เทวทูตทั้งสี่ ของธรรมดาแต่เจ้าชายไม่เคยเห็น เป็นไปได้ยังไง

กระทู้สนทนา
สำหรับชาวพุทธอย่างเราๆ ส่วนมากคงได้เคยอ่านหรือได้ฟังเรื่องราวพุทธประวัติบางตอน คือเรื่องของเทวทูตทั้งสี่ อันเป็นภาพของ คนแก่ คนเจ็บไข้ คนตาย และนักบวช ซึ่งในสำนวนส่วนใหญ่จะบอกว่า คือสิ่งที่เจ้าชายไม่เคยได้พบได้เห็นมาก่อน ถึงกับต้องถามนายฉันนะ (ซึ่งเป็นเพียง คนขับรถ) ว่าสิ่งนี้คืออะไร และนายฉันนะก็กลายเป็น ผู้รู้โลก ตอบว่ามันคือสิ่งธรรมดาที่ต้องเกิดขึ้นกับทุกคน จากนั้นเจ้าชายก็เก็บเอาสิ่งเหล่านี้ไปคิด ขยายผล กระทั่งเป็นสาเหตุที่ทิ้งราชสมบัติและครอบครัว เพื่อออกแสวงหาสัจจะแห่งการหลุดพ้นของชีวิต
        หากจะคิดพิจารณาเรื่องนี้ ด้วยเหตุผล และความเป็นไปได้ ทำให้มีข้อสงสัยว่า มันจริงหรือ ในเมื่อตำรา คัมภีร์ หรือตำนาน ในฉบับเดียวกันต่างก็บอกว่า เจ้าชายได้รับการศึกษาในสรรพวิชาการต่างๆ มากมายหลายสาขา อันเป็นความรู้ที่คู่ควรแก่การเตรียมตัวขึ้นเป็นกษัตริย์ ซึ่งจะต้องเป็น นักรบ นักปกครอง และเชี่ยวชาญในศาสตร์ต่างๆที่จำเป็น และในวิชาเหล่านี้ มีเรื่องของการรบ การแพทย์ ปรัชญาและศาสนา รวมอยู่ด้วย
        เป็นไปได้อย่างไร ว่า คนที่เรียนวิชาการรบ จะไม่รู้จักความตาย เรียนวิชาแพทย์แต่ไม่รู้จักคนป่วย เรียนปรัชญาและศาสนาโดยไม่รู้จักนักบวช เรียนวิชาสำคัญกับเหล่าอาจารย์ที่อายุยังน้อยๆ จึงไม่เคยเห็นคนแก่ ถ้าเช่นนั้น หากจะคิดแบบคนยุคใหม่ คงต้องบอกว่า เจ้าชายจบการศึกษามาแบบ เด็กเส้น คือได้ปริญญาโดยไม่ต้องเรียนจริง กลายเป็นว่า กดราคาลดค่าความสามารถของเจ้าชาย ที่สะสมบารมียาวนานนับอสงไขยหลายกัปป แต่ที่บรรลุธรรมได้เพราะมีตัวช่วย จากเหล่าเทวดาช่วยชี้นำ
        เมื่อศาสนาพุทธของเรามุ่งเน้นเรื่องปัญญาเป็นเป้าหมายปลายทาง การที่ชาวพุทธจะรู้จัก คิด วิเคราะห์ ด้วยโยนิโสมนสิการ น่าจะเป็นสิ่งที่ดี จึงขอโอกาสเสนอความคิดเห็นส่วนตัวนี้ เพื่อขอคำแนะนำและความเห็นของท่านสมาชิก ได้ให้ความเมตตา แบ่งบันความรู้ เพื่อเป็นหนทางสู่ปัญญา ด้วยความเคารพ ตามอัธยาศัยของแต่ละท่านด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่