ผมคุยกับผู้หญิงคนนึงประมาณ 1 เดือนแล้วก็ตกลงเป็นแฟนกัน เขาบอกว่าเขาทำงานเกี่ยวกับการตลาด และพึ่งเริ่มงานอยู่ในช่วงทดลองงาน มาได้ 2 เดือน เขาทำงานไกลมากถ้าคำนวณค่าเดินทางแทบจะไม่เหลือใช้ ผมสงสัยแต่ผมเคยตกลงไว้ว่าเรื่องงานผมจะไม่ไปยุ้งอะไรมาก เขาเป็นคนเที่ยวกลางคือจากแต่ก่อนผมไม่ค่อยเที่ยวพอคบกับคนนี้เหมือนได้ไปเปิดหูเปิดตาแสงสี ผมก็ดูแลเธอเท่าที่ผมจะทำได้เงินเดือนผมประมาณ 20k เขาบอกเงินเดือนเขาก็เท่ากัน ก็พอใช้ได้คบกันเดือนนึงเขาก็ย้ายมาอยู่กับเราที่คอนโดด้วยความที่มาหาบ่อยๆไม่อยากให้เสียค่ารถ เขาอยู่บ้านกับพ่อแม่จะไปหาก็คงจะไม่เหมาะเท่าไหร่ ก็ได้มาอยู่ด้วยกัน
เขาเป็นคนที่หวงมือถือมากๆ แต่ของผมเขารู้รหัสเข้าหมด เป็นคนขี้หงุดหงิด ไม่พอใจก็ด่าว่ากันช่วงแรกๆแฟนเก่าผมโทรติดต่อมาถามเรื่องโน๊ตบุ๊คพังอะไรทำนองนั้นเขาก็ไม่โอเครมากๆจนร้องไห้ ผมก็เข้าใจถ้าเป็นเขาทำผมก็คงไม่พอใจมากๆเลยบล๊อคทุกช่องทางการติดต่อ เขาทำงานกลับดึกมากๆผมเลิกงาน 6 โมงเย็นแต่เขาเลิกงาน 3 ทุ่ม บางวันก็ทำโอทียาวกลับตี2ด้วยความที่เขาทำงานไกลมากๆ ก็เป็นห่วงและสงสัยแต่ก็เก็บไว้ในใจ ไม่อยากถามเพราะกลัวจะทำลายความรู้สึกเขาว่าเราไม่ไว้ใจแฟนตัวเอง เขาเป็นคนความลับเยอะมากบวกกับผมที่เป็นคนขี้สงสัย จนวันนึงผมทะเลาะกับเขาว่าจะรู้ความลับนั้นให้ได้เพราะเขาบอกถ้าผมรู้ผมต้อเลิกกับเขาแน่ๆ สุดท้ายเธอก็สารภาพว่าเธอเคยมีลูกคน 1 แล้วพอเขาก็ทิ้งไปตอนแรกผมก็รับไม่ได้แต่พอคิดทบทวนสุดท้ายผมก็ติดสินใจจะรับเรื่องนี้ให้แต่แล้วผมก็บอกกับทางครอบครัวผมทันทีว่าแฟนคนนี้เขามีลูกติด พ่อแม่ก็ปล่อยให้ผมตัดสินใจ เรื่องก็เลยจบด้วยดี
หลังจากนั้นผมก็สบายใจขึ้นมาบ้างเพราะเหมือนไม่มีความลับอะไรให้คิดมากแล้ว คบกันสักพักเขาก็พาผมไปเจอครอบครัวเขาเจอลูกเขาก็ได้รู้ว่าลูกเขาเป็นเนื่องอกในสมองผมรู้สึกเห็นใจและบอกกับตัวเแงว่าต้องดูแลแม่ลูกคู่นี้เท่าชีวิตเรา ลูกเขาก็น่ารักกับเรามากๆ พ่อแม่เขาก็ใจดีมากๆ ที่ห้องผมทำแทบทุกอย่าง ซักผ้าล้างถ้วย หากับข้าวไว้รอเขาเลิกงาน พอเลิกงานมาก็จะนวดขา นวดหลังให้ดูแลเท่าที่เราจะทำให้คนๆนึงได้ เขาอยากหมั่นใจว่าเราจริงจังกับเขาผมเลยยกเงินเดือนทั้งฟมดให้เขาจัดการค่าห้องค่าน้ำค่าไฟ และก็เก็บไว้เพื่อจะไปขอหมั่นคือเป้าหมายหลักๆ จากนั้นก็เข้าเดือนที่ 5 เขาดูมีความลับอะไรบางอย่างเรื่องงานที่มันดูมีความลับหน้าสงสัยการใช้จ่ายที่เกินด้วยทำผมทำหน้าผมลองคำนวณแล้วเป็นไปไม่ได้ที่เงินเดือนเขาจะเอามาทำอะไรแบบนี้ได้ยิ่งค่าเดินทางไปทำงานไกลอีก ตอนแรกก็คิดว่าคงเป็นเงินเก็บเขาก็ไม่คิดอะไรมาก ปีใหม่เขาไปติดโควิดมาผมก็ติดด้วย แต่ดูเหมือนเขาขะตกงานทีนี้เขาก็หางานและได้งานเขาบอกว่าเป็นงานจัดบู๊สตามห้างอยู่แถวลาดพร้าว ผมก็อะเชื่อใจแต่เขาก็ยังกลับเวลาเดิมๆ ผมไปเจอสตอรี่เพื่อนเขาผมเห็นเขาไปร้านเหล้ากับเพื่อนแต่เขาบอกไปทำงาน ผมรู้ว่าเขาโกหกแต่ก็เงียบไว้จนเขากลับมาและหลับไป ผมจึงยิบสิ่งที่เขาหวงมากๆคือโทรสับและก็เดารหัสได้ ผมเขาไปที่ ประวัติแกร๊บเจแว่าเขาไปร้านๆนึงทุกวันมันคือร้านนวดผมเอาชื่อร้านไปหาใน google แล้วก็เจอรูปเขาติดกับราคาวันเวลาทำงาน สรุปเขาทำมาตั้งแต่แรกและทำมานานมากๆ ผมร้องไห้โหและปลุกเขามาคุย เขาก็สารภาพตามหลักฐานที่ผมมี เขาบอกเขาใช้แค่มือเขาไม่รับจบผมก็ยังยอมเชื่อเพราะส่วนนั้นของเธอเหมือนไม่ค่อยได้ใช้งานจริงๆ แต่ผมก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี ขาบอกขออยู่นี้ก่อนจนกว่าจะหาห้องใหม่ได้ไหม ผมก็ไม่ใจดำจะไล่เขาไปไหนบอกตามตรงผมก็ยังรักเธอมากๆ จึงเสนอให้เขาหยุดทำออกมาเปิดร้านขายอาหาร delivery ขาชอบทำอาหาร ห้องที่มีอยู่ก็แคบไปก็เลยย้ายห้องมาอยู่ห้องที่ใหญ่ขึ้น ผ่านมาตอนนี้ผมก็ดีขึ้นบ้างแล้วแต่ภาพในหัวมันยังหลอกหลอนผมทุกวันผมควรทำยังไงต่อไปดี
จับได้ว่าแฟนขายบริการ
เขาเป็นคนที่หวงมือถือมากๆ แต่ของผมเขารู้รหัสเข้าหมด เป็นคนขี้หงุดหงิด ไม่พอใจก็ด่าว่ากันช่วงแรกๆแฟนเก่าผมโทรติดต่อมาถามเรื่องโน๊ตบุ๊คพังอะไรทำนองนั้นเขาก็ไม่โอเครมากๆจนร้องไห้ ผมก็เข้าใจถ้าเป็นเขาทำผมก็คงไม่พอใจมากๆเลยบล๊อคทุกช่องทางการติดต่อ เขาทำงานกลับดึกมากๆผมเลิกงาน 6 โมงเย็นแต่เขาเลิกงาน 3 ทุ่ม บางวันก็ทำโอทียาวกลับตี2ด้วยความที่เขาทำงานไกลมากๆ ก็เป็นห่วงและสงสัยแต่ก็เก็บไว้ในใจ ไม่อยากถามเพราะกลัวจะทำลายความรู้สึกเขาว่าเราไม่ไว้ใจแฟนตัวเอง เขาเป็นคนความลับเยอะมากบวกกับผมที่เป็นคนขี้สงสัย จนวันนึงผมทะเลาะกับเขาว่าจะรู้ความลับนั้นให้ได้เพราะเขาบอกถ้าผมรู้ผมต้อเลิกกับเขาแน่ๆ สุดท้ายเธอก็สารภาพว่าเธอเคยมีลูกคน 1 แล้วพอเขาก็ทิ้งไปตอนแรกผมก็รับไม่ได้แต่พอคิดทบทวนสุดท้ายผมก็ติดสินใจจะรับเรื่องนี้ให้แต่แล้วผมก็บอกกับทางครอบครัวผมทันทีว่าแฟนคนนี้เขามีลูกติด พ่อแม่ก็ปล่อยให้ผมตัดสินใจ เรื่องก็เลยจบด้วยดี
หลังจากนั้นผมก็สบายใจขึ้นมาบ้างเพราะเหมือนไม่มีความลับอะไรให้คิดมากแล้ว คบกันสักพักเขาก็พาผมไปเจอครอบครัวเขาเจอลูกเขาก็ได้รู้ว่าลูกเขาเป็นเนื่องอกในสมองผมรู้สึกเห็นใจและบอกกับตัวเแงว่าต้องดูแลแม่ลูกคู่นี้เท่าชีวิตเรา ลูกเขาก็น่ารักกับเรามากๆ พ่อแม่เขาก็ใจดีมากๆ ที่ห้องผมทำแทบทุกอย่าง ซักผ้าล้างถ้วย หากับข้าวไว้รอเขาเลิกงาน พอเลิกงานมาก็จะนวดขา นวดหลังให้ดูแลเท่าที่เราจะทำให้คนๆนึงได้ เขาอยากหมั่นใจว่าเราจริงจังกับเขาผมเลยยกเงินเดือนทั้งฟมดให้เขาจัดการค่าห้องค่าน้ำค่าไฟ และก็เก็บไว้เพื่อจะไปขอหมั่นคือเป้าหมายหลักๆ จากนั้นก็เข้าเดือนที่ 5 เขาดูมีความลับอะไรบางอย่างเรื่องงานที่มันดูมีความลับหน้าสงสัยการใช้จ่ายที่เกินด้วยทำผมทำหน้าผมลองคำนวณแล้วเป็นไปไม่ได้ที่เงินเดือนเขาจะเอามาทำอะไรแบบนี้ได้ยิ่งค่าเดินทางไปทำงานไกลอีก ตอนแรกก็คิดว่าคงเป็นเงินเก็บเขาก็ไม่คิดอะไรมาก ปีใหม่เขาไปติดโควิดมาผมก็ติดด้วย แต่ดูเหมือนเขาขะตกงานทีนี้เขาก็หางานและได้งานเขาบอกว่าเป็นงานจัดบู๊สตามห้างอยู่แถวลาดพร้าว ผมก็อะเชื่อใจแต่เขาก็ยังกลับเวลาเดิมๆ ผมไปเจอสตอรี่เพื่อนเขาผมเห็นเขาไปร้านเหล้ากับเพื่อนแต่เขาบอกไปทำงาน ผมรู้ว่าเขาโกหกแต่ก็เงียบไว้จนเขากลับมาและหลับไป ผมจึงยิบสิ่งที่เขาหวงมากๆคือโทรสับและก็เดารหัสได้ ผมเขาไปที่ ประวัติแกร๊บเจแว่าเขาไปร้านๆนึงทุกวันมันคือร้านนวดผมเอาชื่อร้านไปหาใน google แล้วก็เจอรูปเขาติดกับราคาวันเวลาทำงาน สรุปเขาทำมาตั้งแต่แรกและทำมานานมากๆ ผมร้องไห้โหและปลุกเขามาคุย เขาก็สารภาพตามหลักฐานที่ผมมี เขาบอกเขาใช้แค่มือเขาไม่รับจบผมก็ยังยอมเชื่อเพราะส่วนนั้นของเธอเหมือนไม่ค่อยได้ใช้งานจริงๆ แต่ผมก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี ขาบอกขออยู่นี้ก่อนจนกว่าจะหาห้องใหม่ได้ไหม ผมก็ไม่ใจดำจะไล่เขาไปไหนบอกตามตรงผมก็ยังรักเธอมากๆ จึงเสนอให้เขาหยุดทำออกมาเปิดร้านขายอาหาร delivery ขาชอบทำอาหาร ห้องที่มีอยู่ก็แคบไปก็เลยย้ายห้องมาอยู่ห้องที่ใหญ่ขึ้น ผ่านมาตอนนี้ผมก็ดีขึ้นบ้างแล้วแต่ภาพในหัวมันยังหลอกหลอนผมทุกวันผมควรทำยังไงต่อไปดี