเพื่อนของน้องเขาเรียนจบกันไปแล้วครับ (ส่วนหนึ่งคือที่เรียนรามก็ไม่ได้ใช้สิทธิคนพิการด้วยแหละครับ เลยต้องขอลาออกไป เพราะถ้าฝืนใจเรียนแบบนี้น้องก็ไม่จบ 8 ปีแน่นอน) เลยทำให้น้องอาจจะกลัวความผิดหวังอีกรอบจนอาการกำเริบอีกรอบอะครับ (ส่วนหนึ่งคือเคยด่าน้องว่า จบรามมันต้องขยันมากนะจะได้มาโดยง่าย ๆ มันก็ไม่ใช่นะ จนน้องซึมหนักและก็กลับไปเรียนต่อที่รามอีกรอบครับ และล่าสุดคือเริ่มเห็นอาการของน้องแล้วครับ ทั้งซึมหนัก ไม่ค่อยเล่นคอม จากเดิมที่เล่นคอมหนักมากกลายเป็นเล่นแค่แป๊ป ๆ แล้วและอาการอ้วกอยู่ตลอดเวลาและไอตลอด โดยต้องดมยาดมอยู่ตลอดเวลาครับ รวมถึงนอนหลับยาวและลึกขึ้นและขึ้นบ้านนอนไวขึ้นด้วยครับ เช่นวันนี้ นอน 5 ทุ่ม ตื่น 9 โมงเช้าอะครับ ซึ่งผิดปกติไปมาก) 

เลยอยากถามว่า ผมจะดูแลลูกคนนี้อย่างไรให้มีความสุขอะครับ เพราะกลัวว่าผมไม่อยู่เขาจะลำบากและไม่มีใครดูแลชีวิตอะครับ (ส่วนหนึ่งคือ พี่ชายคนโต อายุก็ 32 แล้วก็ไปตามทาง พี่ชายคนกลางอายุ 27 ก็ไปตามทางแล้ว) และผมเองก็อายุจะเข้าเลข 6 อีกไม่กี่ปีด้วยแล้วครับจะได้เตรียมตัวเก็บเงินเพื่อให้ลูกใช้ในอนาคตอะครับ ทั้งการใช้ชีวิตและการเงินในอนาคตหนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
แนะนำให้ทำอาชีพ อิสระ ของตนเอง เพราะ จะได้ไม่ต้องกดดัน จากเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน สมัยนี้ปริญญาตรี ก็ไม่ได้สำคัญ ถ้าสามารถ หาเงินเลี้ยงตัวเองได้  และน้อง อาจซึมเศร้า หนักมากขึ้น ถ้าไปเรียนปริญญาตรี แบบเครียดๆ  ทำให้กลัว และกดดันจากสังคมมากขึ้นอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่