เบื่อครอบครัวทำไมถึงพูดเข้าใจกันยาก

ดีครับผมมีเรื่องอยากจะปรึกษาเรื่องครอบครัว พ่อแม่และยายมีปัญหากันตลอดตั้งแต่ผมเกิดมาตั้งแต่เล็กจนโต ผมเห็นเขาพวกทะเลาะกันแบบนี้แทบจะทุกครั้งที่ผมไปหายาย หรือพ่อแม่เองก็ทะเลาะกันเองเป็นประจำตั้งแต่อยู่บ้าน ผมจะต้องทนดูรับสภาพพวกนี้ไปด้วยจนบางครั้งผมก็เป็นที่รองรับอารมณ์แทนไม่ว่าทางใดทางนึงแม้แต่ผมจะเล่นเกมส์ก็ตาม เหมือนพ่อแม่จะคุยไม่เข้าใจกันสักที จนเป็นเหตุให้ต้องปิดกิจการไปสองที่เพราะมีปัญหาทางการเงิน ผมตอนย้ายไปอยู่หลายที่เลย กลายเป็นคนที่อยู่บ้านไม่ค่อยติดที่เพราะเดี๋ยวต้องย้ายบ่อยเพราะความจำเป็นของผู้ใหญ่ที่อยากจะให้ผมไปอยู่ที่ไหนด้วยเป็นช่วงที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของผมแต่ผมก็ผ่านมันมาได้บอบช้ำมากแต่ไม่อยากพูดถึงอะไรไปมากกว่านี้แค่นี้ก็พอแล้วผมกลัวที่จะนึกถึง นี้เป็นเหตุการณ์ครั้งผมยังสมัยเด็ก จนถึงโตแล้วอายุได้ยี่สิบปีกว่าตอนนี้เหตุการณ์การไม่ค่อยจะเปลี่ยนไปจากเดิมสักเท่าไหร่เลย เนื่องจากผมอยู่ไม่ค่อยจะเป็นที่เพราะพ่อแม่แยกทางกันอยู่คนละจังหวัดทำให้ผมต้องไปๆมาๆหาพ่อแม่แบบนี้และแม่ก็มีคนใหม่แล้วทำให้ผมไม่ค่อยได้คุยกับแม่เหมือนเดิมสักเท่าไหร่เพราะผมค่อนข้างมีปัญหากับคนใหม่ของแม่อยู่ตลอดเพราะไม่ชอบกันสักเท่าไหร่ด้วยการกระทำหลายๆอย่าง จนผมต้องมาอยู่ดูแลพ่อเอง จนทำให้รู้ได้ว่าเหตุการณ์มันไม่ค่อยจะเปลี่ยนไปจากเดิมเลยผมรู้สึกแย่กับชีวิตตลอดเวลาผมอยากให้พวกเขาซัพพอตผมบ้างแต่ก็มีแต่ปัญหาเหมือนเป็นเรื่องที่คุยยากไปในความเป็นครอบครัวไปซะอย่างงั้นเหมือนเราจะทำอะไรจะต้องเป็นกฎข้อบังคับเขาที่อยากจะให้เราใช้ชีวิตยังไงต่างหากที่ผมได้รู้สึกและสัมผัสมาก ผมอยากพูดหรืออธิบายกับใครก็ไม่เคยจะได้เลย นอกจากแฟนและเพื่อนพี่น้องที่ยังคุยกันได้ แต่ปัญหาเรื่องการคุยในครอบครัวจะมีปัญหาตลอด ทำไมครอบครัวผมถึงพูดคุยด้วยยากแบบนี้ทั้งที่การคุยกันมันควรคุยกับอย่างเข้าใจกันไม่ใช่หรือแต่ทำไมผมต้องมาเจอเรื่องพวกนี้ซ้ำๆด้วยก็ไม่รู้ ทำไมพวกเขานั่งคุยหรืออธิบายกันดีๆไม่ได้ทั้งที่ๆอยู่ด้วยกันจริงๆ ผมเข้าใจนะว่ามันเป็นแบบนี้มันเกิดจากปัญหาที่สะสมเป็นเวลานานทำให้พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่ประนีประนอมกันในการคุยพูดกันมันเลยถึงเป็นปัญหาจนถึงทุกวันนี้เลยเอง จนผมได้เข้าใจแล้วว่ามันมีปัญหาตรงนี้เองคือการพูดคุยกันอย่างไม่มีเรื่องให้ต่างคนเดือดร้อนกันนี่เองที่มันเป็นทั้งหมดของปัญหา ซึ่งตอนนี้ถึงผมเข้าใจแล้วว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงแต่ตอนนี้ผมก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว อยากให้พ่อแม่ยายครอบครัวคุยกันแบบมีความสุขเข้าใจกันบ้างคงเป็นเรื่องยากไปซะแล้ว แต่ผมก็เป็นตัวกลางที่พยายามติดต่อสื่อสารสำหรับทุกคนผมรู้ดีว่าตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้มากแล้ว ทางเขาก็ว่าผมเอาแต่ใจไม่ยอมทำงานทำการ ผมเข้าใจที่พวกเขาพูดนะ ซึ่งจริงๆผมก็อยากไปทำงานอะไรพวกนั้นอยู่หรอก แต่มันติดที่ว่าตอนนี้อาการป่วยของผมเริ่มมีมาให้เห็นชัดมากขึ้นเรื่อยๆทุกวันร่างกายผมเริ่มไม่ค่อยจะสู้ดีในการทำงานของสังคมที่มีไว้ให้สักเท่าไหร่ ผมมีโรคประจำตัวติดตัวผมตั้งแต่อายุสิบห้าปีแล้วมันเป็นอาการต่อมน้ำเหลืองไม่ค่อยดีที่หลัง และจนถึงตอนนี้ผมมีอาการเพิ่มมาอีกอย่างนึงคือได้ยินเสียงจักจั่นอยู่ในหูผมตลอดเวลามันทำให้ร่างการของผมทรมานมากกว่าเดิม ผมจึงตัดสินใจอยากทำงานที่ตัวเองอยากทำและเท่าที่ทำได้ก็พอ ผมเคยบอกครอบครัวแล้ว แต่มันก็เป็นเหมือนเดิมทุกคนต่างไม่ค่อยจะสนใจเรื่องอาการป่วยของผมสักเท่าไหร่ ทุกคนสนแต่ว่าผมจะไปทำงานได้เมื่อไหร่หรือทำไหวมั้ย ทุกคนไม่ได้เห็นอาการที่ผมป่วยสักเท่าไหร่ ผมพูดคุยไปหมดทุกอย่างแล้วเพราะอยากให้พวกเขาพูดคุยรับฟังปัญหากันดีๆบ้าง แม้ตอนนี้ก็ดูเหมือนเป็นเรื่องเพ้อฝัน เหมือนผมพยายามไปก็เหนื่อยป่าวๆตอนนี้ผมทำอะไรแทบไม่ได้ เพราะติดปัญหาเรื่องที่พวกเขาไม่ยอมเข้าใจหรือสนับสนุนความเป็นอยู่ผมเลย ผมไม่ได้เรียกร้องอะไรนะแค่เคยคิดว่าพวกเขาจะเอาผมเกิดมาทำไม ท่าจะให้ผมเกิดมาแล้วมาทรมานผมแบบนี้ บางทีมันเลยทำให้ผมเป็นคนก้าวร้าวนะแต่เป็นเพราะอาการเจ็บป่วยของผมและภาวะในครอบครัวที่ผมต้องเจอโดยทั้งที่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม ถึงตอนนี้แล้วผมก็ยังทรมานกับการพูดคุยหรืออธิบายให้ครอบครัวฟังหรือพูดไปมันก็เท่านั้น ปัญหาเหมือนมันไม่เคยจบสักทีผมเหนื่อยและเบื่อที่จะต้องมาเจออะไรพวกนี้ไปตลอดไม่เคยจบสักที เหมือนพวกเขาจะทำสงครามประสาทกัน เหมือนอยู่ในครอบครัวเผด็จการเลย มันเลยทำให้ผมรู้สึกจะเป็นประสาทกับเรื่องพวกนี้ไปด้วย ตอนนี้ความอดทนผมเริ่มมีน้อยจริงๆครับไม่ค่อยไหวแล้วอยากออกไปอยู่คนเดียวบ้าง เหมือนผมอยู่ที่นี่ผมจะไม่ค่อยได้ไปไหนเลยและรู้สึกจิตใจแย่ไม่สบายไปกว่าเดิมอีกเมื่อไหร่ความทรมานพวกนั้จะหายไปกับผมสักทีครับ ผมอยากทีที่คุยกันอย่างสบายใจและเข้าใจกันตลอดครับ แต่เหมือนจะไม่ใช่ครอบครัวผมที่เป็นอยู่เลย แต่ผมก็อยากพูดให้เขาฟังได้เท่าที่ฟังได้นะครับ สุขภาพก็ไม่ค่อยไหวสักเท่าไหร่เลย อยากกลับมามีแรงเยอะๆเดิมท่าครอบครัวเข้าใจเราบ้างเปิดใจพูดคุยกันดีๆมาหาเราเหมือนที่เรากำลังเกิดลืมตามาดูโลกสักครั้งก็ยังดี
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ผู้คนไม่เปลี่ยนแปลงหรอกนะคะ หากจะเปลี่ยน เจ้าตัวต้องเปลี่ยนเอง จขกท คงทำอะไรไมไ่ด้มาก ซ้ำร้าย หากจะเปลี่ยน ยังต้องเปลี่ยนถึง 3 คน ความอยากที่ยากจะเป็นไปได้ อาจดีต่อใจมากกว่า หากจะหยุดมันเสีย ทำในส่วนที่ทำได้

ในเวลานี้ สิ่งที่น่าห่วงคือสุขภาพ แน่นอนว่าความไม่สบายกาย มันยิ่งทำให้ชีวิตยากขึ้นไปอีก จัดการเรื่องความเจ็บป่วยก่อนน่าจะดี ความผิดปกติเดิมเรื่องต่อมน้ำเหลืองนั้น อาการเป็นอย่างไร และยังไปหาคุณหมออยู่ไหม ถามคุณหมอไหมคะ ว่ามันเรื้อรังอย่างนี้ หรือมันมีวิธีที่ทำให้อาการสงบหรือหายขาดได้ ส่วนเรื่องมีเสียงในหู เรื่องนี้เรื่องใหญ่ไม่แพ้เรื่องต่อมน้ำเหลือง รีบไปหาหมอที่เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก จะได้ไม่ต้องทนต่อไป อย่างที่ จขกท เองบอกนะคะ หลายอย่างเริ่มมีส่วนส่งผลให้ตนก้าวร้าว ใช่เลย ความผิดปกติ ไม่สบายกายไม่สบายใจ มันทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงในทางที่เสื่อมลงได้ เมื่อรู้เช่นนี้ ไม่ควรพาตนเองไปถึงจุดนั้น

เรื่องความแตกแยกและขัดแย้งในครอบครัว ตราบเท่าที่ทุกคนยังเอาแต่ใจตนเองและไม่รับฟังคนอื่น เป็นไปได้ยากที่จะพูดจาและตกลงกันอย่างสร้างสรรค์ เรื่องนี้อาจต้องทำใจ ทำในส่วนที่ตนเองทำได้ และไม่คาดหวังสิ่งที่หวังได้ยากจะดีกว่า  พยายามพึ่งตนเองให้มาก เพราะพ่อแม่เองก็เริ่มหมดแรง ที่สำคัญ การตั้งคำถามทำนองที่ว่าทำให้เกิดมาทำไม เกิดมาแล้วลำบากและทรมาน จะยิ่งบั่นทอนกำลังใจเสียเปล่า ๆ หากนับถือพระพุทธองค์อยู่บ้าง คนเรามีกรรมเป็นแดนเกิดหรือที่มา ที่อยู่และที่ไป เมื่อเกิดมาแล้วและเลือกเกิดไม่ได้  การตั้งใจอยู่ ทำหน้าที่ตามบทบาทและความรับผิดชอบของตนเองให้ดี ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ นับว่าดีแล้ว

ใคร ๆ ต่างก็ต้องการให้คนอื่นเข้าใจตนเอง ไม่เพียงแต่ จขกท แน่ เดาว่า พ่อแม่และยายเอง ก็อยากและต้องการให้คนอื่นเข้าใจตนเองก่อน เอาเข้าจริง หาก จขกท คิดจากมุมของสามท่านบ้าง จขกท อาจรู้จักแต่ละท่านมากขึ้น และอาจพบหนทางในการที่จะทำให้ครอบครัวคิดเห็นไปในทางเดียวกันมากกว่าที่เป็นอยู่

อย่าถือว่าต้องสูญเสีย และไม่ใช่หน้าที่ที่ต้องพยายามเข้าใจคนอื่นก่อน แต่มันคือความดีเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่อาจสร้างผลลัพธ์ที่ดีงามให้กับครอบครัวของตนเองก็เป็นได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่