เกร็ดความรู้เล็กน้อย คนตกเรือที่ว่ายน้ำได้ "รู้เขารู้***เรือ***" เมื่อตกเรือและมีเรือเข้ามาช่วย ควรปฏิบัติอย่างไร

สำหรับคนที่ประสบอุบัติเหตุตกเรือลงไปในกลางลำน้ำโดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก และมีสกิลว่ายน้ำหรือการลอยตัว นอกเหนือจากเทคนิคการเอาตัวรอดเบื้องต้นของตนเองที่ต้องทำในเวลาตกเรือ ที่ต้อง "ถอด+ทิ้ง" สัมภาระที่เป็นอุปสรรคในการลอยตัวอยู่ในน้ำออกให้หมด ยึดกฎห่วงชีวิตมากกว่าทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นเป้สะพาย กระเป๋าสะพาย หรือจะเป็นรองเท้า เสื้อโค้ท เสื้อคลุม รองเท้า

สิ่งสำคัญหรือบางคนอาจมองเป็นเกร็ดเล็กน้อยที่ควรรู้คือเรื่องของการเดินเรือที่จะเข้ามาช่วย (ในที่นี้ขอแนะนำคนขับเรือมือใหม่ๆด้วยไปเลยนะครับ)

คนขับเรืออาชีพหรือคนขับเรือที่มีใบนายท้าย ไม่ว่าจะเป็นเรือแจวติดเครื่อง เรือจ้าง เรือลาก เรือสาธารณะทั้งหลาย จะมีประสบการณ์ในการขับเรือในลักษณะเดียวกัน คือ การเข้าจอดที่เที่ยบเรือ หรือเป้าหมาย จะเป็นไปในลักษณะขับเรือสวนกระแสน้ำ ยกเว้นเรือด่วนที่ต้องขับเทียบท่าไปในทิศทางไปในทางที่เรือมุ่งหน้าไปเท่านั้น โดยมีเงื่อนไขสภาพแวดล้อมที่ไม่มีลมแรงและคลื่นแรงมาประกอบ (คลื่นลมแรงจะยิ่งทำให้การควบคุมเรือทำได้ยากมากขึ้นตามลำดับ)

การขับเรือเข้าเทียบที่เทียบเรือหรือเป้าหมายในลักษณะทวนกระแสน้ำจะทำให้การบังคับทิศทางควบคุมเรือกระทำได้โดยง่าย เพราะ
1. กระแสน้ำที่ไหลมาเป็นแรงต้านในการชะลอความเร็วของเรือ หยุดเรือ หรือประคองเรือให้อยู่กับที่กับอัตราการเร่งที่พอดิบพอดี
2. การขับเรือทวนกระแสน้ำ จะมีการบังคับหักหัวเรือพุ่งเข้าหาเป้าหมายก่อนที่จะมีการเบียนออกแล้วเอาด้านข้างหรือกึ่งกลางเรือเข้าเทียบ

การขับเรือเข้าเทียบที่เทียบเรือตามกระแสน้ำ จะทำได้ยาก เพราะหัวเรือจะเบนออกจากเป้าหมายได้โดยง่าย และทำให้ท้ายเรือซึ่งมีใบจักรคือส่วนสุดท้ายที่สามารถเลยเป้าหมายที่ตกน้ำ และทำให้คนที่ตกน้ำถูกใบจักรเรือที่กำลังพัดทำงานสร้างอันตรายต่อร่างกายและชีวิตได้

ดังนั้นเมื่อมีการตกน้ำ ถ้ามีการโยนห่วงชูชีลงมา ให้คนตกน้ำว่ายเข้าหาห่วงชูชีพก่อน อย่าเพิ่งว่ายเข้าหาตัวเรือ เพราะการว่ายเข้าหาตัวเรือคือการไม่อยู่กับที่อาจเพิ่มความลำบากในการเข้าช่วยเหลือของคนขับเรือ และทำให้ตนเองได้รับอันตรายเพิ่มโดยไม่รู้ตัว กรณีห่วงชูชีพที่ถูกโยนลงมาลอยไปไกล คนตกเรือว่ายตามไม่ทัน ก็ไม่ต้องตระหนกตกใจ ให้ใช้เทคนิคการลอยตัว (ท่าลูกหมาตกน้ำ) พยุงตัว ประคองตัว เพื่อรอการเข้ามาช่วยเหลือ ปล่อยตัวให้ไหลตามกระแสน้ำ ลอยตัวไปตามกระแสน้ำ

เมื่อคนขับเรือหรือนายท้ายเรือที่มีประสบการณ์รู้ว่ามีคนตกเรือ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการขับวนกลับมาหาจุดเป้าหมายและทำการใช้เทคนิคขับทวนน้ำเข้าหาเป้าหมาย แต่จะไม่เข้าชิดจนเกิดไป เพราะอาจทำให้เป้าหมายถูกกระแทกจากตัวเรือได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเรือเข้ามาใกล้ผู้ที่ตกเรือ ผู้ที่ตกเรือค่อยทำการว่ายเข้าหาตัวเรือโดยเฉพาะตรงกลางตัวเรือ อย่าว่ายไปที่ท้ายเรือซึ่งมีใบจักรติดอยู่

การถอยเรือเข้าไปช่วยเหลือ ส่วนใหญ่จะไม่มีการถอยเรือในลักษณะหันท้ายไปในทิศทางที่เป้าหมายอยู่ เพราะเป้าหมายอาจถูกใบจักรจากท้ายเรือทำอันตรายต่อร่างกายและชีวิต แต่จะใช้วิธีขับถอยเรือบังคับไปในทิศทางทางตรงกันข้ามแล้วใช้การประคองเรือเพื่อเข้าทำการช่วยเหลือ

แต่ในกรณีที่คนบนเรือไม่รู้แล้วต้องตกเรือลงกลางลำน้ำเจ้าพระยาตอนกลางคืน จะทำอย่างไรในกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากและความมืดมิดกลางลำน้ำ

1. นายท้ายเรือหรือคนรับเรือเป็นอาชีพส่วนใหญ่เวลาขับเรือจะมองไปที่ผิวน้ำแบบตื่นตัวตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเรือถูกกระแทกหรือใบจักรไปฟันสิ่งของขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนน้ำ หรือชนเข้ากับเรือที่มีทั้งวิ่งสวนและวิ่งตัดหน้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา

ถ้าคนขับเรือลำอื่นผ่านมาและเห็นการเคลื่อนไหวของคน (ส่วนใหญ่จะทราบ) ก็จะเข้าทำการช่วยเหลือ ในที่นี้ขอให้ผู้ที่ตกน้ำมีสกิลว่ายน้ำพอได้ แต่ไม่มีแรงที่จะว่ายเข้าฝั่ง ให้ใช้วิธีลอยตัวปล่อยไหลตามกระแสน้ำ แต่เวลาคนตกเรือได้ยินเสียงเครื่องยนต์เรือวิ่งหรือเห็นแสงบนหัวเรือ ที่ส่วนใหญ่ต้องติดไฟสีแดงสีเขียวเป็นกฎหมายบังคับ ก็ให้คนตกเรือทำการส่งสัญญานของความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเสียง (ถ้ามีแรง) หรือเอามือพุ้ยน้ำให้กระเพื่อม สร้างความผิดปกติให้คนขับหรือนายท้ายเรือที่ต้องสอดส่องสายตาไปที่ผิวท้องน้ำได้เห็นว่ามีคนตกน้ำ

2. แต่ถ้าคนตกเรือได้ยินแต่เสียงเครื่องยนต์เรือวิ่งในตอนกลางคืน ซึ่งอาจจะเป็นเรือชาวบ้านที่ไม่ติดไฟ (ไม่จดทะเบียนเรือ และไม่มีใบนายท้าย) เรือชนิดนี้จะถือเป็นอันตรายเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีอุบัติเหตุเรือชนิดของชาวบ้านวิ่งชนกันเองอยู่บ่อย ดังนั้นการมองเห็นของคนขับเรือชนิดนี้ (เรือเล็ก เรือหางเล็ก เรือเป็ด) ด้วยทิศทางที่นั่งคนขับที่อยู่ต่ำ ทัศนวิสัยในการมองพื้นน้ำในระยะไกลจะแคบไปด้วย  ให้คนตกเรือปฏิบัติดังนี้

2.1 ถ้าเรือไกลตัวแล้ววิ่งผ่าน ให้คนตกเรือร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ
2.2 ถ้าเรือวิ่งผ่านโดยมีทิศทางตรงมาที่ตัวคนตกเรือ ให้คนตกเรือทำการว่ายขยับหนีในทันที เพราะในช่วงเวลาไม่ถึงนาที คนตกเรืออาจจะถูกเรือจำพวกนี้วิ่งเข้าชน หรือโดยใบจักรเรือที่ทำงานฟันเอาเสียก่อน เมื่อว่ายหนีคิดว่าระยะพ้นแล้วค่อยทำการส่งเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือเมื่อเรือวิ่งผ่าน

3. ถ้าเจอเรือเดินสมุทร เรือทหาร เรือตำรวจน้ำ วิ่งมาในเวลากลางคืน ซึ่งส่วนใหญ่จะวิ่งเร็วมากๆ เรียกว่าซิ่งเลยล่ะ คนตกเรือต้องคอยสังเกตดูทิศทางแบบกรณีที่ 2 และต้องมีความว่องไวเป็นพิเศษเพื่อว่ายหลบหนี เรือเดินสมุทรกัปตันเรือคงไม่ค่อยเห็นใครลอยอยู่กลางน้ำแน่ๆ ส่วนเรือทหาร ตำรวจ ที่วิ่งในเวลากลางคืน ด้วยความเร็วนรกแตก ถ้าโชคดีมีคนบนเรือมองเห็นก็รอดตัวไป แต่เคยมีกรณีเรือตำรวจวิ่งด้วยความเร็วมาชนกับเรือชาวบ้านที่ซิ่งด้วยความเร็วไม่แพ้กันริมแม่น้ำเจ้าพระยา โชคดีที่ไม่มีคนบาดเจ็บหรือตายจากอุบัติเหตุครั้งนี้

ข้อมูลบางประการที่ควรรู้ เรื่องของเรือที่วิ่งในลำน้ำเจ้าพระยา

1. เรือชาวบ้าน อาทิ เรือลุงแบน จะเรียกว่า เรือเล็ก เรือหางเล็ก หรือเรือเป็ด เรือชนิดนี้ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องฮอนด้า 13-15 แรงม้า ไม่มีเกียร์ถอยหลัง การเข้าจอดจะใช้ลักษณะการไหลทวนน้ำเป็นหลัก
2. ตามกฎของเจ้าท่า ถ้ายึดตามกฎระเบียบ เรือทุกลำในลำน้ำจะต้องจดทะเบียนเรือและทำประกันภัยให้ผู้โดยสาร
3. คนขับเรือต้องมีใบนายท้าย และใบควบคุมเครื่องจักรกลเรือ
4. การขึ้นเรือที่ไม่มีทะเบียนเรือหรือไม่ได้ทำประกันภัย เวลาประสบอุบัติเหตุจะไม่ได้รับการชดใช้ ถ้าคนขับเรือมีฐานะยากจน
5. ทะเบียนเรือและประกันภัยส่วนใหญ่จะมีอายุแค่ 1 ปี ต้องต่อทุกปีเหมือนรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์
6. ในเรือและท่าเทียบเรือโดยเฉพาะเรือและท่าเรือสาธารณะ จะมีกฎหมายห้ามสูบบุหรี่และดื่มสุรา ถ้าพบเห็นถ่ายรูปเป็นหลักฐานเบื้องต้น ทำการแจ้งหรือเตือนได้เลย โดยเฉพาะช่วงโควิดระบาด การเปิดหน้ากากสูบบุหรี่ในท่าเรือหรือบนเรือเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและไม่ควรทำเอามากๆ ถ้าคนขับเรือทำเองมีสิทธิ์ถูกยึดใบนายท้ายได้เลย ถ้าไม่โดนโทษปรับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่