สิเน่หาส่าหรี (กึ่งรีวิว) : And my journey is complete.

เจ้าชายกีริช แมคเดอร์มอร์ท วิเรนทรา มันตรา มีจุดหมายเพียงสิ่งเดียว นั่นคือ การเป็นมิตรเคียงข้างมหาราชาองค์ต่อไป นั่นคือ เจ้าชายยชัยทัศน์ผู้เป็นน้องชาย ตลอดการเดินทางที่ผ่านมาเจ้าตัวถูกเคี่ยวกรำให้เป็นที่พึ่งพา เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว สงบ สุขุม รอบคอบ คิด และ ทำเพื่อคนอื่นมากกว่าตัวเอง นับว่าโดดเดี่ยวไม่น้อยเมื่อเลือดผสมในตัวทำให้ผิดแผกแตกแยก กีริชไม่มีวรรณะ และ ถ้าหากเป็นงานส่วนตัวมาก ๆ ของราชวงศ์กีริชจะไม่ได้รับเชิญเช่นกัน แม้กระทั่งบุระดาราก็ไม่ได้อยู่ในความดูแลของกีริช มันตราเป็นที่พักพิงอาศัย เหมือนจะใช่แต่ก็คล้ายกับไม่ใช่บ้านที่แท้จริงของกีริช

กีริชสร้างไว้ ราชวงศ์เอาไป คงเป็นเพราะความไม่มีใคร และ ถูกฝึกหัดมาแต่เด็ก ในฐานะฐานรากตลอดกาลของบัลลังก์ ชีวิตของตัวเองแท้ ๆ แต่มีไว้เพื่อคนอื่น มี mindset เป็นอย่างนั้นตลอดมา จึงโอบกอดและแบกรับภาระต่าง ๆ เอาไว้กับตัว ไม่ว่าจะเป็นน้องซึ่งเป็นว่าที่มหาราชาองค์ต่อไปด้วยมีสายเลือดบริสุทธิ์ ไม่ว่าจะประชาชนชาวมันตราปุระที่ลำบากยากแค้น เพราะ เส้นสนกลในของอำนาจซึ่งมีที่มาจากความพลิกผันของราชวงศ์ในอดีตที่ผ่านมา คำฝากฝังของเสด็จทวดซึ่งเป็นคนแดนไกลคนแรกที่เข้ามายังมันตรา ยังประทับอยู่ในใจว่าจะมีคนแดนไกลอีกคนหนึ่งก้าวเข้ามาเพื่อนำทางไปสู่ตราแผ่นดิน

ถึงจะมีนิมิตติดต่อกับเสด็จทวดที่ปรากฏตัวให้เห็นอยู่เนือง ๆ กีริชอาจเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง แต่วันนั้นจะมาถึงเมื่อใดข้อนี้ไม่มีทางรู้ได้ กว่า 70 ปี เบาะแสใด ๆ ไม่เคยปรากฏ คนแดนไกลเข้าออกมันตราก็มากมายแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าคน ๆ นี้ เป็นคนที่ใช่ สายตาของเสด็จทวดคลายความดุดันเปลี่ยนเป็นอ่อนหวานยามทอดเสียง เธอจะรักเค้า กีริช เธอจะรักเค้า แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไร เมื่อจิตใจของเจ้าตัวตั้งมั่นว่าจะไม่รักใคร

เขาไม่เคยเห็นว่าใครในราชวงศ์จะประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ซักราย ไม่ว่าจะเป็นมหาราชา มหารานี นั่นย่อมรวมถึงปมที่สำคัญที่สุดในชีวิตนั่นคือแม่ของเขา หญิงสาวต่างชาติในบ้านเมืองอนุรักษ์นิยมสูงส่ง แม้กฏมณเฑียรบาลจะคลี่คลายไปมากแล้วในปัจจุบัน แต่เขาก็รู้ ฐานะของเจ้าชายกีริชเป็นเพียงหัวโขนครึ่ง ๆ กลาง ๆ เขามีภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง หากมันไม่ได้หมายถึงอำนาจที่จะแก้ขนบธรรมเนียมประเพณีได้ตามใจ และ ยิ่งไม่ได้หมายถึงการละเว้นความรับผิดชอบที่ว่านั้นได้ตามใจเช่นกัน

นับตั้งแต่เกิดและโตมา กีริชจึงเชื่อว่าสิ่งที่ได้ทำทุกอย่าง เป็นการวางตัวเหมาะสม บทบาทของเขาคือพระรอง และ จะเป็นเช่นนั้นตลอดกาล ยอมจำนนแล้วว่าชีวิตของเขาไม่ใช่ของเขา ชีวิตของเขาเป็นของมันตรา เป็นของราชวงศ์ ไม่ว่าจะเป็นยามตื่น ยามนอน เขาจะเป็นคู่มิตรของชัยทัศน์ เป็นแพทย์ที่ดูแลประชาชนชาวมันตรา ปล่อยใจให้มีความสุขเล็กน้อยกับเค้กส้ม กาแฟซักแก้ว และ การสนทนาลึกซึ้งกับคนไม่กี่คน อังเคิลเรย์ วิราม เท่านั้นก็เพียงพอ 

ชีวิตของกีริชเหมือนค่ำคืนที่เงียบงัน แม้ไม่มีตะวันเจิดจ้า แต่ก็ยังมีแสงดาว อาจจะเยือกเย็นและเงียบเหงาไปซักหน่อย  แต่ก็เปี่ยมไปด้วยตรรกะและเหตุผลตามที่ฝึกฝน เขาคิดว่าตัวเองดำรงอยู่ในคืนที่เงียบสงบได้แล้วอย่างสมบูรณ์ จนเธอคนนั้นเข้ามา คนที่อังเคิลเรย์บอกว่าถึงจะไม่ได้เป็นคนแดนไกลที่ใช่แต่เขาก็เหมาะกับเธอ คนที่เจิดจ้าเหมือนตะวันฉาย บ่าหลังตั้งตรง วาจาตรงไปตรงมาจนคนที่สงบจิตสงบใจจนเคยชินต้องร้อง "พลีส" ด้วยความกลัดกลุ้มแกมขบขัน

ใครจะนึกว่าคำ ๆ เดียวของนวลเนื้อแก้ว "คุณเหนื่อยมั้ย ?" ในวันนั้นจะทำให้ปณิธานที่ว่าจะไม่รักใครล่มสลายไปอย่างสมบูรณ์ ไม่เคยมีใครไต่ถามเขาแบบนั้นมาก่อน ทุกคนใกล้ตัวล้วนมองว่าสิ่งที่เขาทำเป็นหน้าที่ของคนเป็นเจ้าชายต้องปฏิบัติ และ มันเหมาะสมแล้ว ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเริ่มใช้สถานะคนแดนไกลที่(น่าจะ)ใช่ เป็นเหตุผลที่พยายามเข้าหา และ เรียนรู้ผู้หญิงตรงหน้าทีละนิดตลอดมา เธอทำให้เขาสุข ทุกข์ ดีใจ เสียใจ กังวล ก่อเสียงหัวเราะ รอยน้ำตา และ ปั่นป่วนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แตะถึงก้นบึ้งลึกที่สุดของหัวใจที่ไม่เคยเผยกับใครมาก่อน เหมือนคนตาบอดที่เห็นพระอาทิตย์เป็นครั้งแรก อาจเป็นยามนั้นที่กีริชรู้ว่าหากไม่ถอนตัวเสียแต่วันนี้ หรือ แม้แต่กระทั่งยอมถอนตัวเสียแต่วันนี้ ก็ไม่อาจกลับคืนสู่ค่ำคืนแสนสงบอย่างที่เคยเป็นมาได้อีกต่อไป

นวลเนื้อแก้วเป็นสาวสมัย เธอว่องไวคล่องแคล่วรวดเร็วปรูดปราดไปหมด พ่อและแม่มอบหมายให้เธอมาดูแลและดูลาดเลา ว่าน้องสาวคนเล็กเป็นเช่นไรบ้าง เธอเหยียบย่ำดินแดนชื่อ "มันตรา" เป็นครั้งแรก ดินแดนที่เธอรู้จักเพราะค้นคว้าในวิกิพีเดีย และ เธอก็เจอกับสายตาคู่นั้น มันสงบเย็นเหมือนน้ำในบ่อ กริยาท่าทางสุขุมที่เธอมองว่าขี้เก๊กชะมัดยาด แต่เมื่อเวลาผ่านไปความอบอุ่น อ่อนโยน ความกล้าหาญ เสียสละ รวมถึงความรับผิดชอบในหน้าที่  แปรเปลี่ยนความไม่ชอบหน้าให้กลายเป็นความเชื่อถือและศรัทธา

ความมุ่งมั่นแรงกล้าของกีริชที่เธอรัก เป็นจุดก่อเกิดให้เธอสู้และกอบกู้โลก เหมือนที่เธอกล่าวติดตลกกับเขา ผสมกับความรักคือความจริงที่ว่า เธอพร้อมจะทำอะไรก็ได้เพื่อคนที่รัก แม้จะกล้า ๆ กลัว ๆ แต่พอโกรธขึ้นมา เสือตัวเท่าแมว และ ช้างตัวเท่าหมู อย่างที่กีริชว่าไว้ไม่มีผิด หลายต่อหลายครั้งที่นวลเนื้อแก้วทำให้กีริชได้ประจักษ์ ทำอะไรก็ได้เพื่อความรักนั้นคือเรื่องจริง ความกลัวของกีริชเพิ่มเป็นสองเท่า ทั้งความกลัวที่ว่านวลเนื้อแก้วจะเอาชีวิตมาทิ้งด้วยความกล้าบ้าบิ่นแบบไม่คิดถึงตัวเอง ทั้งความกลัวว่ารักที่อยู่ในใจมันดูจะลึกซึ้งเกินจะทำใจมากขึ้นไปทุกที ความร้อนรนเหล่านี้ทำให้กีริชวิงวอนขอคำสัญญา ว่าถึงอย่างไรขอให้นวลเนื้อแก้วมีชีวิตอยู่ ที่ไหนบนโลกนี้ก็ได้ ขอให้เธอมีชีวิตอยู่และมีความสุข และ เธอก็ขอเขาเช่นนั้นเหมือนกัน

เท่ากับว่าต่างฝ่ายต่างรู้ดีในใจ ถึงความเหมาะสมเข้าคู่ แม้เวลาไม่นานที่เจอกัน แต่ผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย เวลาแสนสั้นแต่เหมือนรู้จักกันมาแทบทั้งชีวิต ยามเธอร้อนเขาเย็น เมื่อเธอบ้าบิ่นเขาสงบนิ่ง เธอเป็นความภูมิใจของเขา และ เขาเป็นความเชื่อมั่นและศรัทธาของเธอ หากมันเป็นไปไม่ได้ ต่างคนต่างรู้ กีริชมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง และ เขาไม่อาจทนให้อีกฝ่ายริดรอนกิ่งก้านเพื่อนอนนิ่งอยู่ในแจกัน ธาตุอิสระของใครไม่ควรถูกผูกมัดโดยใช้รักเป็นเครื่องมือ กีริชถึงไม่ยอมพูดอะไรเลย เช่นเดียวกับนวลเนื้อแก้ว เธอรักเขา รักในความดีงาม รักในความอ่อนโยน ซึ่งมีฐานแข็งแรงจากความศรัทธา แต่เธอก็ไม่อาจอุทิศตัวอยู่แถวหลังเหมือนนิลปัทม์ เธอยังต้องการพื้นที่ของตัวเอง นวลเนื้อแก้วปลดปลงจึงได้ให้สัญญากับกีริช เธอจะอยู่อย่างมีความสุขไม่ให้เขากังวลถึงจะเศร้าจนยากจะทำใจ 

เช่นเดียวกับกีริช เขาปล่อยใจไปมาก และ พยายามจะได้ความเยือกเย็นและสงบนิ่งปรับใจให้กลับมาเหมือนเดิม  ส่าหรีผืนงามของหม่อมอะแมนด้า รูปถ่ายคู่หนึ่งรูปนั้น พยายามจะคิดว่าความปีติที่ได้อยู่ใกล้กันเมื่อครู่อาจเป็นของขวัญให้เขาเดินทางสู่จุดหมาย คือ ฐานบัลลังก์มันตรา ในฐานะมิตรของมหาราชา แต่น้ำตาไม่หยุดไหล มันเอ่อล้นจากใจขึ้นมาอยู่ที่ดวงตา ในแบบที่เจ้าชายกีริชไม่เคยทำ และ ไม่เคยเป็น รักเป็นเพียงแค่รัก ทั้งคู่ต่างเติบโตพอที่จะรู้ว่าคำ ๆ เดียวไม่อาจเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง

หากเอาเข้าจริง "ความรัก" มีหลายรูปแบบ  มันกล่อมเกลา รินรด ให้หลายสิ่งหลายอย่างเติบโต อุปสรรคอันเดียวที่ขวางกั้น คือ หัวโขนของกีริชที่ผูกติดมากับหน้าที่ มหาราชาเคยกล่าวลุแก่โทษว่าไม่อาจทำอะไรเพื่อช่วยลูกชายคนนี้ได้ มหารานีเคยสะท้อนตัวเองว่าครั้งหนึ่งเมื่อเธอมองสาวิตรีราวเห็นเงาสะท้อนของตัวเองที่เคยกระทำต่อกีริชและหม่อมอะแมนด้า แม้แต่ชัยทัศน์ที่มากน้อยเคยพึ่งพิงพี่ชายเป็นคู่คิดมาแทบทั้งชีวิตยังกำมือแน่นเมื่อรำลึกได้ถึงความฝันเกี่ยวกับชีวิตที่เรียบง่าย สอนหนังสือ เที่ยวรอบโลก และ ตื่นสายในวันหยุดได้ซักวัน

เรื่องง่าย ๆ ที่เจ้าชายกีริช แมคเดอร์มอร์ท วิเรนทรา มันตรา ไม่เคยได้รับ เพราะ อะไรกัน ที่แล้วมาทุกคนมองกีริชในฐานะเจ้าชาย ทุกคนเห็นว่าทุกอย่างที่กีริชทำล้วนดีและเหมาะตามหน้าที่ที่ได้รับ เจ้าชายกีริชเป็นหนึ่งกำลังสำคัญที่จะพยุงบ้านเมืองและบัลลังก์ หากความตรากตรำ และ แววตาเจ็บปวดและเปล่าดายในช่วงหลัง อาจเป็นครั้งแรกที่ทุกคนมองกีริชในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง สิ่งที่เขาทำ ความรัก ตัวตนที่ทุ่มเทอุทิศให้ ก่อให้เกิดรักก่อให้เกิดเมตตาในอีกรูปแบบ คือ การยอมรับกีริชเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอย่างสมบูรณ์ ปลดเปลื้องมงกุฎหนามอันเป็นพันธการให้กับเขา และ โอบรับนายแพทย์กีริช แมคเดอร์มอร์ท ณ มันตรา เข้ามา แม้รู้แก่ใจว่าจะสูญเสียกำลังสำคัญ เสียผลประโยชน์ เสียบุคคลที่ภักดี จากตำแหน่งแห่งที่ ที่ควรเป็นควรอยู่ หากราชวงศ์ก็เต็มใจ พวกเขาพรากอิสระและหัวใจของกีริชด้วยคำว่าหน้าที่มานานจนเกินไป กีริชทำจนเกินพอ ถึงเวลาที่จะมอบมันกลับคืนไปให้เขาแล้ว

ยินดีที่การเดินทางของเจ้าชายกีริช แมคเดอร์มอร์ท วิเรนทรา มันตรา ได้สิ้นสุด และ การเดินทางครั้งใหม่ของคุณหมอกีริช แมคเดอร์มอร์ท ณ มันตรา ได้เริ่มต้น ชีวิตที่มีสมบัติหนึ่งชิ้น คือ บุระดารา มีอาชีพแพทย์ และ อาจจะครูด้วยนิดหน่อย กับ ผู้หญิงแดนไกลชื่อนวลเนื้อแก้วที่จะเป็นคนสุดท้ายตลอดกาลของเขา Congratulation !! Now, your journey is complete. 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ 

ป.ล. ไม่ได้เขียนยาวมาชาติเศษ ก็ยังเขียนได้แฮะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่